ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 247 ปล่อยญาติตัวน้อยของฉันลงเดี๋ยวนี้!
บทที่ 247 ปล่อยญาติตัวน้อยของฉันลงเดี๋ยวนี้!
ไคน์ที่มองดูอยู่ข้างหลังอิจฉาตาร้อนมาก อยากจะเป็นคนที่ได้กอดเจ้าไอริสเสียจริง
แต่ตัวเขาเองรู้ดี หากเขาเดินเข้าไปคงโดนเจ้าไอริสแมวตัวใหญ่นั่นตะปบอย่างแน่นอน
เจ็บแน่เลย!
ไอริสตัวสูงใหญ่มาก ทำให้หนวนหน่วนลูบหัวของมันไม่ค่อยได้ การที่ได้ยืนอยู่แบบนี้มันทำให้เธอรู้สึกตัวเล็กกว่าเดิมเสียอีก
เสือดำชอบกลิ่นหอมน้ำนมของเจ้าตัวเล็กตรงหน้า มันเลียใบหน้าของเธออย่างแผ่วเบา
ทำเอาไป๋โม่ซูเกือบจะเข้าไปคว้าใบหูแล้วดึงมันออกมาเลยทีเดียว
“อย่าเลียแบบนั้นสิ!”
ลิ้นของเสือและแมวสาก ผิวของลูกพี่ลูกน้องของเขายิ่งบอบบางอยู่ เลียไปได้ไม่นานใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอก็เริ่มมีรอยแดง ชายหนุ่มเพิกเฉยต่อไปไม่ได้จริง ๆ
หนวนหน่วนตัวน้อยลูบใบหน้าของตัวเองพลางบ่นไม่ให้เจ้าเหมียวตัวใหญ่เลียใบหน้าเช่นกัน
ไอริสร้องคำราม ปรายตาไปมองไป๋โม่ซูก่อนจะสะบัดขน เขี่ยไป๋โม่ซูที่เข้ามาแทรกกลางหนวนหน่วนให้ออกไปพ้นทาง
ไป๋โม่ซู “…”
ในขณะที่มือกำลังจับมีดผ่าตัดอยู่ สายตาเย็นชาของเขาก็จับจ้องไปที่ไอริส ภายในใจพลันเกิดความคิดอย่างสยดสยอง หากมีดนี้เปื้อนเลือดขึ้นมาก็คงจะดี
หนวนหน่วนจับเข้าที่หัวของไอริส พลางใช้มือเล็กจับที่ใบหู
“ไอริสจะมารังแกพี่ไป๋โม่ซูไม่ได้นะ”
ไอริสครวญครางโทนเสียงต่ำ ดวงตาของมันเต็มไปด้วยความใสซื่อ เห็นได้ชัดเลยว่ามันไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูด
หนวนหน่วนย่อตัวนั่งลงบนพื้นแล้วเอามือข้างหนึ่งขึ้นมาวางเท้าคาง ก่อนจะใช้นิ้วเล็กของเธอถูไถคางอย่างครุ่นคิด เจ้าเหมียวตัวโตก็นอนลงบนพื้นด้วย
เมื่อมันสบายตัวแล้วก็ค่อย ๆ ยืดหัวเข้ามาถูไถกับมือของหนวนหน่วน อีกทั้งยังส่งเสียงครางในลำคออย่างสบายใจ
เจ้าเสือตัวโตเอียงหัวให้เด็กน้อยเกาคางของมัน
เป็นแมวยักษ์จริงด้วย แมวทุกตัวก็ชอบให้เกาคางแบบนี้ทั้งนั้นแหละ
หลังจากนั้นไอริสก็ค่อย ๆ เอาคางของมันเกยลงบนตักของหนวนหน่วนแล้วทิ้งตัวลงไป หนวนหน่วนเลยได้รับสายตาชื่นชมจากทุกคน ประหนึ่งว่าเธอกลายเป็นนักรบผู้พิชิต สามารถฟัดกับเจ้าเหมียวตัวใหญ่ได้!
เจ้าเหมียวตัวใหญ่ขนนุ่มสลวยมาก หนวนหน่วนลูบไล้ใบหน้าของมันอยู่ไม่กี่ครั้งก่อนจะเปลี่ยนเป็นที่อื่นแทน หลังจากนั้นเธอก็เอนตัวพิงลงบนไหล่ของมัน
ไอริสรู้สึกหงุดหงิดที่ตนเองแข็งแรงไม่พอ ช่วยหนวนหน่วนขึ้นไปไม่ได้ แต่ในที่สุดเด็กหญิงก็ปีนขึ้นไปแล้วทิ้งตัวลงนอนอยู่บนหลังของมันจนได้
ไคน์ “!!!”
ถ้าเขาอายุน้อยลงอีกสักหลายสิบปีจากตอนนี้ คงทำแบบนี้ได้เหมือนกันใช่ไหม?
อีวานเบิกตากว้าง เขาเองก็อยากขี่หลังไอริสบ้าง! “นี่มันสุดยอดนักรบ!”
ขนาดคนที่แข็งแรงคุมพวกสัตว์ป่าแต่ละทียังยากเลย แต่นี่เธอกลับทำให้มันเชื่องได้!!!
เด็กคนนี้เป็นคนแบบไหนกันนะ ขนาดเจ้าป่ายังต้องยอมเธอ!
ไป๋โม่ฮัวเกาะกระจกรถ มองดูหนวนหน่วนด้วยแววตาเป็นประกาย แววตาของเขาฉายความภูมิใจเต็มเปี่ยม
“ว้าว น้องสาวผมเก่งมากเลย ดึงดูดสัตว์ร้ายได้ด้วยแหละ”
ทุกคน “…”
พวกเขาเคยได้ยินเรื่องของคนที่ดึงดูดหมาแมวอยู่หรอกนะ แต่เรื่องที่มีสเน่ห์จนดึงดูดสัตว์ดุร้ายแบบนี้มันใช่เหรอ? ประเด็นคือ คนพูดดูภาคภูมิใจมากอีกต่างหาก
ไคน์เองก็ใฝ่ฝันอยากจะเป็นยอดนักรบที่ขี่หลังสัตว์ร้ายได้เช่นกัน โตขึ้นเขาเลี้ยงดูและช่วยเหลือสัตว์ป่ามากมาย แต่ไม่เคยคาดหวังที่จะทำได้ตามฝันเป๊ะ ๆ หรอกนะ ทว่าวันนี้กลับได้มาเห็นคนอื่นทำความฝันของตัวเองสำเร็จนี่สิ
“ไอริสเก่งมากเลย!”
เสียงหัวเราะอันไร้เดียงสาราวกับเด็กดังกึกก้องเหมือนระฆังสีเงิน ไอริสยันตัวเองขึ้นยืนพร้อมหนวนหน่วนบนหลัง
หนวนหน่วนนั่งอยู่บนหลังของเสือดำตัวใหญ่อย่างระมัดระวัง หลังจากที่มันเดินไปได้ประมาณสองก้าว เธอก็หันหน้าไปทางชายหนุ่มพลางยิ้มจนตาหยี
“พี่ดูสิ ไอริสชอบด้วยละ”
ใบหน้าเรียวของเธอเปื้อนรอยยิ้มหวาน ช่างน่ารักและสดใสดุจดั่งแสงอาทิตย์สาดส่อง
มุมปากของไป๋โม่ซูยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ดวงตาสดใสที่เหลือเพียงครึ่งเสี้ยวของเขาจ้องมองไปยังเจ้าเกี๊ยวน้อยขาวนวลดั่งสีหยก แววตาฉายแววความภาคภูมิอยู่ไม่น้อยเลย
นี่คือญาติตัวน้อยของเขาเอง
ชายหนุ่มมองเจ้าเสือดำตัวนั้นอย่างเพลิดเพลินตา
ไคน์และอีวานต่างร้องโอดครวญขึ้นมา พวกเขาเองก็อยากขี่หลังเจ้าไอริสเช่นกัน
“ไอริส ลูกรัก! ทำไมแกไม่ยอมให้พ่อขี่หลังบ้างล่ะ พ่อเสียใจนะ!”
อีวาน “มันไม่ยอมให้ฉันแตะเลยด้วยซ้ำ แล้วทำไมทีกับไป๋โม่ฮัวถึงแตะได้ล่ะ!”
เสียงของไป๋โม่ฮัวดังลอยมาจากในรถด้วยความภูมิใจอย่างมาก
“เพราะว่าญาติตัวน้อยของฉันน่ารักมากยังไงล่ะ!”
ก็ไม่แปลก นี่ถ้าเขามีหางนะ มันคงตั้งขึ้นชี้ฟ้าแล้วละ
หนวนหน่วนอยู่บนหลังของไอริส มันพาเธอนั่งวนสองรอบ ก่อนจะพาออกไปไกลขึ้น
ไป๋โม่ซู “!!!”
มีดฉันอยู่ไหน? ปล่อยญาติตัวน้อยของฉันลงเดี๋ยวนี้!
อีวานเองก็ชักจะกลัว “ไอริสหยุดได้แล้ว!”
ถ้าสองคนนี้ปะทะกันจริง ๆ คงได้ตายกันไปข้างหนึ่งแน่!
ไอริสหันกลับมามองพวกเขาด้วยท่าทางเชิด ๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหลังแล้ววิ่งออกไปทันที
หนวนหน่วนกอดคอมันแน่นมาก เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูตื่นเต้นนิดหน่อย “ช้าลงหน่อยไอริส!”
นี่เทียบไม่ได้กับตอนแข่งรถลากหรอก!
ไม่รู้ว่าไอริสจะเข้าใจคำพูดของหนวนหน่วนหรือเปล่า แต่มันก็ลดความเร็วลงอยู่บ้าง หนวนหน่วนเลยนั่งเกาะอยู่บนหลังของมันอย่างมั่นคง
“พี่ มานี่เร็วเข้า!”
รู้สึกตื่นเต้นจังที่ได้นั่งอยู่บนหลังเสือดำตัวใหญ่ นอกจากนี้เธอก็ยังไม่ลืมที่จะหันมาทักทายพี่ ๆ ด้วย
ไป๋โม่ซูยกมือข้างที่ถือมีดผ่าตัดขึ้นมา พอดีกับตอนที่แสงสะท้อนลงมา แต่มันกลับดูเป็นแสงที่ดูเยือกเย็นอย่างไรก็ไม่รู้
“ไอ้เสือนี่ เดี๋ยวก็ฆ่าซะเลย”
ไคน์กับอีวาน “…”
“ใจเย็นก่อน ไอริสไม่ได้ดุร้ายขนาดนั้น”
“พวกเราขึ้นรถกันเถอะ”
ไคน์รู้สึกเหมือนเหงื่อท่วมตัว ไอริสนี่ถือได้ว่าเป็นสมบัติชิ้นหนึ่งของเขาเลยนะ อย่างไรก็ยอมให้ฆ่าไม่ได้
เหลียงฉือมองดูเด็กหญิงที่นั่งอยู่บนหลังเสือดำด้วยความตื่นเต้น พอเห็นท่าทีที่กำลังโกรธจัดของไป๋โม่ซูแล้วก็อดขำออกมาไม่ได้
นี่มัน… สนุกจริง ๆ
รถออฟโรดขับไล่ตามเจ้าเสือดำไอริสไปอย่างรวดเร็ว ไคน์พยายามโผล่หัวออกไปข้างนอกแล้วตะโกนเรียกไอริสจากในรถ
“ไอริสปล่อยหนวนหน่วนลงเร็ว พี่ชายเธอจะแล่เนื้อแกไปทำบาร์บีคิวแล้วนะ!”
ไอริสไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย มันยังคงพาหนวนหน่วนเดินเข้าไปในป่าช้า ๆ
ไป๋โม่ซูเม้มปากอย่างอดกลั้น แววตาเย็นชาของเขาจับจ้องไปที่เจ้าเสือดำประหนึ่งว่าจะฆ่าให้ได้
ไอริสสะบัดแกว่งหางไปมาก่อนจะเดินออกไปไกลขึ้น ดวงตาสีเขียวมรกตจ้องมองกลับมาก่อนจะเอียงคอด้วยท่าทางที่ชวนยั่วโมโห ไหนจะแยกเขี้ยวจนฟันแหลมขาวกระทบแสงอีก
ดวงตาของไป๋โม่ซูมืดครึ้มทันที มีดผ่าตัดที่ถือเอาไว้อยู่ในมือต้องประกายแสงเยือกเย็นราวกับกลีบดอกไม้แรกแย้ม หากไม่ระวังมันพร้อมที่จะหลุดมือแล้วบินออกไปทุกเมื่อเหมือนกับตอนที่เล่นเกมปาเป้า แต่สิ่งที่เป็นเป้าหมายนั้นกลับเคลื่อนไหวได้ ไม่คงที่เท่าไหร่นัก
“ใจเย็นนะ ใจเย็นก่อน!”
ไคน์รีบปิดกระจกรถเพื่อบดบังทัศนวิสัยของชายหนุ่มทั้งสอง พระเจ้า วันนี้มันช่างมีอะไรให้ลุ้นระทึกมากเหลือเกิน!
หนวนหน่วนนั่งอยู่บนหลังของเสือดำที่กำลังเดินเทียบเคียงข้างรถออฟโรด เจ้าเสือดำและรถขับเคลื่อนไปอย่างช้า ๆ น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของเธอก็พูดคุยกับไป๋โม่ฮัวและพวกเขาไปด้วย เด็กหญิงพลังล้นเหลือจริง ๆ
ไคน์ถือโอกาสถ่ายภาพบรรยากาศเอาไว้ด้วยกล้องโปร ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนระอุจนแทบจะแผดเผา เจ้าสัตว์ป่าจอมดุร้ายเดินอยู่เคียงคู่กับลูกมนุษย์ตัวขาวผ่อง ความขัดแย้งที่ลงตัวแบบนี้ทำให้ภาพออกมามีเสน่ห์ไม่น้อย
“สวยมากเลย!”