ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 203 นังจิ้งจอกสวยกว่าเธอ
บทที่ 203 นังจิ้งจอกสวยกว่าเธอ
ทำไม… ทำไมชอบจับแก้มเรากันหมดเลย
หนวนหน่วนรู้สึกงุนงง เธอเอามือลูบแก้มยุ้ย ๆ ของตัวเอง จะว่าไปก็… รู้สึกดีอยู่นะ
ภายใต้สายตาที่คาดหวังของหลินจิ่ว หนวนหน่วนพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะชูนิ้วก้อยแล้วพูดเสียงใส
“แป๊บเดียวเท่านั้นนะ”
หลินจิ่วตาเป็นประกาย เด็กหญิงถูฝ่ามือแล้วทาบลงบนแก้มน้อยจ้ำม่ำนุ่มนิ่มของหนวนหน่วนอย่างระมัดระวังพลางบีบเบา ๆ
“ฉันรู้อยู่แล้ว แก้มเธอต้องนิ่มมากแน่ ๆ!”
สบายมือมากเลยนะเนี่ย!
หลินจิ่วหัวเราะอย่างไร้เดียงสา ขยับจมูกเข้ามาใกล้แล้วดมฟุดฟิด
“กู้หนวนหน่วน เธอตัวหอมจัง!”
หนวนหน่วนกะพริบตาปริบ ๆ ยกแขนขึ้นดมกลิ่นด้วยตัวเอง แต่ไม่ได้กลิ่นอะไรเลย
“ไม่มีนะ ไม่มีกลิ่นอะไรเลย”
หลิ่นจิ่ว “มีกลิ่นนมหอมฟุ้งชัดเจนเลย”
“อะแฮ่ม…”
ครูหยางที่อยู่บนแท่นกระแอมพลางเหลือบมองหลินจิ่ว ส่งสัญญาณให้เธอเงียบ
“เยี่ยนหุย เธอพาเพื่อน ๆ ไปเอาหนังสือกับครู”
“ครับผม”
หนวนหน่วนหันมองกลับไป คนที่ตอบครูเป็นเด็กนักเรียนชายคนแรกที่ถีบเพื่อนรักของตัวเองออกไป
หลินจิ่วเข้ามากระซิบกระซาบใกล้ ๆ เธอ
“หนวนหน่วนเธอดูเด็กมากเลย ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วเหรอ?”
“หกขวบจ้ะ”
หลินจิ่วเบิกตาโต “หกขวบ ฉันแปดขวบแล้วนะ!”
แถมยังสูงกว่าหนวนหน่วนมากอีกด้วย เดิมทีเธอเป็นคนที่เตี้ยที่สุดในห้องเรียน ตอนนี้กลายเป็นหนวนหน่วนแล้ว!
“หนวนหน่วน ฉันได้ยินพวกเขาพูดกันว่าเธอได้คะแนนเต็มสามวิชาในการสอบครั้งนี้เหรอ? เธอสุดยอดไปเลย”
อายุยังน้อยแต่เรียนเก่งมากขนาดนี้
หนวนหน่วนตอบอย่างภาคภูมิใจเล็ก ๆ “เพราะฉันมีพี่ชายที่สุดยอดน่ะสิ”
หลินจิ่ว “???”
เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับพี่ชายของเธอ?
ขณะที่กำลังจะถาม ครูหยางก็พาเพื่อนนักเรียนชายกว่าครึ่งห้องกลับมาพร้อมกับหนังสือ จากนั้นก็เริ่มแจกหนังสือเรียนให้เพื่อนร่วมชั้นทีละคน
หนวนหน่วนนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเรียบร้อย ถือหนังสือของตนไว้ด้วยดวงตาสวยงามเป็นประกาย
เธอแทบรอไม่ไหวที่จะเปิดออกอ่าน หนังสือเหล่านี้มีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ ต่อไปเธอจะเป็นนักเรียนชั้นประถมสองแล้ว
การไปโรงเรียนไม่ใช่แค่ความฝันของเธอเท่านั้น แต่ยังเป็นความฝันของคุณยายอีกด้วย
เธอกอดหนังสือไว้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้กลับไปที่หมู่บ้านเสี่ยวซี เธอต้องการนำข่าวดีนี้ไปบอกคุณยาย คุณยายต้องดีใจมากแน่ ๆ
เธอวางหนังสือลงทีละเล่มอย่างระมัดระวังและจัดเรียงซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบ
นักเรียนหลายคนรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเห็นหนังสือมากมายเหล่านี้ แต่เมื่อเธอเห็นหนังสือที่หนาหนักกองสูงตรงหน้าก็รู้สึกมีความสุข ดวงตาสดใสและรอยยิ้มอ่อนโยนดูสวยงามสุดจะบรรยาย
“โอ๊ย… คำถามพวกนี้ดูยากจัง”
หลินจิ่วที่อยู่ข้าง ๆ กำลังเปิดหนังสือดูเช่นกัน พอเห็นหนังสือคณิตศาสตร์ก็โอดครวญทันที
หนวนหน่วนชะโงกดู พบว่าตนสามารถแก้โจทย์หลายข้อได้ พี่รองสอนเธอเอง แต่ก็มีที่ทำไม่ได้เช่นกัน แต่มันไม่สำคัญหรอก ถ้าเธอตั้งใจฟังครูสอนก็จะสามารถเรียนรู้ได้
หลังจากแจกหนังสือเรียนเสร็จก็หมดคาบเรียนแล้ว กริ่งหมดคาบเรียนดังขึ้น หลังจากครูหยางออกไป ห้องเรียนของหนวนหน่วนก็เริ่มคึกคัก
“กู้หนวนหน่วน เธออายุเท่าไหร่แล้ว? ดูเด็กมากเลย”
“กู้หนวนหน่วน เมื่อก่อนเคยเรียนที่ไหนเหรอ?”
“กู้หนวนหน่วน พวกเรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ ฉันจะให้เธอกินข้าวกล่องของฉันทั้งหมดเลย”
เด็กที่มีอายุเพียงไม่กี่ขวบเป็นคนประเภทซื่อตรง พวกเขาชอบผูกมิตรกับคนหน้าตาดี โดยเฉพาะกับเพศตรงข้าม นอกจากนี้เด็กชายในวัยนี้ยังกล้าได้กล้าเสีย เป็นวัยที่ซุกซนเป็นธรรมดา
หนวนหน่วนตัวน้อยทั้งว่าง่ายและอ่อนโยน รอยยิ้มช่างงดงามราวกับดอกไม้ ทันทีที่หมดคาบเรียน พวกเขาต่างก็วิ่งเข้ามาผูกมิตรกับเพื่อนร่วมชั้นคนใหม่อย่างทนรอไม่ไหว
“ฮึ ก็ไม่ได้สวยเท่าไหร่ ยังสวยสู้ฉันไม่ได้เลย!”
การเข้ามาของหนวนหน่วน ไม่ใช่นักเรียนทุกคนของประถมสองห้องหนึ่งจะยินดีต้อนรับ
หลี่หลิงเคยเป็นเด็กหญิงผู้เป็นที่โปรดปรานที่สุดในห้องเรียน เพราะหน้าตาสวยงามและครอบครัวร่ำรวย ถูกครอบครัวตามใจจนเหลิงไปหน่อย
อย่าคิดว่าเป็นแค่กลุ่มเด็กอายุไม่ถึงสิบขวบแล้วจะไม่มีการเปรียบเทียบ
หลี่หลิงเคยเป็นที่ยอมรับว่าเป็นเด็กหญิงที่สวยที่สุดในห้องเรียน ตอนนี้มีหนวนหน่วนโผล่มาอย่างกะทันหันและแซงหน้าเธอไปแล้ว เธอย่อมไม่ปลื้มเป็นธรรมดา
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว หลิงหลิงต่างหากที่สวยที่สุด”
บรรดาเด็กหญิงที่เข้าขากันดีกับหลี่หลิงต่างเชิดคางขึ้น
“หลิงหลิงของเราเป็นอัจฉริยะบัลเลต์ กำลังจะเข้าร่วมการแข่งขันระดับเยาวชนในเดือนหน้า พอถึงตอนนั้นก็จะถูกเลือกจากครูสอนบัลเลต์ชื่อดังฟางเข่อเอ๋อร์ให้ไปเป็นลูกศิษย์ด้วยละ”
“ฉันรู้จักฟางเข่อเอ๋อร์ เคยเห็นตอนที่แม่ฉันดูทีวี ดูเจ๋งสุดยอดไปเลย”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ยังเป็นดาราอีกด้วยนะ”
“ฉันก็รู้จัก ใคร ๆ ก็ชอบฟางเข่อเอ๋อร์ทั้งนั้น ว้าว หลี่หลิง เธอสุดยอดมากเลย!”
หลี่หลิงเชิดคางขึ้นด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ “ก็นั่นแหละ กู้หนวนหน่วนเธอเต้นบัลเลต์เป็นไหม?”
หนวนหน่วนที่ตกเป็นเป้าหมายอย่างกะทันหัน “…”
เธอส่ายหน้าอย่างจริงใจ “ไม่เป็นหรอก”
แต่เธอก็เต้นรำเป็น พี่สามของเธอสอนเธอเต้นบ้างเป็นครั้งคราว แต่บัลเลต์นั้นไม่ไหวเอาซะเลย
หลี่หลิงยิ่งหลงละเลิงขึ้นมาทันที “แม่ฉันบอกว่า ความเป็นเลิศของบุคคลหนึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับนิสัยใจคอด้วย เธอเต้นรำไม่เป็นด้วยซ้ำ เทียบฉันไม่ได้เลย!”
“แต่กู้หนวนหน่วนสอบได้คะแนนดีกว่าเธอนะ!”
หลี่หลิงทำเสียงฮึดฮัด “ฉันไม่เชื่อหรอก ข้อสอบที่อาจารย์ให้เธอง่ายมากแน่ ๆ”
“เหลวไหล เธอสอบไม่ได้คะแนนเต็มทั้งสามวิชาหรอก!”
หลี่หลิง “ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะสอบได้คะแนนดีขนาดนี้ ไม่งั้นเรามาแข่งกันดู ใครจะได้คะแนนสูงกว่ากันในการสอบประจำเดือน”
หลินจิ่วไม่กล้าตอบตกลงแทนหนวนหน่วน ถึงอย่างไรเธอก็เป็นเด็กย้ายมาใหม่ ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับผลการเรียนของเธอ
“ตกลง”
ในเวลานี้หนวนหน่วนเอ่ยปากออกมาเอง น้ำเสียงยังคงอ่อนโยน ไม่ได้มีอาการโกรธเพราะการยั่วยุของหลี่หลิง
“แต่นั่นก็เป็นเรื่องอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า เลิกเสียงดังได้ไหม”
เธอมองไปที่หลี่หลิงอย่างช้า ๆ ด้วยดวงตากลมโตสวยงาม
หลี่หลิงทำเสียงฮึดฮัดอย่างเย่อหยิ่ง “เธอรอวันพ่ายแพ้ฉันได้เลย ถ้าทำคะแนนสอบสู้ฉันไม่ได้ละก็ เธอก็ออกไปจากห้องเรียนของเรา ฉันไม่ชอบเธอ”
เยี่ยนหุยขมวดคิ้ว “หลี่หลิง เธอทำเกินไปแล้ว กู้หนวนหน่วนเพิ่งย้ายมาที่ห้องเรียนของเรา เธอก็มารังแก!”
หลี่หลิงตะโกนดังลั่นด้วยความโมโห “ฉันรังแกเธอตรงไหน ฉันแค่อยากจะสอบแข่งกับเธอเท่านั้น แข่งแพ้มีบทลงโทษก็สมเหตุสมผลดีไม่ใช่เหรอ? เธอเพิ่งจะมาเข้าเรียนพวกนายก็ปกป้องเธอขนาดนี้ นังจิ้งจอกหน้าไม่อายเหมือนที่แม่พูดจริง ๆ!”
หนวนหน่วนตัวน้อยผู้อ่อนหวานรู้สึกโมโหแล้วเหมือนกัน เธอทำแก้มป่องเหมือนปลาปักเป้า “เธอบอกว่าฉันเป็นนังจิ้งจอกก็แล้วไป แต่เธอต่างหากที่หน้าไม่อาย!”
หลี่หลิง “นังจิ้งจอกหน้าไม่อาย!”
หนวนหน่วน “ไม่ใช่สักหน่อย แล้วก็นังจิ้งจอกน่ะ สวยกว่าเธอด้วย”
เธอเคยดูการ์ตูนมาแล้ว นังจิ้งจอกสวย ๆ ทั้งนั้น แถมยังเก่งกาจ หนวนหน่วนตัวน้อยไม่คิดว่านังจิ้งจอกคือคำด่า ส่วนใหญ่เพราะไม่เคยได้ยินใครด่าใครว่านังจิ้งจอก
หลี่หลิงโกรธ “เธอรู้ไหมว่าพ่อฉันเป็นใคร กล้าดียังไงมาพูดกับฉันแบบนี้ เชื่อไหมว่าพ่อฉันจะทำให้เธอไม่ได้เรียน”
หนวนหน่วนโกรธจนควันออกหู “พ่อกับพี่ชายของฉันก็ยิ่งใหญ่มากเหมือนกัน พ่อของเธอเอาชนะพ่อกับพวกพี่ชายของฉันไม่ได้หรอก”
หลี่หลิง “น้าของฉันเป็นผู้อำนวยการของโรงเรียนนี้ ฉันจะให้คุณน้ามาจัดการเธอ!”
หนวนหน่วน “…”
จบแล้ว ครอบครัวของเธอดูเหมือนจะไม่ได้เป็นครูที่โรงเรียน จะทำอย่างไรดี?
ใบหน้าละเอียดอ่อนของหนวนหน่วนคิ้วขมวดขึ้นมา
ในขณะที่หลี่หลิงกำลังภาคภูมิใจอยู่นั้น…
“ทำอะไรกันอยู่ ทำอะไรกันอยู่!”
เสียงที่เย่อหยิ่งยิ่งกว่าหลี่หลิงดังมาจากประตู
กู้อันไม่คาดคิดมาก่อนว่า เมื่อตนเลิกเรียนแล้วรีบมาหาน้องสาว กลับพบว่าเธอกำลังถูกรายล้อมด้วยผู้คน เด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งกำลังพูดอะไรบางอย่างกับน้องสาวของตนอย่างเย่อหยิ่ง บอกว่าจะให้น้ามาจัดการเธอ
ฮ่า! น้องสาวของเขาเพิ่งเข้าเรียนก็มีคนกล้ามารังแกแล้วเหรอ? คิดว่าไม่มีใครอยู่ในโรงเรียนของเธอจริงเหรอ!