ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 248 เจ้าสองพี่น้องนี่นะ คนหนึ่งอวด อีกคนปกป้อง
บทที่ 248 เจ้าสองพี่น้องนี่นะ คนหนึ่งอวด อีกคนปกป้อง
เมื่อไคน์ได้มองดูและถ่ายภาพตรงหน้าแล้วก็อดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้
คนที่นั่งอยู่ในรถต่างหันมอง ก่อนจะรีบเข้าร่วมกลุ่มแชตกันอย่างแข็งขันเพื่อขอให้เขาแชร์รูป
เจ้าเสือดาวดำพาหนวนหน่วนเดินท่องป่าอย่างช้า ๆ ในขณะที่รถออฟโรดเองก็ค่อย ๆ เคลื่อนตัวตามหลังไป เมื่อเดินมาถึงลำธาร มันก็หยุดลง
หนวนหน่วนปีนลงจากหลังของมัน ก่อนจะกอดหัวไอริสแล้วจุ๊บมันไปสองสามที
เจ้าเสือดาวดำตัวใหญ่ค่อนข้างรักษาความสะอาดเป็นอย่างมาก ทุกครั้งที่มันทานอาหารเสร็จก็จะชอบไปว่ายน้ำเล่นตลอด หลังจากที่ได้อาบน้ำและสระขนแล้ว มันก็ชอบขึ้นไปนอนเล่นบนต้นไม้หรือผืนหญ้าเพื่อผึ่งแดดแล้วเลียแต่งขนของตัวเอง
หนวนหน่วนจึงไม่ได้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ของไอริสเลย มีเพียงกลิ่นหอมจาง ๆ ลอยกรุ่นเท่านั้น
ตอนนี้ทุกคนที่อยู่บนรถก็ได้ลงมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อได้มองดูบรรยากาศโดยรอบ พลันคิดว่าที่นี่มันช่างเหมาะแก่การตั้งแคมป์เหลือเกิน
“ยังไงพวกนายก็ขึ้นมาถึงตรงนี้แล้ว พวกเราก็นั่งดื่มชายามบ่ายกันตรงนี้เถอะ”
ถึงแม้ว่าจะพูดถึงเรื่องการดื่มชายามบ่าย แต่จริง ๆ แล้วมันคงเป็นการปิ้งย่างเนื้อสัตว์กินกันมากกว่า แต่ก็มีผักและผลไม้ด้วยเช่นกัน
ไคน์มีที่ดินเป็นของตัวเองจึงสามารถทำการปลูกผักผลไม้ได้ และด้วยกำลังทรัพย์ของครอบครัว ทำให้เขาสามารถส่งออกพืชผลที่ไม่สามารถผลิดอกในฤดูกาลสู่ประเทศอื่นได้
วันนี้แดดออกค่อนข้างดีเลยทีเดียว แสงตะวันสีอุ่นตกกระทบลงบนผิว ไอริสทิ้งตัวนอนลงบนผืนหญ้า จัดการเลียอุ้งเท้าขนาดใหญ่ของมัน ในปากของหนวนหน่วนตอนนี้กำลังเคี้ยวองุ่นอย่างเอร็ดอร่อย นอกจากนี้เธอยังถือสตรอว์เบอร์รีจำนวนหนึ่ง รวมถึงแอปเปิลอีกหนึ่งลูกไว้ในมือด้วย
เด็กหญิงรีบลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งไปหาเจ้าเสือดาวดำ
“ไอริส ลองกินสตรอว์เบอร์รีกับแอปเปิลพวกนี้ดูสิ”
เธอกระซิบข้างหูของเจ้าเสือดาวดำอย่างแผ่วเบา เจ้าเหมียวตัวใหญ่ที่กำลังนอนแผ่หลาอาบแดดอยู่บนผืนหญ้าขยับหูพลางหันหน้าไปหาเด็กน้อย
มันดมแล้วดมอีก ก่อนจะอ้าปากตวัดลิ้น ทำให้สตรอว์เบอร์รีที่อยู่ในมือของหนวนหน่วนหายไปทันที
ไอริสกินสตรอว์เบอร์รีลูกใหญ่หมดไปภายในคำเดียว
หนวนหน่วนย่อขาสั้นของตนนั่งลง หลังจากที่ไอริสกินเสร็จ เธอก็หยิบสตรอว์เบอร์รีอีกลูกหนึ่งขึ้นมาแล้วเด็ดใบสีเขียวออกอย่างตั้งใจ ก่อนจะทำการป้อนมันต่อ
ทั้งสองเข้ากันได้ดีมากเลย ทั้งที่มีคนพยายามจะป้อนเนื้อให้ แต่มันกลับไม่ใส่ใจกินเลย
ดูเหมือนว่ามันจะหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีของตัวเองมาก นอกจากเวลาที่มันบาดเจ็บ มันก็จะออกล่าด้วยตัวเอง
ตอนนี้หนวนหน่วนกำลังให้อาหารเจ้าเสือดาวดำอย่างตั้งใจ แต่หากเป็นไป๋โม่ซูกับไป๋โม่ฮัวเป็นคนให้อาหารแล้วมันก็ยังรู้สึกไม่คุ้นชินอยู่นิดหน่อย
ตอนที่ลูกพี่ลูกน้อยตัวน้อยกำลังเคี้ยวกร้วม ๆ แก้มของเธอก็พองเหมือนเจ้าหนูแฮมสเตอร์ตัวน้อยไม่มีผิด กิจกรรมแสนโปรดปรานที่ครอบครัวนี้ชอบมากที่สุดก็คือการป้อนอาหารเจ้าตัวเล็กนี่แหละ
แต่ตอนนี้เจ้าตัวเล็กไปเล่นกับเสือดาวดำตัวใหญ่อยู่
ไป๋โม่ซูจ้องมองไปที่เจ้าเสือดาวดำตัวใหญ่อย่างใจเย็นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะทำการลอกเปลือกองุ่นออกด้วยนิ้วเรียวขาวดุจหยกของตัวเอง หลังจากทำเสร็จเขาก็ตะโกนเรียกญาติตัวน้อยของตัวเอง
“หนวนหน่วนมานี่”
เมื่อป้อนสตรอว์เบอร์รีอีกลูกให้ไอริสแล้ว หนวนหน่วนก็หันกลับไปมองทางต้นเสียง เมื่อได้เห็นองุ่นที่อยู่ในมือของลูกพี่ลูกน้องคนโตแล้ว เธอก็รีบยัดแอปเปิลที่เหลืออีกหนึ่งลูกไปใส่อุ้งเท้าของเสือดาวดำตัวใหญ่ทันที
“ไอริสกินแอปเปิลเองนะ หนวนหน่วนจะไปหาพี่แล้ว”
หลังจากพูดจบเธอก็เดินกลับเข้าไปสู่อ้อมแขนของพี่ชายแล้วทานองุ่นอย่างเอร็ดอร่อย
ไอริสที่ตะครุบแอปเปิลไว้ในอุ้งเท้า “…”
มันหันไปมองไป๋โม่ซูอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าก้มตาลงแล้วกัดกินแอปเปิลไปครึ่งลูกด้วยการกัดเพียงครั้งเดียว ขณะที่เคี้ยว มันก็จ้องมองเขาอย่างไม่ละสายตา
ไป๋โม่ซูหยิบมีดผ่าตัดออกมาอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะบรรจงนำผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมัน มองอย่างไรก็เหมือนฆาตกรที่จ้องจะปลิดชีพอยู่ตลอดเวลา
ทุกคน “…”
ไม่สู้ ไม่ไหวหรอกนะ!
เหลียงฉือกระตุกยิ้มขึ้นเมื่อเห็นท่าทีเช่นนั้นของไป๋โม่ซู
พึงรู้ไว้ว่าไม่เคยมีใครหน้าไหนที่สามารถยั่วโมโหไป๋โม่ซูจนทำให้เขาถึงขนาดควักมีดผ่าตัดออกมาขู่ได้เลย ชายหนุ่มดูราวกับพร้อมผ่าเปิดท้องอยู่ตลอดเวลา ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เกิดจากการโดนเจ้าเสือดาวดำตัวนี้ยั่วยุเท่านั้น
ต้องขอชื่นชมไอริสเลยจริง ๆ
หนวนหน่วนรีบนั่งลงข้างลูกพี่ลูกน้องคนโต ก่อนจะอ้าแขนกว้างแล้วสวมกอดเขาไว้
“พี่จะทำอะไรเหรอคะ?”
หลังจากจ้องมองน้องสาวตัวน้อยแสนเชื่อฟังข้าง ๆ ตัวเองแล้ว ไป๋โม่ซูก็ใจเย็นลง เขาหยิบแอปเปิลออกมา หั่นเป็นชิ้นอย่างสวยงามแล้วส่งมันให้หนวนหน่วน
“นี่เนื้อเสือดาว กินเลย”
หนวนหน่วน “…”
คนอื่น ๆ “…”
ชายคนนี้ทำตัวเป็นเด็กเกินไปรึเปล่า?
สุดท้ายแล้วเด็กน้อยก็กินแอปเปิลอย่างว่าง่าย สายตาของเธอยังคงแอบเหลือบไปมองไอริส
ไอริสแกว่งหาง สะบัดตัวไปมาก่อนจะอ้าปากกว้าง กัดกินแอปเปิลที่เหลืออยู่อีกครึ่งลูกจนหมด
ไป๋โม่ซูกักตัวลูกพี่ลูกน้องตัวน้อยของเขาให้อยู่ที่เดิม มือข้างหนึ่งของเขาวางเท้าคาง ส่วนอีกข้างก็ทำการป้อนแอปเปิลชิ้นที่สามให้ หลังจากนั้นเขาก็ป้อนองุ่นแสนโปรดปรานของเธอต่อ
แก้มของหนวนหน่วนดูนุ่มนิ่มมาก ไป๋โม่ฮัวเองก็เข้ามาป้อนด้วยเช่นกัน
สายตาคนอื่น ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะจับจ้องไปยังใบหน้าเล็กของหนวนหน่วน
ไคน์รู้สึกแปลกใจตัวเองขึ้นมา “ทำไมจู่ ๆ ฉันก็อยากเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์นะ?”
อีวานพยักหน้า ในใจคิดไม่ต่างกันเลย
“แต่หนูแฮมสเตอร์มันสกปรก เหม็นอีกต่างหาก”
ไคน์จับลูบคางของตัวเองอย่างครุ่นคิด เมื่อจ้องมองหนวนหน่วนที่กำลังทานอย่างเอร็ดอร่อย ไม่นานเขาก็คลายความสงสัยได้
“เปล่าหรอก ฉันไม่ได้อยากเลี้ยงแฮมสเตอร์ จริง ๆ แล้วอยากเลี้ยงน้องสาวของหมอไป๋ต่างหาก!”
เสียงที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ไป๋โม่ซูได้ยินเข้า หลังจากนั้นเขาก็จ้องมาหาด้วยสายตาครึ้มเข้ม
ไคน์ ‘จะฆ่ากันรึไง!’
เขารีบโบกมือไปมา “หมอไป๋อย่าคิดมากเลย ฉันแค่จะชมว่าน้องสาวของคุณดูดีมากก็แค่นั้นเอง”
ไป๋โม่ซูพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะแอบคิดอยู่ในใจ ‘ฉลาดเอาตัวรอดดีนะ’ แต่ไคน์ก็ไม่สามารถรับรู้สิ่งที่เขาคิดอยู่ได้หรอก
จากเหตุการณ์นี้ทำให้รู้เลยว่า ไป๋โม่ซูเป็นคนที่พร้อมจะปกป้องน้องสาวสุดชีวิตแค่ไหน
เจ้าสองพี่น้องนี่นะ คนหนึ่งอวด อีกคนปกป้อง ช่างลงตัวกันเหลือเกิน!
หลังจากทุกคนรับประทานอาหารกลางวันกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางกันต่อ แต่ตอนนี้ไอริสไม่ได้เดินตามแล้ว มันต้องจำใจบอกลาหนวนหน่วน
“จะไม่ไปกับพวกเราเหรอ?”
หนวนหน่วนโอบกอดคอไอริสแล้วถามอย่างอ่อนโยน
ไอริสยืนนิ่งไม่ขยับไปไหนพลางใช้ดวงตาสีเขียวจ้องมองคนตรงหน้า นัยน์ตาของมันสะท้อนภาพคนตรงหน้าอย่างชัดเจนราวกับเป็นกระจก
“ถ้าอย่างนั้นลาก่อนนะไอริส หนวนหน่วนจะมาอีกนะ”
หลังจากเด็กหญิงบอกลาเจ้าเสือดาวดำเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินมาจับมือลูกพี่ลูกน้องคนโตแล้วพากันขึ้นรถไป
เป็นเพราะว่าไอริสไม่ได้ตามมา ไป๋โม่ซูเลยอารมณ์ดีขึ้นมาก ถึงแม้ว่าสีหน้าของเขาจะไม่ได้เปลี่ยนมากนัก แต่ทุกก้าวที่เดินไปเหลียงฉือก็สัมผัสได้
เหลียงฉือคิด ‘สรุปมาที่นี่เพื่อข่มเหรอ?’
“ไอริส บ๊ายบาย”
เมื่อรถสตาร์ตขึ้น หนวนหน่วนก็โผล่หน้าออกไปนอกกระจกรถ มองเจ้าเสือดาวดำผู้น่าเกรงขามก่อนจะโบกมือลาให้มันอย่างตั้งใจ
ไอริสเฝ้ามองดูรถที่กำลังขับเคลื่อนออกไปจนลับสายตา หลังจากนั้นมันก็หันหลังพลางสะบัดหาง เดินหายเข้าไปในพงไพรตามเดิม