ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 154 กำลังใจจากน้องสาวตัวน้อย
บทที่ 154 กำลังใจจากน้องสาวตัวน้อย
“นักเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขันวิ่ง 100 เมตรชาย กรุณาไปเข้าแถวเพื่อรายงานตัวที่จุดรายงานตัวด้วยค่ะ ขอให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันวิ่ง 100 เมตรชาย ไปรายงานตัวที่จุดรายงานตัว….”
น้ำเสียงอันร่าเริงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ก่อนที่นักเรียนชายที่เข้าร่วมการแข่งขันวิ่ง 100 เมตรจะแห่กันไปรวมตัวกันตรงจุดนั้น
รวมถึงกู้หมิงหลี่ด้วย
เมื่อกลับถึงหอพักช่วงพักเที่ยงเขาก็ได้ทำการเปลี่ยนชุดย้อนยุคนั้นแล้ว ถึงชุดจะทำให้เขาดูหล่อมาก แต่ถ้าใส่วิ่งคงเสี่ยงแพ้แน่นอน
“พี่ หนวนหน่วนต้องไปด้วยไหมคะ?”
เด็กสาวตัวน้อยจับมือกู้หมิงหลี่ นัยน์ตาขาวดำคู่นั้นจ้องมองมาที่เขาอย่างมุ่งมั่น
“ไปสิ ไปดูด้วย เป็นการแข่งวิ่ง 100 เมตรใน 10 วินาที”
หลังจากพูดจบเขาก็โผเข้าไปอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นมา
หนวนหน่วนยังสวมใส่ชุดย้อนยุคแสนน่ารักอยู่ บนหัวก็ยังมีเขากวางเหมือนเดิม เธอดูน่ารักเหมือนเกี๊ยวขาวเลย
วันนี้มีกี่คนกันนะที่แอบเดินผ่านห้องเรียนเขาทั้งที่ตั้งใจและบังเอิญ เพียงเพื่อจะได้เชยชมโฉมหน้าของน้องสาวเขา
และแล้วก็เกิดเป็นกระแสข่าวลุกฮือขึ้นมาจนทั้งโรงเรียนรับรู้
กู้หมิงหลี่เป็นที่สนใจมาโดยตลอด การสอบของเขาในครั้งก่อนทำให้หนวนหน่วนกลายเป็นประเด็นใหญ่แห่งโรงเรียนมัธยมหนานเฉิง เมื่อเธอถูกพามาที่โรงเรียนด้วย แน่นอนว่าหลายคนต้องให้ความสนใจเป็นธรรมดา
แม้ว่ากู้หมิงหลี่จะไม่ใช่เพียงคนเดียวที่พาคนในครอบครัวมาร่วมงานด้วย แต่นอกจากเขาแล้วก็ไม่ได้มีใครพาน้องสาวขึ้นไปโชว์ตัวเลย
#เจ้าแม่หนี่ว์วาช่างลำเอียง อย่าให้พูดถึงความงานดีของครอบครัวนี้เลย เหมือนในรูปเป๊ะ#
ในรูปเป็นกู้หมิงหลี่ หนวนหน่วนและไป๋โม่ฮัว พวกเขาสวมชุดย้อนยุคกันหมด เจ้าตัวน้อยนั่งคั่นกลางระหว่างพี่ชายทั้งสอง มองแบบนี้เธอเหมือนสโนว์ไวท์ในเทพนิยายไม่มีผิด
1L : ได้ข่าวมาว่าผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงนั้นน่ะคือพี่ชายของเขา เห็นว่าเรียนศิลปะ หน้าตาดีแล้วยังเทสต์ดีอีก
2L : เฮ้อ… สามคนนี้หน้าตาเอาเรื่องจริง ๆ กู้หมิงหลี่ในชุดย้อนยุคหล่อมาก เหมือนแม่ทัพสมัยก่อนเลย!
3L : พี่ชายที่อยู่ถัดจากเขาก็เหมือนกับคุณชายสูงศักดิ์ที่สอบจอหงวนเลย น่ารักจังเลยค่ะ!
4L : ตอนที่เจ้าแม่หนี่ว์วาปั้นพวกเขาคงตั้งใจแน่เลย ส่วนเราก็คงเป็นโคลนตม
5L : กู้หมิงหลี่หล่อจริง ๆ เลย แต่นิสัยแย่มาก ฉันสารภาพรักกับเขาไปตั้งสามครั้ง แต่ครั้งสุดท้ายที่ไปเขายังจะถามอีกว่าฉันเป็นใคร!
6L : เมนต์บนน่าสงสารจัง แต่เจ้ากู้หมิงหลี่ปากปีจอก็ไม่ได้มีอะไรดีเลยนะนอกจากเล่นบาสแล้วก็เล่นเกมเก่ง สายตาเย็นชามาก นี่อยากรู้เลยว่าถ้ามีแฟนแล้วจะเป็นยังไง แต่ดูจากการที่เล่นกับเพื่อนก็กอดคอ ซบไหล่ ดูอ่อนโยนดีนะ งงไปหมดแล้ว
7L : ยกเว้นน้องสาวเขาไง ไม่เคยเห็นเขาอ่อนโยนกับใครเท่านี้มาก่อน
8L : เลิกพูดถึงเขาเถอะ ว่าแต่น้องสาวของเขาตัวเล็กบอบบางมากเลยนะ ดูเชื่อฟังด้วย ฉันชอบมากเลย
…
ในบางครั้งรูปภาพของพวกเขาก็ถูกโพสต์ลงในคอลัมน์ของโรงเรียน และวันนี้ทุกคนก็ได้อิสระในการเล่นโทรศัพท์ ทำให้บทสนทนาในหัวข้อนี้ผุดขึ้นมาอย่างล้นหลาม
หนวนหน่วนจับมือพี่ชายทั้งสองคนแล้วก้าวเดินไปยังจุดรายงานตัวด้วยกัน ผู้คนจำนวนมากต่างรวมตัวกันอยู่ตรงนั้นเพื่อมาลงทะเบียนและรับป้ายชื่อผู้เข้าแข่งขัน
ใช้เวลาไม่นานก็ถึงคิวของกู้หมิงหลี่ เขาดึงป้ายหมายเลข 4 และถอดเสื้อแจ็กเก็ตตัวนอกออก เหลือเพียงเสื้อยืดสีดำที่โชว์ท่อนแขนจนสามารถเห็นกล้ามเนื้อแน่น ๆ ล่ำสันของเขาได้ มันไม่ได้เกินจริงเลย เพราะกล้ามของเขาดูดีมาก
สาว ๆ หลายคนที่อยู่ล้อมรอบอดไม่ได้ที่จะแอบชำเลืองมองตรงท่อนแขนและใบหน้าของเขา ก่อนจะรีบหันมองทางอื่นด้วยความเขินอาย
มันคือสิ่งโปรดปรานภายในใจของทุกคน ตำหนิไม่ได้เลยว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ล้วนแต่ชอบผู้ชายหน้าตาดีทั้งนั้น อย่างไรผู้ชายก็ชอบผู้หญิงที่หน้าตาเช่นกันไม่ใช่เหรอ?
“พี่สี่หนาวรึเปล่า?”
หนวนหน่วนมองไปตรงท่อนแขนเปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าปกคลุมอย่างเป็นกังวล ก่อนจะใช้มือเล็กสัมผัสกับมัน
ร้อนมากเลย
กู้หมิงหลี่ยกยิ้มขึ้นอย่างร่าเริง “ไม่หนาวนะ ใส่เสื้อเชิ้ตแล้วร้อนมากกว่า”
“ลูกพี่กู้ นี่น้ำตาลเติมความหวาน”
ถังเล่อและลู่สิงจื่อไปซื้อกลูโคสมาชงใส่แก้วสำหรับใช้ครั้งเดียวให้เขา
กู้หมิงหลี่จิ๊ปาก ยกถ้วยจิบมันอย่างเบื่อหน่าย หลังจากนั้นเขาก็ขยำแก้วแล้วโยนเข้าถังขยะที่ห่างออกไป 2 เมตรอย่างแม่นยำ
“หนวนหน่วนไปข้างหน้าเถอะ ตรงนี้ไม่เห็นอะไรหรอก”
ถังเล่ออุ้มเด็กหญิงลอยขึ้นไป ทำเอากู้หมิงหลี่จ้องมองเขาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“นายทำเธอกลัวนะ!”
ถังเล่อยกยิ้มขึ้นเมื่อหันมองแล้วพบเข้ากับสายตาไร้เดียงสาของหนวนหน่วน นั่นทำให้เขาต้องทบทวนกับตัวเองว่าทำไมหนวนหน่วนต้องกลัวด้วย ก่อนจะรู้ตัวว่ามันไม่ถูกต้อง!
“ฮุฮุฮุ ลูกพี่กู้นี่เอาแต่ใจจริง ๆ เลยนะ ใครก็ห้ามไม่ได้”
กู้หมิงหลี่ไม่ได้รู้สึกอายเลยแม้แต่น้อย แต่กลับพูดขึ้นอย่างภาคภูมิ “แล้วน้องสาวของฉันไม่ควรตามใจตรงไหน?”
หนวนหน่วนขบเม้มริมฝีปากก่อนจะหัวเราะออกมาจนนัยน์ตาโค้งหยี
การแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว หนวนหน่วนจึงถูกอุ้มไปตรงแถวเส้นชัยที่อยู่ห่างไกลออกไป
เมื่อผู้เข้าแข่งขันกลุ่มแรกพร้อม กระสุนปืนหนึ่งนัดก็ถูกยิงขึ้นฟ้า นักเรียนแต่ละชั้นปีต่างพากันส่งเสียงเชียร์เพื่อนของตัวเองกันอย่างล้นหลาม แม้แต่โฆษกเองก็ส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจนักกีฬาในสนามเองด้วย
เมื่อใกล้ถึงคิวของกู้หมิงหลี่ จู่ ๆ เสียงออดอ้อนไร้เดียงสาก็ดังขึ้นตรงบริเวณสนาม มันถูกออกอากาศไปทั่ว แม้แต่เหล่าอาจารย์เองก็จับจ้องมองไปตรงแถวบริเวณนั้น
หลังจากได้ยิน ไม่นานนักกู้หมิงหลี่ก็เงยหน้าขึ้นมองไปตรงบริเวณเดียวกับที่ถูกฉายออกอากาศ ถึงแม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นคนตัวเล็กที่นั่งอยู่แถวบริเวณนั้น แต่มุมปากของเขาก็ยกยิ้มขึ้นอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มเขาราวกับดวงตะวันแย้มแสงก็ไม่ปาน
“หนุ่มน้อยพลิ้วไหวดั่งสายลม เหมือนวิ่งไปพร้อมกับสายลม สปิริตแรงกล้ามาก กู้หมิงหลี่จากชั้นมัธยม 6 ส่องประกายราวกับดวงอาทิตย์ วิ่งไปพร้อมกับสายลม ประดุจเกลียวคลื่นซึ่งลมกระโชกแรง สู้ ๆ นายเก่งที่สุด”
น้ำเสียงอันไร้เดียงสาแสนนุ่มนวลอ่านสคริปต์เชียร์อย่างตั้งใจ เธอเปล่งเสียงร้องออกมาด้วยท่าทีเขินอายเล็กน้อย ก่อนจะพูดอีกประโยคต่อท้าย
“พี่สู้ ๆ นะคะ”
ประโยคสุดท้ายหนวนหน่วนเลือกที่จะพูดเอง หลังจากอ่านจบ ท่ามกลางผู้ชมมากหน้าหลายตาที่จ้องมองมา ใบหน้าเล็กของเธอก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ จากนั้นเธอถูกลูกพี่ลูกน้องพากลับไปนั่งที่ ขณะเดินไปเด็กหญิงก็หัวเราะอย่างเขินอายไปด้วย
“ไม่รู้ว่าพี่กู้จะเป็นยังไงบ้าง คงเซอร์ไพรส์น่าดูเลยนะว่าไหม”
ไม่ผิดแน่ นี่คือเซอร์ไพรส์ที่เหล่านักเรียนในห้องได้เตรียมไว้ให้กู้หมิงหลี่ และมันได้ผลดีด้วย เสียงอันออดอ้อนของหนวนหน่วนช่างไพเราะเสนาะหูผู้คนเสียจริง และสำหรับคนนั้นที่เธอเอ่ยเชียร์ หลายคนคงอดอิจฉาไม่ได้อย่างแน่นอน
หญิงสาวผู้ทำหน้าที่พิธีกรพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะให้สาวน้อยช่วยอ่านสคริปต์ต้นฉบับให้คนอื่น แต่ดูเหมือนถังเล่อและคนอื่น ๆ จะไม่ชอบใจสักเท่าไหร่ ถ้าอนุญาตให้หนวนหน่วนทำแบบนั้น เกรงว่าพวกเขาอาจจะถูกซ้อมจนตายได้
หนวนหน่วนเห็นสายตาคนรอบข้างจ้องมองมาก่อนจะโดนลูกพี่ลูกน้องของเธออุ้มเธอขึ้น จากนั้นเธอก็โอดครวญและฝังใบหน้าที่แดงก่ำลงบนบ่าของเขา
ถึงเธอจะขี้อาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังถือป้ายให้กับห้อง 4 และเดินโชว์ตัวได้ อีกอย่างยังสามารถพูดเชียร์ออกอากาศให้พี่สี่ของเธอได้อีกด้วย ต้องบอกเลยว่ามันเป็นการกระทำที่กล้าหาญมาก เพราะสาวน้อยคนนี้ขี้อายจริง ๆ และตอนนี้เธอก็เหมือนกับกวางสีน้ำตาลตัวน้อยที่กำลังตื่นตระหนกไม่มีผิด
ปัง!
กระสุนปืนถูกยิงขึ้น ผู้เข้าแข่งขันเริ่มออกวิ่งไปตามเส้นทาง นอกจากนี้การสปรินต์ตัวนั้นจัดได้ว่าเป็นเทคนิคสำคัญมากที่สุดในการวิ่ง 100 เมตรนี้
คนหนุ่มสาวในช่องลู่วิ่งสีแดงนั้นวิ่งเร็วมาก ราวกับลมที่พัดผ่านไปในพริบตาเลยก็ว่าได้ ความเร็วของพวกเขานั้นเหมือนกับว่าสามารถหายไปพร้อมกับสายลมได้เลย