ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 240 ไป๋โม่ซูเมาเหล้า
บทที่ 240 ไป๋โม่ซูเมาเหล้า
ไป๋โม่ซูอุ้มหนวนหน่วนเดินขึ้นไปข้างบน ตอนแรกยังไม่ชัดเจนนัก แต่ยิ่งเดินไปก็ยิ่งรู้สึกว่าแขนเริ่มล้ามากขึ้น
สุดท้ายแล้วก็ทำได้เพียงเปลี่ยนเอาเจ้าตัวเล็กไปให้อีวานอุ้มสักพัก จากนั้นชายหนุ่มทั้งสองคนก็พากันอุ้มหนวนหน่วนตัวน้อยขึ้นไป
หนวนหน่วน “…”
“กางเต็นท์ให้เสร็จก่อนมืดนะ”
ประมาณสามถึงสี่ทุ่มกว่าแสงเหนือจะปรากฏ ตอนนี้พวกเขาจึงหาที่กางเต็นท์
พวกเขาเริ่มวุ่นวายกันขึ้นมา แต่อีวานเชี่ยวชาญมาก ไม่นานนักก็เลือกพื้นที่กว้างและเหมาะสมเพื่อกางเต็นท์ได้
กางเต็นท์เสร็จ อีวานก็หยิบเตา ถ่าน รวมไปถึงอาหารที่เตรียมไว้เรียบร้อยขึ้นมา
อีวาน “ฉันจะไปเอาฟืนแห้งมา ถ้าล่ากระต่ายได้ก็ยิ่งดี มีใครอยากไปกับฉันไหม”
หนวนหน่วน : หนูอยากไปด้วย
ไป๋โม่ฮัวยกมือขึ้นอย่างกระตือรือร้น “ผม ๆ ๆ!”
เหลียงฉือไม่อยากวิ่งแล้ว เขาดันเก้าอี้ไปนั่งอย่างสบาย ๆ ตรงกองไฟ ดวงตาดำขลับจ้องมองไปบนท้องฟ้า
ไป๋โม่ซูถือเสื้อผ้าและหมวกของคนตัวเล็กมา
“อยู่นี่อย่าวิ่งมั่วซั่วนะ”
หนวนหน่วนตอบรับอย่างเชื่อฟัง ถึงแม้จะอยากตามไปด้วยมาก ๆ แต่ก็ยังนั่งอยู่อย่างว่าง่าย
ไป๋โม่ซูลูบหัวเล็ก ๆ ของเธอ “พรุ่งนี้พี่จะพาเธอไปด้วยนะ”
เด็กหญิงตัวน้อยยิ้มออกมาอย่างมีความสุขขึ้นมาทันใด นัยน์ตาของเธอในตอนนี้สุกสว่างราวกับดวงดาว
“ได้ค่ะ”
พูดจบก็เอียงศีรษะรับฝ่ามือของลูกพี่ลูกน้องอย่างแข็งขัน
พออีวานพาไป๋โม่ฮัวจากไปแล้ว จางเหลียงก็ไปดูว่ารอบ ๆ มีฟืนไหม จากนั้นก็หยิบกลับมาจำนวนหนึ่ง
ท้องฟ้าที่นี่มืดเร็ว พวกอีวานจึงพากันกลับมาก่อนที่ท้องฟ้าจะมืดจนมองอะไรไม่เห็น
“เรากลับมาแล้ว!”
ในมืออีวานยังคงถือเอากระต่ายที่ตายแล้วสองตัวแกว่งไปมาราวกับจะอวด
“ดูสิ พวกเราโชคดีมากเลย กระต่ายตั้งสองตัวแน่ะ!”
พูดจบเขาก็วิ่งมาอย่างร่าเริง ด้านหลังเลื่อนหิมะยังลากฟืนแห้งมากองหนึ่งด้วย
“อีกเดี๋ยวอันเดรเพื่อนฉันก็จะตามมา เขาจะเอาเครื่องปั่นไฟมาด้วย เราจะได้ทำอะไรได้มากอีกหน่อย”
พูดถึงก็มาพอดี มีเสียงตะโกนดังมาจากตีนเขาเป็นภาษารัสเซีย อีวานวางกระต่ายลงพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า
“เฮ้ อันเดร ฉันอยู่นี่!”
หนวนหน่วนย่อตัวลงกับพื้นแล้วยื่นนิ้วไปแหย่กระต่าย มันตายสนิทแล้ว ที่ท้องมีรูกระสุนปืน เป็นเพราะอากาศหนาวทำให้เลือดไม่ไหลออกมาแล้ว
ไป๋โม่ซูเดินมาแล้วปิดตาเธอ “กลัวไหม”
หนวนหน่วนส่ายหน้า ครุ่นคิดแล้วพูดเบา ๆ “ไม่กลัวค่ะ เมื่อก่อนเคยเห็นไก่กับกระต่ายถูกฆ่ามาแล้ว”
ถึงแม้กระต่ายจะน่ารักมาก แต่เธอก็ตั้งใจกินเนื้ออย่างไม่ทิ้งขว้าง จะไม่มีวันให้เจ้ากระต่ายต้องตายเปล่าแน่!
ไป๋โม่ซูมองเด็กหญิงด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย แล้วก็เห็นว่าเธอหัวเราะออกมาอย่างสบาย ๆ
เด็กคนนี้กล้าหาญมากกว่าที่คิด
อันเดรขับรถสโนว์โมบิลมา ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็มาถึงแล้ว
“ไงเพื่อน ฉันเกือบหานายไม่เจอแล้ว นี่เพื่อนนายเหรอ”
ทันทีที่อันเดรมาถึงก็ตบไหล่ของอีวานสองครั้ง ดูเหมือนจะหนักไปหน่อย หนวนหน่วนได้ยินก็รู้สึกเจ็บแทนอีวานแล้ว
อันเดรเป็นชายร่างสูงกำยำ บนใบหน้ามีหนวดเครา ดูท่าทางดุเล็กน้อย เสียงหัวเราะก็ฟังดูทุ้มเสนาะหูเป็นพิเศษ
“สวัสดี ฉันชื่ออันเดร เป็นเพื่อนของอีวาน”
เขาพูดเป็นภาษารัสเซีย คนที่อยู่ตรงนั้นมีเพียงหนวนหน่วนและจางเหลียงที่ฟังไม่ออก
ต่อให้หนวนหน่วนจะเก่งและความจำดีแค่ไหน แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเรียนภาษารัสเซียได้ภายในเวลาสั้น ๆ ไม่กี่วัน
หลังจากทั้งสองฝ่ายจับมือกัน บรรยากาศของที่นี่ก็ดูคึกคักขึ้นมาเป็นเศษ
เมื่อมีเครื่องปั่นไฟ น้ำร้อนและพวกอาหารอย่างสเต๊กที่ต้องย่างนั้นก็ง่ายขึ้นมาก
เหล่าผู้ใหญ่ยุ่งอยู่กับการเตรียมมื้อเย็น มองแวบเดียวก็เห็นว่าทั้งหมดมีแต่เนื้อ เนื้อแกะ เนื้อวัว แฮม เนื้อปลาและอาหารทะเล พวกผักมีน้อยเสียจนน่าสงสาร
คนประเทศนี้ส่วนใหญ่ชอบกินเนื้อเป็นเรื่องจริง เหตุผลหลักก็เพราะที่นี่หาผักยากจริง ๆ
หนวนหน่วนในตอนนี้กำลังเล่นอยู่กับกลุ่มสุนัขตัวใหญ่ เธอเดินไปข้างหน้าอย่างงุ่มง่าม ส่วนด้านหลังมีสุนัขตัวใหญ่เดินตามเป็นพรวน
หนวนหน่วนหันมาเท้าเอวอย่างโมโห “ห้ามมายุ่งกับหนวนหน่วนนะ!”
“โฮ่งโฮ่ง”
เจ้าฮัสกีเงยหน้าขึ้นอย่างตื่นเต้นก่อนจะเริ่มหอน
เสียงนี้ก็ทำให้สุนัขตัวอื่นเห่าโฮ่ง ๆ ตามไปด้วย พวกมันหอนกันเกรียวกราวเลยละ
หนวนหน่วน “…”
ในไม่ช้าเธอก็กลิ้งเป็นลูกบอลในหิมะพร้อมกับกลุ่มสุนัข บางทีทั้งตัวของเธอก็จมลงไปในหิมะ ไม่ช้าก็ถูกพวกมันขุดออกมา ไม่ต้องให้ผู้ใหญ่มาช่วยเหลือเลย
อันเดรมองดูแล้วหัวเราะฮ่า ๆ ออกมาดังลั่น
“ยากนะที่จะเห็นพวกริคชอบใคร ฉันขอจองพวกนายเป็นเพื่อนนะ!”
อันเดรชอบสุนัขมาก คนที่สุนัขชอบก็ชอบด้วย ชายหนุ่มเริ่มกระตือรือร้นที่จะมีเพื่อนขึ้นมาแล้ว
มือของไป๋โม่ซูกำลังปรุงกุ้งที่หนวนหน่วนชอบกิน เมื่อเงยหน้าขึ้นมามองเห็นญาติผู้น้องตัวน้อยของตัวเองก็อ้าปากค้าง
“สัตว์ชอบเธอมากเลยนะเนี่ย”
กลางคืนมืดสนิท แต่เพราะพื้นหิมะขาวจึงมองเห็นทางอยู่บ้าง ยิ่งมีกองไฟอยู่ด้วยก็หายกังวล
กลิ่นหอมของอาหารลอยไปไกล หนวนหน่วนและเหล่าสุนัขตัวใหญ่นั่งเรียงกัน ดวงตาโตสีดำขลับจ้องมองอาหารบนโต๊ะเขม็ง
บาร์บีคิวและเนื้อย่างหลากหลายแบบน่ากินมาก ทุกคนน้ำลายสอกันหมดแล้ว
ไป๋โม่ซูนำกุ้งตัวหนึ่งมา นิ้วมือเรียวยาวค่อย ๆ แกะเปลือกกุ้งออก จากนั้นก็นำเนื้อกุ้งสีขาวยื่นไปที่ปากของหนวนหน่วนที่กำลังมองเขาอยู่
เด็กน้อยอ้าปากกินเนื้อกุ้งจนแก้มพอง
“อร่อย!”
กินเสร็จเธอก็หันหน้าไปมองเหลียงฉือ ก่อนจะถามไป๋โมซูว่า “พี่โม่ซู พี่อาหนานกินไม่ได้เหรอคะ”
ไป๋โม่ซูมองเหลียงฉือแวบหนึ่งแล้วส่ายหน้า แววตาของหนวนหน่วนหม่นแสงลง มือเล็กเท้าคางของตัวเองแล้วพองแก้มอย่างเป็นกังวล ถ้าเป็นเธอเอง ทำได้เพียงมองคนอื่นกินของอร่อย ๆ มากมายแต่ตัวเองกลับกินไม่ได้ แบบนั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว
เมื่อเห็นสาวน้อยเป็นกังวลเสียจนใบหน้าขาวผุดผ่องขึ้นรอยย่น แววตาไป๋โม่ซูก็ปรากฏรอยยิ้มทันที แต่ชายหนุ่มไม่ได้แกล้งหยิกเธออย่างเคย
เขาหยิบเอาชามเล็กขึ้นมา “นี่โจ๊กที่พี่ทำ เขากินได้หน่อย”
แววตาของหนวนหน่วนเป็นประกายขึ้นมาทันที “พี่โม่ซูเจ๋งที่สุด!”
พูดจบเธอก็ถือโจ๊กที่ถูกต้มร้อน ๆ น่าอร่อยวิ่งไปหาทางด้านเหลียงฉือ
โจ๊กที่ไป๋โม่ซูทำนั้น อย่าว่าแต่ให้คนป่วยกินเลย อีวานและอันเดรที่อยู่ข้าง ๆ ก็อยากกินขึ้นมาเหมือนกัน
“พี่อาหนานกินอะไรหน่อยนะคะ”
โจ๊กเย็นลงเล็กน้อยแล้ว แต่โดยรวมยังอุ่นอยู่ อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมและไม่เลี่ยนแต่อย่างใด
เหลียงฉือรับชามโจ๊กมาแล้วเม้มปาก ในที่สุดก็ค่อย ๆ กินเข้าไปท่ามกลางสายตาเป็นห่วงของหนวนหน่วน
โจ๊กที่ถูกต้มจนได้ที่เข้าปากไปก็ละลาย แต่เนื้อก็แน่นกว่าน้ำเล็กน้อย ย่อยง่าย เคลื่อนลงท้องเหลียงฉือในที่สุด
เมื่อคอยมองเหลียงฉือกินโจ๊กจนหมดจากด้านข้าง หนวนหน่วนก็ถือชามวิ่งกลับไปอย่างมีความสุข
พอไปถึงก็รับอาหารมาจากลูกพี่ลูกน้องทั้งสองคน
เป็นเพราะมีชาวรัสเซียที่กระตือรือร้นสองคน บรรยากาศของพวกเขาในคืนนี้จึงคึกคักมาก
อันเดรนำเหล้าวอดก้าที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศเขามาด้วย
“กินเนื้อแล้วจะไม่มีเหล้าได้ยังไงกัน มาเลยเพื่อน วอดก้าขวดนี้ให้นาย”
อันเดรยัดขวดวอดก้าลงในอ้อมแขนของไป๋โม่ซู จากนั้นก็หยิบเอาอีกขวดหนึ่งออกมาให้ไป๋โม่ฮัวและจางเหลียง
“พวกนายสองคนอายุยังน้อย สองคนกินขวดหนึ่งแล้วกัน!”
ไป๋โม่ฮัวและจางเหลียง “!!!”
พวกเขาดื่มเหล้าไม่ได้
คนหนึ่งกินไม่ได้ อีกคนมีเรื่องฝังใจกับเหล้าอย่างรุนแรง
ไป๋โม่ซู “…สองคนนี้ยังเด็กนะ”
อันเดรโบกไม้โบกมือ “การดื่มเหล้าน่ะต้องหัดไว้ตั้งแต่เด็ก ๆ อายุเท่านี้ก็ดื่มได้แล้ว”
ไป๋โม่ซูปวดหัวขึ้นมาแล้ว เขาดึงขวดเหล้ากลับมาอย่างแน่วแน่พลางกล่าวอย่างเย็นชา
“ไม่ได้ เด็กดื่มเหล้าจะไม่ดีต่อสุขภาพ เดี๋ยวฉันดื่มกับพวกนายเอง”
กล่าวจบเขาก็เปิดหนึ่งขวดแล้วดื่มพรวด ๆ ทันที
อันเดรเห็นว่าเขาเป็นคนตรงไปตรงมาก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก ชายหนุ่มหัวเราะฮ่า ๆ แล้วดื่มเหล้าเข้าไปอึกใหญ่ราวกับดื่มน้ำ
เวลาไป๋โม่ซูดื่มเหล้านั้นดูเท่และสบาย ๆ อย่างบอกไม่ถูก ใบหน้าที่หล่อเหลาเย็นชายิ่งมีเสน่ห์ขึ้นภายใต้แสงไฟ
แต่ว่าหนวนหน่วนเป็นห่วงจัง ดื่มเหล้าเยอะจะไม่ดีกับสุขภาพนะ
ไป๋โม่ซูคอแข็งอย่างคาดไม่ถึง ตัวเองดื่มเป็นเพื่อนสองคนนั้นแต่ยังไม่ลืมรินนมให้น้องสาวและน้องชาย
จางเหลียงหดตัวลงที่มุมหนึ่งแล้วรินนมให้ตัวเอง
ทำไมถึงมีนมแต่ไม่มีน้ำผลไม้ล่ะ เขาโตขนาดนี้แล้วนะ QAQ
กินอาหารกันรอบวง ทั้งสามคนดื่มเหล้า อีกสามคนดื่มนม ด้านข้างยังมีคนหนึ่งนั่งอยู่เงียบ ๆ โดยไม่ทำอะไร แต่ในบรรยากาศเช่นนั้น แววตาของเหลียงฉือค่อย ๆ ผ่อนคลาย
อาหารเย็นมื้อนี้กินกันจนถึงดึก อันเดรและอีวานเมาแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ลืมให้อาหารสุนัขของตัวเอง
ตอนที่กลับมาก็ยังยกนิ้วโป้งให้ไป๋โม่ซู
“เพื่อน นายดื่มเก่งนี่หว่า!”
ไป๋โม่ซูไม่ตอบ ยังคงนั่งแน่นิ่งราวกับต้นไผ่ แววตาที่เย็นเยือกราวกับหิมะมองออกไปอย่างเหม่อลอย ให้ความรู้สึกที่ทำให้คนไม่กล้ามองมาเท่าไหร่
อันเดรตกใจจนสะอึก
“อีวาน ทำไมฉันรู้สึกว่าตอนนี้หมอนี่ดูน่ากลัวไปหน่อยแล้วล่ะ”
อีวานกลืนน้ำลาย “ฉัน… ฉันก็ว่างั้น”
ดูมีจิตสังหารชอบกล
หนวนหน่วนเองก็ไม่ได้สังเกตอะไร เธอยังคงคุยกับเหลียงฉืออย่างไม่ใส่ใจว่าแสงเหนือจะปรากฏขึ้นมาตอนไหน
“พวกนายเป็นใคร”
ไป๋โม่ซูมองอีวานและอันเดร ก่อนจะถามเป็นภาษารัสเซียเสียงเย็นเยียบ
อีวานและอันเดร “…”
จบกัน ไม่ใช่ว่าดื่มจนคลั่งขึ้นมาเหรอ!
ไป๋โม่ซูลุกขึ้นอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง ฟาดมือลงไปทันที
ทุกคน “!!!”
ใบหน้าเล็ก ๆ ของหนวนหน่วนเต็มไปด้วยความตกใจ เกิดเรื่องอะไรกัน!
ไป๋โม่ซูดูแล้วไม่น่าแข็งแรงเท่าอันเดร แต่เพียงครู่เดียว ในชั่วพริบตานั้นก็ทำให้พวกเขาสองคนล้มลง
ไป๋โม่ซูถามเสียงเย็น “คิดจะลักพาตัวน้องสาวกับน้องชายฉันใช่ไหม!”
ทั้งสองคน : ไอ้นี่มันใส่ร้ายกันหน้าด้าน ๆ!
ใครจะลักพาตัวน้องชายน้องสาวนายกัน ดื่มหนักไปแล้ว!
ดื่มหนักไปแล้วจริง ๆ นั่นแหละ
หลังจากจัดการคนร่างใหญ่สองคนที่ดูเป็นภัยอย่างมากไปแล้ว ไป๋โม่ซูก็ยืนขึ้นแล้วหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดมือช้า ๆ ราวกับคุณชายสูงศักดิ์
“คนอย่างพวกนายยังเร็วไปที่คิดจะลักพาตัว”
ด้วยน้ำเสียงและท่าทางแบบนั้น เหมือนเขียนคำว่า ‘ทำไมพวกนายไร้ประโยชน์แบบนี้’ ไว้บนหน้าเลย
อีวานและอันเดร : ไม่ยุติธรรมเลย แต่ก็ไม่กล้าพูด!
“พี่อีวาน พี่อันเดร พวกพี่ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ”
หนวนหน่วนถามเบา ๆ
อันเดรฟังไม่ออก อีวานเหมือนร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ไม่เป็นไร”
ไป๋โม่ซูถูกพวกเขามอมจนเมาเอง ถูกต่อยแล้วจะทำอะไรได้อีกล่ะ
“หนวนหน่วนมานี่ อย่าเข้าใกล้คนเลว”
น้ำเสียงของไป๋โม่ซูดังขึ้น ไม่นานหนวนหน่วนก็ถูกดึงตัวไป
‘คนเลว’ สองคนที่พื้น “…”
แล้วพวกเขาดูเหมือนคนที่ควรถูกต่อยตรงไหน
อันเดรกัดฟันแล้วบ่นกับอีวาน “ฉันนึกว่าเพื่อนนายอ่อนแอซะอีก ทำไมถึงสู้เก่งขนาดนี้”
พวกเขาเองก็สู้กับหมีได้นะ!
อีวาน “…หมอนั่นยูโดสายดำ เคยเป็นที่หนึ่งของชมรมเทควันโดมหาวิทยาลัยเรา มหาลัยอื่นไม่มีใครสู้เขาได้เลย อีกอย่างนายต้องดีใจที่ในมือเขาไม่มีมีดผ่าตัดนะ ไม่อย่างนั้นตอนนี้เราสองคนคงไม่ใช่แค่ถูกต่อย แต่คงตายตรงนี้แบบง่าย ๆ เลย”
อันเดร “!!!”
โหดร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ?!