ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 192 พวกลูกสัตว์ออกมาจากเปลือก
บทที่ 192 พวกลูกสัตว์ออกมาจากเปลือก
ครั้งแรกที่หนวนหน่วนทำให้เสื้อผ้าและรองเท้าสกปรก เธอรู้สึกไม่ดี ยังอยากแอบเอาไปซักด้วยตัวเอง แต่ถูกกู้หนานจับได้แล้วหิ้วกลับไป
ในบ้านก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนรับใช้คอยซักเสื้อผ้า เขาไม่ได้ให้เงินเดือนมากขนาดนั้นเพื่อเลี้ยงไว้ดูเล่น อย่าว่าแต่ทำเสื้อผ้าสกปรกวันละชุดเลย ต่อให้เป็นสองหรือสามชุดก็ไม่มีปัญหา
จากนั้นหนวนหน่วนก็เชื่อฟัง นำเสื้อผ้าสกปรกกลับไปให้คนอื่นซักอย่างว่าง่าย
แม้จะรู้สึกไม่ดีที่ทำให้สกปรกทุกวัน แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่อนุญาตให้เธอไปที่ฟาร์ม
หนวนหน่วนชอบความรู้สึกของการได้ปลูกพืชด้วยตัวเองมาก พวกพี่ชายของเธอก็รู้งานอดิเรกเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอด้วย แต่พวกเขาไม่อยากให้เธอเหนื่อยเกินไป ดังนั้นหลังจากเด็กน้อยได้นั่งปลูกต้นไม้ปะปนกับผู้คนเป็นเวลาสองวัน กู้เป่ยก็หาต้นอ่อนของไม้ดอกจำนวนหนึ่งมาให้เธอ
บ้านในฟาร์มไม่ใช่คฤหาสน์ที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางแบบนั้น แต่เป็นบ้านหลังเล็ก ๆ สองชั้น
แน่นอนเมื่อเทียบกับคฤหาสน์ตระกูลกู้ บ้านหลังเล็กนี้ก็ใหญ่พอสำหรับหนวนหน่วนแล้ว
กู้หมิงหลี่และคนอื่น ๆ ก็มาแล้ว เขายังนำสีน้ำมันทากำแพงมาด้วย
“พวกเรามาปรับปรุงบ้านหลังน้อยในฟาร์มของเธอด้วยกันเถอะ!”
หนวนหน่วนมองบรรดาพี่ชายที่พยักหน้าด้วยความยินดี ในมือที่มีพลั่วเล็ก ๆ ก็รู้สึกคันไม้คันมืออยากทำด้วย
เรื่องการออกแบบทั้งภายในและภายนอกบ้านนั้น กู้หนานมีแปลนออกแบบหลากสไตล์มาให้ดู สุดท้ายหนวนหน่วนก็เลือกสไตล์ที่ภายในบ้านค่อนข้างอบอุ่น แต่ภายนอกเป็นสไตล์ป่าทึบอันมีมนตร์เสน่ห์
ใต้รั้วนอกบ้านปลูกกุหลาบไว้ พอถึงเวลานั้นดอกกุหลาบจะเลื้อยข้ามกำแพงรั้วทั้งหมด ยามดอกบานจะสวยงามเป็นพิเศษ
ตามสองข้างทางในสวนปลูกดอกไม้สดสวยงามหลากชนิด บนระเบียงก็ไม่เว้น ตรงนี้มีเถาวัลย์และไม้ดอกแขวนอยู่ด้วย เมื่อมองจากระยะไกลบ้านจะดูเหมือนถูกห้อมล้อมด้วยดอกไม้ ในสวนจะปลูกดอกกุหลาบ กุหลาบจีน และดอกไม้อื่น ๆ แต่ต้องเพิ่มรั้วกั้น
ต้นแปะก๊วยที่ประตูวางแผนไว้ว่าจะแขวนรังนกให้โต้วโต้วอาศัยอยู่ ในลานบ้านวางบ้านของต้าหวง จัดบ้านแมวไว้ในบ้าน จากนี้ไปสัตว์หลายตัวในบ้านจะมีที่อยู่อาศัยแล้ว
ภายในบ้านกำลังจะได้รับการปรับปรุงใหม่ให้อบอุ่นเป็นพิเศษ ทั้งหมดล้วนเป็นโทนสีอุ่นเหมาะสำหรับเด็กหญิงตัวน้อย สไตล์อบอุ่นผสมผสานกับสไตล์ป่า หลังจากโครงการได้รับการยืนยัน ทุกคนที่ไม่มีงานทำก็เริ่มยุ่ง
แม้แต่ผู้เฒ่ากู้ก็จะมาช่วยบ้างเป็นครั้งคราว อันที่จริงก็มาเพื่อความสนุกเท่านั้น
ภายในชั่วพริบตาเวลาก็ผ่านไปเกือบหนึ่งเดือนแล้ว ไข่หงส์ทั้งสี่ใบเริ่มมีการเคลื่อนไหว ตอนนี้กำลังจะปริแตก
หนวนหน่วนและบรรดาพี่ชายยืนเฝ้าอยู่ข้างกล่องฟักไข่ คอยดูเจ้าตัวน้อยฟักออกมาจากไข่หงส์ แต่ละคนตื่นเต้นเหมือนเป็นคุณพ่อมือใหม่
ตอนแรกกู้หมิงหลี่ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ แต่เมื่อไข่ทั้งสามที่เหมือนกับลูกตัวเองกำลังจะฟักออกมาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
“สู้ ๆ นะ”
หนวนหน่วนแทบจะสิงกล่องฟักไข่แล้ว เธอเบิกตากว้าง ส่งเสียงงุ้งงิ้งเชียร์หงส์น้อยทั้งสี่ที่กำลังจะฟักออกมา
การรอคอยนี้ใช้เวลานานมาก สองชั่วโมงต่อมา กู้หมิงหลี่เริ่มหมดความอดทน แต่หนวนหน่วนยังคงมีกำลังใจดี ชูกำปั้นขาวผ่องน้อย ๆ ให้กำลังใจพวกมันต่อไป
ในที่สุด หงส์น้อยตัวแรกก็โผล่ออกจากเปลือก
ตอนที่มันออกมาจากเปลือกไข่ ดวงตาของหนวนหน่วนก็เบิกกว้างกลมโต ราวกับได้เห็นเรื่องราวที่น่ามหัศจรรย์สุด ๆ
หนวนหน่วน “ตัวเล็กจัง!”
กู้อัน “น่าเกลียดจัง”
ขนบนตัวหงส์น้อยที่เพิ่งออกจากเปลือกไข่เปียกชุ่มและเหนียวติดกัน อีกทั้งท่าทางเงอะงะงุ่มง่ามยืนไม่อยู่ มันจึงพาดลำคอบนกล่องฟักไข่
หนวนหน่วนถามพี่ชายอย่างตื่นเต้น “พี่รองคะ ลูกหงส์ออกมาแล้วเราจะทำยังไงต่อดี?”
กู้เป่ยชี้ไปที่ตู้ควบคุมอุณหภูมิข้าง ๆ “เอามาใส่ไว้นี้ก็ได้ หนวนหน่วนไปเอามาสิ”
เด็กหญิงตัวน้อยชี้ที่ตัวเองอย่างประหลาดใจพลางทำตากลม “หนูเหรอคะ?”
กู้เป่ยพยักหน้า “แน่นอน หงส์น้อยยังไม่ลืมตา เธอรีบไปเอาออกมา พยายามให้มันเห็นเธอเป็นคนแรกเมื่อมันลืมตานะ”
หนวนหน่วนพยักหน้าตอบรับอย่างเชื่อฟัง เธอนำหงส์น้อยออกมาจากกล่องฟักไข่อย่างระมัดระวัง
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโชคช่วยหรือไม่ ทันทีที่เธอประคองหงส์น้อยตัวนุ่ม เจ้าตัวเล็กก็ลืมตาขึ้นมาทันใด คนแรกที่เห็นก็คือเธอ จากนั้นก็เป็นกู้เป่ยที่อยู่ข้าง ๆ
หงส์น้อยร้องเรียกอย่างแผ่วเบา มันถูกวางลงในกล่องควบคุมอุณหภูมิที่อยู่ถัดไป
หลังจากที่หงส์น้อยตัวแรกออกมาจากเปลือกแล้ว ที่เหลืออีกสามตัวก็ทยอยออกจากเปลือกตาม ๆ กัน ทั้งหมดถูกหนวนหน่วนประคองมาไว้ในกล่องควบคุมอุณหภูมิอย่างระมัดระวัง
หงส์น้อยสี่ตัวมีหน้าตาเหมือนกันไม่มีผิด ทั้งหมดเป็นสีเทา เมื่ออยู่ในกล่องควบคุมอุณหภูมิ ขนบนร่างกายก็ถูกอบแห้งอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังพยายามลุกขึ้นยืน เริ่มสำรวจโลกเพื่อหาอาหาร
ขนปุย ๆ ขึ้นเป็นกลุ่ม ๆ แม้แต่ขนสีเทาก็ไม่สามารถปกปิดใบหน้าที่ฟูฟ่องของพวกมันได้ เรียกว่าน่ารักสุด ๆ
เปลือกไข่หงส์ทั้งสี่ใบแตกหมดแล้ว แต่ไข่ที่เหลืออีกสามใบในกล่องฟักไข่ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ
หนวนหน่วนมองไข่ที่เหลืออีกสามใบ ในใจค่อนข้างเป็นกังวล แม้ว่าจะไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในไข่ทั้งสามใบนี้ แต่เธอก็เลือกมันมาด้วยตัวเอง เธอไม่อยากให้ไข่ทั้งสามใบตาย
จากนั้นตอนที่ไป๋โม่ซู ลูกพี่ลูกน้องคนโตของเธอมาถึง หนวนหน่วนแทบรอไม่ไหวที่จะพาเขาไปดูว่าไข่ที่เหลืออีกสามใบนั้นปกติดีหรือไม่
ไป๋โม่ซู “…ถึงพี่จะเป็นหมอ แต่ก็ยังไม่เคยตรวจอาการป่วยให้ไข่มาก่อน”
หนวนหน่วนมองไป๋โม่ซูอย่างน่าสงสาร
“พี่โมซูช่วยหนวนหน่วนด้วย ตรวจพวกมันให้หน่อยว่ายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า”
ไป๋โม่ซูไม่เข้าใจ คนอื่นยิ่งไม่เข้าใจใหญ่ ร้ายดีอย่างไรเขาก็เป็นหมอ อย่างน้อยก็มีความเป็นมืออาชีพมากกว่าพวกเขาเล็กน้อย
ไป๋โม่ซูหยิกแก้มจ้ำม่ำของเด็กหญิงตัวน้อย
“โอเค พี่ขออ่านข้อมูลที่เกี่ยวข้องก่อนนะ”
ไม่เสียงแรงที่เขาเรียนหมอ ไป๋โม่ซูเข้าใจเกือบจะทั้งหมดภายไม่กี่นาที เรื่องนี้ง่ายกว่าการเรียนแพทย์มาก
จากนั้นเขาก็ปิดม่านหน้าต่างแล้วหยิบไฟฉายออกมาส่องเปลือกไข่
“ตัวนี้สุขภาพแข็งแรงมาก ยังคงเจริญเติบโตอยู่ เดาไม่ถูกว่าต้องรออีกกี่วันถึงจะฟักออกจากเปลือกไข่”
จากนั้นก็มองอีกสองฟอง
“สองตัวนี้สุขภาพแข็งแรงดี เธอดูสิ ปากของพวกมันกำลังพยายามจิกกินอาหารอยู่”
เล็บที่ถูกเล็มอย่างประณีตบนนิ้วเรียวยาวของไป๋โม่ซู ชี้ไปที่เปลือกไข่จุดหนึ่ง
เมื่อส่องผ่านแสงจะเห็นการจิกกินเล็กน้อยภายในนั้น
ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว หนวนหน่วนรู้สึกดีใจ เธอตั้งตารอสมาชิกที่เหลืออีกสามตัวที่ยังไม่รู้สายพันธุ์พร้อมกับหงส์น้อยสี่ตัว
หนวนหน่วนลูบไข่ทั้งสามใบแล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “พวกเธอรีบออกมาเร็ว ๆ นะ”
เพราะสิ่งแรกที่เห็นเมื่อลืมตาคือหนวนหน่วน ดังนั้นหงส์น้อยทั้งสี่ตัวจึงเกาะติดหนวนหน่วนมากผิดปกติ วันที่สองหลังจากการอบแห้งก็ถูกปล่อยออกจากตู้อบ พวกมันคอยไล่ตามหลังเด็กหญิงตัวน้อยมาติด ๆ อีกทั้งยังส่ายก้นและส่งเสียงร้องแบบเด็ก ๆ
แมวหลายตัวสนอกสนใจลูกหงส์ตัวน้อยขนปุกปุย หลังใช้อุ้งเท้าเขี่ยพวกมันเบา ๆ ก็เซไปมายืนไม่อยู่
“เหม่ยฉิว พวกเธออย่ารังแกเพื่อนตัวเล็กนะ!”
หนวนหน่วนใส่กางเกงขาสั้นวิ่งเข้ามา ดึงหูของเหม่ยฉิวแล้วอบรมด้วยน้ำเสียงแบบเด็ก ๆ จากนั้นก็ประคองเสี่ยวอีที่ถูกลากไปกับพื้นขึ้นมา
ลูกหงส์น้อยสามตัวนี้หนวนหน่วนเรียกตามลำดับการเกิดว่าเสี่ยวอี เสี่ยวเอ้อร์ เสี่ยวซาน และเสี่ยวซื่อ
พวกมันมีหน้าตาเหมือนกันทุกประการ คนอื่น ๆ แทบไม่มีใครสามารถแยกแยะได้เลย แต่หนวนหน่วนสามารถแยกแยะความแตกต่างของพวกมันได้เสมอ
น่าอัศจรรย์เช่นกัน
ในตอนบ่ายของวันถัดมา เจ้าตัวน้อยอีกสองตัวก็ฟักออกมาจากเปลือกเช่นกัน
“เอ๊ะ… นี่คือไก่เหรอ?”
“คิดว่าใช่นะ”
หลายคนเริ่มรายล้อมเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เจ้าตัวน้อยที่เพิ่งออกจากไข่ เจ้าตัวน้อยทั้งสองที่เพิ่งออกจากไข่ไม่อาจบอกได้ว่าไม่เหมือนลูกเจี๊ยบ แม้จะคล้ายกันหลายประการ เพียงแต่ร่างกายดูเหมือนจะใหญ่กว่า ไม่ใช่สีเหลืองอ่อนแบบลูกเจี๊ยบตัวเล็ก ๆ แต่เป็นสีเทา ๆ เหมือนหงส์
หนวนหน่วนลูบไล้ ‘ลูกเจี๊ยบ’ ขนปุกปุย “เจ้าลูกเจี๊ยบ ฉันจะเลี้ยงเธอด้วย”
ตัวเองเลือกมาแล้ว เธอก็ต้องเลี้ยงดูมัน!
ไป๋โม่ซู “ไม่แน่ใจว่าเป็นไก่หรือเปล่า สัตว์ที่เกิดจากไข่หลายชนิดมีลักษณะเหมือนกันตอนยังเล็ก แต่เมื่อเลี้ยงดูไประยะหนึ่งจะมีความแตกต่างเกิดขึ้น มาดูกันว่าหนวนหน่วนของเราจะเลี้ยงออกมาเป็นสัตว์อะไร”
นี่ก็คงเหมือนกับการจับกล่องสุ่ม มีอะไรให้ลุ้นเล็ก ๆ น้อย ๆ