ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 19 หนวนหน่วนกับแมว
บทที่ 19 หนวนหน่วนกับแมว
หนวนหน่วนผู้เป็นเด็กดีและอ่อนโยนนั่งกอดตุ๊กตากระต่ายได้อย่างน่ารักอย่างยากจะหาใครเปรียบ
หลี่เต๋อจู้ชำเลืองมองที่เธอ ก่อนจะคิดว่าหนูน้อยช่างเชื่อฟังและไม่จุกจิกเลย ก็ไม่แปลกใจที่ประธานกู้จะรักเธอขนาดนี้ นอกจากนี้เขาไขข้อข้องใจของตนเองแล้วด้วย เรื่องที่ว่าลูกสาวที่หายตัวไปได้กลับมาสู่ตระกูลกู้เรียบร้อยแล้ว…
ตอนนี้แล็ปท็อปย้ายไปตั้งบนโต๊ะเล็กเรียบร้อยแล้ว ด้านซ้ายมือเต็มไปด้วยจานผลไม้ที่ถูกล้างเตรียมเอาไว้เรียบร้อย องุ่นรูปร่างกลมส่งกลิ่นหอมออกมา อีกทั้งสีแดงสดของสตอเบอรี่ก็น่าดึงดูดมาก นอกจากนี้ยังมีแอปเปิลที่ถูกปลอกเป็นรูปกระต่าย รวมถึงกล้วยและส้มด้วย
เต็มไปด้วยของกินจริง ๆ เพราะถัดจากถ้วยผลไม้ก็ยังมีชานมแฮนด์เมดอีกหนึ่งถ้วย ส่วนอีกด้านมีขนมต่าง ๆ อีกมากมายวางอยู่
หนวนหน่วนกอดตุ๊กตากระต่ายไว้แน่น ใช้คางเล็กเกยอยู่บนหัวของมัน ดวงตากลมโตสดใสของเธอมองไปที่หลี่เต๋อจู้ เจ้าตัวกำลังจดบันทึกรายการเพื่อจัดทุกอย่างให้เรียบร้อยเพื่อความสะดวกสบายให้เธอ
เด็กน้อยนึกถึงคุณปู่ผู้ดูแลคฤหาสน์ เวลาหนวนหน่วนจะทานข้าว เขาจะจัดทุกอย่างให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงามเสมอ
“ขอบคุณค่ะคุณอา”
เจ้าเกี๊ยวสีน้ำนมตัวน้อยเอ่ยขอบคุณด้วยน้ำเสียงหวานละมุนเหมือนรสของนม
รอยยิ้มแสนอ่อนโยนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลี่เต๋อจู้ทันที
“คุณหนูหนวนหน่วน ถ้าต้องการอะไรอีกให้โทรหาผมได้เลยนะครับ”
พอหนวนหน่วนเด็กดีพยักหน้าลง หลี่เต๋อจู้ก็หันไปมองผู้เฒ่ากู้ “หากนายท่านใหญ่ไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ไปเถอะ ๆ ทำได้ดีมาก”
ชายชรามองไปที่หนวนหน่วนก่อนจะแสดงสีหน้าพึงพอใจออกมา
หลี่เต๋อจู้อยากจะกระโดดโลดเต้นจะแย่ที่โดนชม แต่เขาก็ทำเพียงยิ้มออกมาแล้วตีสีหน้าราบเรียบดังเดิม
คุณหนูน้อยช่างอ่อนโยนและสุภาพ รอยยิ้มหวานหยาดเยิ้ม น้ำเสียงนุ่มนวล มองอย่างไรก็น่ารักเหลือเกิน
แถมเขายังได้รับคำชมจากประธานคนเก่าอีกต่างหาก!
“คุณปู่กินกล้วยไหมคะ”
หนวนหน่วนวางกระต่ายน้อยไว้ข้าง ๆ อย่างระมัดระวัง ก่อนจะปอกกล้วยแล้วยื่นให้ผู้เฒ่ากู้
“หลานสาวของปู่น่ารักมากเลย หนวนหน่วนไม่ต้องสนใจปู่หรอก กินไปเถอะ”
“หนวนหน่วนเข้าใจแล้วค่ะ”
คนตัวเล็กพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เธอหยิบองุ่นลูกกลมเข้าปาก แก้มข้างนึงเลยพองออกมา ดวงตาดั่งจันทร์ครึ่งเสี้ยวส่องประกายสดใส ยิ่งมองยิ่งรู้สึกถึงนุ่มนิ่มน่ามอง
ผู้เฒ่ากู้รู้สึกอยากทานองุ่นขึ้นมาทันที เพราะมันดูน่าอร่อยมาก
เขาอดไม่ได้ที่จะหยิบองุ่นลูกกลมใส่ปาก
อืม… หวาน กลิ่นก็หอมละมุน
หนวนหน่วนดูการ์ตูนไปทานผลไม้ไป ไม่ลืมที่จะหยิบป้อนให้คุณปู่ไปด้วย หลังจากทานองุ่นไปได้ห้าลูก เธอก็จัดการกับสตอเบอรี่ต่ออีกหนึ่งลูก มันทั้งเปรี้ยวและหวานเข้มข้น หากเอาไปทำเป็นน้ำผลไม้จะยิ่งเข้มข้นเข้าไปอีก แค่กัดเพียงคำเดียวก็ให้ความรู้สึกหอมฟุ้งไปทั้งปาก หนวนหน่วนรู้สึกได้ถึงความหอมที่แผ่ซ่านไปทั่วตัว
“คุณปู่คะ สตอเบอรี่อันนี้ก็อร่อยค่ะ”
ชายชรารับมาแล้วทานอย่างมีความสุข จากนั้นก็ชี้ไปที่ขนมที่วางอยู่ “หนวนหน่วนลองขนมพวกนั้นด้วยสิ”
เด็กน้อยตอบรับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ได้ค่ะ”
ชายชราเคี้ยวขนม ดูการ์ตูนอย่างมีความสุข หนวนหน่วนใช้มือทั้งสองข้างยกดื่มชานมที่วางอยู่ ข้างในนั้นมีข้าวบาร์เลย์ ถั่วแดงต้มสุกผสมอยู่ เธออมมันไว้จนแก้มพองโต
เจ้าตัวเล็กกินเก่งมาก หลังจากนั้นไม่นานก็รู้สึกว่าท้องเริ่มอิ่ม
ผู้เฒ่ากู้ลุกขึ้นยืนยืดเส้นสาย “อีกนานเลยกว่าพ่อของหลานจะประชุมเสร็จ ถ้าหนวนหน่วนกินอิ่มแล้วเดี๋ยวปู่พาไปเดินเล่นดีไหม?”
หนวนหน่วนพยักหน้าขึ้นลง เธออุ้มตุ๊กตากระต่ายสีชมพูขึ้นมาจากเก้าอี้ เดินไปหาชายชราด้วยขาสั้น ๆ ของตนแล้วจับมือของเขาไว้
หลี่เต๋อจู้ได้รับคำสั่งมาว่างานของเขาในวันนี้คือการดูแลชายชราและหนวนหน่วน เมื่อเห็นทั้งสองเดินออกมาจากห้อง เขาก็รีบเดินเข้ามาหาทันที
“นายท่านใหญ่ ต้องการอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่าครับ?”
ผู้เฒ่ากู้พูดอย่างร่าเริงด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ฉันจะพาหลานสาวตัวน้อยออกไปเดินเล่นเสียหน่อย แกไปทำความสะอาดในออฟฟิศให้เรียบร้อยไป”
“ครับ”
เขาขอให้เลขาช่วยทำความสะอาด และตามทั้งสองคนไปเพื่ออำนวยความสะดวก
บริษัทนี้ใหญ่มาก ชายชราไม่ได้มาที่นี่เป็นเวลานานมากแล้ว ดังนั้นพนักงานใหม่ ๆ อาจไม่รู้จักเขา เนื่องจากผู้บริการอาวุโสต่างก็เข้าร่วมการประชุมกันหมด มีเพียงหลี่เต๋อจู้เท่านั้นที่คอยเดินติดตามพวกเขา ทำให้คาดเดาได้ไม่ยากว่าสองคนนี้เป็นใคร
เมี๊ยว~
เมื่อเดินไปได้เรื่อย ๆ เสียงแมวเหมียวร้องเบา ๆ ก็ดึงดูดความสนใจหนวนหน่วนทันที
เธอจับมือคุณปู่แน่นราวกับว่ากลัวตัวเองจะหลงทาง พอมีแมวเหมียวปรากฏขึ้นมา เธอก็รู้สึกผ่อนคลายทันที
“แมวเหรอ?”
หนวนหน่วนมองหลี่เต๋อจู้ด้วยความสงสัย
หลี่เต๋อจู้เหลือบมองแมวที่มีสายจูงก่อนจะยกยิ้ม “นั่นคือฝ่ายพัฒนา ปกติแล้วข้างในจะมีกลุ่มโปรแกรมเมอร์อยู่ เพราะว่าอาชีพนี้ค่อนข้างเจอปัญหาเยอะ ทั้งเครียดและกดดัน บางคนผมร่วงจนหัวล้านเลยนะ ประธานกู้เลยสร้างห้องนี้ขึ้นมา พวกเขาจะได้คลายเครียด ห้องนี้เป็นห้องสำหรับสัตว์เลี้ยงเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ สามารถนำสัตว์เลี้ยงมาที่นี่ได้ ถ้าที่พวกเขางานยุ่งก็ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงเล่นอยู่ในห้องนี้ พอเวลาพักก็มาให้อาหารพวกมันและพักผ่อนที่นี่ได้”
นอกจากนี้ยังมีห้องพิเศษเตรียมไว้เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงกัดหรือต่อสู้กัน เพราะมันจะรบกวนการทำงานได้
เจ้าเหมียวที่ออกมาเมื่อครู่เห็นได้ชัดว่าเป็นของพนักงานที่ทำงานมานานแล้ว
เมื่อได้ฟังคำอธิบายของหลี่เต๋อจู้ หนวนหน่วนก็หัวเราะออกมา ดวงตาของเธออ่อนโยนมากเวลามองแมวตัวนั้น
เธอคุกเข่าลง กวักมือเรียกเจ้าแมวเหมียวที่ยืนอยู่ตรงนั้นให้เข้ามาหา
“เหมียวเหมียว มานี่มา”
เสียงของเธอแผ่วเบาอย่างกับเสียงร้องของแมว ใครฟังแล้วอาจหัวใจระทวยได้
“เมี๊ยว?”
เจ้าแมวที่มีเชือกจูงเนื้อตัวสะอาดสะอ้านเอียงหัวปุกปุยแล้วส่งเสียงร้องเบา ๆ ออกมา
หนวนหน่วนเอียงศีรษะ ส่งสายตาไปที่เจ้าลูกแมวแล้วร้องเหมียว ๆ ออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา ช่างน่ารักเหลือเกิน
หลี่เต๋อจู้พยายามหักห้ามมือของตนเองไม่ให้ลูบหัวของหนวนหน่วน
เจ้าเหมียวขนปุกปุยจ้องมองหนวนหน่วน ก่อนจะเดินมาหาเธอด้วยท่าทางสง่างาม
โดยปกติแล้วแมวแร็กดอลล์เป็นสัตว์ที่ค่อนข้างเชื่องและขี้อ้อนมาก ทันทีที่มันเดินมาถึงด้านข้างของหนวนหน่วนก็เอียงหัวปุกปุยมาถูกับฝ่ามือของเธอทันที มันใช้หางปุกปุยนั่นพันรอบข้อขา ในขณะที่หัวคลอเคลียกับนิ้วมือของเธออยู่
แม้ว่ามันจะขี้อ้อน แต่กับคนแปลกหน้าก็ยากที่จะเข้าถึงนะ!
หลี่เต๋อจู้แอบคิดในใจ เจ้าแมวเหมียวตัวนี้ตอนแรกก็คงเฉย ๆ แต่พอได้ยินเสียงร้องเหมียวนุ่ม ๆ ของหนวนหน่วนก็คงทนไม่ไหวเหมือนเขาเหมือนกัน