ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 238 เจ้าหมาทึ่มทั้งสาม
บทที่ 238 เจ้าหมาทึ่มทั้งสาม
“ทุกคน วันนี้อากาศดี พวกนายแน่ใจนะว่าจะไม่ออกไปเดินเล่น?”
อีวานกล่าวอย่างร่าเริงและกระตือรือร้น ข้างหลังของเขามีเจ้าหมาใหญ่หลายตัวกำลังเดินตามมา
อลาสกัน ซามอยด์และฮัสกี เรียกว่ารวมพลสุนัขลากเลื่อนจอมทึ่มทั้งสาม
“นี่คือสุนัขลากเลื่อนของเพื่อนฉัน แต่ฉันจับไม่อยู่แล้ว”
สิ้นเสียงนั้น เจ้าหมาใหญ่มหึมาทั้งสามตัวเดินลิ้นห้อยบุกเข้าไปในห้อง
“เฮ้! เจมี่ ริค แฟลร์ พวกแกหยุดนะ ฟังนะ นี่ไม่ใช่บ้านของฉัน ถ้าทำพัง พวกแกได้เป็นเนื้อหมาแน่!”
แต่ทำไมสุนัขลากเลื่อนจอมทึ่มทั้งสามถึงถูกเรียกว่าสามทึ่ม เพราะพวกมันไม่เชื่อฟังเลย มักจะทำอะไรทึ่ม ๆ อยู่เสมอ
พอเจ้าหมาใหญ่ทั้งสามตัววิ่งเข้าไปชนข้าวของวุ่นวาย ใบหน้าของไป๋โม่ซูก็มืดมนทันที
อีวานรีบพูดว่า “ขอโทษนะ ฉันขอโทษ ฉันก็ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้หรอก เฮ้ เจมี่ พวกแกหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
“เกิดอะไรขึ้นคะ”
หนวนหน่วนเพิ่งตื่น กำลังเดินออกมาจากห้อง เธอใช้หลังมือขยี้ตา ยังไม่ทันวางลงก็ได้ยินเสียงร้องด้วยความตกใจ
“ไม่นะ! เจมี่ หยุดเดี๋ยวนี้!”
“หนวนหน่วนระวังนะ!”
ก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะทันได้ตอบสนอง วินาทีต่อมาก็ถูกล้อมรอบด้วยเงามืดขนาดใหญ่แล้ว
หนวนหน่วนสูดหายใจเข้า ในจมูกและปากเต็มไปด้วยขน สุดท้ายใบหน้าน้อย ๆ ก็ถูกปลายลิ้นชุ่มชื้นเลียจนได้
ผู้ใหญ่หลายคนเข้าไปดึงเชือกของเจ้าหมาใหญ่ทั้งสามตัวออกมา หนวนหน่วนได้แต่ตะเกียกตะกายออกจากฝูงเจ้าหมาใหญ่อย่างยากลำบาก
“หนู… หนูไม่เป็นอะไร”
ทว่าน้ำเสียงของเธอฟังดูอ่อนแรงมาก
เด็กหญิงตัวน้อยยื่นมือออกมา พยายามดันหัวทุย ๆ เจ้าหมาข้างตัวออกไป ปากก็พยายามใช้เหตุผลกับจอมทึ่มทั้งสามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“พวกเธอถอยออกไปหน่อย ฉันจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว ทำแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ…”
จากนั้นเธอก็ถูกเลียหน้าอีกครั้ง
เพิ่งตื่นนอนกลางวันยังไม่ได้ล้างหน้าเลย แต่ถูกเจ้าหมาทึ่มทั้งสามตัวเลียให้แล้ว
สุดท้ายก็เป็นไป๋โม่ซูที่ดึงเด็กน้อยออกจากกลางวงเจ้าหมาทึ่มทั้งสามด้วยสีหน้าบึ้งตึง ในเวลานี้ผมของหนวนหน่วนถูกเจ้าพวกหมาใหญ่เอาหัวไถจนกระเซอะกระเซิง
พอเห็นน้ำลายบนใบหน้าของญาติผู้น้อง ใบหน้าอันหล่อเหลาก็ครึ้มทะมึน อีวานเห็นเขาค่อย ๆ ยิ้มมุมปากอย่างน่าสะพรึงกลัว
อีวานตัวสั่นเทิ้มเลยทีเดียว
แย่แล้ว เจ้าหมอนี่โกรธจริง ๆ แล้ว
ตอนอยู่มหาวิทยาลัยเขารู้ดีว่าเพื่อนคนนี้เย็นชาเฉยเมยเป็นปกติ แต่ถ้ายิ้มออกมาจะหมายความว่าเขากำลังโกรธ และมีใครบางคนกำลังจะซวย
ตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองน่าจะเดือดร้อนเพราะเจ้าหมาทึ่มทั้งสามตัวนี้
ไป๋โม่ซูอุ้มน้องสาวไว้ มองเจ้าหมาทึ่มทั้งสามตัวด้วยสายตาเย็นชา พลางกล่าวอย่างเยือกเย็น “ได้เวลากินเนื้อหมาแล้ว”
“เจ้าพวกทึ่ม!!!”
สุนัขประสาทไวต่อภัยอันตรายมาก ในเวลานี้จึงวิ่งตามหลังอีวานหางจุกตูด แต่ด้วยร่างกายที่ใหญ่เทอะทะ อีวานจึงไม่สามารถซ่อนตัวได้
อีวานรีบยิ้มหยอกเย้า “ใจเย็น ๆ จะมาทะเลาะกับหมาเนี่ยนะ ไม่มีระดับเลยว่าไหม”
ไป๋โม่ซูกล่าวอย่างเย็นชา “ระดับ? ฉันจะมีระดับไปเพื่ออะไร?”
อีวาน “…”
ไป๋โม่ซูตอนโกรธน่าสะพรึงกลัวอย่างที่คาดไว้
“พี่ชาย”
เสียงนุ่มนวลทำลายบรรยากาศขมุกขมัวในทันที หนวนหน่วนว่าพลางเอามือน้อยดึงเสื้อผ้าของไป๋โม่ซูเบา ๆ
“พี่ชายพาหนวนหน่วนไปล้างหน้าหน่อยได้ไหม”
ไป๋โม่ซูชำเลืองมองเจ้าหมาทึ่มทั้งสามตัว ก่อนจะอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยไปล้างหน้าสระผม
อีวานถอนหายใจอย่างโล่งอก ไป๋โม่ซูไม่ได้โกรธง่าย ๆ แต่พอโกรธขึ้นมาก็น่ากลัวชะมัด
เขาได้เห็นกับตาตัวเองตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย มีลูกเศรษฐีเย่อหยิ่งจองหองคนหนึ่งยั่วยุเขา วันนั้นถูกเขาซ้อมเสียจนหน้าตาบวมปูด แถมยังจับจุดอ่อนของลูกเศรษฐีได้ในเวลาอันสั้น นอกจากจะทำให้ครอบครัวอีกฝ่ายทุกข์ทรมานแล้ว ก็เกือบจะทำให้ล้มละลายด้วย
แน่นอนว่าหากคนเหล่านั้นยังคงตามตอแยต่อไปก็อาจจะได้จบเห่จริง ๆ
หนวนหน่วนสระผมเสร็จแล้วก็นั่งบนเก้าอี้เล็กอย่างเชื่อฟัง ไป๋โม่ซูถือไดร์เป่าผมในมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างหนึ่งค่อย ๆ จัดผมเผ้าดำขลับนุ่มสลวยของหนวนหน่วน
นิ้วมือขาวนวลประดุจไขแกะล้ำค่าสางเส้นผมดำขลับของเด็กหญิงตัวน้อย ดูราวกับงานศิลปะที่มีความงดงามไปอีกแบบ
สุนัขลากเลื่อนทั้งสามตัวถูกอีวานพาออกไปข้างนอก หลังจากถูกข่มขู่ก็รออย่างซื่อสัตย์ครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มกระสับกระส่าย พยายามใช้หัวทะลุทะลวงบุกเข้ามาอย่างหงุดหงิด
ในขณะนี้ไป๋โม่ฮัวกำลังถือเก้าอี้นั่งลงที่ประตู ถือไส้กรอกแฮมอันเย้ายวนไว้ในมือเพื่อยั่วพวกมัน
เหลียงฉือนั่งอยู่บนเก้าอี้นุ่ม ๆ เนื่องจากไม่สามารถกินอาหารได้เท่าไหร่ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็น เขาจึงสอดท่อกระเพาะอาหารเข้าไปในจมูก ในเวลานี้จึงแค่อ่านหนังสืออย่างเงียบ ๆ
มองข้ามใบหน้าซีดเซียวไป อาการของเขาในตอนนี้ก็ถือว่าดีขึ้นแล้ว
หลังจากเป่าผมของหนวนหน่วนแห้งแล้ว อีวานก็ตกใจกับกิริยาของแขกในบ้าน ชายหนุ่มมองคนที่เคยเป็นเทพบุตรสุดเย็นชาในมหาวิทยาลัยถือหนังยางสองเส้น มัดจุกน่ารักสองข้างให้เด็กหญิงตัวน้อยอย่างช่ำชองด้วยท่าทางสงบนิ่ง
“เสร็จแล้ว”
หนวนหน่วนสะบัดศีรษะ “ขอบคุณค่ะพี่โม่ซู”
หนวนหน่วนขอบคุณเขาอย่างนุ่มนวล เธอแต่งตัวเหมือนเพนกวินตัวอ้วน วิ่งไปที่ประตูอย่างมีความสุข
จอมทึ่มทั้งสามที่ประตูเห็นเด็กหญิงตัวน้อยเดินเข้ามา หางใหญ่ ๆ ปุย ๆ ก็กวาดหิมะบนพื้นหน้าประตูออกไปจนเกลี้ยง
“โฮ่งโฮ่ง!”
จอมทึ่มทั้งสามล้วนเป็นสุนัขขนาดใหญ่ ทั้งสามตัวนี้โตเต็มวัย ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีจากเจ้าของ ตัวสูงกว่าหนวนหน่วนเสียอีก ร่างกายก็แข็งแกร่งมากด้วย
ทั้งสามตัวนั่งรอที่ประตูอย่างเป็นระเบียบ ดวงตาแทบจะกลอกตามเงาร่างของหนวนหน่วน
“สวัสดีจ้ะ”
หนวนหน่วนเดินเข้าไปหาพวกมัน ยื่นมือน้อยของเธอออกไป ตั้งใจจะทำพิธีผูกมิตรกับพวกหมาใหญ่
ทั้งสามตัวได้รับการฝึกฝนเป็นพิเศษจากเจ้าของ ทันทีที่หนวนหน่วนยื่นมือออกไป มันก็วางอุ้งมือขาวดุจหิมะขนาดใหญ่ลงบนฝ่ามือของเธอ
อีวานรู้สึกเหลือเชื่อ “เจมี่ แกดีกับคนอื่นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันก็อยากจับมือแกเหมือนกัน!”
เขาเข้ามาใกล้ พยายามทำพิธีจับมือกับซามอยด์สีขาวหิมะดุจนางฟ้า
แต่ว่าเจมี่ไม่แม้แต่จะมองเขาด้วยซ้ำ ถึงขนาดกลอกตาใส่ด้วยความรังเกียจ หันก้นให้เขาอีกต่างหาก
อีวาน “…”
เกิดอะไรขึ้น? ทุกวันนี้สัตว์ทุกตัวสองมาตรฐานเหมือนกันหมดหรือเปล่า?
อีวานไม่เชื่อความคิดนอกกรอบ เขาจับจ้องการเคลื่อนไหวของหนวนหน่วน แล้วก็เห็นว่าเธอจับมือกับริกและแฟลร์ได้อย่างง่ายดาย
เขายังได้ลองทำตามคล้าย ๆ กัน จากนั้นเจ้าฮัสกีก็หูตั้ง เหลาตาแกล้งทำเป็นไม่เห็นเขา ส่วนเจ้าอลาสกันเอาหัวผลักมือของเขาออกไป
อีวาน “!!!”
เขาไม่ยอม เด็กน้อยเพิ่งพบหน้าพวกมันเป็นครั้งแรกนะ! ทำไมถึงสองมาตรฐานแบบนี้!!
“เจมี่ ริค แฟลร์ พวกแกทำแบบนี้ไม่ได้ ถึงน้องนางฟ้าจะน่ารัก แต่ฉันก็หล่อมากเหมือนกัน พวกแกทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง!”
ไป๋โม่ฮัวอยู่ข้าง ๆ หัวเราะจนตัวงอเมื่อเห็นเขาพูดคุยกับสุนัขลากเลื่อนทั้งสามตัวอย่างเกินจริง หนวนหน่วนเองก็มีรอยยิ้มอ่อนโยน ตามมาด้วยดวงตาโค้งหยีสวยงาม
ภายในบ้านตอนนี้เต็มไปด้วยความสุข
ไป๋โม่ซูใส่เสื้อขนเป็ดสีขาวเดินออกมา แม้ว่าเสื้อขนเป็ดจะโป่งพอง แต่ก็ไม่สามารถบดบังร่างสูงโปร่งผอมเพรียวของเขาได้
“ไปกันเถอะ ออกไปได้แล้ว”
เหลียงฉือลุกขึ้นยืนก็ยังเตี้ยกว่าไป๋โม่ซูเล็กน้อย เขาใส่เสื้อขนเป็ดสีดำ เดินตามไป๋โม่ซูช้า ๆ มองดูแล้วไม่เลวเลย
จางเหลียงให้ความสนใจสถานการณ์ของเหลียงฉืออย่างใกล้ชิด พอเห็นเขาดูมีชีวิตชีวา จิตใจที่หนักอึ้งก็ดีขึ้นมาก
การเดินทางครั้งนี้ เขาต้องช่วยพี่เหลียงฉือให้สมปรารถนาทุกประการ!