ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 168 ความอ่อนโยนของพวกพี่ชาย
บทที่ 168 ความอ่อนโยนของพวกพี่ชาย
ผ้าพันคอลอยลงมาจากบนฟากฟ้า ก่อนจะโอบล้อมรอบคอและบดบังใบหน้าซีกล่างของเด็กหญิง ไม่นานเสียงอันเย็นชาแสนคุ้นเคยก็ดังตามมาพร้อมกับสัมผัสอันอ่อนโยน ซึ่งคนที่ทำแบบนี้คือพี่ใหญ่นั่นเอง
“ออกไปเล่นข้างนอกก็อย่าลืมสวมผ้าพันคอ หมวก แล้วก็ถุงมือด้วย”
หนวนหน่วนคว้าผ้าพันคอของเธอด้วยมือขาวเรียวบาง จากนั้นก็ผงกศีรษะที่มีหมวกใบเล็กที่พี่สามกู้หมิงอวี๋เป็นคนสวมให้ เขายังจัดแต่งทรงผมให้เธอด้วย
หลังจากสวมหมวกแล้ว ใบหน้าของหนวนหน่วนก็ดูเล็กลงกว่าเดิมเข้าไปอีก แต่นัยน์ตากลมราวกับลูกองุ่นก็ยังฉายแววสดใส กระฉับกระเฉงรับขนตาที่ยาวเป็นแพราวกับพัดให้เห็น
ลมหายใจที่พ่นออกมากลายเป็นควันสีขาวในทันที ไม่นานนัก เกล็ดขาวเล็ก ๆ ก็เกาะขึ้นบนขนตาของเธอ
“มือ”
เสียงอันเย็นยะเยือกดังขึ้นมาจากด้านข้าง หนวนหน่วนจึงยื่นมือเล็กของตนออกไปอย่างว่าง่าย มือเรียวจับมือของเธอ ตามมาด้วยกลิ่นยาฆ่าเชื้อจาง ๆ ที่โชยมาเตะจมูก ซึ่งนั่นเป็นกลิ่นประจำตัวของลูกพี่ลูกน้องคนโตของเธอเอง
“อย่าถอดถุงมือตอนที่เล่นหิมะนะ”
ไป๋โม่ซูเอ่ยเสียงต่ำในขณะที่สวมใส่ถุงมือทั้งสองข้างเข้าที่มือเล็ก
สุดท้าย นิ้วเรียวยาวของเขาก็แตะลงบนปลายจมูกของเธออย่างเอ็นดู “เข้าใจไหม?”
เด็กหญิงผงกศีรษะอย่างเชื่อฟัง ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงละมุน “อื้ม หนวนหน่วนเข้าใจแล้วค่ะ”
มุมปากของไป๋โม่ซูยกยิ้มขึ้น เขาจับศีรษะน้อย ๆ เอาไว้ จากนั้นถึงเปล่งน้ำเสียงเยือกเย็นแต่ก็เต็มไปด้วยความใส่ใจออกมา
“ดีมาก”
หนวนหน่วนเหมือนก้อนขนปุยที่กำลังโดนสวมปลอกคอแล้วจูงเดินตาม หลังจากที่ญาติผู้พี่คนโตปล่อยมือเธอแล้ว เด็กหญิงก็เงยหน้าพร้อมยกแขนขึ้นกระพือไปมาเป็นการบอกลา
“พี่ก็กลับมาเร็ว ๆ นะคะ~”
“รู้แล้ว กู้หมิงหลี่ดูแลน้องด้วย แล้วก็อย่าเล่นอะไรบ้า ๆ ล่ะ”
กู้หมิงหลี่สวมที่ครอบหูสีขาวขนปุยบนใบหูของเธอ มันเป็นรูปหูกระต่าย สวมใส่แบบนี้แล้วก็ทำให้หนวนหน่วนเหมือนสัตว์ตัวน้อยเข้าไปใหญ่
น่ารักจัง!
ทำเอาพวกพี่ชายที่กำลังจะไปทำงานถึงกับชะงัก ไป๋โม่ซูแอบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะรีบกดชัตเตอร์ถ่ายรูปหนวนหน่วนที่เหมือนเจ้าก้อนขนเอาไว้
กู้หนานนิ่งไปสองวินาที ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ออกมาเช่นกัน
กู้หมิงอวี๋รีบเดินเข้าไปหาหนวนหน่วน เขาเอาแขนพาดไหล่คนตัวเล็กแล้วกดถ่ายรูปเซลฟี่ด้วยกัน อีกทั้งยังตั้งมันเป็นหน้าจอวอลเปเปอร์อย่างชำนาญด้วย
“พวกเราสองคนก็ดูดีเหมือนกันนะเนี่ย”
ปลื้มปริ่มใจจริง ๆ
ทุกคนต่างมีความคิดเดียวกันว่าจะใช้ภาพของหนวนหน่วนผู้น่ารักที่อยู่ท่ามกลางหิมะตั้งเป็นหน้าจอล็อกหรือวอลเปเปอร์
ก่อนหน้าก็เป็นรูปของหนวนหน่วนเช่นกัน ไม่ว่าตอนไหนหน้าจอพวกเขาก็เป็นรูปของน้องสาวทั้งนั้น
หลังจากส่งคุณพ่อและพวกพี่ชายเสร็จแล้ว หนวนหน่วนก็วิ่งร่าไปบนพื้นหิมะพร้อมกับชุดหนา ๆ เด็กหญิงเหมือนเพนกวินตัวน้อยไม่มีผิด หลังเดินเซไปเซมาก็พาตัวเองล้มจมเข้าไปในกองหิมะ
หลังจากต้าหวงถูกปล่อยออกมาข้างนอก มันก็วิ่งเล่นอย่างคึกคะนองราวกับเป็นหมาโง่ (แต่ก็ยังน่ารัก)
หนวนหน่วนที่กำลังฟุบลงไปกับพื้นหิมะถูกอุ้มขึ้นมาโดยกู้หมิงหลี่ เขาปัดหิมะออกจากตัวเธอแล้วเอ่ยว่า “เดินช้า ๆ หน่อย”
จากนั้นเขาก็จับเข้าตรงคอเสื้อของคนตัวเล็กพลางคอยระวังให้ก้าวเดินตามไปทีละก้าว
“อยากปั้นตุ๊กตาหิมะไหม?”
หนวนหน่วนเงยหน้าขึ้นด้วยแววตาเป็นประกายก่อนจะพยักหน้าลง
“อื้ม ๆ อยากค่ะ!”
กู้หมิงหลี่บีบแก้มของเธออย่างเอ็นดู “มาสิ”
ไป๋โม่ฮัวที่ใส่ชุดกันหนาวจนตัวกลมพอ ๆ กับหนวนหน่วนยกมือขึ้นอย่างตื่นเต้น
“ฉันก็อยากปั้น!”
กู้อันเองก็วิ่งเข้าไปเช่นกัน “หนวนหน่วนมานี่สิ เดี๋ยวพี่สอน พี่ปั้นเป็น”
เสียงร้องของต้าหวงคลอไปทั่วสนามพร้อมกับเสียงหัวเราะอย่างมีชีวิตชีวา ไม่นานลูกหิมะกลม ๆ ก็ถูกกลิ้งไปมา กู้หมิงหลี่ทำก้อนใหญ่ ส่วนหนวนหน่วนทำก้อนเล็ก ขณะที่กำลังทำการกลิ้งมันอยู่ เจ้าต้าหวงที่อยู่ข้าง ๆ ก็คิดเข้าไปช่วยเธอ
“ต้าหวง อย่าสร้างปัญหานะ!”
หนวนหน่วนใช้น้ำเสียงเจื้อยแจ้วกับเจ้าหมาหน้าโง่นั่น มันเลยคิดว่าเธอเล่นด้วยจึงใช้อุ้งเท้าตะกุยจนก้อนหิมะที่หนวนหน่วนตั้งใจปั้นโหว่เป็นรูกว้าง
เด็กหญิงแทบคลั่ง เธอรีบผลักต้าหวงออกไปด้วยแรงเด็ก เจ้าหมาวิ่งออกไปอย่างมีความสุขเมื่อโดนผลัก สุดท้ายหนวนหน่วนก็ล้มจ้ำลงไปในหิมะ เธอยังเผลอกลืนหิมะเข้าปากไปด้วยนิดหน่อย
หนวนหน่วน “…”
โกรธแล้วนะ!
เด็กหญิงรีบลุกขึ้นยืนด้วยตัวเอง มือเล็กเท้าเอวตรงสะโพกพลางชี้นิ้วไปทางสุนัขตัวใหญ่
“ต้าหวงเด็กไม่ดี หนวนหน่วนจะไม่ชอบแล้ว!”
ต้าหวง “โฮ่งโฮ่งโฮ่ง!”
มันกระดิกหางแล้วนำตัวมาถูไถกับเธออย่างเอาเป็นเอาตาย
“อุ๊บ”
กู้หมิงหลี่กลั้นหัวเราะเอาไว้แทบไม่อยู่ นี่น้องสาวเขากำลังดุใครด้วยท่าทางเด็กน้อยงั้นหรือ ฮ่าฮ่าฮ่า
หนวนหน่วนบ่นงึมงำก่อนจะนั่งลงแล้วปั้นก้อนหิมะอีกครั้ง ในขณะที่ต้าหวงก็จ้องจะทำลายไปด้วย
“อย่านะ ไม่งั้นหนวนหน่วนตีแน่”
ต้าหวงสะบัดหิมะบนตัวออกแล้วแลบลิ้นห้อยออกมาอย่างมีความสุข มันตื่นเต้นมากที่จะได้พุ่งตัวเข้าไปหาหนวนหน่วน ก้นจึงส่ายดุกดิกไปมา
‘มาสิ มาสิ มาเล่นกันสิ…’
หลังจากนั้นไม่นาน การปั้นตุ๊กตาหิมะก็เปลี่ยนเป็นการต่อสู้ในกองหิมะแทน
ในตอนแรก พี่ชายทั้งสองคนก็ช่วยกันสั่งสอนต้าหวงกันยกใหญ่ ก่อนที่ก้อนหิมะเล็กของไป๋โม่ฮัวจะถูกโยนไปปะทะเข้ากลางหน้าผากของกู้หมิงหลี่พอดี บรรยากาศจึงดูอึมครึมขึ้นมาแทน
ไป๋โม่ฮัวยกมือขึ้นห้ามปรามแล้วเอ่ยอย่างประหม่า
“ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ”
กู้หมิงหลี่แค่นหัวเราะที่เต็มไปด้วยความน่ากลัวออกมา “ไม่ได้ตั้งใจจริงเหรอ?”
ไป๋โม่ฮัวเห็นว่าสถานการณ์ตรงหน้าเริ่มไม่ค่อยดีจึงรีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว แต่เพราะเสื้อผ้าของเขาค่อนข้างหนาเตอะ ท่วงท่าการเดินเลยเงอะงะไปหมด ไม่นานนักก้อนหิมะก้อนหนึ่งก็ปะทะเข้ากับหลังศีรษะของเขาเต็มเปาก่อนจะล้มลงไปจนพื้นตรงหน้ากลายเป็นหลุมรูปร่างคน
เขาลุกขึ้นจากหลุมนั้นอย่างงุ่มง่าม สายตาลุกเป็นไฟเต็มเปี่ยม ชายหนุ่มโกยหิมะบนพื้นขึ้นปั้นเป็นก้อนแล้วขว้างออกไป
“บอกแล้วไงว่าไม่ได้ตั้งใจ!”
กู้หมืงหลี่ยกมือขึ้นบังการโจมตีตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
“คิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ?”
กู้อันที่อยู่ด้านข้างโดนลูกหลงเข้าจึงเข้ามาร่วมการปะทะด้วย
และสุดท้ายแล้ว หนวนหน่วนก็โดนลูกหลงตามไปด้วยเช่นกัน เธอเข้ามาร่วมด้วยอีกคน
ไม่รู้เลยว่าพวกเขาเล่นกันอยู่นานแค่ไหน สุดท้ายทั้งสี่คนก็หมดเรี่ยวแรงจนต้องทิ้งตัวลงนอนเอาหัวชนกันบนพื้นหิมะ
กู้อัน “พวกเราทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย?”
ไป๋โม่ฮัว “ปั้นตุ๊กตาหิมะ”
ทุกคนจับจ้องไปยังก้อนหิมะขนาดใหญ่ที่ได้กลายเป็นเศษไปแล้ว
จ๊อกกก…
ไป๋โม่ฮัวกุมท้องตัวเองแล้วยกมือขึ้นปิดปาก “ไปกินข้าวแล้วค่อยกลับมาเล่นกันเถอะ หิวแล้ว”
ทุกคน “โอเค!”
เพราะเสียพลังงานหลังจากไปเล่นมา เมื่อกลับเข้าไปในคฤหาสน์ทุกคนต่างรีบถอดผ้าพันคอออกทันที ใบหน้าของหนวนหน่วนแดงก่ำ แต่ดวงตาก็ยังยกหยี ประกอบกับชุดขนปุยที่เธอสวมใส่อยู่นั้น ยิ่งทำให้ดูอ่อนโยนมากขึ้นไปอีก
“คุณหนูหนวนหน่วนและนายน้อยกลับมาแล้ว ผมเตรียมซุปขิงเอาไว้ให้ด้วย รีบดื่มกันเลยนะครับ”
คุณผู้ดูแลส่งยิ้มให้พลางชี้ไปที่ถ้วยน้ำขิงที่ตั้งวางเอาไว้
กู้อันกับทุกคนต่างมีสีหน้าแตกตื่นขึ้นมาทันที
พวกเขาหิวน้ำมาก แต่กลับมองไปที่ซุปน้ำขิงราวกับพวกมันเป็นยาพิษต้มเดือดอย่างไรอย่างนั้น
“ลุงฝูครับ ล… ลุงใส่น้ำตาลหรือเปล่า?”
ใบหน้าเปื้อนยิ้มของลุงผู้ดูแลบ้านยังคงไม่แปรเปลี่ยน “ใส่นิดหน่อย”
กู้หมิงหลี่รู้สึกแสบคอขึ้นมาทันที พวกเขาเคยดื่มซุปน้ำขิงของลุงฝูมาก่อน มันเผ็ดมาก อีกทั้งยังทำให้ความร้อนในร่างกายเพิ่มขึ้น
“คุณหนูหนวนหน่วน อันนี้เตรียมไว้ให้คุณหนูครับ”
ขณะที่พูด ลุงฝูก็ยื่นถ้วยน้ำขิงส่งให้หนวนหน่วน
กลิ่นหอมของน้ำขิงโชยออกมาจากในชาม
แววตากวางน้อยของหนวนหน่วนจับจ้องไปที่พวกพี่ ๆ ของตน ก่อนจะจับชามแล้วยกขึ้นดื่ม
หลังจากนั้นก็ได้ลิ้มรสความเผ็ดหวานกระจายไปทั่วปาก เด็กน้อยก็คิดว่า บ้วนออกได้ไหมนะ?
คนอื่น ๆ เองก็ยกชามน้ำขิงของลุงฝูขึ้นดื่มตามอย่างตั้งใจ ก่อนที่สีหน้าของพวกเขาจะบิดเบี้ยวทันที
“หนวนหน่วนไม่เผ็ดเหรอ?”
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของหนวนหน่วนไม่ได้บิดเบี้ยวมากนัก กู้อันจึงมองไปที่ลุงฝูด้วยความสงสัย หลังจากนั้นเขาก็ลองจิบจากถ้วยของน้องสาวดูเพื่อความมั่นใจ
“ทำไมของน้องหวานกว่าพวกเราเยอะเลยล่ะ!”
สีหน้าของคุณผู้ดูแลยังคงไม่เปลี่ยนแปลง “อ้อ เพราะของคุณหนูหนวนหน่วน ป้าหลิวเป็นคนทำให้ครับ”
กู้หมิงหลี่และอีกสามคน “…”
สองมาตรฐานอะไรแบบนี้!
หลังจากที่ทุกคนดื่มน้ำขิงเสร็จแล้ว อาหารกลางวันก็พร้อมทานพอดี หนวนหน่วนวิ่งไปหาคุณปู่แล้วนั่งลงอย่างว่าง่าย ก่อนจะใช้ช้อนตักมัสตาร์ดลงในชามของชายชรา
“คุณปู่กินสิคะ”
ผู้เฒ่ากู้หัวเราะจนแทบมองไม่เห็นฟัน นอกจากนี้เขายังยอมทานข้าวเพิ่มอีกหนึ่งชามพร้อมกับหลานสาวแสนดีของตน
หลังจากทานข้าวเสร็จ เด็กหญิงผู้โอบอ้อมอารีก็จัดการชงชาบลูเบอร์รีอุ่น ๆ ให้ เขายกมันขึ้นจิบช้า ๆ ในขณะที่พวกหลาน ๆ ก็ออกไปเล่นนอกบ้าน นอกจากนี้ตรงขาของเขาก็มีลูกแมวและสุนัขจำนวนหนึ่งที่กำลังคลอเคลียอยู่ไม่ห่าง
นี่คือชีวิตในวัยเกษียณที่เขาใฝ่ฝัน ไม่มีอะไรจะทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวาได้เท่านี้อีกแล้ว
หลังจากเดินเล่นเสร็จ ผู้เฒ่ากู้ก็อดไม่ได้ที่จะไปเล่าอวดให้เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของเขาได้ฟังกัน
ส่วนหนวนหน่วนและพวกพี่ชายยังคงสร้างตุ๊กตาหิมะที่ทำค้างเอาไว้ในตอนเช้าให้เสร็จสิ้น ตุ๊กตาหิมะทั้งสองตัวถูกจัดวางไว้ตรงหน้าประตูบ้าน พวกเขาสวมผ้าพันคอเอาไว้ให้มันด้วย
“พี่ พวกเรากลับกันเถอะค่ะ”
พวกพี่ชาย “อืม”
หลังจากเดินไปได้สองก้าว หนวนหน่วนก็ถูกอุ้มขึ้นอีกครั้งโดยได้นั่งอยู่บนบ่าของพี่สี่ ทำให้เด็กหญิงมีความสุขล้นปรี่เลยทีเดียว