ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 22 หนวนหน่วนคิดถึงคุณพ่อหรือเปล่าคะ?
บทที่ 22 หนวนหน่วนคิดถึงคุณพ่อหรือเปล่าคะ?
กลายเป็นว่าทุกคนต่างดีแต่พูดกันทั้งนั้น ต่อหน้าประธานกู้ ใครล่ะจะกล้าหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่าย?
พนักงานหลายคนในกลุ่มจึงรู้เพียงว่ามีคุณหนูแห่งตระกูลกู้อยู่ด้วย แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้เห็นเธอด้วยตาตัวเอง
โปรแกรมเมอร์ในแผนกพัฒนาจึงพูดกันอย่างตื่นเต้นว่าพวกเขาเป็นผู้ที่ถูกเลือก พวกเขาได้พบเจอเธออย่างใกล้ชิด แถมได้เห็นคุณหนูน้อยเล่นกับพวกก้อนขนด้วย!
หนวนหน่วนที่หลายคนกำลังพูดถึงด้วยความอยากรู้อยากเห็นกำลังกอดสุนัขขนสีขาวราวกับหิมะตัวใหญ่อยู่ด้วยแววตาเปี่ยมสุข มันคือสุนัขพันธุ์ซามอยด์ ขนเลยยาวมาก คนตัวเล็กแทบจมอยู่ในขนสีขาวนั้น
“นุ่มจังเลย~”
หนวนหน่วนถูกรายล้อมไปด้วยกลุ่มก้อนขนฟู จึงลืมความตึงเครียดไปเสียสนิท ผู้คนที่ได้มองนัยน์ตาของเธอต่างรู้สึกผ่อนคลาย ราวกับได้มองท้องฟ้าที่พร่างพรายไปด้วยดวงดาวในค่ำคืนอันมืดมิด ช่างเป็นแววตาที่อบอุ่นเหลือเกิน
“เมี๊ยว~”
“ว้าว ว้าว…”
เห็นได้ชัดว่าพวกก้อนขนปุกปุยทั้งตัวใหญ่และเล็กต่างก็ชอบหนวนหน่วนกันทั้งนั้น ทั้งที่พวกมันไม่เคยแสดงความต้องการว่าอยากอยู่กับเจ้าของตนเอง แต่กลับมาวนเวียนรายล้อมอยู่รอบตัวเด็กน้อยคนนี้
องค์หญิงยังคงอยู่บนไหล่ของหนวนหน่วน ในขณะที่สุนัขซามอยด์ที่มีชื่อว่า ‘เหว่ยเซี่ยวเทียนซือ’ อยู่ในอ้อมกอด ส่วนเหล่าแมวเหมียวต่างคลอเคลียอยู่ตรงข้อเท้า รอบ ๆ มีสุนัขชิวาวาตัวเล็กกำลังเห่าหน้าตั้งเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเธอ
ผู้คนรอบตัวหนวนหน่วนต่างผ่อนคลายไปตาม ๆ กัน
เจ้าของแมวและสุนัขรู้สึกอิจฉาตาร้อนอย่างมาก เจ้าก้อนขนพวกนี้ไม่เคยคิดที่จะมาคลอเคลียให้ความอบอุ่นพวกเขาสักครั้งเลยด้วยซ้ำ
ตอนนี้พวกแมวนิสัยเย็นชาทั้งหลายเริ่มต่อสู้กันเพื่อดึงดูดความสนใจของหนวนหน่วน
เจ้าของแมวกัดนิ้วของตนเอง จ้องมองแมวด้วยความขุ่นเคือง “เจ้าต้วนจื่อของฉันไม่เคยอ้อนใครมาก่อนเลย!”
รวมถึงเจ้าของแมวอีกตัวก็ทำหน้าเศร้าสร้อยเช่นกัน “ใครเป็นเจ้าของกันเนี่ย?”
ทั้งสองหันมามองหน้ากัน ราวกับว่าพวกเขาเป็นพี่น้องที่รู้ใจกัน
แต่ต้องบอกว่าฉากที่หนวนหน่วนกับต้วนจื่ออยู่ด้วยกันนั้นสะดุดตาจริง ๆ ความน่ารักฟุ้งออกมาทันที
แต่นี่คือลูกสาวของประธานกู้ อยากทำอะไรชั่วร้ายสักแค่ไหนก็ไม่สามารถทำได้
“นั่งลงให้เรียบร้อย เดี๋ยวให้ขนมนะ”
หนวนหน่วนค่อย ๆ ปล่อยสุนัขทั้งสองออกจากอ้อมแขน ลูบหัวแมวทั้งสามตัว แล้วอุ้มพวกมันขึ้นไปวางบนคอนโดแมวอย่างนุ่มนวล
น่าแปลกใจที่เจ้าสามตัวนั้นนั่งลงอย่างเชื่อฟัง ปกติไม่ยอมเชื่อฟังเลยแท้ ๆ!
พวกโปรแกรมเมอร์ที่มองอยู่ข้างนอก “!!!”
นี่มันเลือกปฏิบัติชัด ๆ ทุกวันนี้แมวและสุนัขเองก็สองมาตรฐานเหมือนกันเหรอ?
ผู้เฒ่ากู้ยื่นขนมสัตว์เลี้ยงให้กับหนวนหน่วน หลานสาวจะได้เอาไปป้อนหมา หนวนหน่วนรับมา ให้พวกหมาเสร็จก็ให้ขนมแมวเลียพวกแมวต่อ
แมวที่ขี้อ้อนและเย่อหยิ่งถูไถหน้าแล้วงับมือหนวนหน่วนเบา ๆ มันกินไปงับไปพลางส่งเสียงร้องเหมียว ๆ ออกมา แต่ก็ไม่วายตวัดหางพันรอบข้อมือหนวนหน่วนเอาไว้ก่อนจะจ้องมองเธอด้วยดวงตากลมโตราวกับตนเองเป็นนางสนมคนโปรดของฮ่องเต้
ช่างหน้าไม่อายเสียจริง
เหล่าโปรแกรมเมอร์เริ่มอิจฉา
“มาทำอะไรกัน?”
“จะทำอะไรได้ล่ะ? ดูพวกมันแย่งกันสิ! เกินไปมากเลย เธอบอกใช่ไหมว่าเราต้องให้อาหารและน้ำกับพวกมันอย่างดีทุกครั้ง มันจะได้ดีด้วย แต่พวกมันก็ยังหยิ่งใส่ ทำเหมือนจะพูดว่า ‘ข้าให้รางวัลเจ้าแล้ว’ ให้ได้ แต่ดูสิ ตอนนี้พวกมันทำตัวราวกับตัวเองเป็นนางบำเรอ เอาแต่เรียกร้องความสนใจจากเด็กคนนั้น!”
“ลำเอียงเกินไปแล้ว!”
“พวกหมาก็เหมือนกันแหละ ซามอยด์ซื่อบื้อตัวนี้กลายเป็นว่าหมานอนสอนง่ายมีน้ำใจตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ดูสีหน้าของชิวาวาตัวนั้นสิ มันกลัวว่าหนวนหน่วนจะหนีไปมากเลย หนอย ครั้งสุดท้ายที่ฉันจะแตะตัว มันวิ่งหนีด้วยแหละ!”
โปรแกรมเมอร์บ่นพึมพำ ก่อนจะมีเสียงหัวเราะดังมาจากข้างหลัง
“ก็ลูกสาวของฉันนี่นา สมควรที่จะเป็นที่ชื่นชอบ”
น้ำเสียงของคนพูดราบเรียบอย่างยิ่ง
เดี๋ยวนะ…. ลูกสาวของเขาอย่างนั้นหรอ ?
โปรแกรมเมอร์ที่กำลังมองเข้าไปในห้องสัตว์เลี้ยงผ่านหน้าต่างกระจกโปร่งใสค่อย ๆ หันศีรษะกลับมาด้วยตัวที่แข็งทื่อ ก่อนจะพบเข้ากับรอยยิ้มของประธานกู้
อาจเป็นเพราะเหงื่อเย็นที่ผุดพรายออกมา จู่ ๆ พวกเขาก็รู้สึกเสียวสันหลัง
เนื่องจากว่าประธานกู้มีชื่อเสียงเรียงนามว่า ‘รอยยิ้มดั่งเสือแยกเขี้ยว’ ถึงแม้ว่าจะดูดีน่ามอง แต่ก็ตามมาด้วยเรื่องร้าย ๆ เสมอ
“ประธานกู้ พวกเราไม่ได้ละทิ้งหน้าที่นะครับ!”
“ใช่ ๆๆ… ผมเขียนโปรแกรมเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้แค่ออกมาผ่อนคลาย อ๋อใช่ แต่ดูเหมือนจะถึงเวลาไปเขียนต่อแล้ว…”
หลังจากพูดจบพวกเขาก็เดินออกไปทันที
“ผมก็ด้วย ๆ แค่ออกมาพักคลายเครียดครับ เดี๋ยวจะไปทำงานเดี๋ยวนี้”
“หนวนหน่วนรักมากเลย พวกเราเลยอดใจไม่ได้ที่จะตามมาดู ประธานกู้อย่าหักเงินเดือนเราเลยนะครับ!”
กู้หลินโม่ “…”
เขาทำแค่ปรายตามอง แต่พวกเขาทำเหมือนเขาพร้อมจะเขมือบหัวพนักงานทีละคนอย่างนั้นแหละ นี่เขาน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอ?
แต่เขาก็ได้แต่คิดในใจ นัยน์ตาของกู้หลินโม่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาเอ่ยประโยคหนึ่งออกมา ซ่อนความอ่อนโยนเอาไว้ไม่ได้
“หนวนหน่วนของฉันเป็นเด็กดีมากจริง ๆ แต่ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากให้เธอเด็ดเดี่ยวมากกว่านี้อีกสักหน่อย จะได้ไม่ถูกรังแกเอา”
โปรแกรมเมอร์ที่พูดขึ้นก่อนหน้านี้ค่อนข้างรู้งาน เขารู้ตัวว่าทำผิดจึงเปลี่ยนมาประจบสอพลอแทน
“เกิดอะไรขึ้นครับ ใครกล้ารังแกคุณหนูตระกูลกู้?”
กู้หลินโม่แสดงท่าทีชื่นชอบในสิ่งที่คนตรงหน้าพูด แต่ก็ไม่เอ่ยสิ่งใดต่อ เขาผละออกไป แล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องฝากสัตว์เลี้ยง
หลังจากการประชุม เขารอแทบไม่ไหวที่จะกลับไปที่ห้องทำงานของตน แต่กลับต้องผิดหวังเมื่อกลับมาแล้วไม่พบลูกสาวตัวน้อยที่แสนเชื่อฟัง เขาจึงโทรถามหลี่เต๋อจู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน
ตอนนี้กู้หลินโม่แค่อยากกอดลูกสาวที่แสนดีของเขา
“หนวนหน่วน พ่อมาแล้ว”
หนวนหน่วนที่จมอยู่ในกองขนนุ่มฟูฟ่องหันกลับมาด้วยความประหลาดใจเมื่อได้ยินเสียงของคุณพ่อ ก่อนจะพบเห็นชายในชุดสูทสง่างามยืนอยู่ตรงหน้าประตู นัยน์ตาของคนตัวเล็กก็เป็นประกายขึ้นมาทันที เธอผละจากพวกก้อนขนแล้วรีบวิ่งไปทางประตู
กู้หลินโม่ย่อตัวลง อ้าแขนต้อนรับหนวนหน่วนที่กำลังวิ่งมาก่อนจะสวมกอดและอุ้มคนตัวเล็กขึ้น
“หนวนหน่วนคิดถึงคุณพ่อไหม?”
แค่มองดูลูกสาวที่เชื่อฟังในอ้อมแขน รอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้า ร่างกายอ่อนระทวยไปหมด
หนวนหน่วนพยักหน้าลงก่อนจะโอบกอดรอบคอคุณพ่ออย่างเขินอายพร้อมกับความสุขที่เพิ่มมากขึ้น
“คิดถึงค่ะ หนวนหน่วนคิดถึงคุณพ่อ”
เสียงของเด็กน้อยนุ่มนวล หวานละมุนราวกับน้ำนม ดวงตาที่ขับความอ่อนน้อมถ่อมตนเมื่อครู่ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความอุ่นใจที่ได้อยู่ข้างกายผู้เป็นพ่อที่รักและห่วงใยตน
หนวนหน่วนโอบกอดคอคุณพ่อด้วยแขนเล็ก ๆ แล้วโน้มใบหน้าของตนเข้าไปหาใบหน้าที่หล่อเหลาของคุณพ่ออย่างเขินอาย มุมปากของเธอเหมือนกลีบดอกท้อที่ยกขึ้นเป็นเส้นโค้งสวยงาม เผยให้เห็นความขาวเนียนของฟันน้ำนมที่เรียงกันสวยงามเป็นระเบียบชัดเจน