ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 233 ตอนนี้เธอหาเงินเองได้แล้วเหรอ!
บทที่ 233 ตอนนี้เธอหาเงินเองได้แล้วเหรอ!
“พี่ใหญ่ดูนี่สิ ของขวัญที่น้องสาวทำให้ดูดีไหมล่ะ?”
“พี่สามมาดูเร็ว ตุ๊กตาดินเหนียวอันนี้สวยกว่าอันที่พี่ซื้อมาอีกใช่ไหมล่ะ?”
“พี่สี่ พี่ว่าใครดูดีที่สุด? ผมว่าน้องสาวแหละ เป็นเด็กดีไม่พอ น่ารักมากด้วย”
“พี่ใหญ่…”
“พี่รอง…”
ผ่านวันเกิดของกู้อันไปหลายวันแล้ว แต่คนรอบข้างก็ยังรู้สึกรำคาญกู้อันมาจนถึงทุกวันนี้
มันเป็นเพราะของขวัญวันเกิดที่หนวนหน่วนให้เขา
ของขวัญวันเกิดที่น้องสาวของเขาให้ก็คือตุ๊กตาปั้นดินเหนียวที่เธอทำขึ้นมาเอง มันมีสองตัว ตัวหนึ่งเป็นรูปกู้อัน ส่วนอีกตัวเป็นหนวนหน่วน ใบหน้าของทั้งสองตัวค่อนข้างคล้ายกันด้วย
ตุ๊กตาดินเหนียวทั้งสองตัวสวมชุดนักเรียน กำลังจับมือกันเหมือนกับตอนที่พวกเขากำลังไปโรงเรียนด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข
สำหรับกู้อัน มันเป็นสิ่งของที่มีค่ามาก เขาจะเอาตุ๊กตาสองตัวนี้ออกมาอวดทุกวัน สักพักก็ไปพูดอวดกับพี่ใหญ่ ไม่ก็พี่สาม…
ถึงแม้ว่าทุกคนในครอบครัวจะไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่ แต่เขาก็ยังพูดโอ้อวดมันอยู่แทบทุกวัน ราวกับเจ้าลูกเจี๊ยบตัวน้อยที่กำลังอวดขนงามของตัวเอง
แต่ต้องบอกเลยว่า เมื่อได้เห็นของขวัญที่หนวนหน่วนทำให้เขา ทุกคนก็อิจฉาอยู่บ้าง เพราะหนวนหน่วนตั้งใจศึกษาวิธีการปั้นดินเหนียวเพื่อทำของขวัญชิ้นนี้อยู่ตั้งนาน กว่าจะทำได้เลยใช้เวลาพอสมควร
นอกจากนี้ ‘พ่อขี้อิจฉา’ ของบ้านก็แอบอยากได้ของขวัญของลูกชายคนเล็กด้วย
หลังจากกู้อันโอ้อวดอยู่ได้ไม่กี่วันก็รู้สึกได้ว่ามันกำลังตกอยู่ในอันตราย เขารีบเก็บซ่อนเจ้าตุ๊กตาน่ารักทั้งสองตัวนี้เอาไว้อย่างมิดชิด พวกพ่อกับพี่ ๆ จะได้ไม่มีโอกาสช่วงชิงไป
“พี่คะ ได้เวลาไปเรียนแล้ว”
ตอนเช้าตรู่ หนวนหน่วนที่กำลังถือไข่ต้มอยู่ก็เคาะประตูห้องนอนของพี่ชายคนเล็กทั้งที่แก้มตุ้ยนุ้ยยังเคี้ยวกร้วม ๆ อยู่
แต่คนที่นอนอยู่ข้างในดูไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยนี่สิ
นัยน์ตาสีเข้มฉ่ำชื้นของหนวนหน่วนเป็นประกาย ก่อนจะกวาดดูไปรอบ ๆ
เคาะประตูไปกี่ครั้งก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากข้างในเลยแม้แต่น้อย หนวนหน่วนจึงเปิดประตูแล้วเดินเข้าไป
พี่ชายคนเล็กกำลังนอนหลับสนิทพร้อมหมอนข้าง
“พี่ พี่รีบตื่นไปกินข้าวได้แล้ว พอกินข้าวเสร็จก็จะได้รีบไปเรียนกัน~ถ้าไปสายจะต้องเขียนบันทึกนะ”
เจ้านาฬิกาปลุกขนาดเล็กพยายามเอื้อมมือไปเขย่าตัวของกู้อันในขณะที่กำลังถือของกินไปด้วย
“พี่กู้อัน!”
กู้อันหลับสนิทเหมือนคนตาย
แก้มของหนวนหน่วนพองขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับดวงตาที่ค่อย ๆ เบิกกว้าง
“พี่กู้อัน ตุ๊กตาถูกขโมยไป!”
“บ้าเอ๊ย! ใครมันกล้าขโมยกัน!”
กู้อันลุกขึ้นนั่งทันที แต่ก็ยังคงกอดหมอนข้างด้วยท่าทีงุนงงอยู่นิดหน่อย เขาใส่ชุดนอนมินเนี่ยนดูราวกับลูกเจี๊ยบ น้ำลายที่ไหลจากมุมปากยังไม่ถูกเช็ดออกเลย
หลังจากนั้นสองพี่น้องก็มองหน้ากัน
หนวนหน่วนเอ่ย “ต้องไปเรียนแล้วค่ะ”
กู้อัน “…”
“อ๊ากกกก!! ไม่เอา พี่ไม่อยากไปเรียน!”
กู้อันทิ้งตัวลงนอนบนเตียงพลางกลิ้งไปมา
เขาไม่อยากเรียนสักหน่อย
กู้หนานที่เดินผ่านหน้าประตูห้องพอดีพลันหยุดชะงัก ก่อนจะหันหน้ามามองด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ไม่กี่วินาทีต่อมา กู้อันก็ถูกพี่ชายแสนเย็นชาของตนจับเข้าที่หลังคอแล้วพาหิ้วออกจากห้องไป โดยมีหนวนหน่วนเดินตามหลังพี่ชายทั้งสองเหมือนหางตามติด
เธอลงไปทานไข่ต้มฟองสุดท้ายที่เหลืออยู่ กินเสร็จก็ปัดมือ ยกนมขึ้นดื่มอย่างมีความสุข แก้มกลม ๆ ของเจ้าตัวเล็กเลยพองขึ้นมา
ไป๋โม่ฮัวที่นั่งถัดจากเธอไม่สามารถข่มใจความคันไม้คันมือของตัวเองได้ เขาบีบแก้มน้องสาว นมที่อยู่เต็มปากเลยเกือบพุ่งออกมาข้างนอก
หนวนหน่วน “…”
ไป๋โม่ฮัวดึงมือกลับด้วยความรู้สึกผิด ก่อนจะถือแก้วนมยกขึ้นดื่มเช่นกัน
หลังจากดื่มเสร็จก็พูดว่า “ไปกันเถอะ วันนี้พี่จะไปส่งที่โรงเรียนเอง!”
หนวนหน่วนและกู้อันไม่ได้ใส่ใจอะไร ใครจะไปส่งก็ได้ทั้งนั้นแหละ ขอแค่เป็นรถยนต์ก็พอ
รถจอดไปไม่ไกลจากหน้าประตูโรงเรียนมากนัก จากนั้นหนวนหน่วนและกู้อันก็ลงจากรถแล้วโบกมือลา
“บ๊ายบายค่ะพี่~”
น้ำเสียงของเด็กหญิงอ่อนหวานนุ่มละมุน ทำเอาใจคนฟังรู้สึกดีไม่น้อย ส่วนเสียงกู้อัน สำหรับพวกพี่ชายฟังดูไร้ค่ามาก
เด็กชายยกมือขึ้นโบกแล้วตะโกนออกมา “บาย!”
ไป๋โม่ฮัวดึงคนตัวเล็กมาตรงข้างประตูรถ
“เลิกเรียนแล้วเดี๋ยวพี่มารับนะ พวกเราจะเดินกลับบ้านกัน ระหว่างทางจะได้เดินเล่นด้วย”
จะได้เดินช็อปปิงด้วยไง!
คนตัวเล็กกับคนตัวใหญ่ต่างมองหน้ากัน สายตาประสานราวกับรู้ใจว่าคิดในสิ่งเดียวกัน
หนวนหน่วนเอ่ยตอบตกลงอย่างดีใจ
กู้หนานที่กำลังนั่งอยู่ในรถมองทั้งคู่ด้วยใบหน้าเรียบเฉย
ไป๋โม่ฮัวและหนวนหน่วน : ทำหน้ารู้สึกผิด.jpg
พี่ใหญ่น่ากลัวเกินไป หนวนหน่วนต้องรีบวิ่งหนีไปกับพี่กู้อันแล้วสิ
พวกเขาเกือบจะเข้าโรงเรียนสายแล้ว เมื่อก้าวเข้าไปเสียงกริ่งก็ดังพอดี
หนวนหน่วน : วิ่งเร็ว!
เมื่อมาถึงห้องเรียนก็เหนื่อยจนหายใจแทบไม่ทัน น้ำเสียงของหลินจิ่วดังขึ้นมา ฟังดูตื่นตระหนกมาก
“หนวนหน่วนมานี่เร็ว!”
ครั้งสุดท้ายที่เจอกันคือตอนไปงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของกู้อัน ด้วยเหตุนี้ทำให้ความสัมพันธ์ของหนวนหน่วนและเพื่อนร่วมชั้นดีขึ้นมาก หลี่หลิงเองก็ทำตัวแปลกขึ้น ทุกครั้งที่จ้องมาเหมือนมีความรู้สึกบางอย่างอย่างนั้นแหละ
เธอตั้งใจเรียนจนจบคาบอย่างจริงจัง คุณครูผู้สอนเองก็ตั้งใจพลางจิบชาไปด้วย ทุกครั้งที่ได้จ้องมองไปยังกู้หนวนหน่วนก็อดไม่ได้จริง ๆ ที่จะกระตือรือร้นในการสอนขึ้นมา
“หลินจิ่ว รูปภาพที่เธอขอให้วาดก่อนหน้านี้ ฉันวาดให้เธอเสร็จแล้วนะ”
หนวนหน่วนหยิบกระดาษขนาดเท่ากับรูปถ่ายออกมาจากกระเป๋านักเรียน ภาพวาดนั้นเป็นรูปวาดครึ่งตัวของหลินจิ่ว
สีระบายในรูปนี้เป็นสีโทนร้อน ให้ความรู้สึกอบอุ่นราวกับได้ต้องแสงอาทิตย์อันเจิดจ้า
คนในภาพวาดก็มีรอยยิ้มที่สดใสบริสุทธิ์และไร้เดียงสามาก
เป็นเพราะเธอยังวาดรูปคนไม่ค่อยเก่งสักเท่าไหร่เลยใช้เวลาทำมันค่อนข้างนานทีเดียว
แต่หากเทียบกับนักวาดภาพมืออาชีพแล้ว ลายเส้นของหนวนหน่วนยังไม่ดีขนาดนั้น แถมอัตราส่วนพื้นที่ก็โล่งเกินไป การลงสีก็ดูจืดชืดมาก แต่สำหรับเด็กอายุแค่เพียงไม่กี่ขวบต้องบอกเลยว่ามันน่าทึ่งมากจริง ๆ
ดวงตาของหลินจิ่วเบิกกว้างขึ้นทันทีเมื่อมองเห็นรูป
“นี่ฉันจริง ๆ เหรอ? ดูดีจังเลย!”
อันที่จริงแล้ว บุคคลในภาพเป็นรูปร่างหน้าตาของหลินจิ่ว แต่ชุดเสื้อผ้าหน้าผมเป็นสิ่งที่หนวนหน่วนจินตนาการเอง
หลินจิ่วชอบมัดผมหางม้าสูง ๆ ใบหน้าของเธอเรียวเป็นรูปไข่และน่ารักมาก ส่วนทรงผมที่หนวนหน่วนวาดให้เป็นทรงปลายหยิกเล็กน้อย มีผมหน้าม้าเรียบแปะอยู่ด้วย ทำให้ใบหน้าในภาพดูเล็กลงและน่ารักมากขึ้น
หลินจิ่วยิ่งมองรูปภาพก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองสวยมาก แทบอยากจะตัดผมทรงเดียวกันเลย
“ว้าว หนวนหน่วนวาดรูปให้หลินจิ่วเหรอ”
นักเรียนคนอื่นที่เดินผ่านต่างพากันมามุงดูอยู่สักพัก เมื่อเห็นภาพที่อยู่ในมือหลินจิ่วทุกคนต่างก็ส่งเสียงโอดครวญกันอย่างอิจฉา
“นี่เป็นรูปที่เธอวาดเองเหรอ? เก่งมากเลย!”
อายุเท่านี้ ทุกคนวาดรูประบายสีได้เพียงแค่ดอกไม้ ต้นไม้ บ้าน และคนธรรมดา ๆ เท่านั้น แต่นี่มันเป็นภาพวาดระดับมืออาชีพ แถมคนที่วาดยังเป็นกู้หนวนหน่วนที่อายุน้อยที่สุดในห้องด้วย พวกเขาเลยรู้สึกชื่นชมหนวนหน่วนขึ้นมา
“หนวนหน่วนวาดรูปพวกเราด้วยได้ไหม”
เพื่อน ๆ เริ่มตื่นเต้น
หนวนหน่วน “ฉันไม่มีเวลามากพอที่จะวาดน่ะสิ”
เธอไม่มีเวลามากพอที่จะวาดรูป ตอนเช้าก็ต้องตั้งใจเรียน หลังเลิกเรียนก็ต้องไปเรียนดนตรี ต้องไปหาเสี่ยวอีกับเสี่ยวชีที่ฟาร์มอีก
หนุ่มน้อยร่างอ้วนท้วนเดินเข้ามา “หนวนหน่วนวาดให้ฉันหน่อยสิ ฉันจ้างเธอ 100 หยวนเลย โอเคไหม?”
หนวนหน่วน ‘ตอนนี้หนวนหน่วนหาเงินเองได้แล้วเหรอ!’
ตื่นเต้นแฮะ!
แต่เมื่อคิดดูแล้วเด็กหญิงก็ต้องปฏิเสธทันที พวกเขาควรจะไปขออนุญาตผู้ปกครองก่อนสิ ถ้าเกิดว่าพวกผู้ปกครองอนุญาต เธอถึงจะวาดรูปแล้วเก็บเงินได้
แต่ 100 หยวนเหมือนจะเยอะเกินไป ถ้าลดลงสักครึ่งหนึ่งเหลือ 50 หยวนดีไหมนะ?
หนวนหน่วนยกมือขึ้นมานับนิ้ว เธอมีของมากมายที่ต้องการจะซื้อแต่ก็ไม่อยากรบกวนเงินของพวกพี่ชายมากนัก ที่ผ่านมาเลยหยิบเอาเงินค่าขนมบางส่วนไปซื้อของเข้าฟาร์มแทน
แล้ว 50 หยวนนี่จะพอซื้ออาหารให้พวกสัตว์เลี้ยงไหมนะ?
หลังจากนี้เธอจะเอาเงิน 50 หยวนไปใช้แน่นอน
อา… จะว่าไปเรานี่จนมากเลยนะเนี่ย