ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 158 คู่เดตกู้หมิงอวี๋
บทที่ 158 คู่เดตกู้หมิงอวี๋
ในที่สุดพวกเขาก็กลับไปท่ามกลางเสียงกรีดร้องของกู้อัน หนวนหน่วนทำตัวดีมาตลอดทาง แม้ว่าเธอจะนั่งอยู่ในรถ เด็กหญิงตัวน้อยก็นั่งตัวตรงอย่างตั้งใจ นิ้วของเธอจับกระโปรงที่คลุมเข่าอยู่ ส่วนสายตาจ้องมองพ่อของเธออย่างไร้เดียงสาและกลัวอยู่นิดหน่อย
หลังจากจัดการกู้อันแล้ว กู้หลินโม่ก็หันมาสนใจลูกสาวของเขาแทน
ร่างเล็ก ๆ ของหนวนหน่วนยืดตรงทันที
จู่ ๆ กู้หลินโม่ก็หัวเราะออกมา เขารีบดึงตัวนิ่ม ๆ ของหนวนหน่วนมากอดไว้
“คุณพ่อ หนวนหน่วนผิดไปแล้ว”
เด็กหญิงตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของพ่อทั้งเชื่อฟังและยอมรับความผิดแต่โดยดี ทัศนคติของเธอจริงใจเป็นอย่างมาก
กู้หลินโม่กอดลูกสาวไว้พลางฮัมเพลง
“หนวนหน่วนผิดอะไร? หนูเชื่อฟังขนาดนี้ ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของกู้อันต่างหาก”
กู้อัน “…”
พ่อไม่ได้ลงโทษน้องสาว เขาก็ดีใจอยู่หรอก แต่สองมาตรฐานอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ เขาไม่กลัวว่าจะทำให้ความสัมพันธ์ของสองพี่น้องจะไม่ลงรอยกันบ้างเหรอ!
คนขับที่อยู่ข้างหน้าหัวเราะแห้ง แม้ว่าสีหน้าเศร้าโศกของนายน้อยจะดูน่าเห็นใจมาก แต่เขาก็คิดว่าที่เจ้านายพูดจริงทั้งหมด
หนวนหน่วนคิดไม่ถึงว่าพี่ชายของเธอจะถูกปล่อยตัวจากการโดนตีมาได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นคุณพ่อยังปลอบใจเธออีกต่างหาก
การตอบสนองของหนวนหน่วนค่อนข้างช้า เธอชำเลืองมองพี่ชายคนเล็ก จากนั้นก็ผ่อนคลายร่างกาย ทิ้งตัวน้อย ๆ พิงร่างคุณพ่อพร้อมกับยิ้มอย่างมีความสุข
คุณพ่อใจดีมาก ไม่ได้ดุเธอเลยแม้แต่น้อย
ถ้าเธอมีหาง ป่านนี้มันคงชูขึ้นแล้ว
“แต่ว่า…”
เสียงพ่อดังขึ้นมาจากด้านบน หนวนหน่วนเริ่มเกร็งตัวเล็กน้อย อะไรกัน… คุณพ่อจะดุอะไรหรือเปล่านะ
นิ้วเรียว ๆ ของกู้หลินโม่บีบไปที่แก้มนุ่ม ๆ ของหนวนหน่วน เขาอายุ 40 ปีแล้ว แต่มือของเขาก็ไร้ร่องรอยความชรา ยกเว้นริ้วรอยตื้น ๆ ที่หางตา เรียกว่าเพิ่มเสน่ห์ให้กับเขามากกว่า คุณพ่อคนนี้เมื่อได้ยืนอยู่กับลูกชายคนโตและลูกชายคนรองก็ดูราวกับเป็นพี่น้องกัน อารมณ์ฉุนเฉียวของเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าลูก ๆ ของเขาเลยแม้แต่น้อย
“คราวหน้าอย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้อีก กู้อันไม่รู้จักคิด หนวนหน่วน หนูเองก็ห้ามไปเอาอย่างเขา ถ้าวันนี้ผู้ปกครองคนนั้นเป็นคนไม่มีเหตุผลและคิดร้ายหนู หนูกับพี่ชายก็จะตกอยู่ในอันตราย จำเอาไว้ ต่อไปนี้ห้ามเอาตัวเข้าไปเสี่ยงอีก แบบนั้นจะทำให้ทั้งพ่อแม่และพี่ชายของหนูทุกคนเป็นห่วงหนูมาก เข้าใจไหม?”
หนวนหน่วนคิดว่าคุณพ่อจะดุเธอ นึกไม่ถึงว่าจะได้ยินคำพูดเช่นนี้ ที่แท้คุณพ่อก็เป็นห่วงความปลอดภัยของพวกเธอมากที่สุด
หนูน้อยรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง เธอกางแขนเล็ก ๆ ของเธอแล้วก็โอบกอดคอของพ่อเอาไว้ จากนั้นก็เอนศรีษะซบลงบนบ่าของเขาพลางตอบพ่อของเธอไปอย่างเชื่อฟังและนุ่มนวล
“คุณพ่อ หนวนหน่วนเข้าใจแล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้วค่ะ”
กู้หลินโม่ยิ้มที่มุมปาก เขาตบหลังลูกสาวเบา ๆ เป็นการปลอบใจ แต่เมื่อหันมาเห็นลูกชายตัวเอง เขาก็หุบยิ้มทันที อีกทั้งยังทำหน้าจริงจังและดุดันขึ้นมาแทน
กู้อันลูบก้นตัวเองพลางย่อตัวลงข้าง ๆ ประตู พูดก็พูดเถอะ ทำไมพ่อถึงเลือกปฏิบัติได้ขนาดนี้กันนะ
หลังจากกลับถึงบ้านแล้ว กู้หลินโม่ก็ได้แฉวีรกรรมของกู้อันต่อหน้าภรรยาและผู้เฒ่ากู้อย่างไร้ความปรานี จากนั้น…
“แว้ก! คุณแม่กับคุณปู่! ผมโดนคุณพ่อตีมาแล้ว อย่าตีผมอีกสิ!”
“พ่อ! พ่อตีผมไปแล้ว ทำไมยังจะตีผมอีกล่ะ!”
ความวุ่นวายเกิดขึ้นทันที ไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่กู้อันโดนพ่อแม่ด่าเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
กู้อ้นไม่มีโอกาสได้แก้ตัวเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายก้นของเขาก็บวมเป่ง
เจ็บปวดกายก็อีกเรื่องหนึ่ง สำคัญที่สุดก็คือการที่เขาโดนตีต่อหน้าน้องสาว ไม่มีอะไรที่จะน่าอายไปมากกว่าเรื่องนี้แล้ว
ร่างกายทั้งตัวของกู้อันช้ำราวกับมะเขือยาวที่ถูกตี
เมื่อต้องเผชิญกับเรื่องที่พี่ชายคนเล็กโดนตี หนวนหน่วนก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำเป็นปิดตาแต่แอบแหวกนิ้วเปิดช่องดู ไม่สามารถทำอะไรได้อีก
หลังจากที่ทั้งบ้านได้ตีกู้อันแล้ว พวกเขาก็หันมาอบรมหนวนหน่วน
คุณหญิงกู้ “วันหลังหากจะออกไปข้างนอก ต้องมีบอดีการ์ดไปด้วย ห้ามออกไปข้างนอกคนเดียวเด็ดขาด ถ้าไปเจอคนไม่ดีจะทำยังไง พี่ชายของหนูตัวเล็กแบบนั้นจะไปขัดขวางอะไรได้?”
กู้อันไม่เหลือแรงมาหักล้างแข็งขืน
ผู้เฒ่ากู้ “หนวนหน่วนอยากช่วยพี่ชายถือว่าเป็นเรื่องดี พี่น้องรวมใจเป็นหนึ่งปู่ก็ดีใจที่ได้เห็นเช่นนั้น แต่เขาจะไม่มีวันยอมทำตามคำขอเหมือนหนูหรอกนะ ต่อไปถ้ากู้อันมาขอให้ปกปิดทางบ้านก็ให้มาบอกพวกเราก่อนเป็นอย่างแรก ปู่จะช่วยหนูเล่นงานเขาเอง”
กู้อันรู้สึกเหมือนโดนมีดแทงสองเล่ม
กู้หลินโม่ “ลูกรัก วันหลังถ้าเกิดอะไรขึ้นกับหนู อย่าลืมมาหาพ่อทันที ไม่ใช่ไปหาพี่ชาย เขาไว้ใจไม่ได้หรอกนะ”
กู้หนานชักจะสงสัยว่าพ่อของเขากำลังถือโอกาสปรามเขา
แต่สีหน้าชายหนุ่มก็ไม่ได้เปลี่ยน เขายังนั่งบนโซฟา กอดเด็กหญิงตัวน้อยพร้อมกับฟังการอบรมอย่างเชื่อฟัง
หนวนหน่วนเผลอกอดแขนพี่ชายคนโตด้วยสองมือเล็ก ๆ
กู้หนาน “พ่อทำให้เธอกลัวแล้วนะครับ”
หนวนหน่วนซุกตัวกลับเข้าไปในอ้อมแขนของพี่ใหญ่ นิ้วที่จับแขนของพี่ใหญ่อยู่จิกแน่นขึ้น เธอใช้ดวงตาคู่โตมองไปที่พ่อแม่ก่อนจะส่ายหัวน้อย ๆ
“ปะ… เปล่าค่ะ”
กู้หนานไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงแตะคออันขาวนุ่มของเธอ
ผู้เฒ่ากู้ กู้หลินโม่และคุณหญิงกู้ “…”
ลูกคนนี้กลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
หลังจบการอบรมในตอนเย็นแล้ว หนวนหน่วนก็พึ่งพาพี่ใหญ่เป็นอย่างมาก เธอล้างหน้ากับเขา แปรงฟันด้วยกัน อีกทั้งยังแช่เท้าด้วยกัน
เด็กหญิงตัวน้อยนั่งลงบนเก้าอี้เตี้ย ๆ พลางแช่เท้าเล็ก ๆ ที่ขาวนุ่มของเธอลงในน้ำอุ่นแล้วเหยียบหลังเท้าของพี่ใหญ่ที่ใหญ่กว่าเท้าของเธอหลายเท่า
เมื่อเทียบกับผิวขาวนวลของหนวนหน่วนแล้ว ผิวพี่ใหญ่เข้มกว่ามาก เข้มกว่าถึงสามเท่าตัวเลย
ปลายเท้าเล็ก ๆ บนหลังเท้าของพี่ใหญ่ยกขึ้น เด็กหญิงตัวน้อยเหลือบมองพี่ชายอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นว่าเขากำลังดูโทรศัพท์อยู่ หนวนหน่วนพลันเกิดความกล้า จงใจเข้าไปแหย่เท้าพี่ใหญ่ให้จั๊กจี้
เด็กหญิงตัวน้อยเป็นเหมือนหอยทากสีน้ำนมที่ขี้อาย เธอลองแหย่แล้วรีบถอยกลับอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็แอบชำเลืองมองชายหนุ่มที่อยู่ตรงข้าม
เธอลองแหย่อีกสองสามครั้ง
จากนั้นความกล้าหาญของหอยทากตัวน้อยก็เพิ่มขึ้นตามอำเภอใจ เท้าน้อย ๆ เหยียบหลังเท้าพี่ใหญ่ไปมา
ดวงตายาวรีของกู้หนานมองลงมาที่ผิวแสนบอบบางของน้องสาว ผิวนั้นเพียงแค่แช่น้ำอุ่นแค่ไม่กี่นาทีก็กลายเป็นสีแดงเหมือนกุ้งอ้วน ๆ ต้มสุก เด็กหญิงทั้งซุกซนและน่ารัก
เขายิ้มมุมปาก ดวงตาที่ลึกล้ำเย็นชาราวกับภูเขาน้ำแข็งดูเหมือนจะละลายและเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
“ผมมาแล้ว ผมอยากแช่เท้าด้วย!”
กู้อันล้างหน้าเสร็จก็เห็นพี่ชายและน้องสาวกำลังแช่เท้ากันอยู่ เขารีบหยิบเก้าอี้พรวดพราดตามเข้าไปทันที
ทันใดนั้นนัยน์ตาทั้งสองคู่ก็จ้องมาที่เขา รอยยิ้มของหนวนหน่วนที่ส่งมาช่างอ่อนโยนและเป็นมิตร ดวงตาของเธอใสกระจ่างราวกับย้อมไปด้วยแสงดวงดาว
ดวงตาอีกคู่หนึ่งเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ทันทีที่กู้หนานเงยหน้าขึ้น ธารน้ำแข็งที่เคยละลายไปก็กลับมาปกคลุมนัยน์ตาอีกครั้งทันที ชายหนุ่มปล่อยกลิ่นอายเย็นยะเยือก กู้อันจึงต้องหยุดอยู่ห่าง ๆ เกือบ 1 เมตร
“ออกไป”
กู้หนานเอ่ยคำออกมาช้า ๆ
กู้อัน “…”
เขาอยากจะไถลตัวเข้าไป แต่เมื่อเห็นสีหน้าของพี่ใหญ่ที่ไร้อารมณ์เช่นนั้น เขาก็ได้แต่ลูบคลำก้นที่เพิ่งถูกตีป้อย ๆ เมื่อครู่พี่ใหญ่ใช้เข็มขัดตีเขา เจ็บเกือบตายแน่ะ
ไม่ว่ากู้อันจะมาที่นี่ได้อย่างไร เขาก็หันหลังกลับและวิ่งหนีไปพร้อมกับเก้าอี้ในมือ
“รอก่อน… รอให้โตก่อนเถอะ ฮึ่ย!”
หนวนหน่วนเห็นพี่เล็กวิ่งหนีไปแล้วก็หันมาแช่เท้ากับพี่ใหญ่ต่อ
หลังจากวันนั้นหนวนหน่วนก็อยู่บ้านอย่างเชื่อฟัง นอกจากคอยคุมการเรียนหนังสือของพี่สี่และเรียนหนังสือเองแล้ว เธอยังวิดีโอคอลหาพี่สามอีกด้วย
หลังจากนั้นก็คอยติดตามชมช่อง XX วันนี้ตามที่พี่สามย้ำเตือน
เด็กหญิงตัวน้อยมีแมวอยู่บนตัว สุนัขตัวใหญ่อยู่ใต้เท้า ซ้ายขวาล้วนแต่เป็นเจ้าพวกขนนุ่ม เธอดูราวกับว่าเป็นรังน้อยนุ่มนิ่มไปแล้ว
เด็กหญิงเริ่มดูรายการโทรทัศน์ มันเป็นฉากโปรโมตของภาพยนตร์ที่นำแสดงโดยกู้หมิงอวี๋ ภายใต้แสงไฟนับไม่ถ้วน เธอมองดูพี่สามที่หน้าตาดีสุด ๆ กำลังตอบคำถามของนักข่าวอย่างใจเย็นพลางโปรโมตภาพยนตร์ไปด้วย
เขาเป็นธรรมชาติมากจึงเหมาะกับการอยู่บนเวที ต่อหน้ากล้องกู้หมิงอวี๋มีความมั่นใจและสุขุม ทุกคนที่ยืนอยู่กับเขาดูเหมือนจะดับไปเลย หน้าตาที่สมบูรณ์แบบทุก 360 องศาของเขานั้นดีพอ ๆ กับนายแบบชั้นนำ ยิ่งมีส่วนสูงและรูปร่างที่เพรียวบางมาเสริมก็ยิ่งมั่นใจและภูมิใจกว่าเดิม
มีคนบอกว่าความงามดูที่ภายในไม่ใช่ภายนอก แต่ความงามของกู้หมิงอวี๋ไม่ใช่เพียงแค่ภายนอกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคุณธรรมอันสูงส่งที่เขามีติดตัวเป็นนิสัย
ตากล้องกดชัตเตอร์อย่างเมามัน และคำถามที่นักข่าวถามก็แปลกจนอธิบายไม่ถูก พูดให้ถูกคือคำถามเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขามากกว่า
“กู้หมิงอวี๋ ฉันขอถามหน่อยได้ไหมว่าเรื่องอื้อฉาวของคุณเมื่อวานเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า”
“มีรูปถ่ายที่เผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตว่าคุณและหลิวอันหรานไปที่ร้านอาหาร XX เพื่อออกเดตและทานอาหารเย็นด้วยกัน จริงหรือเปล่า?”
หนวนหน่วนกอดเจ้าก้อนถ่านกลม ๆ คางแหลม ๆ ของเธอวางบนหัวขนปุกปุย ส่วนดวงตากลมโตดูโทรทัศน์อย่างจริงจัง น้ำเสียงดุดันและการตั้งคำถามของนักข่าวทำให้เด็กหญิงถึงกับต้องย่นจมูก
เมื่อเผชิญกับคำถามจากบรรดานักข่าว กู้หมิงอวี๋จึงหยิบไมโครโฟนมาตอบอย่างใจเย็น
“เรื่องอื้อฉาวที่พวกคุณพูดถึง…”
เขาจงใจลากน้ำเสียงเพื่อให้นักข่าวกลุ่มหนึ่งที่มองเขาอย่างร้อนรนคาดหวังว่าจะได้ขุดคุ้ยข่าวซุบซิบใหญ่โตจากเขา
“ไม่จริง”
การปฏิเสธอย่างสุขุมของกู้หมิงอวี๋ทำให้พวกเขาผิดหวัง แต่บางคนก็ยังไม่ยอมแพ้
“แต่หลิวอันหรานกล่าวต่อสาธารณะว่าคุณชื่นชมเธอเป็นการส่วนตัวนะคะ”
“หลิวอันหรานเป็นแฟนคลับของคุณ และยังอ้างว่าเธอเข้าสู่วงการบันเทิงก็เพราะคุณ มีความเป็นไปได้ไหมที่คุณจะพัฒนาความสัมพันธ์จนเป็นแฟนกัน?”
กู้หมิงอวี๋ “ไม่มีทาง ที่คุณบอกว่าผมชื่นชม ผมเคยกล่าวกับใครไปหลายคนแล้ว แฟนคลับก็มีบ้างที่เข้าสู่วงการบันเทิงเพราะผม แม้ว่าผมจะมีเสน่ห์มาก แต่ก็ยังไม่สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ไปถึงขั้นเป็นแฟนกันได้ครับ”