ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 25 คุณพ่อพาหนวนหน่วนไปโรงอาหาร
บทที่ 25 คุณพ่อพาหนวนหน่วนไปโรงอาหาร
“ประธานกู้”
“ประธานกู้สวัสดีครับ”
ในโรงอาหาร กู้หลินโม่พาลูกสาวของตนเข้ามา และถึงแม้ว่าอายุเขาจะเข้าสู่วัยกลางคนไปแล้ว แต่ก็ยังโดดเด่น โดยเฉพาะหน้าตาที่หล่อเหลาของเขานั้นได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
ในขณะที่เขาปรากฏตัวขึ้น โรงอาหารที่โดยปกติแล้วค่อนข้างครึกครื้นก็กลับคืนเข้าสู่ความเงียบ หลังจากนั้นพนักงานที่อยู่ใกล้พวกเขาที่สุดก็รีบเอ่ยทักทายขึ้นอย่างรวดเร็ว
กู้หลินโม่พยักหน้ารับด้วยท่าทีสุขุมขณะที่เขากำลังอุ้มหนวนหน่วนเอาไว้ ก่อนจะไปหยุดยืนตรงหน้าร้านอาหารและต่อแถวอยู่หลังเส้นแบ่งกั้น
คนที่ยืนอยู่ข้างหน้ากู้หลินโม่ “…”
พนักงานหญิงตรงหน้าตัวสั่นเทา “…ประธานกู้อยากจะทานก่อนไหม….”
“ไม่เป็นไรหรอก แค่ไม่กี่คนเอง”
พนักงานหญิงอยู่ในอารมณ์ซับซ้อน เธอทั้งตื่นเต้นและประหม่าที่ได้พบกับผู้นำบริษัทที่มีอำนาจ
“คุณพ่อน่าจะเมื่อยแล้ว วางหนวนหน่วนลงก่อนก็ได้ค่ะ”
หนวนหน่วนช่างอ่อนหวานนุ่มนวล เธอกลัวว่าคุณพ่อจะต้องเมื่อยหลังจากอุ้มตนมานาน
ปลายนิ้วเรียวของกู้ลินโม่บรรจงแตะลงบนปลายจมูกที่ของเธอ
“ไม่เมื่อยหรอก ตัวหนวนหน่วนเบามาก” เขาตอบกลับไปอย่างอ่อนโยน
ด้วยความเขินอาย หนวนหน่วนจึงได้แต่แกว่งขาสั้น ๆ ไปมาในอ้อมกอดของผู้เป็นพ่อ
เธอถูหน้าไปกับไหล่ของกู้หลินโม่เหมือนกับลูกแมวตัวน้อย ความน่ารักของเธอดึงดูดสายตาของผู้คนรอบข้างจำนวนมากได้ในทันที
กู้หลินโม่ได้ยินเสียงแว่วลอยมา แต่เมื่อเขาหันไปมองยังต้นเสียง เหล่าพนักงานก็แสร้งทำกินข้าวต่อ
แต่ถึงอย่างนั้น ภายในใจของพวกเขาก็กรีดร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น
“ต้าวน้องนุ่มนิ่ม เธอคือลูกสาวของประธานกู้หรอเนี่ย? ทำไมน่ารักอย่างนี้!”
“ผู้ชายตระกูลกู้ขึ้นชื่อเรื่องหน้าตาดี แถมลูกสาวก็น่ารักมากเลย สวยมากแต่ไม่รู้ทำไมถึงผอมขนาดนั้น ไม่สบายหรือเปล่า?”
“เสียดายจังที่ถ่ายรูปไม่ได้”
แชะ…
“เห้ย!”
“คุณพระ หลิงเหม่ย กล้ามาก!”
สาวผมสั้นที่ชื่อหลิงเหม่ยรีบวางโทรศัพท์ก่อนจะแอบหัวเราะ
“ด้านได้อายอด ตอนนี้ก็เวลาเลิกงานแล้ว ถึงประธานกู้จะเห็นก็ไม่ว่าอะไรหรอก”
“ถึงจะว่าอย่างนั้นก็เถอะ เผชิญหน้ากับประธานกู้ทีไร ฉันประหม่าตลอดเลย เหมือนอยู่ต่อหน้าคณบดีสมัยเรียนอย่างนั้นแหละ กลัวจะโดนยึดโทรศัพท์อะไรแบบนั้น”
“เอ่อ… ที่จริงฉันก็คิดแบบนั้น”
“เร็วเข้า ๆ ส่งรูปให้พวกเราบ้างสิ!”
“อ๊าก!! รูปนี้ฉันถ่ายได้น่ารักมาก!”
“ชู่ววว เบาหน่อย เดี๋ยวก็ถูกจับได้หรอก”
หญิงสาวที่นั่งอยู่ไม่ไกลมากนักต่างพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น
หนวนหน่วนกำลังรู้สึกใจหวิวขณะที่อยู่กับพ่อของตน เธอไม่ได้ตั้งใจทำตัวน่ารักนุ่มนิ่ม แต่จากรูปลักษณ์ ผู้คนเลยมองว่าเธอดูนุ่มนิ่มและขี้อ้อน อาจเป็นเพราะวิธีการพูดที่อ่อนหวานนุ่มนวล เธอเลยดูเป็นคนชอบออดอ้อน
แถมความขี้อ้อนนี่ก็เกินไปมาก ทำให้ผู้คนที่มองมาแทบใจละลาย
“คุณพ่อ หนวนหน่วนอยากลงแล้ว อยากจับมือคุณปู่กับคุณพ่อค่ะ”
หนวนหน่วนมองผู้เป็นพ่อด้วยแววตาออดอ้อนพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
แล้วใครมันจะทนได้!
กู้หลินโม่รู้สึกเสียดาย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยอมปล่อยลูกสาวแสนดีลงอย่างว่าง่าย
“อืม… ได้สิ อย่าปล่อยมือคุณพ่อเด็ดขาดเลยนะ” กู้หลินโม่ดึงสีหน้าจริงจัง
หนวนหน่วนกระตุกยิ้มมุมปากอย่างหวานเยิ้มจนคิ้วและดวงตาของเธอโก่งโค้ง เด็กน้อยจับนิ้วมือคุณพ่อเอาไว้แน่น
“คุณปู่คะ หนวนหน่วนจะจับคุณปู่ด้วย”
จากนั้นเธอก็จับนิ้วของคุณปู่ด้วยมืออีกข้าง
ความอบอุ่นเริ่มก่อตัวขึ้นภายในใจของคุณปู่กู้ ทำไมหลานสาวของเขาจึงมีจิตใจแสนอบอุ่นได้ขนาดนี้
“โอเค ปู่ก็จะจับมือหนวนหน่วนเอาไว้เหมือนกัน”
สาวน้อยแสนสวยยืนอยู่ระหว่างผู้ใหญ่สองคน ดวงตากลมโตของเธอสุกสกาวราวกับคริสตัล ประหนึ่งดวงดาวเล็ก ๆ ที่ส่องประกายระยิบระยับบนท้องนภา ยิ่งรอยยิ้มปรากฎ เธอก็ยิ่งงดงาม
พนักงานหญิงที่อยู่ด้านหน้าได้ยินเสียงที่นุ่มนวลและออดอ้อนของหนวนหน่วน หูพลันอื้อไปชั่วขณะ
เสียงลูกสาวของประธานกู้ช่างเชื่อฟังเหลือเกิน
เมื่อถึงคิวของพวกเขาในการเลือกอาหาร กู้หลินโม่ก็ทำการอุ้มลูกสาวของเขาขึ้นมา ก่อนจะใช้นิ้วชี้ไปยังบรรดาอาหารเลิศรสตรงหน้าแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“หนวนหน่วนดูเร็ว อยากกินอะไรคะ”
สวัสดิการของพนักงานในบริษัทนั้นดีมาก ดังนั้นหลังเมื่อถึงเวลาทานข้าว ทุกคนโดยส่วนใหญ่จะมาที่โรงอาหารเพื่อรับประทานข้าว น้อยมากที่จะไปหาซื้อมาทานเอง
ดวงตาของหนวนหน่วนเบิกกว้าง เธอตื่นตาตื่นใจจนไม่รู้จะกินอะไร เหมือนว่าจะอร่อยทุกอย่างเลย
กู้หลินโม่ลูบศีรษะหนวนหน่วน “ไม่เป็นไรนะคะ ค่อย ๆ เลือกไป”
พ่อครัวที่กำลังทำอาหารเองก็มีความสุขที่ได้เห็นเด็กน้อยนุ่มนิ่มและน่ารักเช่นนี้
“ตัวเล็ก ลองหัวสิงโตตุ๋น*[1] ที่ทำโดยท่านหลี่ของเราสิ รสชาติดีทีเดียว พวกคัสตาร์ดกับปลาตะเพียนเปรี้ยวหวานก็ด้วย…”
พ่อครัวแนะนำอาหารหลายอย่างพร้อมกัน “ถ้าไม่รู้จะเลือกอะไรจริง ๆ ลุงจะตักแต่ละอย่างให้ทีละน้อย ๆ รวม ๆ กัน รับรองอิ่มแน่นอน”
หนวนหน่วนพยักหน้าด้วยแววตาที่เป็นประกาย ผมนุ่มสลวยของเธอกระเพื่อมขึ้นลง
กู้หลินโม่ช่วยเธอถือจานข้าว ก่อนจะไปเด็กน้อยเอ่ยขอบคุณพ่อครัวที่ทำอาหารให้ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและอบอุ่น
“ขอบคุณค่ะคุณลุง~”
หัวใจของพ่อครัวสดใสขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น พลันรอยยิ้มก็ปรากฎบนใบหน้าขึ้นมา ปากยิ้มกว้างจนแทบจะฉีกถึงรูหู
“มาครั้งหน้าลุงจะทำให้อร่อยกว่าเดิมนะ”
หนวนหน่วนกล่าวลาก่อนจะได้แอปเปิ้ลลูกใหญ่เป็นของขวัญจากพ่อครัวมาอีกหนึ่งอย่าง
“ประธานกู้ส่งมาให้ผมเถอะครับ”
หลี่เต๋อจู้อาสาช่วยยกถาดอาหารทั้งหมดไปวางไว้บนโต๊ะ หลังจากที่คุณพ่อกับคุณปู่กู้และหนวนหน่วนเดินจากไป ลุงที่มาสั่งอาหารต่อหลังจากพวกเขาก็หมดแรงใจ
“ขออาหารเพิ่มอีกนิดนึงนะ อยากได้กับเพิ่มสักสองสามอย่าง…”
พ่อครัวกลอกตาใส่ “ให้ตายเถอะ นี่ยังไม่เยอะพออีกหรอ แกมีลูกสาวน่ารักเหมือนเขาไหมล่ะ”
เขาเผยความสองมาตรฐานชัดเจน
ชายคนดังกล่าวแทบพูดไม่ออก ก่อนจะลดเสียงพูดให้เบาลง “นอกจากประธานกู้แล้ว คนอื่นก็โดนแกด่าว่าตลอด”
พ่อครัวแค่นหัวเราะสองครั้ง “แล้วยังไง ก็ประธานกู้เป็นคนจ่ายเงินเดือนให้ฉันไม่ใช่เหรอ?”
ก็คนที่ใครจ่ายค่าจ้างสิคือผู้มีพระคุณ!
หนวนหน่วนนั่งลงบนเก้าอี้ เธอจิบช้อนอยู่สองสามครั้งก่อนจะเริ่มตักอาหาร เด็กน้อยเงียบและตั้งใจมากขณะกำลังทาน เธอทานไม่หกเปื้อนเสื้อผ้าเลยแม้แต่น้อย
“คุณพ่อกินนี่สิคะ อร่อยนะ”
หนวนหน่วนค่อย ๆ ตักซี่โครงชิ้นเล็กด้วยตะเกียบก่อนจะส่งไปทางคุณพ่อของตน จากนั้นก็ตักหัวสิงโตตุ๋นที่กัดง่ายชิ้นหนึ่งไปให้คุณปู่
เด็กน้อยพูดด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว “คุณปู่ลองกินนี่สิคะ แล้วก็กินผักเยอะ ๆ นะคะ”
ขณะที่พูด เธอก็ตักกะหล่ำขึ้นมาเล็กน้อย
ผู้เฒ่ากู้มีความสุขมาก เขาทานอาหารทั้งหมดที่หนวนหน่วนตักให้และมองลูกชายของเขาอย่างโอ้อวดระหว่างทาน
‘หนวนหน่วนตักให้ฉันมากกว่าแก!’
กู้หลินโม้ได้แต่มอง สายตาราวกับอยากพูดว่า ‘ทำตัวเป็นเด็กไปได้!’
“หนวนหน่วน คุณพ่อก็อยากกินผักเหมือนกัน”
หนวนหน่วนพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟัง จากนั้นจึงค่อย ๆ ตักผักไปใส่จานของกู้หลินโม่
กู้หลินโม่ที่กำลังทานอาหารยกยิ้มมุมปากเย้ยชายชราที่นั่งอยู่ข้างกัน
ชายชรารู้สึกโกรธมากเมื่อเห็นลูกชายทำหน้าตาไม่ดีใส่
หลี่เต๋อจู้ผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดได้แต่ยืนนิ่ง ๆ มองพ่อลูกมองเขม่นกันไปมา “…”
[1] หัวสิงโตตุ๋น คือหมูสับทอดตุ๋นผักกาดขาว ที่เรียกสิงโตเพราะชาวจีนนิยมตั้งชื่ออาหารให้มีความหมายมงคล สิงโตเองก็เป็นสัตว์มงคลของชาวจีน