ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 174 เตรียมของฉลองปีใหม่
บทที่ 174 เตรียมของฉลองปีใหม่
กู้เป่ยอุ้มหนวนหน่วนตัวนุ่มพร้อมใบหน้ายิ้มร่า น้องสาวเด็กกว่าตนมากแต่เฉลียวฉลาด เขาและพี่ใหญ่จึงเลี้ยงดูเธอเสมือนลูกสาวไปแล้ว
หากพวกเขาสามารถให้อะไรได้ แน่นอนว่าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้น้องสาว
ชายหนุ่มต้องการสร้างโลกใต้ดินที่รวมพืชพันธุ์จากโลกและภูมิภาคต่าง ๆ มันเป็นโครงการขนาดมหึมาและทำได้ยากมาก โชคดีที่อุปกรณ์ที่กู้เป่ยนำกลับมานั้นทันสมัยเป็นพิเศษ สามารถเลียนแบบสภาพแวดล้อมที่พืชแต่ละชนิดต้องการได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ในระยะแรกจำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก แต่ในระยะหลังเมื่อพืชเติบโตขึ้นที่นี่แล้ว อุปกรณ์เหล่านี้จะได้รับพลังงานที่สะสมอยู่ในพืชโดยอัตโนมัติเพื่อเป็นการรักษาพลังงาน จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นพลังงานหมุนเวียนที่เป็นผลดีกับทั้งพืชพันธุ์และเครื่องจักร
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาหนวนหน่วนกลายเป็นเงาตามตัวของกู้เป่ยโดยสมบูรณ์ เธอเอาแต่ติดตามเขาไปทำงานในห้องใต้ดิน
การเกาะติดเหนียวหนึบนี้ทำให้กู้เป่ยถูกอิจฉา สายตาที่กู้หลินโม่มองกู้เป่ยมีความขัดเคืองซ่อนอยู่ในใจ
กู้เป่ยรองรับสายตาจากพ่อและพี่ใหญ่ไปพลาง เพลิดเพลินกับการเกาะติดของน้องสาวไปพลาง นี่ละนะที่เรียกว่าสุขทุกข์ปนกันไป
จนกระทั่งในตอนบ่าย เขาถูกเรียกไปที่ห้องหนังสือ จากนั้นทุกคนก็เริ่มเล่าเรื่องเหลียงฉือให้เขาฟัง
หากยังหาคนคนนี้ไม่เจอก็จะเป็นตัวอันตรายที่ซ่อนเร้นอยู่เสมอ
“ตำรวจพบศพถูกสังหารโหดในอาคารทรงกระบอกเขตตะวันออก”
ไป๋โม่ซูใช้คอมพิวเตอร์แสดงสถานะของผู้ตายให้ทุกคนดู
“ผู้ตายจางเหวินฟาถูกแขวนกลับหัวในบ้าน มีกระดาษกาวปิดปากอยู่ ตามร่างกายมีรอยมีดกรีดนับร้อยแผล แต่ละแผลไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต เขาถูกแขวนอยู่สามวันสามคืน ถูกทรมานอย่างเจ็บปวดเป็นเวลาสองวัน เสียชีวิตในวันที่สาม”
“แน่ใจเหรอว่าเหลียงฉือเป็นคนฆ่า? ทำไมเขาถึงดูไม่ใช่คนเดิมเลย?”
แม้ว่าในอดีตวิธีการของเหลียงฉือจะนุ่มนวลและใช้เวลานานกว่านี้ แต่ขอบเขตความเป็นภัยก็กว้างมาก อีกทั้งยังมีความเกี่ยวข้องกับผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก
แต่คราวนี้ดูเหมือนว่าเขาจะลงมือเอง แถมยังใช้วิธีที่โหดร้ายแบบนี้อีกด้วย
ไป๋โม่ซูพยักหน้า “กล้องวงจรปิดจับภาพเงาร่างของเขาไว้ได้ เขาจงใจ จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า จางเหวินฟาน่าจะยังมีลูกชายอีกหนึ่งคน แต่ทางตำรวจหาไม่พบ ภรรยาของเขาเสียชีวิตไปเมื่อเจ็ดวันก่อน หลังจากผ่านการชันสูตรศพก็พบว่าภรรยาของเขากระดูกหักหลายจุด มีร่องรอยถูกทุบตีเป็นเวลานาน จางเหวินฟาไม่เพียงแต่ดื่มเหล้าเล่นการพนันเท่านั้น ยังใช้ความรุนแรงในครอบครัว ไม่ใช่แค่กับภรรยา แต่กับลูกชายด้วย”
กู้หลินโม่ขมวดคิ้ว “ครอบครัวนี้เหมือนเป็นสำเนาของเหลียงฉือ”
ไม่ยากที่จะอธิบายว่าทำไมเหลียงฉือถึงสังหารโหดจางเหวินฟา มีความเป็นไปได้สูงว่าตอนนี้ลูกชายของจางเหวินฟาอยู่ในมือของเหลียงฉือ
ตำรวจกำลังพยายามตามจับกุมเหลียงฉืออย่างเต็มที่ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ในสังคมปัจจุบันที่ปกครองด้วยกฎหมาย หากเหลียงฉือถูกจับ ชีวิตเขาต้องจบลง
กู้เป่ยนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจู่ ๆ ก็พูดขึ้น “ผมมีวิธีติดตามตัวเขา”
เหลียงฉือเป็นเหมือนระเบิดเวลา ทั้งสังคมนี้และตระกูลกู้ของพวกเขา
พวกเขาไม่อาจทิ้งตัวอันตรายที่ซ่อนเร้นอยู่ได้
กู้เป่ยมอบแฟลชไดรฟ์ให้กับกู้หนาน จากนั้นก็ไม่สนใจเรื่องนี้อีก เขาไปยุ่งกับโลกพฤกษศาสตร์ที่จะทำให้หนวนหน่วนแทน
ใกล้ถึงเดือนสิบสองแล้ว ทุกที่เต็มไปด้วยบรรยากาศการฉลองปีใหม่ ไฟบนท้องถนนศิลปะถักเชือกจีนและสิ่งของสีแดงที่เกี่ยวข้องกับการฉลองปีใหม่แขวนอยู่
หนวนหน่วนแต่งตัวอย่างมิดชิดเช่นกัน เหมือนเด็กน้อยจ่ำม่ำตามแม่ออกไปข้างนอกเพื่อซื้อของฉลองปีใหม่ คราวนี้พิเศษเพราะมีพี่ชายอย่างกู้หมิงหลี่และกู้อันออกมาด้วยกันเนื่องในวันหยุด
ทั้งหมดไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้าอย่างครึกครื้น
“พี่ก็ต้องใส่ชุดแดงด้วยค่ะ”
เด็กหญิงชี้ไปที่เสื้อผ้าเฉลิมฉลองพลางมองบรรดาพี่ชายของตัวเองด้วยรอยยิ้ม
กู้หมิงหลี่มีสีหน้ารังเกียจ “ไม่เอา”
เธอจึงมองไปที่ไป๋โม่ฮัว “พี่ไม่ไปลองดูหน่อยเหรอคะ?”
ไป๋โม่ฮัวส่ายหัว “พี่ก็ไม่เอาเหมือนกัน ทำไมพี่ต้องไปด้วย”
กู้อันโอ้อวดตัวเอง “ถึงพี่จะใส่อะไรก็ดูดี แต่พี่ไม่ชอบ ไม่เห็นสวยเลย”
ส่วนกู้หมิงอวี๋แหวกเสื้อขนเป็ดของตนออก เผยให้เห็นเสื้อไหมพรมสีแดงข้างใน
พูดตามตรง หากไม่มีเสื้อตัวในสวย ๆ เขาก็ทนดูสีสันเฉลิมฉลองแบบนี้ไม่ได้จริง ๆ
แม้ว่ากู้หมิงหลี่จะสวมเสื้อไหมพรมสีแดง แต่ก็ใส่แล้วเหมือนนายแบบ ดูมีเสน่ห์เป็นพิเศษ ขับผิวของเขาให้ขาวและดูดีขึ้นอีกด้วย
ในขณะนี้เขาสวมแมสก์ แหวกเสื้อขนเป็ดออกพลางนั่งยองลงแล้วรวบเด็กหญิงเข้ามาไว้ในเสื้อของตัวเอง
“เจ้าก้อนกลมมากอดให้อุ่นหน่อย”
“หนูไม่ได้กลมนะ!” หนวนหน่วนแย้ง
ใบหน้าน้อย ๆ งอนตุ๊บป่อง เหมือนหนูแฮมสเตอร์ที่กำลังโกรธร้องจี๊ด ๆ อย่างเกรี้ยวกราด เพียงชั่วพริบตาก็อาจถูกคนบีบไว้
หนวนหน่วนหมุนศีรษะน้อย ๆ รอบหนึ่ง “เอ๊ะ? พี่รองล่ะคะ?”
ไป๋อันหรานชี้ไปข้างในร้านขายเสื้อผ้า
เมื่อทุกคนมองออกไปก็พบว่ากู้เป่ยกำลังถือถุงช็อปปิงหลายใบจ่ายเงินอยู่ ส่วนเสื้อผ้าเฉลิมฉลองสีแดงหลายตัวที่แขวนอยู่ในร้านหายไปแล้ว
ทุกคน “…”
นี่ละสายตาไปแป๊บเดียวหมอนี่ซื้อเสื้อผ้าเสร็จหมดแล้วเรอะ!
กู้เป่ยเดินออกมาในขณะที่พนักงานร้านยิ้มเบิกบานพร้อมกับถุงช็อปปิงในมือ
“ไม่ต้องเถียงกัน ได้ทุกคน”
กู้หมิงหลี่ยืนกรานปฏิเสธ เขาไม่อยากใส่สีแดง ใส่ออกมาดูเก้งก้างแน่ ๆ!
ไป๋อันหรานเคาะตัดสินใจ “กลับไปฉลองปีใหม่ทุกคนต้องใส่!”
จากนั้นบอดีการ์ดก็นำเสื้อผ้าใส่รถ เดินไปพลางกดหูฟังของตัวเองไปด้วย
“รีบเปลี่ยนเป็นรถที่มีความจุเยอะ ๆ มา!”
ถือว่าพวกเขาได้เห็นความสามารถในการช็อปปิงของคุณชายรองตระกูลกู้แล้วจริง ๆ เคยดูแลบ้านได้ฉลาดเฉียบแหลมขนาดนั้น ทำไมถึงกลายเป็นลูกล้างลูกผลาญไปได้!
ทั้งครอบครัวได้ขนสิ่งของทุกชนิดที่ใช้ในช่วงฉลองปีใหม่เข้าบ้านเหมือนหนูแฮมสเตอร์ อันที่จริงของพวกนี้แค่ยกหูกริ๊งเดียวก็มีคนมาส่งแล้ว แต่ทำแบบนั้นมันจะไม่ได้อรรถรส
ไม่ง่ายเลยที่บ้านจะคึกคักในปีนี้ แน่นอนว่าต้องเตรียมการด้วยตัวเองสิถึงจะได้รู้สึกถึงการฉลองปีใหม่
พอซื้อของได้เกือบหมดก็มาถึงวันฉลองปีใหม่แล้ว ทุกคนยุ่งกันแต่เช้า ทั้งแขวนโคมไฟ ติดกลอนคู่ เตรียมอาหารฉลองปีใหม่ แม้แต่กู้หนานและพ่อของเขาก็ ‘หยุดงาน’ มา
ไป๋โม่ซูและไป๋โม่ฮัวยิ่งดีใหญ่ รับพ่อแม่ของตัวเองมาที่นี่เพื่อฉลองปีใหม่ด้วยกัน
แต่แบบนี้กำลังดี ทั้งครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า ครึกครื้นสนุกสนานมากเหลือเกิน
ในวันฉลองปีใหม่นี้ หนวนหน่วนวิ่งไปทั่วเหมือนเป็นเงาตามตัว บ้างก็ส่งกระดาษมงคล บ้างก็ส่งกลอนคู่ ส่วนต้าหวงส่งเสียงร้องหงิง ๆ วนรอบตัวเธอ
กลับกันกู้อันเหมือนเป็นตัวถ่วงมากกว่าตัวช่วย คนในบ้านไม่แยแสสักนิด
“กู้อัน! ไปจูงหมาเล่นกับน้องไป!”
กู้อันทำฮึดฮัด “ไม่มีผมคอยช่วยแล้วทุกคนจะเสียใจ!”
แต่เขากลับมีความสุขมากกว่าที่ได้พาสุนัขไปเดินเล่นกับน้องสาว
หนวนหน่วนสวมเสื้อผ้าหนา ตามด้วยผ้าพันคอ หมวกและถุงมือ จากนั้นก็ยื่นสายจูงต้าหวงให้พี่ชายตัวน้อย
เด็กหญิงยิ้มหวาน “พี่จูงต้าหวง หนูถือเจ้าก้อนถ่าน”
พวกเขายังเล็กช่วยอะไรไม่ได้มากจึงพาต้าหวงออกไปเดินเล่น ไม่อย่างนั้นเจ้าหมานี่จะก่อความวุ่นวายอีก
เด็กสองคนจูงต้าหวงและแมวอีกสองสามตัว ใต้หมวกยังมีนกอีกตัวหนึ่งซ่อนอยู่
หนวนหน่วนออกไปพร้อมกับกระเป๋าเป้ใบน้อย ในกระเป๋าใบน้อยของเธอมีอาหารสำหรับหมาแมว แล้วยังมีขนมของตัวเองด้วย…
“ลูกอมค่ะพี่”
เด็กหญิงหยิบลูกอมออกมาจากกระเป๋าอย่างคล่องแคล่ว
“ให้พี่เม็ดเดียวเองเหรอ?”
“แล้วพี่จะเอากี่เม็ดล่ะ? พี่ใหญ่บอกว่าห้ามกินเยอะ เดี๋ยวปวดฟัน”
กู้อันตอบว่า “พี่ไม่กลัว ฟันแท้พี่ขึ้นแล้ว”
หนวนหน่วนมองพี่ชายตัวน้อยตาเป็นประกาย ถามน้ำเสียงออดอ้อน “ตอนพี่ฟันแท้ขึ้นไม่เจ็บเลยเหรอ?”
กู้อันคุยโว “ใช่แล้ว ฟันที่หลุดออกคือฟันที่หักง่าย ส่วนพวกฟันที่หักไม่ง่ายก็ยังพอเคี้ยวได้”
“ว้าว เมื่อไหร่หนวนหน่วนจะได้มีฟันแท้บ้าง? ตอนฟันขึ้นพี่เจ็บไหม?”
กู้อันตอบว่า “ไม่เจ็บเลยสักนิด!”
เด็กชายลืมไปเสียสนิทว่าตอนฟันแท้ขึ้นครั้งแรก เลือดกบปากจนนึกว่าตัวเองกำลังจะตาย ต้องร้องไห้ถามแม่ว่าตนต้องเขียนจดหมายลาตายหรือเปล่า