ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 179 การอวยพรตรุษจีน
บทที่ 179 การอวยพรตรุษจีน
เช้าวันรุ่งขึ้น ไป๋อันหรานก็ยุ่งอยู่กับการดึงลูกชายคนโตและลูกชายคนรองให้ลุกขึ้นและสวมเสื้อกันหนาวตามเทศกาลให้
กู้หนานไม่มีความอยากใส่เลยสักนิด
วันนี้เป็นวันออกเยี่ยมบ้านต่าง ๆ เพื่ออวยพรปีใหม่ และในช่วงไม่กี่วันมานี้ก็ได้ออกไปเยี่ยมญาติจากทุกสารทิศโดยที่หนวนหน่วนและกู้อันเองก็มีหน้าที่เดิม นั่นก็คือกล่าวคำอวยพรและรับอั่งเปา
ไม่ว่าจะเป็นญาติหรือเพื่อนที่ผู้เฒ่ากู้รู้จัก รวมถึงญาติและเพื่อนของคุณพ่อคุณแม่ด้วย
หนวนหน่วนรู้สึกได้ว่าใบหน้าเล็กพอง ๆ ของเธอถูกบีบอย่างต่อเนื่อง เด็กหญิงอดไม่ได้ที่จะครุ่นคิด
“ทำไมทุกคนถึงชอบหยิกแก้มหนวนหน่วนกันจังคะ”
เธอยกมือจับใบหน้าของตัวเองอย่างเป็นทุกข์
ในวันนี้คุณพ่อและคุณแม่พาเธอมาที่บ้านของเสินอวี้จิ่น
เสินอวี้จิ่นเดินมาเปิดประตูหน้าบ้าน เมื่อเขาเห็นกู้หนานสวมเสื้อสีแดงแปร๊ดก็ต้องตกตะลึงไปประมาณห้าวินาที
และหลังจากนั้น…
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ”
เสียงหัวเราะดังลั่นสนั่นไปทั่วบ้านตระกูลเสิน
กู้หนานสะบัดหน้าหนี ดวงตาของเขาเหมือนไม่ได้แยแสอะไร แต่หารู้ไม่ว่ามีความอาฆาตอยู่ในนั้น
เสินอวี้จิ่นหัวเราะจนตัวงอ “ไม่ใช่นะ… ไม่ได้หัวเราะนาย ก็แค่… ไม่เคยเห็นนายใส่อะไรแบบนี้ ใส่แล้ววัยรุ่นขึ้นเป็นกอง เหมือนกับเปลี่ยนจากวัยกลางคนมาเป็นนักศึกษาในชั่วพริบตาเลยรู้ไหม ว้าว… นึกว่านายมีลูกชายหน้าเหมือนกันเป๊ะซะอีก”
ทันทีที่เขาพูดจบ กู้หนานก็มองเขาด้วยสีหน้าว่างเปล่า ก่อนจะกระแทกท้องของเขาอย่างจัง เสินอวี้จิ่นจึงล้มตัวงอเพราะความเจ็บ
คุณพ่อคุณแม่ของเสินอวี้จิ่นที่มองเห็นสถานการณ์กลับไม่ได้ว่าอะไรกู้หนานเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากว่าทั้งสองเติบโตและเป็นเพื่อนเล่นมาด้วยกัน ปกติแล้วเขาก็ชอบโดนกู้หนานทุบเพราะปากเสีย ทั้งสองจึงคุ้นเคยกับเหตุการณ์แบบนี้เป็นอย่างดี
แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ได้เจอกันน้อยมาก การได้มาเห็นเจ้าลูกชายตัวดีโดนกู้หนานจัดการอีกครั้งนั้นก็ชวนให้พวกเขานึกถึงวันวานขึ้นมา
“อันหรานมาด้วยเหรอ เข้ามาก่อนเร็ว นี่พวกเขาใส่เสื้อแบบเดียวกันหมดเลยเหรอเนี่ย? ความคิดดีจัง! หนวนหน่วนยิ่งใส่สีแดงแล้วน่ารักกว่าเดิมอีกนะ”
ไป๋อันหรานจับมือคุณแม่เสินผู้มีมิตรภาพอันดีงามต่อกันแล้วยกยิ้มให้
“ใช่ไหมล่ะ ความคิดฉันเองละ พี่ชายน้องสาวดูมีชีวิตชีวาขึ้นเลยใช่ไหมคะ มีก็แต่เจ้ากู้หนานเนี่ยแหละที่ไม่เต็มใจเท่าไหร่ หนวนหน่วนมานี่สิ นี่คุณพ่อคุณแม่พี่เสินอวี้จิ่น”
ไป๋อันหรานเรียกเด็กน้อยเข้าไปหา
“สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณลุง คุณป้า”
หนวนหน่วนทักทายทั้งสองคนอย่างสุภาพเรียบร้อย น้ำเสียงออดอ้อนนุ่มละมุน ประกอบกับความนุ่มนิ่มและผิวพรรณที่ขาวสะอาดดุจดั่งหยกแกะสลักของเธอ แล้วใครกันจะไม่ชอบเธอได้
คุณแม่เสินใจระทวยแทบทนไม่ไหว เธอมีเพียงเสินอวี้จิ่นเป็นลูกชายเพียงคนเดียวเท่านั้น และเมื่อได้เห็นและได้ยินท่าทางการกระทำของหนวนหน่วนเธอก็คิดอยากมีลูกสาวขึ้นมาทันที
หนวนหน่วนได้รับการต้อนรับจากพวกเขาอย่างอบอุ่น จากนั้นเด็กน้อยทั้งสองก็ได้รับอั่งเปาซองหนาจำนวนหนึ่ง
ไม่กี่วันที่ผ่านมาก็ได้วิ่งวุ่นไปบ้านญาติโดยทั่ว ทำเอาหนวนหน่วนรู้สึกได้ว่าไขมันบริเวณขาสั้น ๆ ของเธอดูลดลงเรื่อย ๆ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็สนุกดีที่ได้รับเงินมาทุกครั้ง
และแน่นอนว่า นอกจากพวกเขาจะไปบ้านของคนอื่นแล้วก็ยังมีคนอื่นที่มาบ้านพวกเขาเช่นกัน ดังนั้นมันจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอคนที่ไม่ถูกชะตา
ครอบครัวของกู้หว่านก็ยังแบกหน้ามาสวัสดีปีใหม่ได้ หลังจากสูญเสียครั้งใหญ่ ในที่สุดหญิงชราก็ตระหนักได้ว่าสิ่งใดดีหรือไม่ดี เธอจึงไม่ทำตัวร้ายกาจต่อหน้าพวกเขาอีก นอกจากนี้ใบหน้าของเธอยังเต็มไปด้วยความเอ็นดู ทั้งพยายามประจบซ้ายขวาหนวนหน่วนด้วย และนี่เป็นครั้งแรกที่หญิงชราให้อั่งเปาก้อนโตกับหนวนหน่วน
แต่แน่นอนว่า สีหน้าของเธอที่มอบอั่งเปาก้อนโตนั้นหลบสายตาของกู้หนานและคนอื่น ๆ ไม่พ้นอยู่ดี หญิงชราดูเจ็บปวดและกระอักกระอ่วนมากในขณะที่ยื่นซองสีแดงนั้นมาให้ แต่ก็แค่แวบเดียวเท่านั้น ยังดีที่เธอไม่แสดงสีหน้ารังเกียจออกมาเหมือนครั้งก่อน
อาจเป็นเพราะนิสัยที่หยิ่งยโส แต่ถึงจะซ่อนมันได้ในตอนนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา
หนวนหน่วนเองก็สัมผัสได้ถึงความอาฆาตพยาบาทของเธอเช่นกัน ดังนั้นจึงปักใจให้ชื่นชอบหญิงชราคนนี้ไม่ได้จริง ๆ
เด็กหญิงซ่อนตัวอยู่หลังพี่ชายคนโต ก่อนจะถูกพี่รองอุ้มขึ้นมา
แล้วเธอก็ได้รับคำชมจากหญิงชราผู้นั้น “ไอหยา ไม่เห็นหนวนหน่วนมาตั้งนานเลย สวยขึ้นนะเนี่ย ฉันเป็นคุณย่าใหญ่ของหนูไง ทำไมทำเป็นไม่รู้จักกันล่ะ? ก็เคยเห็นกันอยู่นี่ มา ๆ นี่อั่งเปาซองแดง”
กู้อันกลอกตาใส่ แต่ก็เดินเข้าไปหยิบอั่งเปามาแล้วฉีกยิ้มจนเห็นฟันเรียงสวย
“ขอบคุณครับคุณย่าใหญ่ ผมช่วยรับแทนน้องสาวเอง”
หลังจากนั้นสีหน้าของหญิงชราก็ดูทุกข์ใจขึ้นมา กู้อันยิ้มร่าอย่างมีความสุข เขาตั้งใจเปิดซองแดงต่อหน้าทุกคนแล้วนับเงินทีละใบ และแล้วทุกคนก็ต้องตกใจกับน้ำเสียงที่โอเวอร์เกินจริง
“ว้าว… ปีนี้คุณย่าใหญ่ใจดีจัง ให้อั่งเปาตั้งเกือบพันใบกับน้องสาวเลยมั้งเนี่ย? ทั้งที่เคยใส่ให้แค่สองร้อยแท้ ๆ”
หญิงชราชะงัก ใบหน้าตึงขึ้นทันที แต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าต้องญาติดีกับตระกูลกู้เข้าไว้ในช่วงเวลาแบบนี้ เธอเข้าใจดีว่าตนไม่สามารถให้อะไรครอบครัวนี้ได้เลย อีกทั้งยังขุ่นเคืองที่พวกเขาไล่ตนกลับไปอยู่บ้านเกิด
เธอพยายามรักษาสีหน้าเอาไว้ให้ถึงที่สุดพลางยกยิ้มให้กู้อัน
หญิงชราไม่ยโสโอหังและพูดจาเหน็บแนมเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป กู้อันรู้สึกสะใจมาก เขารีบยื่นซองอั่งเปาให้กับหนวนหน่วน
“รับไปสิ ยังไงพี่ก็ได้จากคุณพ่อตั้งสามใบอยู่แล้ว เมื่อก่อนพี่เป็นคนเดียวที่ได้รับอั่งเปาจากคุณย่า แต่กลับได้แค่สองร้อยเอง เทียบกับที่คุณพ่อให้คนละพันแล้วต่างกันสุด ๆ”
เขาชักจะกังวลใจว่าคุณพ่อจะให้อั่งเปาลดลง
หญิงชรา “…กู้อัน ทำไมถึงพูดกับญาติผู้ใหญ่แบบนั้น”
ท้ายที่สุดแล้วเธอก็เป็นคนที่ยโสโอหัง เมื่อความอดทนมาถึงขีดจำกัด และโดนเด็กน้อยเหยียดหยามก็ทนไม่ได้ที่จะทำตัวเป็นผู้อาวุโสแสนดีอีกต่อไป
กู้เป่ยตีน้องชายของเขาเบา ๆ ก่อนจะยิ้มแล้วเอ่ยขอโทษหญิงชรา “ต้องขอโทษด้วยครับคุณย่า กู้อันยังเด็กเลยพูดตรงเกินไปหน่อย”
สีหน้าของหญิงชราทะมึนตึงมากกว่าเดิม หมายความว่ายังไงที่บอกว่าพูดตรง!
หญิงชราโกรธจนรู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมา
กู้หนานโทรหาหนานเฟิงทันที “เตรียมหมอประจำตระกูลไว้หน่อย”
อย่าแม้แต่คิดจะล้มลงไปเชียว
ไป๋อันหรานกลั้นขำแทบไม่ไหว เธอซบเข้าที่ไหล่ของสามีพลางกลั้นหัวเราะจนตัวสั่น
ฮ่า ๆ ๆ หญิงชราผู้ยโสโอหังโกรธลูกชายของเธอจนหน้ายับหมดแล้ว ตลกชะมัดเลย!
“อะแฮ่ม”
ผู้เฒ่ากู้กระแอมไอขึ้น ทำให้หลานชายคนแรกและคนรองหันมองไปที่เขาทันที ถึงอย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งทะเลาะกันให้เรื่องบานปลายไปมากกว่านี้เลย พวกเขาคงมีเรื่องให้ต้องพึ่งพาตระกูลของเราอีกนั่นแหละ
กู้หว่านที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยรอยยิ้มแข็งทื่อบนใบหน้ากำลังจับแขนของตัวเองแน่น ปีนี้การมาที่นี่เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดเลย
ถึงแม้ว่ากู้หนานจะไม่ค่อยชอบครอบครัวเธอ แต่ถึงอย่างนั้นที่ผ่านมาเขาก็ทำเพียงท่าทีนิ่งเฉยแล้วปล่อยผ่าน แต่ปีนี้…
กู้หว่านกัดริมฝีปากของตัวเองแน่นพลางจับจ้องไปยังหนวนหน่วนที่ถูกกู้เป่ยอุ้มอยู่
ก่อนที่เด็กสาวจะปรายสายตามองไปทางอื่นก็พบเข้ากับสายตาของกู้หนานที่มองมาอย่างเยือกเย็นซะก่อน พลันใบหน้าเธอก็ถอดสีด้วยความตกใจขึ้นมาทันที
กู้หว่านยังจำคำเตือนของกู้หนานที่งานวันเกิดของหนวนหน่วนได้ ไม่นานใบหน้าเธอก็ซีดลงกว่าเดิม
ทุกอย่างเป็นเพราะกู้หนวนหน่วน เด็กคนนี้ต้องใส่ร้ายเธอต่อหน้าพี่กู้หนานและทุก ๆ คนอย่างแน่นอน ดูที่ทำตัวร้ายกาจและน่ารังเกียจตั้งแต่อายุยังน้อยเข้าสิ! แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังปกป้องเธอราวกับเป็นสมบัติล้ำค่าอยู่ได้ ตาบอดกันหรือไง?!
อย่าทำร้ายคนที่หวังดีกับเธอเลย เพราะในวันนี้คุณย่าแค่มาอวยพรวันปีใหม่เท่านั้น หากเป็นในวันปกติคงหลีกเลี่ยงได้ แต่ในช่วงตรุษจีนนี้มันเป็นสิ่งที่เลี่ยงกันไม่ได้เลย
หญิงชรารีบเก็บสีหน้าของตัวเองไว้ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ใกล้ ๆ กับผู้เฒ่ากู้ เธอเริ่มแสดงความรักให้กู้หลินโม่กับไป๋อันหราน ในขณะที่กู้หลิงกำลังจ้องมองอาหารบนโต๊ะแล้วรีบกวาดอาหารใส่กระเป๋า
เด็กหญิงไม่ได้เห็นของดี ๆ แบบนี้ที่บ้านมานานแล้ว อีกทั้งตอนนี้คุณย่าและคนอื่น ๆ ที่บ้านก็ไม่ได้เลี้ยงดูและปฏิบัติกับเธอเหมือนเมื่อก่อน อีกทั้งยังได้ยินเรื่องที่ผู้ใหญ่พูดคุยกันด้วยว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะหนวนหน่วน ทำให้เธอเองก็ไม่ชอบหนวนหน่วนเช่นกัน เธอยังคอยกล่าวโทษหนวนหน่วนอยู่บ่อยครั้งด้วยความคับแค้นใจ
แต่กู้หลิงก็กลัวกู้หนานและคนอื่น ๆ มากจึงทำได้เพียงปรายสายตาโกรธแค้นมองไปที่สาวน้อยอยู่เป็นครั้งคราว
“หนวนหน่วนพวกพี่มาแล้ว”
เสียงของไป๋โม่ฮัวดังมาจากข้างนอก หลังจากนั้นไม่นาน ชายหนุ่มรูปลักษณ์สะอาดสะอ้านสวมเสื้อสีแดงตัวเดิมก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับตุ๊กตากวางในมือ
“ให้หนวนหน่วนเลย พี่ซื้อมาจากเมือง A สวยไหม เห็นตามันแล้วคิดถึงเธอน่ะเลยซื้อมา”
เจ้าตุ๊กตากวางสวยงามเหมือนจริงมาก ดวงตาของมันกลมโตและดูมีชีวิตชีวาคล้ายกับของหนวนหน่วนจริง ๆ
หลังจากที่ไป๋โม่ฮัวเดินเข้ามา ไป๋โม่ซูก็ตามเข้ามาติด ๆ เขาเปลี่ยนจากเสื้อกันหนาวสีแดงเป็นเสื้อผ้าปกติ ทำให้เขาดูเย็นชาและสง่างามราวกับหยกแกะสลัก
กู้หว่านจับจ้องไปที่เขาอย่างล่องลอย หัวใจเด็กสาวเต้นแรงแปลก ๆ นัยน์ตาของเธอสะท้อนภาพของชายหนุ่มผู้ซึ่งดูเหมือนเทพบุตรออกมาอย่างชัดเจน