ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 239 เลื่อนหิมะ
บทที่ 239 เลื่อนหิมะ
พอคนหลายคนออกเดินทางพร้อมกัน แน่นอนว่าสุนัขลากเลื่อนหิมะก็ไม่ได้มีแค่สามตัวนั้น
ทุกคนพากันมาถึงที่พักของอีวาน ไม่นานนักเขาก็ลากเอาสุนัขตัวใหญ่สองสามตัวออกมาจากห้องข้าง ๆ ก่อนจะนำเลื่อนหิมะออกมาเทียม
สุนัขเหล่านี้เชื่อฟังอย่างมากเมื่อถึงเวลาเทียมเลื่อนหิมะ ถึงขนาดมองเห็นความตื่นเต้นปรากฏในแววตาของสุนัขลากเลื่อนหิมะเหล่านี้ได้เลย
สุนัขลากเลื่อนหิมะส่วนใหญ่ล้วนเป็นสุนัขทึ่มสายพันธุ์เดียวกับสุนัขทั้งสาม แต่ละตัวมีพลังเหลือล้น การให้พวกมันลากเลื่อนหิมะก็ช่วยให้พวกมันได้ปลดปล่อยพลังและแข่งวิ่งกันเองวิธีหนึ่ง ถ้าเจ้าสัตว์พลังเหลือล้นเหล่านี้ถูกขังอยู่ในบ้านก็คงทำบ้านพังกันพอดี
หลังจากเทียมเลื่อนหิมะเสร็จแล้ว หนวนหน่วนก็ถูกไป๋โม่ซูอุ้มขึ้นข้างบน และเขาก็เชี่ยวชาญในวิธีการขับเลื่อนหิมะอย่างรวดเร็ว
หนวนหน่วนถูกห่อตัวจนเหมือนเพนกวินอ้วนอย่างไรอย่างนั้น เธอใส่หมวกอย่างดี ใส่ผ้าพันคออย่างดี ใส่ถุงมืออย่างดี แทบทั้งตัวเหมือนจะเห็นได้แค่ดวงตาสีดำกลมโตเท่านั้น
คนที่ไม่ต่างจากเธอนักก็คือเหลียงฉือ เพียงแต่เสื้อผ้าที่เหลียงฉือใส่ไม่ได้ใหญ่อ้วนตุ้บเท่าเจ้าตัวเล็ก ดูแล้วกลมน่ามองไม่แพ้กัน
ไป๋โม่ซูใส่เข็มขัดนิรภัยให้หนวนหน่วน “นั่งให้ดี ๆ แล้วไปกัน”
“นั่งดี ๆ นะพวกนาย!” อีวานคอยดูไป๋โม่ฮัวให้ขึ้นไปบนรถเลื่อนหิมะ พวกเขาขึ้นเลื่อนหิมะคันเดียวกัน สุนัขลากเลื่อนหิมะตรงหน้านั้นคือสุนัขตัวใหญ่ที่โตเต็มวัยแล้ว เลื่อนหิมะทุกคันล้วนมีสุนัขสี่ตัวคอยลากไปบนทางอันราบเรียบ ทั้งสองคนจึงรู้สึกสบายตัวขึ้นมาก
จางเหลียงและเหลียงฉือนั่งด้วยกัน ตอนแรกจางเหลียงอยากจะเป็นคนบังคับเลื่อนหิมะ แต่เหลียงฉืออยากจะลองด้วยตัวเอง ผลคือเด็กหนุ่มทำได้เพียงคอยดูอยู่ข้าง ๆ อย่างกังวล
เลื่อนหิมะสามคันแล่นไปบนผินหิมะสีขาว ไม่ต้องบอกเลยว่ารู้สึกเท่ขนาดไหน
ในตอนเริ่มหนวนหน่วนยังจับเสื้อของไป๋โม่ซูเอาไว้ด้วยความประหม่า กลัวว่าตัวเองจะตกลงไป แต่หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ กล้ามากขึ้นเลยปล่อยมือเล็กออกจากเสื้อผ้าของลูกพี่ลูกน้อง เธอคว้าเอาราวจับของเลื่อนหิมะแล้วเริ่มมองดูรอบ ๆ แววตาสดใสคู่นั้นเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เธอรู้สึกแปลกใหม่ อยากจะสำรวจทุกสิ่งที่นี่
ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นหิมะมากมายขนาดนี้มาก่อน อีกทั้งหิมะนี้ก็ยังหนาและลึกเป็นพิเศษ ที่นี่เป็นพื้นที่เฉพาะในอาร์กติกเซอร์เคิล*[1] ในสภาพแวดล้อมของชีวิตประจำวันของเธอนั้นไม่มีทางได้เห็น
อีวานเป็นคนชอบความครึกครื้น ระหว่างทางก็คอยตะโกนและแนะนำทิวทัศน์บ้านเกิดให้ทุกคนฟัง เพราะอยากให้ทุกคนได้ยิน เขาจึงต้องตะโกน ดังนั้นเสียงของเขาเลยดังก้อง
“บนหน้าผาด้านนั้นเป็นที่ที่เห็นแสงเหนือชัดมาก ฉันหาเจอด้วยตัวเอง คนที่มาเที่ยวที่นี่ไม่มีใครรู้ ถ้าไม่ใช่เพื่อนรักฉันคงไม่พาพวกนายไปแน่”
อีวานชี้ไปยังหน้าผาที่ห่างออกไปเล็กน้อย มองไปไม่ชัดเจนนักเพราะล้วนเป็นผืนหิมะสีขาว
พอพูดเรื่องนี้จบ อีวานก็เริ่มพูดเรื่องอื่น “บนเขาทางด้านนี้มีหมาป่า เป็นหมาป่าหิมะที่สวยมาก แต่ก็อันตรายมากด้วย แล้วก็มีสัตว์ที่สวยงามอีกมากมาย อย่างพวกกระต่ายหิมะ บางทีก็จะเห็นจิ้งจอกหิมะด้วย วันนี้ดูแสงเหนือเสร็จแล้ว วันพรุ่งนี้ฉันจะพาพวกนายไปดูกวาง เพื่อนฉันคนหนึ่งเลี้ยงกวาง เจ๋งสุด ๆ เลย!”
พูดจบอีวานก็หันไปมองหนวนหน่วน “ฉันว่าสาวน้อยน่ารักอย่างเธอต้องชอบแน่ ๆ”
หนวนหน่วนพยักหน้าพร้อมแววตาที่เป็นประกาย
ไป๋โม่ซูชำเลืองมองน้องสาว มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยรับลมเย็น ไม่นานนักพวกเขาก็ไปถึงจุดหมาย
เลื่อนหิมะหยุดลงที่ใต้หน้าผา เส้นทางหลังจากนั้นพวกเขาต้องเดินขึ้นไปเอง
เหล่าสุนัขลากเลื่อนหิมะลากมาไกลก็เหนื่อยแล้ว ตอนนี้กำลังนอนแลบลิ้นอยู่บนพื้นหิมะเพื่อพักผ่อน
หนวนหน่วนหยิบเอาขวดน้ำ พอลงจากรถ ขาสั้น ๆ ก็แทบจะจมลงไปในหิมะทั้งหมด
ปกติก็เตี้ยอยู่แล้ว ตอนนี้กลับเตี้ยลงไปอีก
หนวนหน่วน “…”
หิมะหนามากจริง ๆ!
หนวนหน่วนพยายามก้าวไปบนหิมะอย่างยากลำบาก แค่นี้ก็รู้สึกเหนื่อยมากแล้ว
เธอไม่อยากขยับตัวแล้ว
ระหว่างที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมา เท้าที่ยังเหยียบย่างไม่มั่นคงดีก็เซล้มลงไปนั่งกับพื้น พอล้มลงไปข้างหลัง ขาสั้นสองข้างจึงชี้ขึ้นมา
ล้มลงบนหิมะไม่เจ็บ แต่ก็ลุกขึ้นมาไม่ได้ เธอสวมชุดหนาเกินไปแล้ว
“ฮืออ…”
หนวนหน่วนส่ายแขนขาเล็ก ๆ แล้วก็ร้องฮือ ๆ ออกมา
“พี่คะ พี่”
ช่วยหนวนหน่วนหน่อย!
“ฮ่าฮ่า”
พอมีคนเห็นหนวนหน่วนในสภาพนี้ก็ส่งเสียงหัวเราะเยาะอย่างไร้ความปรานีออกมา หนวนหน่วนจำได้ เสียงของอีวานนี่นา!
ในแววตาไป๋โม่ซูเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ชายหนุ่มก้มลงอุ้มเด็กหญิงที่ล้มลงกับพื้นหิมะขึ้นมา
หนวนหน่วนตัวสั่นกึก ๆ เลยทีเดียว หิมะที่ปกคลุมแทบทั้งตัวร่วงกราว ทว่าบนกลุ่มผมยังมีหิมะบางส่วนเหลืออยู่
อีวานเดินเข้ามาพลางพูดเป็นภาษาจีนแปร่ง ๆ “หนวนหน่วน เมื่อกี้เธอเหมือนเต่าตัวใหญ่ที่พลิกตัวไม่ได้เลย”
หนวนหน่วน “!!!”
เธอทำหน้าเหมือนถูกฟ้าผ่า
เต่า… เต่าตัวใหญ่!
ไป๋โม่ซู “ถ้าพูดไม่คล่องก็หุบปากไปเลย!”
อีวานเกาหัว รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เปรียบเทียบผิดนะ
“ฉันพูดอะไรผิดเหรอ”
ไป๋โม่ฮัวพึมพำอยู่ข้าง ๆ “พี่นี่ดีดเหมือนหมาฮัสกีเลย”
ปกป้องพวกตัวเองเกินไปแล้ว!
อีวานไม่พอใจขึ้นมาทันที “นี่ น้องโม่ซู ทำไมด่าคนเก่งแบบนี้”
ไป๋โม่ฮัวยืดคอขึ้น “ทีพี่ยังบอกว่าหนวนหน่วนเหมือนเต่าเลย”
“ฉันหมายถึงท่าทางตอนเธอล้มเมื่อกี้ต่างหาก”
“ผมก็พูดถึงตอนที่พี่ดีดเมื่อกี้ไง”
“ฉันไม่ได้ดีด ฉันสบายดีเว้ย!”
“เต่าอะไรกัน น้องสาวผมน่ารักออก”
อีวาน “เต่าก็น่ารักจะตาย”
ทั้งสองเริ่มตีกันขึ้นมาเหมือนเด็ก ๆ แต่ทั้งสองคนล้วนเป็นคนไม่รู้จักคิด ทะเลาะกันไปสักพักก็เปลี่ยนประเด็นไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ไม่นานก็ลืมเรื่องก่อนหน้าที่เถียงกันอยู่ไป
หนวนหน่วนพึมพำ ขาสั้นเล็กกำลังพยายามก้าวเดินอยู่บนพื้นหิมะ เตาะแตะไปมาดูแล้วเหมือนนกเพนกวินเงอะงะตัวหนึ่ง
เธอและพี่ชายป้อนน้ำให้เหล่าสุนัข จากนั้นทุกคนก็เดินกันต่อ
“พี่อาหนานระวังหน่อยนะคะ อย่าล้มนะ”
“พี่โม่ซูเดินช้า ๆ หน่อยสิ หนวนหน่วนขาสั้น ตามไม่ทันแล้วนะ”
“เอาไปสิหนวนหน่วน ใช้สายจูงของพวกเจมี่ช่วยดึง จะได้เดินเร็วขึ้นหน่อย”
อีวานนำสายจูงสองเส้นใส่ไว้ในมือของเด็กหญิง มีสุนัขสองตัวนำอยู่ข้างหน้า เธอก็จะเดินเร็วขึ้น
หนวนหน่วน : ขาสั้น ๆ ของหนูเมื่อยมากแล้วนะ
ทุกครั้งที่ต้องก้าวข้ามหิมะจะต้องยกขาขึ้น ขาอ้วน ๆ ของเธอยกลำบากมากเลย!
“ให้พี่อุ้มไปไหม”
นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่ไป๋โม่ซูถามขึ้น
หนวนหน่วนก้มลงมองท่าทางอ้วนตุ้บและเงอะงะของตัวเองแล้วส่ายหัว
“ไม่เอา หนวนหน่วนขึ้นไปเองได้!”
เฮ้อ… เธอตัวอ้วนจนเป็นแบบนี้แล้ว ถ้าให้พี่อุ้มก็จะเหนื่อยมากนะ
“ก็ได้ งั้นสู้ ๆ นะ”
ในบรรดากลุ่มคนขายาว ขาอ้วนสั้นของหนวนหน่วนนั้นดูเด่นเป็นอย่างมาก แม้แต่เหลียงฉือที่ป่วยก็ยังเดินเร็วกว่าเธอ
เดินไปได้ครึ่งทาง หนวนหน่วนก็เหนื่อยจนใบหน้าเล็ก ๆ แดงขึ้นมา ทั้งที่อากาศหนาวแต่กลับเหงื่อออกเสียแล้ว
“แฮ่ก…”
ขณะเอามือยันไว้ที่เข่าเพื่อพัก จู่ ๆ ร่างของหนวนหน่วนก็ถูกอุ้มขึ้นกลางอากาศ
“เหลืออีกไม่ไกล พี่อุ้มก็แล้วกัน”
เหนือศีรษะมีเสียงอันไพเราะของญาติผู้พี่คนโตดังขึ้นมา
หนวนหน่วนถูกพี่โม่ซูอุ้มขึ้น เธอเกี่ยวแขนเล็ก ๆ กอดคอเขาไว้อย่างลำบาก เป็นเพราะใส่เสื้อผ้าเยอะไปหน่อย เลยขยับแขนไม่คล่องตัวเท่าไหร่
เธอกระซิบอย่างเขินอาย
“ตอนนี้หนวนหน่วนหนักมากเลยนะ”
ไป๋โม่ซูเขย่าดูน้ำหนักในอ้อมแขนจากนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วย
“หนักกว่าเมื่อก่อนไม่น้อยจริง ๆ”
เขาใช้นิ้วบีบจมูกน้อย ๆ ของเด็กหญิง “แต่พี่ก็ยังอุ้มไหว”
หนวนหน่วนหัวเราะ เอ่ยอย่างเขินอายว่าตัวเองสวมเสื้อผ้าหนาไป ทำให้อุ้มลำบาก พี่โม่ซูอุ้มแล้วต้องมืออ่อนแรงแน่
[1] อาร์กติกเซอร์เคิล อาร์กติกเซอร์เคิลเป็นพื้นที่บริสุทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดใน ปกคลุมด้วยฤดูหนาวตลอดกาล