ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 155 คมเขี้ยวของไป๋โม่ฮัว
บทที่ 155 คมเขี้ยวของไป๋โม่ฮัว
อีกหนึ่งความโดดเด่นก็คือ ไม่ใช่เพียงแค่วิ่งเร็วแต่เขายังหล่อมากอีกด้วย
อย่างที่รู้กันดีว่าการแข่งขันวิ่งนี้ต้องใช้ความเร็วเป็นอย่างมาก เขาวิ่งจนผมปลิวไสวฟูฟ่องเลยทีเดียว
สายตาแน่วแน่ของกู้หมิงหลี่นั้นก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย ผมของเขาค่อนข้างสั้น เวลาวิ่งจะให้ความรู้สึกเหมือนสัตว์ป่าที่คอยตะครุบเหยื่อ ตอนนี้เขาวิ่งนำหน้าผู้เข้าแข่งขันคนอื่นไปไกลแล้ว
“กรี๊ดดดดด!!! กู้หมิงหลี่!!!”
บนอัฒจันทร์ ทุกคนในที่นั่งไม่ว่าจะเป็นนักเรียนห้อง 4 หรือไม่ก็ตาม ต่างก็ลุกขึ้นยืนและตะโกนให้ชายหนุ่มคนนั้น เสียงของพวกเขาดังราวกับเกลียวคลื่นที่ซัดถาโถมไม่มีผิด
หนวนหน่วนก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน เธอกำหมัดแน่น แววตาเป็นประกายลุกวาว ตะโกนเรียกพี่สี่อยู่ไม่ขาด
และแล้วกู้หมิงหลี่ก็ไปถึงเส้นชัย ไม่น่าแปลกใจสักเท่าไหร่ที่เขาเข้าไปถึงคนแรก
หลังจากที่เขาถึงเส้นชัย ร่างกายของเขาก็ต้องวิ่งออกไปอีกนิดเนื่องจากแรงเฉื่อย ก่อนจะค่อย ๆ ช้าลงและหยุดลงในที่สุด ทั้งครูประจำชั้นและเพื่อนร่วมห้อง 4 ต่างเข้าไปรุมล้อมเขาทั้งนั้น
ครูประจำชั้นตบบ่าเขาแล้วหัวเราะออกมา “ทำดีมาก เธอทำลายสถิติเลยนะ นำเกียรติมาสู่ห้องเราจริง ๆ!”
ไม่มีผู้เข้าแข่งขันคนไหนวิ่งได้เร็วเท่าเขาแล้ว
นักเรียนที่ยืนอยู่ล้อมรอบต่างส่งยิ้มให้เขา
กู้หมิงหลี่ยกยิ้มกว้าง ดูสดใสเหมือนดวงตะวันกำลังส่องแสงเจิดจ้าดวงหนึ่ง
หลังจากดื่มน้ำหนึ่งแก้วแล้ว กู้หมิงหลี่ก็พุ่งเข้าไปอุ้มหนวนหน่วนตัวน้อยขึ้นมาแล้วโยนเธอลอยขึ้นฟ้า พลางจุ๊บลงบนแก้มน้อยของเธอด้วย
“พี่สี่เก่งมากเลยค่ะ!”
หนวนหน่วยยิ้มแย้มด้วยความภูมิใจ ราวกับว่าตนเป็นผู้เข้าแข่งขันเสียเองอย่างนั้นแหละ แววตาของเธอที่จ้องมองมาขับประกายเจิดจ้า
กู้หมิงหลี่ขมวดคิ้วขึ้น “ไม่รู้ซะแล้วว่าพี่เป็นใคร”
เขารับคำชมจากน้องสาวด้วยความภาคภูมิใจ
กู้หมิงหลี่ไม่ได้ขึ้นไปรับรางวัลหลังจากการแข่งขันจบลง เขาส่งถังเล่อไปแทน
หลังจากก็ถึงเวลาที่ถังเล่อจะต้องลงแข่งขัน เขาขอให้หนวนหน่วนอ่านสคริปต์เชียร์ให้อีกครั้ง ก่อนจะเกือบถูกฆ่าจากพี่ชายคนคุ้นเคยของตัวเอง
ถังเล่อโหวกเหวกขึ้นทันที “ลูกพี่กู้ นี่เราเป็นอะไรกัน น้องสาวของนายก็เหมือนของฉันนั่นแหละ อย่าลำเอียงกันเลย ให้น้องช่วยอ่านเชียร์พวกเราด้วยเถอะ”
อู๋คว่างรีบพยักหน้าเห็นด้วย
กู้หมิงหลี่ยืนหยัด “ไม่ได้ หนวนหน่วนเจ็บคอ”
บรรดาคนที่ได้ยิน “…”
ตลกแล้วลูกพี่กู้
ลู่สิงจื่อก้มลงมองดูเวลา ก่อนจะเดินคล้องคอโอบไหล่คนตรงหน้าออกไปด้วยกัน
“รีบไปที่จุดรายงานตัวเร็ว”
ถึงแม้จะไม่ได้ไปอ่านเชียร์ แต่หนวนหน่วนเองก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อเป็นแรงใจให้ ถึงแม้ว่าจะถูกเสียงจากผู้คนจำนวนมากกลบไปหมดก็ตาม
หลังจากจับหนวนหน่วนให้นั่งลงบนตัก กู้หมิงหลี่ก็มองไปที่อีกคนที่กำลังหมกมุ่นอยู่กับการวาดภาพ จนเขาต้องยื่นหน้าเข้าไปดูใกล้ ๆ
แต่ก็เห็นมันเพียงนิดหน่อยเท่านั้น เนื่องจากชายหนุ่มรีบปิดบังภาพวาดของเขาทันที ไป๋โม่ฮัวใช้แขนทั้งสองข้างโอบปิดบังรูปภาพเอาไว้อย่างมิดชิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นจ้องมองอย่างประหม่า
“นายห้ามดูนะ!”
กู้หมิงหลี่ขมวดคิ้วขึ้น มันเป็นความลับขนาดนั้นเลยเหรอ?
เขาหัวเราะก่อนจะถามขึ้น “วาดอะไรอยู่?”
ไป๋โม่ฮัวเงียบลงทันที “ช่างเถอะ ยังไม่ต้องดูตอนนี้ก็ได้”
กู้หมิงหลี่ยิ้มอย่างมีเลศนัยพลางจ้องมองเขา “อ้อ วาดภาพฉันสินะ”
ไป๋โม่ฮัวตาเบิกกว้างขึ้นทันที ความลับทั้งหมดถูกเปิดเผยผ่านสีหน้าของเขาอย่างชัดเจน
“รู้ได้ยังไง?”
กู้หมิงหลี่เอนหลังลงมา ในขณะที่บนขายาว ๆ ของเขามีเจ้าตัวแสนนุ่มนิ่มนั่งอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้รู้สึกหนักเลย
“ฉันเดาเอาเอง แต่ตอนนี้มั่นใจแล้วละว่านายวาดภาพฉัน เฮ้อ… ละเมิดสิทธิ์มาวาดภาพฉันแล้วยังไม่ให้ดูอีก”
ใบหน้าของไป๋โม่ฮัวขึ้นสีแดงระเรื่อ “ฉ… ฉันเปล่าวาดนะ”
“ก็ได้ ฉันไม่ได้เห็นมันนี่ วาดเสร็จก็อย่าลืมเอามาให้ดูด้วยละกัน แอบวาดแบบนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นภาพฉันตอนโป๊เปลือยหรือเปล่า”
สิ้นเสียงพูด ไป๋โม่ฮัวที่กำลังอับอายก็ต่อยเข้าที่หน้าของคนพูดทันที แต่ก็เป็นกำปั้นที่ไร้เรี่ยวแรงอย่างยิ่ง
“นายทำฉันของขึ้นเอง!”
“ระวังหน่อย ฉันอุ้มหนวนหน่วนอยู่นะ”
“เห็นแล้ว แต่นายทำฉันของขึ้น!”
“เฮ้อ… ก็เห็นว่าไม่ได้วาดภาพฉันนี่ แล้วทำไมต้องของขึ้นด้วยล่ะ”
“ใครจะวาดภาพนาย!”
หนวนหน่วน “พี่ถังเล่อเอาเลย!”
เด็กสาวตัวน้อยยังคงส่งกำลังใจให้คนอื่นโดยที่ไม่รู้เลยว่าพี่ชายทั้งสองกำลังตีกันอยู่ พลังของเธอเต็มเปี่ยมมาก
งานกีฬาสีในวันแรกจบลงแล้ว ดังนั้นจึงมีคาบศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเองในตอนเย็น แต่กู้หมิงหลี่ก็ได้ลาคุณครูกลับบ้านก่อน
“คุณครูหลิว ผมจะกลับไปเรียนตอนเย็นนะครับ”
ครูประจำชั้นจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาเฉียบคม “อยู่ที่โรงเรียนยังไม่ตั้งใจ กลับไปจะเรียนได้เหรอ?”
กู้หมิงหลี่หัวเราะขึ้น “มันไม่เหมือนกันหรอกครับ”
“มีอะไรที่ต่างงั้นเหรอ?”
“โรงเรียนไม่มีน้องสาวไง”
ครูประจำชั้น “…”
หลังจากนั้นกู้หมิงหลี่ก็เล่าให้เขาฟังว่าหนวนหน่วนสำคัญต่อการตั้งใจเรียนยังไง
ครูประจำชั้นพูดไม่ออก รู้สึกหน้าชาขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ “ยังจะกล้าพูดอีก เป็นพี่ก็ต้องนำน้องเรียนสิ ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันไม่กล้าเอาเรื่องนี้มาพูดแน่”
กู้หมิงหลี่ “เพราะน้องสาวของผมสวยด้วยครับ”
และแล้ว… ครูประจำชั้นก็นึกอะไรออก การที่ผลการเรียนของเด็กคนนี้ดีขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากน้องสาวนี่เอง
หลังจากโทรปรึกษากับผู้ปกครองของกู้หมิงหลี่ เขาก็ยอมหลับหูหลับตาปล่อยให้กลับไป
เมื่อกู้หมิงหลี่ออกมาจากโรงเรียนพร้อมกับหนวนหน่วนและไป๋โม่ฮัว ปรากฏว่ามีรถมารออยู่ข้างหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นหน้าต่างรถก็เลื่อนลงพร้อมกับมีใบหน้าของใครบางคนโผล่ออกมา
“หนวนหน่วน!”
กู้อันตื่นตาตื่นใจมาก ยิ่งเห็นหนวนหนวนแต่งตัวเป็นเด็กน้อยในเทพนิยาย แววตาของเขาก็ยิ่งเป็นประกาย
เขาเปิดประตูรถแล้วตบเบาะที่นั่งว่างด้านข้างเพื่อให้น้องสาวขึ้นไปนั่ง แต่แล้วกู้หมิงหลี่กลับปีนเข้าไปนั่งโดยไม่คิดอะไร
ใบหน้าของกู้อันหงอยลงทันที
“ผมให้น้องมานั่งไม่ใช่พี่นะ”
กู้หมิงหลี่กอดเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขน เขาให้หนวนหน่วนนั่งระหว่างขา จากนั้นก็ปรายตามอง
“รถคันนี้ของนายหรือไง?”
กู้อันทำตัวขู่ฟ่อเหมือนแมว “ของพี่ใหญ่ต่างหาก”
กู้หมิงหลี่ตอบกลับ “ถ้างั้นก็เป็นพี่ใหญ่ของฉันเหมือนกัน”
“ฉันเป็นน้องรัก!”
“ถ้างั้นให้พี่ใหญ่มาพิสูจน์ไหมล่ะ?”
“เฮ้อออ”
ไป๋โม่ฮัวหัวเราะออกมา จนคนขับที่นั่งอยู่ข้างหน้าเองก็ส่ายศีรษะไปมาเช่นกัน
กู้หมิงหลี่เป็นบุคคลที่น่าทึ่งจริง ๆ
ไม่เพียงเท่านั้น เขายังใช้หนวนหน่วนเป็นเครื่องมือด้วย “แบบนี้นะน้องรัก ถ้าให้พี่ใหญ่มาพิสูจน์ เขาจะจุ๊บหนวนหน่วนแทนแน่นอน”
กู้อัน “…”
แทบจะบ้าแล้ว
ไป๋โม่ฮัวยิ้มอย่างมีความสุข ทันใดนั้นเขาก็โดนเข้าจนได้
“หัวเราะอะไร ภาพวาดนายน่ะ? เสร็จแล้วเหรอ”
ไป๋โม่ฮัวหัวเราะไม่ออกอีกต่อไป ชายหนุ่มกำกระดานวาดภาพไว้แน่น
“ไม่มี!”
“เฮ้อ… ฉันรู้นะว่านายหวงฉัน….”
เขากลัวว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าจะทำอะไรพิเรนทร์ จึงหยิบกระดานวาดภาพแล้วย้ายไปตรงอื่น
แล้วกู้อันจะปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไปได้ยังไงกัน เขาแยกเขี้ยวก่อนจะตะครุบเหยื่อ
หนวนหน่วนถูกอุ้มวางลงตรงหน้าด้วยความงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“คุณหนูหนวนหน่วนอยากทานอะไรไหมครับ?”
ถึงยังไงตอนนี้ก็ขับรถไม่ได้อยู่ดี เพราะเสียงมันดังเกินไป ไว้รอพวกนายน้อยตีกันเสร็จแล้วค่อยไปละกัน
หนวนหน่วนพยักหน้าลง คนขับจึงหยิบอมยิ้มรสชาติต่าง ๆ ออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทของตนแล้วถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“คุณหนูหนวนหน่วนอยากกินรสอะไรครับ?”
หนวนหน่วน ‘ย… เยอะจัง’
“องุ่น!”
หลังจากนั้นเด็กหญิงตัวน้อยก็พุ่งเข้าไปตรงที่นั่งข้างคนขับ มองดูสามคนพี่น้องทะเลาะกันพลางยกยิ้มเอ็นดู
กู้หมิงหลี่ไม่เคยเห็นไป๋โม่ฮัวต่อสู้แบบนี้มาก่อน ผมนั่น… อยากจะดึงก็ทำไม่ได้ และแล้วไป๋โม่ฮัวก็กัดเขาอีกครั้ง ครั้งนี้มันเข้าที่ดั้งจมูกพอดี ทำเอาน้ำตาไหลพรากเลยทีเดียว
ไม่เพียงแค่กัดเท่านั้น แต่ยังฝังเขี้ยวอีกด้วย!
“ปล่อยจมูกฉันนะ!”
ไป๋โม่ฮัวลุกออกด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
วันนี้ไป๋โม่ฮัวทำอะไรโง่เง่ายิ่งกว่าเขาเสียอีก ทำไมวันนี้ต้องใช้ปากกัดด้วย เมื่อก่อนไม่ใช่คนแบบนี้นี่!
กู้อันหัวเราะขึ้น “ฮ่า ๆ ๆ กู้หมิงหลี่มีวันนี้กับเขาด้วย!”