ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 165 เพื่อนที่แสนดีของพี่กู้อัน
บทที่ 165 เพื่อนที่แสนดีของพี่กู้อัน
“หนวนหน่วน พรุ่งนี้พวกเรามีงานประชุมผู้ปกครอง” ขณะที่กู้อันพูดขึ้น สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่น้องสาวอย่างคาดหวัง แค่นั้นไม่พอ เด็กชายกะพริบตาปริบ ๆ เป็นเชิงบอกใบ้
หนวนหน่วนกะพริบตาปริบ ๆ ตาม “อ๋อ”
กู้อัน “!!!”
อ๋อ! แค่นี้หรือที่เธอแสดงออกมา?
เขาส่งสายตามองน้องสาวอย่างไม่พอใจ “ลืมสัญญาที่เคยคุยกันไปแล้วเหรอ?”
เด็กหญิงยกยิ้มอ่อนโยนจนดวงตาโค้งเป็นพระจันทร์เสี้ยวเล็ก
กู้อันพูดขึ้นด้วยความโกรธ “นี่แกล้งพี่เหรอ กล้ามากเลยนะ!”
หนวนหน่วนเริ่มอยู่ไม่สุข เธอเลยรีบวิ่งหนีไปด้วยรอยยิ้มสดใส
การประชุมผู้ปกครองของกู้อันในครั้งนี้คุณพ่อไม่ว่างไปด้วย มีเพียงคุณแม่เท่านั้นที่จะไปกับเขา
“แม่ ผมขอพาน้องไปโรงเรียนด้วยนะครับ”
คุณหญิงกู้ “เอาบอดีการ์ดไปด้วย อย่าหนีละกัน”
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งก่อน ทำให้ตอนนี้หนวนหน่วนต้องพาบอดีการ์ดติดตัวไปด้วยทุกที่ ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงการพาสุนัขไปเดินเล่นก็ต้องมีบอดีการ์ดสองคนติดตามไปด้วยถึงจะอุ่นใจ
ในตอนแรก สมาชิกในครอบครัวต่างพากันกังวลใจว่าหนวนหน่วนจะรู้สึกอึดอัดหรือเปล่า แต่เมื่อถามความคิดเห็นของหนวนหน่วนแล้ว เด็กหญิงกลับเห็นด้วยและยอมร่วมมืออย่างโดยดี
เธอรู้ว่าสิ่งนั้นจะทำให้ทั้งคุณพ่อ คุณแม่และพวกพี่ชายรู้สึกสบายใจ เธอจึงไม่ได้แสดงท่าทีปฏิเสธพวกบอดีการ์ดเหล่านั้น
กู้อันอยากพาหนวนหน่วนไปเจอเพื่อนสนิททั้งสามคนของเขา
“กู้อันมาแล้ว!”
“ข้าง ๆ เขานั่นน้องสาวใช่ไหม?”
“เหมือนจะชื่อหนวนหน่วน กู้อันพูดถึงน้องสาวแสนสวยให้ฟังอยู่แทบทุกวัน ตอนแรกนึกว่าโม้นะเนี่ย”
“ว้าว น้องสาวของกู้อันน่ารักแฮะ”
กู้อันเหมือนไก่ที่เพิ่งรบชนะ เขาเชิดหน้าแล้วจับมือหนวนหน่วนเดินดุ่ม ๆ มุ่งตรงไปข้างหน้า ไม่นานทั้งคู่ก็ถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนอย่างรวดเร็ว
“กู้อันนี่น้องสาวนายเหรอ หวัดดี พี่ชื่อซ่งเทียนนะ”
“พี่ด้วย พี่ชื่อไป่เฉินอวี่”
“พี่ชื่อเรโนลต์นะสาวน้อย สวยมากเลยนะเนี่ย พวกเรามาแอดวีแชตกันเถอะ จะได้เล่นเกมด้วยกัน!”
กู้อันชักจะโกรธ ถึงแม้ว่าจุดประสงค์ของเขาคือการพาน้องสาวมาอวด แต่ไม่ใช่ให้พวกนายมาเต๊าะเล่นกันนะ!
“พอ ๆ นี่น้องสาวฉัน ไม่ให้พาไปไหนทั้งนั้น!”
กู้อันปกป้องหนวนหน่วนตัวน้อยที่ยืนหลบอยู่ข้างหลังประหนึ่งตนเป็นแม่ไก่ที่กำลังเฝ้าลูกเจี๊ยบ เด็กชายส่งสายตาเฉียบคมดุร้ายไปให้เพื่อนสนิทของตน เพราะตอนนี้เหมือนทุกคนจะเปลี่ยนบทบาทจากเพื่อนสนิทมาเป็นพวกชอบเต๊าะ นี่คิดแย่งชิงน้องสาวแสนน่ารักของเขากันทั้งนั้นเลย
หนวนหน่วนจับเสื้อของพี่ชายคนเล็กแน่น ดวงตากลมโตจ้องมองไปยังเพื่อนร่วมชั้นของพี่ชายด้วยความอยากรู้อยากเห็น จากนั้นเธอก็ยกยิ้มจนดวงตาขึ้นเป็นเสี้ยวจันทร์แสนสวยงาม ก่อนจะเอ่ยเรียกทุกคนด้วยน้ำเสียงแสนสุภาพ
ในใจของทุกคน ‘เด็กดีจังเลย อยากบีบแก้มจัง เสียงก็นุ่มละมุน กู้อันไม่ได้โม้จริงด้วย น้องสาวของเขาทั้งน่ารักทั้งสวย!’
ตอนนี้นักเรียนทั้งชั้นประถมศึกษารู้สึกตื่นเต้นจนออกนอกหน้าเป็นพิเศษ เมื่อพวกเขาอยู่ต่อหน้าเพศตรงข้ามที่ทั้งสวยและน่ารักก็ยิ่งอกผายไหลผึ่งเข้าไปใหญ่
“พวกฉันแค่มาดูให้เห็นกับตาว่าที่นายพูดถึงน้องสาวว่าสวยนักหนาอยู่ทุกวันน่ะจริงไหม ไหน ๆ ก็พามาที่โรงเรียนแล้ว ทำไมถึงไม่ให้พวกเราได้เห็นชัด ๆ หน่อยล่ะ”
“คืออย่างนี้นะ เดี๋ยวพี่จะบอกให้ คือว่าพี่ชายของหนวนหน่วนเนี่ย…”
“พวกนายหุบปากไปเลย!”
กู้อันอับอายมากจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง ส่วนหนวนหน่วนปิดปากของตัวเองก่อนจะแอบหัวเราะคิกคักออกมา นึกไม่ถึงเลยว่าพี่ชายคนเล็กจอมหยิ่งผยองของเธอจะมีท่าทีแบบนี้ต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้นได้ด้วย
เมื่อเพื่อนร่วมชั้นของพี่ชายบอกเล่าเรื่องราวให้ฟัง เด็กหญิงก็รู้สึกเขินอายไปด้วย แต่ภายในใจของเธอก็มีความสุขมาก
กู้อันเอาแต่ปฏิเสธ ถึงตอนนี้ใบหน้าของเขาจะขึ้นสีแดงราวกับก้นลิงก็เถอะ “ฉันไม่เคยพูดแบบนั้น!”
“ไม่ต้องเลย~”
“จริงสิ แล้วเมื่อไหร่หนวนหน่วนจะเข้าเรียนโรงเรียนล่ะ กู้อันบอกอยู่ว่าถ้าเธอเข้ามาเรียนเมื่อไหร่ เขาจะคอยทำหน้าที่เป็นอัศวินคอยปกป้องไม่ให้ใครมารังแกเธอเด็ดขาด เพราะฉะนั้นตอนอยู่ที่โรงเรียนไม่มีใครกล้ารังแกเธอแน่นอน!”
“ใช่ พวกเราก็เป็นหนึ่งในอัศวินนะ หนวนหน่วนจะมาเรียนเมื่อไหร่ล่ะ?”
เด็กชายกลุ่มหนึ่งจ้องมองหนวนหน่วนอย่างคาดหวัง น้องสาวช่างน่ารักและสวยมากขนาดนี้ แน่นอนว่าพวกเขาต้องยอมปกป้องเธออย่างแน่นอน
บอดีการ์ดที่ยืนอยู่ไม่ไกลมากนัก “…”
ช่างเป็นชื่อกลุ่มที่น่าขันจริง ๆ
หนวนหน่วนจับมือพี่ชายของเธอก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว “หนู… หนูก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ”
กู้อันมีความสุขมากเมื่อหนวนหน่วนยกมือขึ้นมาจับมือตน
“พวกเราว่าจะไปเที่ยวช่วงปิดเทอมกันก่อน หลังเปิดเรียนเทอมหน้า เดี๋ยวเธอก็จะมาเข้าเรียนด้วยกันที่นี่”
วันปิดเทอมฤดูหนาวเหลือระยะเวลาอีกเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น เขาจะพาหนวนหน่วนไปเที่ยวที่ไหนในช่วงนั้นดี?
มีนักเรียนไม่มากนักที่มาประชุมผู้ปกครองด้วย แต่กู้อันได้บอกพวกเพื่อนของเขาเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะพาน้องสาวมาด้วย พวกเขาจึงนัดมาพบเจอกันในวันนี้
“มีร้านชานมอร่อย ๆ อยู่ตรงหน้าประตูโรงเรียนด้วยนะ อยากลองกินไหม พี่เลี้ยงเอง”
ซ่งเทียนทุบหน้าอกตัวเองประหนึ่งว่าใจใหญ่และมีเงินนักหนา
กู้อันเบะปากพลางทำหน้าสะอิดสะเอียน “เงินเก็บของน้องฉันเยอะกว่าพวกนายทุกคนรวมกันซะอีก”
พวกเขาต่างเป็นนายน้อยกันทั้งนั้น แต่ก็ใช้เงินทุกเดือนโดยไม่เหลือเก็บเลย
“พูดอะไรแบบนั้น เป็นผู้ชายชาตรีก็ต้องเลี้ยงสาวสิ”
กู้อัน “นายเป็นคนให้ได้ก่อนเถอะ”
จะว่าไปประโยคนี้คุ้น ๆ แฮะ
กู้อันกำชับ “นี่คือน้องสาวของฉัน ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกนายเลย ช่วยแทนตัวเองด้วยชื่อด้วย”
ไป่เฉินอวี่ “พวกเราจะทำหน้าที่พี่ที่แสนดีเอง!”
เรโนลต์ “น้องสาวนายก็เหมือนน้องเรา!”
ซ่งเทียน “น้องสาวของพวกเราก็เป็นน้องนายเช่นกัน”
เรโนลต์ “ถูกต้องเลย น้องชายฉันก็ด้วย”
กู้อัน “…ไปให้พ้น! ใครจะสนน้องชายตัวเหม็นของนายกัน น่ารักได้เท่าน้องฉันไหมล่ะ?”
เรโนลต์ “ถึงจะไม่น่ารักเท่าน้องสาวของนาย แต่น้องฉันก็พังบ้านได้นะ เอาไปเลี้ยงน่าจะดี ว่าไหม?”
กู้อัน “…”
เด็กชายทั้งสามเดินรายล้อมรอบหนวนหน่วนที่เดินอยู่ตรงกลางจนกระทั่งมาถึงร้านชานม อากาศข้างนอกตอนนี้ค่อนข้างมืดครึ้มเหมือนฝนจะตก
“กู้อัน นายพกร่มมาไหม?”
“เหมือนฝนจะตกเลย เรารีบซื้อชานมแล้วกลับห้องเรียนกันเถอะ”
หนวนหน่วนสะพายกระเป๋าเป้ใบเล็กน่ารักไว้บนหลัง ภายในบรรจุโทรศัพท์มือถือ ขนม และข้าวของอื่น ๆ เธอจึงหยิบร่มที่พกมาด้วยออกมากาง
“เสี่ยวอ้ายบอกว่าวันนี้ฝนจะตก พี่ หนูเอาร่มมานะ”
กู้อันแค่นหัวเราะออกมาเบา ๆ พลางเชิดหน้าขึ้นแล้วมองไปที่คนอื่น ๆ อย่างโอ้อวด จากนั้นก็แกว่งร่มในมือไปมา
“แหม โทษทีนะ ถึงฝนจะตกจริง ๆ ฉันก็ไม่กลัวหรอก พอดีน้องสาวพกร่มมา พวกนายมีไหมล่ะ?”
ท่าทางโอ้อวดนั่นทำได้น่าตบจริง ๆ
ไป่เฉินอวี่รีบเดินไปที่ร้านเครื่องเขียนเพื่อซื้อร่มก่อนจะเอามาให้เพื่อน ๆ
“มันก็แค่ร่มไหม? พวกเราก็มีเงินนะ!”
เรโนลต์ “ใช่ ๆ”
กู้อัน “แต่ของฉันน้องสาวให้มา”
ซ่งเทียน “ต่างกันตรงไหน?”
กู้อัน “มันมีกลิ่นหอมแล้วก็ดูดีกว่านิดหนึ่ง”
ทุกคน “…”
หนวนหน่วนมองดูเหตุการณ์ตรงหน้าแล้วรู้สึกอายแทน พี่กู้อันกลายเป็นคนแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่!
หลังจากซื้อชานมเสร็จแล้วฝนก็เริ่มปรอยลงมา ทำให้บอดีการ์ดทั้งสองคนต้องรีบไปซื้อร่มมาด้วย
ฝนเริ่มเทลงมาอย่างหนักขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาเลยรีบกลับไปที่โรงเรียนพร้อมกับชานมที่อยู่ในมือ แต่เมื่อเดินไปถึงประตูโรงเรียนแล้ว หนวนหน่วนก็ต้องชะงักทันที สายตาของเธอจับจ้องไปที่ร่างของชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ท่ามกลางสายฝน
“พี่กู้อัน คนนั้นเขาดูเหมือนจะไม่มีร่มเลย”
เนื่องจากว่ามีคนยืนตากฝนอยู่น้อยมาก และถึงแม้ว่าจะมี พวกเขาก็ทำเพียงแค่รีบวิ่งกลางสายฝนเพื่อไปหาที่หลบฝนหรือเข้าไปหลบในรถเพียงเท่านั้น แต่ชายสวมสเวตเตอร์สีเทาคนนั้นกลับยืนนิ่งอยู่กลางสายฝน
“เดี๋ยวหนูจะใช้ร่มกับพี่เอง เอาอันนี้ไปให้เขากันเถอะ” หนวนหน่วนชำเลืองมองไปยังชายคนดังกล่าวอยู่หลายครั้ง เธอรู้สึกสงสารเขาจับใจ
ไม่รู้ว่าฝนจะตกอีกนานเท่าไหร่ แล้วเขาจะยืนอยู่แบบนั้นอีกนานหรือเปล่า