ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 245 อุทยานของไคน์
บทที่ 245 อุทยานของไคน์
ไป๋โม่ฮัวกำลังโอ้อวดน้องสาวของตัวเองอยู่ข้าง ๆ ทางด้านหนวนหน่วนไม่ใช่แค่ลูบเสือดาวดำแล้ว แต่เธอยัง ‘เหยียบเรือสองแคม!’
สิงโตอเมริกันเคธีเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า แต่มันค่อนข้างกลัวเสือดาวดำ ดังนั้นอุ้งเท้าที่ยืนอยู่ห่างจากเสือดาวดำสองเมตรกำลังทำการหยั่งเชิง
คลาดสายตาไปเพียงแวบเดียว ไคน์ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเด็กน้อยหนวนหน่วนเอามือน้อยของตัวเองยื่นเข้าไปในตาข่ายป้องกันเพื่อจับหูของเสือดาวดำไอริส ส่วนมืออีกข้างหนึ่งโบกให้สิงโตภูเขาเหมือนลูกแมวตัวน้อย จากนั้นเคธีก็เดินย่องเข้ามาเหมือนแมวหลังจากลังเลอยู่เพียงสองวินาที
ไม่ใช่แค่เดินเข้ามาหาเท่านั้น แต่ยังเอาหัววางลงบนมือน้อยขาวนุ่มของเด็กหญิงตัวน้อยแล้วดันไปมา ปลายหางสะบัดสองสามครั้งอย่างมีความสุข
ส่วนเสือดาวดำไอริส แม้จะเห็นเคธีขัดหูขัดตาแถมยังแยกเขี้ยวข่มขู่เคธี แต่เมื่อถูกเด็กน้อยเกาคางแล้วพูดบางอย่างด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มันก็หรี่ตาอย่างเพลิดเพลินทันที พลางเอาคางพาดลงบนนิ้วมือของหนวนหน่วนอย่างวางใจ ส่งเสียงกรนในลำคอเหมือนแมวอีกต่างหาก
ไคน์ “!!!”
“ไอริส ทำไมแกเป็นแบบนี้!”
ไอริสจอมโอหังทำไมถึงกลายเป็นแมวใหญ่ตัวหนึ่งไปได้!
คนอื่น ๆ ได้ยินเสียงตวาดของเขาก็เลื่อนสายตาไปมองหนวนหน่วนและแมวใหญ่สองตัวทันที
เมื่อเห็นดังนั้น อีวานก็แสดงสีหน้าตกใจเช่นเดียวกับไคน์ สายตาของไป๋โม่ซูทอดไปที่มือของหนวนหน่วน จับจ้องไปที่แมวตัวใหญ่สองตัว กลัวว่าหากแมวใหญ่ทั้งสองเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมากะทันหัน มือของน้องสาวเขาก็คงไม่เหลือ!
ในขณะที่ไป๋โม่ฮัวมองตาปริบ ๆ ด้วยความชื่นชม เขาก็อยากสัมผัสมันเช่นกัน
เหลียงฉือมองหนวนหน่วน ในใจคิดว่ามันสมควรเป็นเช่นนั้นแล้ว
จางเหลียง “…”
ทำไมรู้สึกว่าผู้คนรอบข้างดูแปลก ๆ ไปหมด?
ในขณะที่ญาติผู้น้องควบคุมแมวใหญ่สองตัวไว้ ไป๋โม่ฮัวก็แอบดึงขนพวกมันขึ้นมาอย่างรวดเร็วสมดังที่ตั้งใจไว้ แมวใหญ่ทั้งสองแค่ชำเลืองมองเขาอย่างเฉยเมย ไม่มีท่าทีคิดเล็กคิดน้อย
สมใจแล้ว!
ท่ามกลางเสียงพูดพร่ำของไคน์ หนวนหน่วนกับคนอื่น ๆ ก็บอกลาไอริสและเคธี ก่อนจะไปที่บ้านพักเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน
ระหว่างทางไคน์พยายามคุยกับหนวนหน่วน เขาอยากรู้จริง ๆ ว่าในตัวเด็กคนนี้มีอะไรดึงดูดไอริสและพวกมัน ทำให้สัตว์ร้ายทั้งสองเชื่องเหมือนแมวอย่างคาดไม่ถึง
แต่เนื่องจากไม่เข้าใจภาษา ระหว่างทั้งสองยังต้องการล่ามแปลอยู่ ไป๋โม่ซูไม่ชอบไคน์ที่พูดมากเกินไปจึงปฏิเสธที่จะเป็นล่าม สุดท้ายเรื่องนี้ก็ตกเป็นหน้าที่ของไป๋โม่ฮัว
แต่การสนทนาผ่านคนอื่น ไคน์ค่อนข้างอึดอัด
“ฉันตัดสินใจแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะเรียนภาษาจีน!”
ไป๋โม่ฮัวเห็นด้วยอย่างมาก “ได้สิ ภาษาของประเทศเราไพเราะมาก”
ไคน์เริ่มสนใจเรียนภาษาจีนเพราะหนวนหน่วน เผื่อวันหนึ่งจะได้สื่อสารกับเด็ก ๆ โดยไม่มีอุปสรรค
แน่นอน หนวนหน่วนบอกว่าเธอก็จะพยายามตั้งใจเรียนภาษารัสเซียให้ดีที่สุดเช่นกัน
ผู้ใหญ่กับเด็กคู่หนึ่งคุยกันจนกลายเป็นเพื่อนต่างวัย พวกเขาชื่นชอบสัตว์ทุกชนิด ไป๋โม่ฮัวล่ามจำเป็นดื่มน้ำติดต่อกันหลายแก้วแล้ว
สุดท้ายทั้งสองก็ได้แลกเปลี่ยนช่องทางติดต่อกันถึงจะจบการสนทนา
ไป๋โม่ฮัว “โชคดีที่ไม่ได้เลือกเป็นล่ามตอนที่เรียนอยู่ เหนื่อยชะมัด”
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเต็มโต๊ะ ไคน์ก็พาพวกเขาไปชมอุทยานของตัวเองต่ออย่างกระตือรือร้น ครั้งนี้ได้นั่งรถออฟโรดเข้าไปในอุทยานด้วย
เมื่อหนวนหน่วนถามเขาว่าที่นี่มีหมาป่าไหม ก็ได้รับคำตอบยืนยันว่า
“แน่นอน อุทยานของฉันมีหมาป่าหิมะห้าตัว มีสองตัวที่ฉันช่วยเหลือมาจากพวกลักลอบล่าสัตว์เลวทรามพวกนั้น ขาหลังข้างหนึ่งได้รับบาดเจ็บ แม้ว่าสุดท้ายจะรักษาหายดีแต่ก็ยังไม่ฟื้นตัวดี ถ้าปล่อยกลับสู่ธรรมชาติต่อไปมันอาจจะไม่มีความสามารถในการใช้ชีวิตรอด ต่อมาฉันเลยเลี้ยงมันไว้”
“ยังมีหมาป่าแก่อีกหนึ่งตัวด้วย ธรรมชาติโหดร้ายแบบนี้ มันจะล่าสัตว์ทีต้องอาศัยโชคช่วย ฉันเลยเก็บมันไว้ที่นี่ ว่าจะเลี้ยงไปจนแก่”
“แต่หมาป่าหิมะจองหองมาก พวกมันกินเหยื่อที่ตัวเองล่ามาเท่านั้น ฉันมักปล่อยพวกกระต่าย ไก่ แกะในอุทยานมาให้พวกมันจับด้วยตัวเอง”
“อีกสามตัวเป็นเด็กน้อยน่าสงสาร สูญเสียแม่และครอบครัวไป ฉันพบตอนปีนภูเขาหิมะ ตอนแรกมีห้าตัว แต่โชคร้ายตายไปสองตัว พวกมันทั้งสามแทบจะหนาวตายหิวตาย โชคดีที่เจ้าตัวเล็กมีพลังชีวิตแข็งแกร่งมาก…”
ไคน์กำลังแนะนำหมาป่าหิมะทั้งห้า ไม่ลืมที่จะโชว์รูปพวกมันให้หนวนหน่วนดู
เห็นได้จากภาพถ่ายว่าไคน์ชอบหมาป่าหิมะพวกนี้มากจริง ๆ แต่ละภาพถ่ายออกมาได้สวยมาก จับลักษณะนิสัยอันเป็นเอกลักษณ์ของสัตว์ทุกตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ
หมาป่าหิมะสามตัวที่เขาพากลับมามีรูปภาพตั้งแต่เด็กจนโต หมาป่าหิมะทั้งสามตัวนี้ได้รับการเลี้ยงดูจากเขา ดังนั้นจึงมีภาพคู่ของเขากับหมาป่าหิมะมากมาย
ทั้งสามตัวเป็นหมาป่าหิมะที่สวยงามมาก ตัวขาวดุจหิมะไร้มลทินใด ๆ เหมือนเป็นผู้ดีมีตระกูลในบรรดาหมาป่า หากไม่ดูขนาดตัวของพวกมัน มองแวบแรกสวยงามเหมือนจิ้งจอกหิมะไม่มีผิด
หลังจากขอความเห็นจากไคน์แล้ว หนวนหน่วนก็โชว์รูปให้เหลียงฉือดู
“พี่อาหนานดูหมาป่าหิมะนี่สิ สวยมากเลยใช่ไหมคะ”
เหลียงฉือหลุบตาลง มองเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังชูรูปถ่ายพร้อมดวงตาเป็นประกายมีความสุข
เขามองหมาป่าในรูปแล้วพยักหน้า
“อืม สวยมาก”
หนวนหน่วนยิ่งมีความสุข “ถ้าพี่อาหนานต้องการกลับชาติมาเกิดบนโลกอื่นจริง ๆ ก็เลือกหมาป่าหิมะดีไหมคะ? นอกจากสวยแล้วยังฉลาดมากด้วย”
ความรู้เกี่ยวกับหมาป่าหิมะล้วนมาจากไคน์นักสัตววิทยา จากนั้นไป๋โม่ฮัวก็นำมาบอกต่อ เธอรู้ด้วยว่าหมาป่าเป็นสัตว์ที่ฉลาดมาก พี่อาหนานของเธอเก่งกาจขนาดนี้ ต่อให้กลายเป็นหมาป่าในอนาคตก็ต้องได้เป็นราชาหมาป่าที่เฉลียวฉลาดมากแน่ ๆ!
เหลียงฉือยิ้มมุมปาก ยกมือขึ้นลูบหัวทุย ๆ ของหนวนหน่วน “แบบนั้นก็ดี”
“ดูสิ! นั่นคือริคกี้ เสือโคร่งไซบีเรีย!”
เสียงตื่นเต้นของไคน์ดังขึ้น หนวนหน่วนฟังไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการมองไปยังทิศทางที่เขาชี้ จากนั้นเธอก็เห็นเสือสีส้มเหลืองตัวใหญ่กำลังนอนหมอบอยู่บนพื้นหญ้า ค่อย ๆ ดื่มน้ำอยู่ที่ริมทะเลสาบใสสะอาด
เมื่อได้ยินเสียงรถยนต์ มันก็เงยหน้ามองอย่างระแวดระวังแล้วรีบเบนสายตาไปทางอื่นเพื่อดื่มน้ำต่อไป เหมือนคุ้นเคยกับรถคันนี้แล้ว
“ริคกี้เป็นเด็กที่มีความระแวดระวังมาก ถึงจะไม่โจมตีฉัน แต่ฉันก็เข้าใกล้มันไม่ได้”
ริคกี้ที่กำลังดื่มน้ำอยู่ทางนั้นลุกขึ้นยืนแล้วจากไป ไม่นานก็หายเข้าไปในป่าทึบ
ไคน์กล่าวด้วยความเสียดาย “ริคกี้นี่ยังดี มันแค่ไม่สนใจรถของเรา โอทิสเสืออีกตัวต่างหากที่เป็นเจ้าป่าอย่างแท้จริง มันไม่ใช่แค่ผีเข้าผีออก แต่ยังไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ดินแดนอาณาเขตของมัน ไม่อย่างนั้นโกรธจัดแน่”
“โอทิสเหมาะกับอยู่ในป่าทึบจริง ๆ ฉันอยากรอให้แผลของมันหายดี มันจะไปจากที่นี่ได้เอง กลับไปสู่โลกที่เป็นของมัน”
หนวนหน่วนถามด้วยความสงสัย “ โอทิสเป็นเสือโคร่งไซบีเรียด้วยหรือเปล่าคะ?”
“ไม่ใช่หรอก”
ไคน์รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันใด “โอทิสเป็นเสือขาวขนาดใหญ่ ใหญ่กว่าริคกี้สองเท่า ฉันไม่เคยเห็นเสือขาวที่สวยงามและน่าเกรงขามแบบนี้มาก่อน มันเคยมีชีวิตที่ดีมากในดินแดนของตัวเอง แต่มีคนไปพบและใช้โดรนถ่ายภาพไว้โดยบังเอิญ”
“สุดท้ายก็ไปสะดุดตาพวกนายทุนเข้า พวกเขาจึงส่งคนไปจับมันโดยเฉพาะ เพื่อที่จะจับมัน แม้ว่าโอทิสจะหมดแรงแล้ว แต่คนเหล่านั้นกลับถูกมันฆ่าตายรวมทั้งหมดห้าคน สุดท้ายโอทิสก็หนีรอดไปได้ พวกคุณคงจินตนาการไม่ออกเลยว่า โอทิสจะวิ่งเข้ามาในอุทยานด้วยตัวเอง”
“มันเป็นเสือที่เฉลียวฉลาดที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบมา ในตอนนั้นคนงานของฉันพบมัน แต่โอทิสแค่ขู่ไล่คนงานของฉันไป ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้มัน ฉันสามารถใช้โดรนถ่ายภาพมันได้เป็นครั้งคราวเท่านั้น แต่ถ่ายได้ไม่ชัดเท่าไหร่”
“มันน่าจะคิดว่าที่นี่เป็นโรงพยาบาลไปแล้ว”
ไคน์ยักไหล่ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่โอทิสเลือกอุทยานของเขาเป็นโรงพยาบาลสำหรับพักฟื้น แม้ว่าตนจะมองไม่เห็นโอทิสก็ตาม