ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 213 ฉันเองก็อยากมีพี่ชายหลายคนบ้าง
บทที่ 213 ฉันเองก็อยากมีพี่ชายหลายคนบ้าง
“ว้าว… หนวนหน่วนนี่ฟาร์มของเธอเหรอ? ใหญ่จังเลย!”
หลินจิ่วเพิ่งมาที่ฟาร์มครั้งแรก เธอตื่นตาตื่นใจมาก เมื่อรถเคลื่อนตัวไปจอดประตูรถก็ถูกเปิดออก เหม่ยฉิวและต้าหวงรีบลงไปวิ่งเล่นอย่างมีความสุข
หนวนหน่วนหางแทบชี้ฟ้า เธอจับมือเล็กของหลินจิ่วแล้วเดินพาชมฟาร์มด้วยความภูมิใจ อากาศกำลังปลอดโปร่งผ่อนคลาย แถมยังมีกลิ่นหอมธรรมชาติพัดโชยตามมาด้วย
“พี่ใหญ่เป็นคนซื้อฟาร์มให้ ฉันเลี้ยงหงส์เอาไว้สี่ตัวด้วยนะ มีลูกเจี๊ยบสองตัวแล้วก็นกอีกหนึ่ง แล้วก็ยังมีม้ากับวัวอย่างละสองตัวด้วย…”
หนวนหน่วนพูดถึงสัตว์ตัวน้อยที่เลี้ยงเอาไว้ในฟาร์ม ยิ่งฟังหลินจิ่วก็ยิ่งอิจฉา
“ฉันก็อยากเลี้ยงบ้าง แต่แม่ไม่ยอมเพราะพ่อแพ้ขนสัตว์”
พูดแล้วเด็กหญิงก็เศร้ามาก
หนวนหน่วนก้มลงไป ก่อนจะอุ้มต้าเหมาขึ้นมาแล้วส่งให้หลินจิ่วอุ้มไว้ในอ้อมแขน
“ไม่เป็นไรหรอก วันหลังมาอุ้มพวกมันเล่นที่บ้านฉันบ่อย ๆ ก็ได้”
หลินจิ่วอุ้มต้าเหมา ก่อนจะใช้ใบหน้าฝังลงบนขนยาวสีขาวของมันแล้วสูดหายใจฟัดมันอย่างมีความสุข
“โอเค จากนี้ฉันจะมาเล่นกับเธอบ่อย ๆ นะ”
ต้าเหมาและเอ้อร์เหมาเป็นพันธุ์เมนคูน มันจึงโตไวมาก เผลอแป๊บเดียวก็ตัวเท่าเหม่ยฉิวแล้ว เนื่องจากมันเป็นแมวขนยาวจึงทำให้ขนาดตัวของมันดูใหญ่กว่าเหม่ยฉิวนิดหน่อย
แมวทั้งสองตัวต่างสวยหล่อมาก ทุกคนในบ้านต่างก็ชอบพวกมันทั้งนั้น
ถึงแม้ว่าพวกมันจะตัวใหญ่ แต่นิสัยก็อ่อนโยนมาก
ทั้งคนและแมวต่างพากันเดินมาจนถึงบริเวณบ้านพัก และเมื่อไปถึงประตูพวกเขาก็ได้ยินเสียงร้องเจื้อยแจ้วของสัตว์เล็กทันที หลังจากนั้นพวกก้อนขนทั้งหกก็รีบวิ่งเข้ามาหา
ถึงแม้ว่าพวกมันจะมีขนสีเทา แต่เมื่อมองจากระยะไกลกลับมองไม่เห็นขาของมันเลยแม้แต่นิดเดียว นั่นทำให้เหมือนกับว่าพวกมันกลิ้งมาเสียมากกว่า
คนตัวเล็กตื่นเต้นมาก หลังจากนั้นไม่นานหนวนหน่วนก็ถูกกลุ่มก้อนขนปีกรุมล้อม มันกระพือปีกพึ่บพั่บแล้วพยายามไต่ขึ้นมาบนตัวเธอ
เห็นได้ชัดเลยว่าเจ้าพวกนี้บินขึ้นมาไม่เก่ง
หนวนหน่วนย่อตัวนั่งลง เหล่าก้อนขนปีกทั้งหกต่างพากันซบลงบนตักเธอทันที ทั้งยังส่งเสียงร้องเว้าวอนอย่างน่าเอ็นดู
“เสี่ยวอี เสี่ยวเอ้อร์ เสี่ยวซาน…”
หนวนหน่วนเรียกชื่อพวกมันทีละตัวแล้วแตะหัวเล็กของพวกมันด้วยนิ้วขาวเรียวบาง
นอกจากนี้เจ้าพวกตัวเล็กยังจิกนิ้วเธอเบา ๆ ด้วย หรือไม่ก็เอาตัวมาถูไถกับฝ่ามือให้ขนปุกปุยของมันสัมผัส
หลินจิ่วย่อตัวนั่งลงแล้วมองดูอย่างรู้สึกอิจฉา เธอพยายามเอื้อมมือไปหา หวังสัมผัสเข้ากับเจ้าก้อนขนตัวน้อย แต่เนื่องจากอาจยังไม่สนิทมากพอเลยกลัวว่าพวกมันจะจิกนิ้วเอา
หลินจิ่วมองดูอย่างตื่นเต้น “พวกมันดูเหมือนจะเข้าหาหนวนหน่วนเท่านั้นนะเนี่ย”
หนวนหน่วนรวบเจ้าพวกก้อนขนทั้งสามเข้าด้วยกัน ไม่ได้เจอกันมาหลายวันแล้ว ไม่เพียงแต่ตัวโตขึ้นเท่านั้น แต่น้ำหนักยังมากขึ้นอีกด้วย
หนวนหน่วนใช้นิ้วสั้นจิ้มลงไปบนเจ้าเกี๊ยวตุ้ยนุ้ยแล้วพูดขึ้น “กินจนอ้วนแล้วนะ”
“จิ๊บจิ๊บ!”
“ก็ได้ ๆ ไม่อ้วนหรอก แค่ขนฟูเนอะ”
“จิ๊บ~”
หลินจิ่วกะพริบตามองดูด้วยใบหน้าค่อนข้างตกใจ “หนวนหน่วนเข้าใจด้วยเหรอว่ามันพูดอะไร?”
หนวนหน่วนเสยผมที่ปรกลงบนใบหน้าของตัวเองขึ้น
“เปล่าหรอก ตีความหมายเองน่ะ หนวนหน่วนฟังจากเสียงว่าพวกมันมีความสุขหรือไม่มีความสุข”
หลังจากกอดเสี่ยวอีและตัวอื่น ๆ แล้ว หนวนหน่วนก็พาหลินจิ่วเดินไปหาเสี่ยวชี มีเจ้าก้อนขนเดินตามเด็กทั้งสองคนต้อย ๆ ราวกับหางที่แกว่งไกวไปมา ส่งเสียงดังอย่างร่าเริงเป็นครั้งคราว
ตอนนี้เสี่ยวชีโตขึ้นมากแล้ว มันกำลังนอนอยู่ในรั้วที่หนวนหน่วนสร้างให้ มันกระพือปีกที่ปกคลุมไปด้วยขนสีขาวพยายามจะออกมาข้างนอก
เช่นเดียวกับเสี่ยวอีและพวกพ้อง เสี่ยวชีเองดูเหมือนลูกบอลมาก ถึงจะเป็นน้องคนสุดท้องที่ได้ออกมา แต่เมื่อเทียบกับเสี่ยวอีแล้วมันยังดูตัวเล็กกว่านิดหน่อย
แต่ต้องบอกเลยว่า ถ้ามองจากรูปลักษณ์แล้ว เสี่ยวชีดูจะสูงที่สุดในบรรดาทุกตัวเลย
เมื่อหนวนหน่วนเข้าไปหา ผู้ดูแลก็สวมถุงมือแล้วคอยต้อนเจ้าตัวเล็กให้กลับเข้าไปอยู่ในบริเวณรั้ว
หลังจากนั้นไม่นานผู้ดูแลก็โดนจิกเข้าที่หลังมือ แต่โชคยังดีที่เขาสวมถุงมือเอาไว้ ไม่อย่างนั้นคงได้แผลใหญ่แน่นอน
“แบบนั้นไม่ได้นะเสี่ยวชี”
หลังจากที่หนวนหน่วนเห็นแบบนั้นเธอก็รีบเดินเข้าไปปรามทันที พลางตีใบหน้าตุ้ยนุ้ยของตัวเองให้กลายเป็นสีหน้าจริงจังแล้วใช้นิ้วแตะเข้าที่ปากแหลม ๆ ของเสี่ยวชี
“กัดคนแบบนี้ไม่ได้นะ”
“จิ๊บจิ๊บ!”
เมื่อเห็นว่าหนวนหน่วนดุ เสี่ยวชีก็ส่งเสียงไม่พอใจขึ้นมา พลางใช้หัวเข้าไปมุดอยู่ใต้ฝ่ามืออันอ่อนนุ่มของเธอ
“เสี่ยวชีต้องเป็นเด็กดีนะ จะทำตัวดุร้ายแบบนั้นไม่ได้”
“จิ๊บ~”
“โอเค โอเค เธอยังเด็กมากเลยยังควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แต่อย่าทำมันจนติดเป็นนิสัยล่ะ”
หนวนหน่วนเอ่ยขอโทษและขอบคุณผู้ดูแลอย่างสุภาพ หลังจากนั้นเธอก็ให้เขาออกไปแล้วกอดเสี่ยวชีเอาไว้
“โตขึ้นเยอะเลยนะเนี่ยเสี่ยวชี” เอ่ยชมนิดหน่อย
หลินจิ่วสงสัย “นี่คือนกอะไรเหรอ?”
หนวนหน่วนส่ายหัว “ไม่รู้เหมือนกัน แต่เห็นพวกพี่บอกว่าเป็นนกนักล่า พอมันโตขึ้นจะแข็งแรงมากเลย”
หลินจิ่ว “ฉันก็อยากเลี้ยงบ้าง!”
หลังจากได้เห็นว่าหนวนหน่วนเลี้ยงสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยอะไรไว้บ้างในวันนี้ หลินจิ่วก็รู้สึกอิจฉามาก แต่เธอเลี้ยงอะไรไม่ได้เลย
หลินจิ่วเชิดหน้าขึ้นอย่างงอน ๆ “ถ้าคุณพ่อคุณแม่ซื้อฟาร์มให้ฉันบ้างก็ดีสิ”
หนวนหน่วนงงนิดหน่อย “แต่ว่ามันต้องใช้เงินเยอะมากเลยนะ ฉันเอาเงินค่าขนมของตัวเองมาสมทบด้วย อีกอย่างก็ได้เงินอั่งเปาช่วงตรุษจีนมาช่วยอีกแรง”
หลินจิ่วตกใจมาก “เอาอั่งเปาที่ได้ช่วงตรุษจีนไปซื้อหมดเลยเหรอ…”
หลินจิ่วมองดูหนวนหน่วนอย่างเห็นใจ “ถ้าอย่างนั้นฉันไม่อยากได้แล้วละ เพราะอยากมีเงินอั่งเปาเหลือจากช่วงตรุษจีนเยอะ ๆ”
หนวนหน่วนแตะหัวของเสี่ยวชีพลางยิ้มอย่างอ่อนหวาน “ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะคุณพ่อกับพี่ ๆ ก็ให้ค่าขนมฉันเยอะเหมือนกัน”
หลินจิ่วนึกขึ้นได้ถึงเรื่องที่เธอเคยบอกว่ามีพี่ชายเจ็ดคน “พี่ชายทุกคนให้ค่าขนมเธอเท่าไหร่เหรอ?”
หนวนหน่วนเริ่มยกนิ้วขึ้นมานับ “พี่ใหญ่ พี่รอง พี่สาม ญาติผู้พี่คนโตกับคนรอง อืม พวกพี่ที่ทำงานแล้วก็ให้กันหมดเลย พี่สี่ก็อยากจะให้เหมือนกันแต่ว่าฉันไม่เอา ส่วนพี่กู้อันก็ชอบซื้อขนมให้หนวนหน่วนกินอยู่แล้ว”
พี่ชายของเธอใจดีกันหมดเลย
หลินจิ่วสูดหายใจสะกดกลั้นความอิจฉา “ฉ…ฉันก็อยากมีพี่ชายหลายคนเหมือนกัน”
ถ้าเป็นแบบนั้นเธอก็คงได้เงินค่าขนมเยอะเหมือนกัน!
ใบหน้าตุ้ยนุ้ยของหนวนหน่วนแสดงออกถึงความภูมิใจ “พวกพี่ชายของฉันยอดเยี่ยมกันมากเลย!”
ทั้งสองคุยกัน จับใจความได้ว่าเป็นเรื่องที่พี่ชายซื้อฟาร์มให้ หลังจากนั้นหนวนหน่วนก็นึกขึ้นได้ว่าของขวัญวันเกิดที่จะทำให้พี่กู้อันยังไม่เสร็จดีเลย
เธอเดินไปหยิบดินเหนียวที่ซ่อนอยู่ในห้องแล้วนำตุ๊กตาดินเผาที่ปั้นเสร็จแล้วบางส่วนออกมา
วันนี้พี่กู้อันถูกเพื่อนสนิทตามตัวไป ไม่รู้ว่าเรียกให้ไปทำอะไร แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ตามเธอมาที่ฟาร์ม นี่จึงเป็นโอกาสที่จะรีบทำให้เสร็จ
“นี่อะไรเหรอ?”
หลินจิ่วโน้มตัวเข้าไปใกล้หนวนหน่วนพลางมองดูเธอใช้เครื่องมือทำเสื้อผ้าหน้าผมให้รูปปั้นดินเหนียวอย่างจริงจัง
หนวนหน่วนลงมือตั้งใจทำอย่างช้า ๆ และระมัดระวัง หลังจากที่ได้ลองผิดลองถูกมาแล้ว ตอนนี้เธอทำมันได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก
แต่นี่ก็เป็นเพราะเธอสามารถเรียนรู้ได้เร็วรวมถึงขยันขันแข็งด้วย ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะล้มเหลวอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็จะมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นด้วย
และตอนนี้หนวนหน่วนก็สามารถวาดรูปได้แล้วด้วย ต่อให้พยายามฝึกฝนแล้วมีข้อผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้างมันก็คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร