ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 194 ดูซิว่าเราสองคนใครจะหัวล้านก่อนกัน
บทที่ 194 ดูซิว่าเราสองคนใครจะหัวล้านก่อนกัน
“อุ๊บ…”
กู้หมิงหลี่ที่อยู่ข้างหลังหัวเราะออกมาอีกครั้ง “ไม่รู้ว่าทำไม แต่ทุกครั้งที่เห็นหนวนหน่วนทำแบบนี้ ผมถึงอยากหัวเราะชะมัด”
กู้หมิงอวี๋ดันศีรษะของน้องชายออกไป เขาเองก็ไม่สามารถกลั้นรอยยิ้มที่มุมปากเอาไว้ได้ แม้ว่าจะไม่ได้หัวเราะออกมา แต่ก็เกือบแล้ว
“อย่าให้เธอได้ยินนะ เดี๋ยวจะโกรธอีก”
กู้หมิงหลี่เหลือบมองเขาอย่างเย้ยหยัน “กล้ามาว่าผม พี่น่ะหุบยิ้มก่อนเถอะ”
เมื่อหนวนหน่วนที่อยู่ข้างหน้าหันกลับมา กู้หมิงหลี่ก็หุบยิ้มแสร้งทำเป็นมองไปรอบ ๆ กู้หมิงอวี๋พยายามข่มมุมปากของตัวเองเช่นกัน
หนวนหน่วนมองพวกเขาด้วยความสงสัย ก่อนจะลาดตระเวนอาณาเขตของเธอต่อไป
กู้หมิงหลี่ “จู่ ๆ ผมก็คิดถึงประโยคหนึ่งขึ้นมา”
กู้หมิงอวี๋ “?”
“ดูสิ นี่คือดินแดนที่ข้าบุกยึดมา!”
กู้หมิงอวี๋ “…”
ลองนึกภาพว่ามีเจ้าสัตว์ตัวน้อยยืนอยู่บนที่สูง ยกหางชี้พูดประโยคนี้ด้วยสีหน้าจริงจัง เขาก็หัวเราะออกมา
หนวนหน่วนที่อยู่ข้างหน้าหันกลับมาทันที “หนูรู้นะ พวกพี่หัวเราะหนวนหน่วนอีกแล้ว!”
ใบหน้าน้อยโกรธจนกลายเป็นโลมาอ้วนทันที
แต่… ซาลาเปาน้อยที่ทั้งโกรธทั้งอายยังคงดูอ่อนโยนเหมือนเดิม ไม่มีความก้าวร้าวเลยสักนิด
กู้หมิงหลี่บีบแก้มป่องของหนวนหน่วน ความโกรธของเด็กน้อยหายไปในชั่วพริบตา แต่ก็ยังดูเซ็ง ๆ มุมปากยุ้ยสีชมพูคว่ำลงเล็กน้อย ดวงตาใสกระจ่างดูมีแววตัดพ้อ
กู้หมิงหลี่บีบใบหน้าจ้ำม่ำของเธอพลางเถียงข้าง ๆ คู ๆ “เธอดูผิดแล้ว พี่ไม่ได้หัวเราะเธอ เมื่อกี้พี่สามหัวเราะพี่ต่างหาก”
หนวนหน่วนมองเขาด้วยแววตาสงสัย “จริงเหรอ?”
กู้หมิงหลี่พยักหน้ายืนยัน “ไม่เชื่อเธอก็ไปถามเขาดูสิ”
สายตาของหนวนหน่วนเลื่อนไปยังพี่สาม
ในดวงตาของกู้หมิงอวี๋แฝงไว้ด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าละเอียดลอองดงามพยักหน้าลงอย่างจริงจัง
“อืม พี่หัวเราะเจ้าสี่ข้อหาโง่บรม”
จากนั้นหนวนหน่วนก็เชื่อ ยังแก้ต่างแทนพี่สี่อย่างจริงจัง “พี่สี่ไม่โง่นะ”
พูดจบเธอก็ยิ้มหวานสดใสให้กู้หมิงหลี่
พี่สี่เห็นไหมว่าหนูฉลาด ช่วยอธิบายให้พี่แล้ว
กู้หมิงหลี่ “…”
หนวนหน่วนเดินเอ้อระเหยด้วยขาสั้น ๆ ต่อไป พาฝูงสัตว์ตัวน้อยไป ‘ลาดตระเวนอาณาเขต’
กู้หมิงหลี่ที่อยู่ข้างหลังทะเลาะกับพี่ชายแท้ ๆ ของตัวเองต่อ
“พี่ต่างหากที่โง่! โง่ทั้งบ้าน!”
กู้หมิงอวี๋ “บังเอิญจัง ครอบครัวของฉันก็มีนายรวมอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ?”
กู้หมิงหลี่เตะพี่ชายแท้ ๆ ของตัวเองด้วยความโกรธ แต่กู้หมิงอวี๋ที่แคล่วคล่องว่องไวหลบทัน
เมื่อหนวนหน่วนหันกลับมา ทั้งสองก็ต่อยตีกันเองแล้ว กู้หมิงหลี่กระชากหัวพี่ชายของเขา กู้หมิงอวี๋ดึงหูน้องชายตัวเอง กำลังคุยกันว่าใครจะปล่อยก่อน แต่ก็ไม่มีใครยอมปล่อย
พวกเขาสู้กันมาตั้งแต่เด็กจนโต… ไม่เคยเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
หนวนหน่วน “…”
พวกพี่ ๆ ยังทำตัวเป็นเด็กจังเลยน้า
“พี่คะ หนวนหน่วนจะนับหนึ่งสองสามแล้วพวกพี่ปล่อยมือพร้อมกันนะ”
สองพี่น้องมองหน้ากัน จากนั้นก็เห็นพ้องต้องกัน
พวกเขาพูดเป็นเสียงเดียวกัน “ตกลง เธอนับแล้วกัน”
หนวนหน่วนอุ้มเหม่ยฉิวเริ่มนับเลขด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“หนึ่ง สอง สาม”
หลังจากนับสาม ทั้งสองก็ปล่อยมือจากอีกฝ่ายพร้อมกัน สบสายตากัน แน่นอนว่ามองเห็นความรังเกียจจากสายตาของกันและกัน
กู้หมิงหลี่เลิกคิ้วขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง ทำเสียงฮึดฮัด ก้าวออกไปสองก้าวด้วยสีหน้ารังเกียจ
กู้หมิงอวี๋จัดผมและเสื้อผ้าของตัวเองอย่างเกียจคร้าน จากนั้นพบว่ามีเส้นผมยาวสองเส้นอยู่ตรงง่ามนิ้วของกู้หมิงหลี่
ยาวขนาดนี้ แค่เห็นก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ของเขา
กู้หมิงอวี๋ “!!!”
ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า เขาถูกตียังไม่เคยเจ็บใจเท่านี้มาก่อน
“กู้! หมิง! หลี่! นายรู้ไหมว่าเส้นผมเส้นหนึ่งของฉันมีค่าแค่ไหน นายดึงของฉันออกไปตั้งสองเส้น!!!”
สองคำสุดท้ายเขาพูดเสียงสูงปรี๊ด
กู้หมิงหลี่เหลือบมองเส้นผมสองเส้นที่ติดอยู่ตรงง่ามนิ้วของตัวเอง นิ่งเงียบไปสองวินาที จากนั้นก็สะบัดมือออกด้วยความขยะแขยง ปล่อยให้เส้นผมร่วงลงกับพื้น
“แกตายแน่!”
เขาพูดเพียงประโยคนี้แล้วกระโจนเข้าใส่น้องชายของตัวเองล้มลงกับพื้น
หนวนหน่วน “!!!”
ทำไมตีกันอีกแล้วเนี่ย!
“พี่สาม พี่สี่ อย่าตีกันสิคะ” หนวนหน่วนพยายามเข้ามาไกล่เกลี่ยให้พวกเขา
กู้หมิงอวี๋ยิ้มบาง ๆ มือก็ไม่หยุดตีน้องชายตัวเองต่อไป
“หนวนหน่วนเป็นเด็กดีนะ ขึ้นไปข้างบน พี่จะล้างแค้นให้เส้นผมของพี่”
กู้หมิงหลี่เอามือดันหน้าของเขาขึ้น “ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ แค่เส้นผมสองเส้น ยังไม่ได้ถอนจนหัวล้านสักหน่อย!”
“แกยังคิดจะถอนให้ฉันหัวล้านเหรอ! ฉันจะถอนให้แกหัวล้านก่อนเลย!”
“พูดมาก! เก่งนักก็มาถอนเลย ดูซิว่าเราสองคนใครจะหัวล้านก่อนกัน!”
กู้หมิงอวี๋คว้าเส้นผมของอีกฝ่ายไว้ด้วยความโมโหมากขึ้น แต่เส้นผมของเจ้าหมอนี่สั้นมาก มือจับไม่ติดเลย
“พี่ใหญ่ พี่สามกับพี่สี่ตีกันค่ะ!”
เจ้าสามกับเจ้าสี่ที่กำลังต่อยตีกัน “…”
สองพี่น้องแค่ทะเลาะกัน แต่เจ้าตัวเล็กไปฟ้องผู้ปกครองแล้ว!
โทรศัพท์มือถือของหนวนหน่วนเปิดสปีคเกอร์โฟนไว้ เสียงของกู้หนานจึงดังออกมาจากโทรศัพท์
[ไม่เป็นไร ปล่อยให้พวกเขาตีกันไปเถอะ อย่าลืมให้พวกเขาซักเสื้อผ้าสกปรกเองนะ ]
กู้หมิงหลี่และกู้หมิงอวี๋ “…”
หนวนหน่วนชูโทรศัพท์ขึ้น มองพวกเขาสองคนตาปริบ ๆ “พวกพี่ไม่ตีกันแล้วเหรอ?”
ทั้งสอง “…ไม่ตีแล้ว”
กลับไปซักเสื้อผ้ากันเถอะ
หนวนหน่วนตอบรับ มองเสื้อผ้าเหนอะหนะของพวกเขาแล้วพูดขึ้น
“พวกพี่ ๆ มาตีกันตรงนี้ได้ยังไง ดินแฉะจะตายดูสิคะ”
มือน้อย ๆ ของเธอชี้ไปยังตำแหน่งที่สกปรกบนร่างกายของพวกเขา สกปรกกว่าตอนที่หนวนหน่วนไปปลูกต้นไม้เสียอีก
สุดท้ายการลาดตระเวนครั้งนี้ก็กลับก่อนเวลา ลูกวัวและลูกม้าสองตัวกำลังเดินเล่นกินหญ้าอยู่นอกคฤหาสน์เล็ก ๆ อย่างสงบเงียบ แมว สุนัข รวมถึงลูกหงส์ ลูกเจี๊ยบตัวอื่น ๆ ตามก้นหนวนหน่วนเข้าไปด้วย
โต้วโต้วบินขึ้นไปบนบ้านต้นไม้ของตัวเอง เจ้านกตกแต่งบ้านหลังน้อยต่อไปอย่างมีความสุข ต้าหวงวิ่งซนไปทั่ว หลังจากถูกหนวนหน่วนดุด่าเป็นชุดก็ไม่กล้าไปทำลายดอกไม้ในสวนและสองข้างทางอีก มันกระดิกหางวิ่งไปแทะกระดูกในบ้านสุนัขของตัวเอง
แมวตัวอื่น ๆ ต่างกระดิกหางหาที่นอนอาบแดดสบาย ๆ อย่างเกียจคร้าน มีเพียงเจ้าตัวเล็กไม่กี่ตัวที่เห็นหนวนหน่วนเป็นแม่แล้วเดินกวัดแกว่งตามหลังเธอต่อไป ตัวที่อยากอึก็จะวิ่งไปหย่อนก้นบนดินของพุ่มดอกไม้ เสร็จแล้วก็จะก้าวเท้าสั้น ๆ ติดตามคณะต่อไป
ตัวเล็ก ๆ เชิดหน้าขึ้นสูง ร้องจิ๊บ ๆ เป็นครั้งคราว บางครั้งเดิน ๆ ไปก็หยุดกลางทางหรือสะดุดล้มลง ตัวที่อยู่ข้างหลังก็จะชนกันเป็นทอด ๆ ทั้งครื้นเครงและน่ารักสุด ๆ
ภาพแบบนี้เกิดขึ้นเกือบทุกวันในช่วงนี้ แต่คนที่เห็นก็ไม่เบื่อเลย
เมื่อคุณหญิงกู้ออกมาจากคฤหาสน์หลังเล็กก็จะเห็นลูกสาวที่น่ารักของตัวเองวิ่งเหยาะ ๆ อยู่ข้างหน้า เจ้าก้อนขาวนวลละเอียดอ่อนเป็นเหมือนปีศาจน้อย ตามหลังด้วยปุกปุยขนเทาน่ารักหลายตัว
หนวนหน่วนเป็นสิ่งที่น่ารักที่สุด หัวใจของคุณหญิงกู้แทบละลายแล้ว
“คุณแม่!”
หนวนหน่วนพาลูก ๆ เดินอยู่บนถนนเหมือนพวกเพนกวิน พอเห็นแม่ของเธอก็วิ่งเข้าไปหาทันที
เมื่อเธอออกวิ่ง พวกปุกปุยที่อยู่ข้างหลังก็เริ่มกระพือปีกน้อย ๆ วิ่งตาม