ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 219 เก่งจริง ๆ เลยนะเธอ
บทที่ 219 เก่งจริง ๆ เลยนะเธอ
ไป๋โม่ซูเดินไปวางมือลงบนพุงนุ่มนิ่มของคนตัวเล็กพลางลูบเล่นอย่างแผ่วเบา จากนั้นเขาก็ดึงเสื้อลงมาปิดให้เธอ ถึงแม้ว่าภายในห้องทำงานจะเปิดแอร์ไม่เย็นมากแต่ก็นอนแบบนี้ไม่ได้
เมื่อก้มลงไปอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมา หนวนหน่วนก็ร้องอื้ออึงอยู่สองครั้งราวกับลูกหมูน้อย จมูกน้อย ๆ ขยับฟุดฟิด เหมือนเจ้าตัวจะจำได้ว่านี่เป็นกลิ่นของลูกพี่ลูกน้อง
เธอทำตัวเหมือนแมวน้อยสีน้ำนมไม่มีผิด หลังจากที่ถูกญาติผู้พี่คนโตอุ้มก็ซบหน้าลงบนไหล่ของเขาแล้วเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง
ช่างเป็นเด็กดีเสียจริง
ไป๋โม่ซูมองไปที่หลินจิ่วแล้วให้บอดีการ์ดมาช่วยอุ้มพาเธอออกไป นอกจากนี้ก็ยังมีเสี่ยวชีอีกหนึ่งตัวด้วย
หนวนหน่วนนอนหลับอยู่แบบนั้นสักพัก หลังจากตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองถูกพากลับบ้านแล้ว ส่วนหลินจิ่วเองก็ถูกพาส่งกลับบ้านไปแล้วเช่นกัน
“พี่~”
เมื่อตื่นขึ้นมาแล้ว หนวนหน่วนตัวน้อยก็ร้องเรียกหาพี่ชายด้วยความงัวเงีย มือขาวเรียวบางดึงจับเข้าที่แขนเสื้อของลูกพี่ลูกน้อง ก่อนจะอ้าปากหาวจนน้ำตาไหลออกมา
“ถึงบ้านแล้ว”
ไป๋โม่ซูลูบหัวเล็กของเธอแล้วอุ้มลงออกจากรถ
หนวนหน่วนเอนตัวซบพิงญาติผู้พี่คนโตอย่างว่าง่าย เธอพยายามเบิกตากว้างเพื่อเรียกสติที่หายไปคืนมา หลังวางคางเล็กเกยไหล่หนาอันแสนปลอดภัยของพี่ชายตัวเอง ก็ปรับโฟกัสสายตาอย่างเงียบ ๆ
“กลับมาแล้วเหรอ”
เสียงอันคุ้นเคยดังมาจากทางประตู น้ำเสียงนั้นค่อนข้างเยือกเย็นราวกับธารน้ำแข็งยากจะละลาย แต่เมื่อคำพูดสามพยางค์ก่อนหน้าดังขึ้นมา กลับทำให้รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่เกิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เจ้าของเสียงนั้นคือพี่ใหญ่นั่นเอง
เจ้าตัวน้อยที่ทำตัวอ่อนยวบอย่างไร้กระดูกเด้งตัวกระฉับกระเฉงขึ้นมาทันที เธอตั้งตัวตรงแล้วหันหลังไปมอง
“พี่ใหญ่!”
ดวงตาสดใสสว่างวาบ ถึงจะอยู่ในอ้อมแขนของญาติผู้พี่คนโต เธอก็อ้าแขนเล็กออก พยายามจะเข้าไปกอดคนตรงหน้าให้ได้
ไป๋โม่ซู “…”
เขาบีบหลังคอของคนตัวเล็กเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงน้อยใจนิดหน่อย
“ยังไงเนี่ย? อ้อมแขนพี่ไม่สบายเหรอ?”
เมื่อหนวนหน่วนได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที เด็กหญิงหุบแขน ทำคอตก แล้วส่ายหน้าปฏิเสธเพื่อหวังจะเอาตัวรอด
“เปล่าค่ะ หนูแค่… แค่คิดถึงพี่ใหญ่เอง”
ดวงตาเล็กออดอ้อนอย่างน่าสงสาร
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น มุมปากของกู้หนานก็ยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ดวงตาเยือกเย็นดุจธารน้ำแข็งเหมือนจะละลายลงไปในทันที
“หนวนหน่วนคิดถึงแต่พี่ใหญ่หรอกเหรอ?”
จู่ ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากหลังของกู้หนาน น้ำเสียงที่เปล่งฟังดูดื้อรั้น ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของตัวผู้พูด
กู้หมิงหลี่โผล่ออกมาจากทางด้านหลังของกู้หนาน ก่อนจะจิ๊ปากขึ้นสองครั้ง “เศร้าจัง วันนี้อุตส่าห์มาหาเธอแท้ ๆ”
หนวนหน่วน “…”
บรรยากาศตึงเครียดอันแสนคุ้นเคยกลับมาแล้ว
เธอจูบลงบนใบหน้าของญาติผู้พี่คนโตหนึ่งครั้ง จากนั้นก็หันไปพูดกับกู้หมิงหลี่ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“หนวนหน่วนก็คิดถึงพี่สี่เหมือนกันค่ะ กอดกอด”
หลังจากที่ไป๋โม่ซูโดนคนตัวเล็กจุ๊บแก้ม เขาก็ไม่ได้กดดันเธออีกต่อไป
คราวหลังก็อย่าทำให้น้อยใจอีกล่ะ
หลังจากกอดพี่สี่แล้ว เด็กหญิงก็เดินตั้งหน้าไปจุ๊บแก้มพี่ใหญ่แล้วกอดเขาไว้
หนวนหน่วนไม่ลำเอียงกับใครทั้งนั้น เพราะเธอก็จุ๊บพี่ชายคนโตของตัวเองเหมือนกัน ทุกคนล้วนเป็นพี่ชายของเธอ เธอเลยจัดการให้เรียบร้อยไปเลยทีเดียว
สายตาเย็นชาของไป๋โม่ซูเปื้อนยิ้มเต็มเปี่ยม กู้หมิงหลี่เองก็หัวเราะอย่างร่าเริง ก่อนจะหยิกจับแก้มนุ่มของหนวนหน่วนตามเคย
“เก่งจริง ๆ เลยนะเจ้าตัวน้อย”
หนวนหน่วนซบลงบนไหล่กว้างของพี่ใหญ่แล้วโผล่ใบหน้าออกมาให้เห็นเพียงผมและลูกตาที่แสนกลมโตเท่านั้น
จัดการพี่ชายเสียอยู่หมัดเลยนะ!
เสี่ยวชีก็ถูกพากลับมาที่บ้านด้วย หลังจากที่หนวนหน่วนให้อาหารมันจนอิ่ม เธอก็สัมผัสตรงท้องเพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่อิ่มจนเกินไป จากนั้นเธอก็พามันขึ้นไปบนห้องนอนเล็กของตัวเอง
“เสี่ยวชีเป็นเด็กดีนะ ฉันต้องทำการบ้าน อย่าเสียงดังล่ะ”
“จิ๊บ!”
เสี่ยวชีชูคอขึ้นมาพลางส่งเสียงตอบรับเหมือนเป็นการตกลง
หนวนหน่วนลูบหัวของมันเบา ๆ “เด็กดี”
เอ๊ะ? ทำไมภาพนี้มันดูคุ้น ๆ นะ?
จู่ ๆ เด็กหญิงก็นึกขึ้นมาได้ว่าพวกพี่ชายของเธอเองก็เคยลูบหัวแล้วพูดคำว่า ‘เด็กดี’ อยู่เหมือนกัน
ในสายตาของพวกพี่แล้ว หนวนหน่วนก็น่ารักเหมือนกันหรือเปล่านะ?
ในขณะที่หนวนหน่วนกำลังทำการบ้านอย่างจริงจัง พี่ใหญ่ก็ถือแก้วนมและผลไม้เข้ามาให้
เด็กหญิงยกแก้วนมขึ้นดื่มทีละนิด ใบหน้าเรียวบางของเธอดูมีความตึงเครียดอยู่เล็กน้อย
“พี่ใหญ่คะ ไหนบอกว่ากินนมแล้วตัวจะสูงขึ้นไง แต่นี่หนวนหน่วนกินทุกวันก็ยังเตี้ยอยู่เหมือนเดิมเลยนะ”
เธอเตี้ยที่สุดในชั้นเรียนเลย ทำไมเด็กผู้หญิงที่รุ่นราวคราวเดียวกับเธอถึงสูงกันหมดนะ
กู้หนาน “เพราะเธอยังไม่ถึงวัยแรกรุ่นยังไงล่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นแล้วเมื่อไหร่หนวนหน่วนจะสูงคะ?”
กู้หนานนิ่งเงียบไปสองวินาที “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
หนวนหน่วนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ไม่นานเธอก็ดึงกำลังใจของตัวเองกลับมาได้
“ช่างมันเถอะ ไม่มีคนไหนในครอบครัวเราตัวเตี้ยเลย หนวนหน่วนเองก็จะตัวสูงเหมือนกัน!”
เด็กหญิงเรียกความมั่นใจให้ตัวเอง
กู้หนาน “…”
เขายังไม่ทันได้ปลอบใจ แต่เจ้าตัวเล็กก็เรียกขวัญให้ตัวเองได้แล้ว แต่ก็ดีแล้วละ เพราะเขาเองก็ปลอบใจคนอื่นไม่เก่งสักเท่าไหร่หรอก
“นอนแต่หัวค่ำนะ ถ้านอนดึกตัวจะเตี้ย ผมก็ร่วงด้วย”
น้ำเสียงค่อนข้างจริงจัง ฟังดูเหมือนกำลังขู่เข็ญเลย
หนวนหน่วนหันหน้าไปมองดูนาฬิกา เป็นเวลาสามทุ่มครึ่งแล้วด้วย
“พี่ใหญ่ หนวนหน่วนจะนอนแล้วค่ะ!”
ไม่อยากตัวเตี้ยแล้วก็ผมร่วงด้วย น่าเกลียดจะตายไป
กู้หนานพยักหน้าด้วยสีหน้าพึงพอใจ วันนี้น้องสาวของเขาก็ยังคงเป็นเด็กดีเหมือนเดิม
หลังจากพี่ใหญ่ออกจากห้องไปแล้ว หนวนหน่วนก็รีบเก็บการบ้านทั้งหมด ก่อนจะรีบปีนขึ้นไปบนเตียง สะบัดผ้าห่ม เอื้อมมือปิดไฟแล้วนอนหลับทันที
เช้าวันรุ่งขึ้น หนวนหน่วนตื่นขึ้นมาตอนเจ็ดโมงเช้าเพื่อออกไปวิ่งจ็อกกิงกับพี่ใหญ่ หลังจากกินข้าวเสร็จเธอก็ไปบอกลาส่งพี่ใหญ่และคุณพ่อไปทำงาน
“คุณพ่อบ๊ายบาย พี่ใหญ่บ๊ายบาย~”
คนตัวเล็กโบกมือลาทั้งคู่อย่างจริงจัง เมื่อเห็นว่ารถลับตาไปแล้วเธอก็หันหลังกลับเข้าไปในบ้าน
“วันนี้คุณแม่ไปทำงานเหรอคะ?”
เมื่อเห็นว่าคุณแม่แต่งตัวสวยและกำลังสวมใส่รองเท้าส้นสูงออกไปข้างนอก หนวนหน่วนก็เดินมาเกาะแกะตามติดทันที
“อื้ม อยากไปที่ทำงานของแม่บ้างไหม?”
สีหน้าของหนวนหน่วนเริ่มยับยู่ขึ้นมาทันที เธออยากไปแต่วันนี้ต้องอยู่กับญาติผู้พี่คนโตน่ะสิ!
เธอนำใบหน้าเล็กของตัวเองถูไถกับคุณแม่อย่างออดอ้อนพลางพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุน
“คุณแม่ เอาไว้ครั้งหน้าหนวนหน่วนจะไปนะคะ วันนี้หนวนหน่วนจะไปปกป้องพี่โม่ซูค่ะ”
“หืม? เมื่อวานเพิ่งไปมาเองไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อพูดถึงเรื่องเมื่อวาน หนวนหน่วนตัวน้อยก็เล่าเรื่องที่กู้หว่านไปที่โรงพยาบาลให้คุณแม่ฟัง
“เธอเป็นคนร้ายกาจ ชอบพูดอะไรก็ไม่รู้ให้คนเข้าใจผิดแล้วมาว่าพี่โม่ซู มากไปแล้วค่ะ!”
สีหน้าของไป๋อันหรานเคร่งขรึมขึ้นมาทันที “เป็นแค่กู้หว่าน กล้าดียังไงมาแตะต้องคนของตระกูลไป๋ ฝันสูงเกินไปแล้ว! หนวนหน่วน เมื่อวานนี้หนูทำได้ดีมากเลยนะลูก รู้จักปกป้องพี่ชายด้วย ทำไมหนูน้อยของเราถึงกล้าหาญขนาดนี้เนี่ย”
หางของหนวนหน่วนดีดขึ้นชี้ฟ้าทันที เมื่อวานเธอก็รู้สึกว่าตัวเองฉลาดมากเหมือนกัน
“ไปเถอะ พาเจ้าเล็กกับเจ้าสี่ไปด้วยกัน”
หนวนหน่วนพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “โอเคค่ะ ถ้าอย่างนั้นหนวนหน่วนไปส่งคุณแม่ก่อนนะคะ”
หลังจากคุณแม่ออกไปแล้ว หนวนหน่วนตัวน้อยก็รีบไปหากู้อันทันที