ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 153 มาสคอตตัวน้อย
บทที่ 153 มาสคอตตัวน้อย
“ลูกพี่กู้ รีบมาเอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยนเร็ว อ๋อใช่ ได้ยินพี่บอกว่าน้องสาวกับพี่ชายจะมาเลยเตรียมมาเผื่อให้ด้วย”
หนวนหน่วนกับไป๋โม่ฮัว “???”
“มีของพวกเราด้วยเหรอ?”
กู้หมิงหลี่ยกมือข้างหนึ่งรับเสื้อผ้าที่ถูกโยนมาอย่างง่ายดายและเท่ไม่เบา
“อันนั้นชุดของพี่ชายลูกพี่”
กู้หมิงหลี่ยื่นไปให้ไป๋โม่ฮัว “ของนาย”
ไป๋โม่ฮัวรีบรับมันทันที ใบหน้าของเขาก็ยังงุนงงอยู่เล็กน้อย
ต่อมาเป็นของหนวนหน่วน
ชุดโบราณของจีนคล้ายกับชุดนักเรียนจีน มีการตัดเย็บบางส่วนที่เป็นแบบเดียวกัน นอกจากนี้ตรงเสื้อคลุมยังเป็นระบายชายผ้าสีขาว โดยรวมแล้วเป็นชุดที่น่ารักมาก
ขณะที่หนวนหน่วนกำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้า สายตาของนักเรียนหญิงบางคนก็จับจ้องมองมา
“กู้หมิงหลี่ ให้น้องสาวมาอยู่กับพวกเราเถอะ”
กู้หมิงหลี่ “….”
อันที่จริงแล้วก็ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ เพราะสายตาที่เพื่อนร่วมชั้นผู้หญิงจับจ้องมาตอนนี้ราวกับหมาป่ามองแกะน้อยไม่มีผิด
แต่สุดท้ายแล้ว หนวนหน่วนก็ถูกพวกพี่สาวพาไปเปลี่ยนชุดจนได้
พวกเธอจัดการสวมชุดตัวเล็กแสนน่ารักและสวมรองเท้าสีขาวให้หนวนหน่วน ผมที่ถูกมัดทั้งสองข้างถูกคาดด้วยผ้าสีแดง ทำให้ดูมีสีสันขึ้นมาทันที
ดวงตากลมโตสดใสสวยงาม ปากเล็กอมชมพูที่ไร้การแต่งแต้มเติมสีสัน ประกอบกับผิวที่ขาวราวกับน้ำนม สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ขับเน้นให้เด็กหญิงโดดเด่นมากขึ้น หนวนหน่วนดูราวกับเป็นเกี๊ยวต้มสีขาวไม่มีผิด
และแล้วหนวนหน่วนก็โดนบรรดานักเรียนในห้อง 4 รุมถ่ายรูป อีกทั้งยังหยิกจับแก้มน้อย ๆ ไปด้วย เธอเลยวิ่งพรวดออกไปพลางจับใบหน้าของตัวเองไว้
ว้า…. ทำให้เด็กน้อยกลัวซะแล้ว
กู้หมิงหลี่และไป๋โม่ฮัวกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสีดำสุดเท่ ทำให้ทั้งคู่ที่รูปร่างดีอยู่แล้วดูเพรียวยิ่งขึ้นไปอีก
ไป๋โม่ฮัวกำลังใส่เข็มขัดของตัวเอง เนื่องจากว่าเขาผอมมาก เมื่อสวมใส่เสร็จ นักเรียนหญิงในห้องก็ต่างพากันกรี๊ดกร๊าด บางคนก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้ามาหา
“พี่คะ เอวเท่าไหร่กันเนี่ย!”
เธอรู้สึกว่าเอวของตนใหญ่กว่าเขาถึงสองเท่าด้วยซ้ำ!
ไป๋โม่ฮัวหน้าแดง เขารู้ว่าตัวเองต้องพยายามขุนร่างให้มากกว่านี้ แต่เขาไม่ชอบเล่นกีฬาจริง ๆ
“พระเจ้า เอวก็บาง ผิวก็ดี สลับร่างกันไหมคะพี่ น่าอิจฉาเกินไปแล้วนะ”
ไป๋โม่ฮัวยกยิ้มขึ้นอย่างทะเล้น “ฉันเป็นจิตรกร วัน ๆ เอาแต่วาดรูป ไม่ได้ออกไปข้างนอกเลยน่ะ”
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ครอบครัวนี้ก็ดูโดดเด่นขึ้นมาทันที ได้เห็นแค่นี้ก็พอใจแล้ว
“นายต้องเข้าแถวใช่ไหม แล้วหนวนหน่วนกับฉันต้องรอตรงไหน?”
กู้หมิงหลี่เดินไปอุ้มสาวน้อยที่เหมือนเกี๊ยวต้มขึ้นมา
“ไม่ต้องหรอก ไปด้วยกันนี่แหละ”
ไป๋โม่ฮัวตกใจ “พวกฉันเนี่ยนะ”
ถังเล่อยิ้มแล้วตบลงบนบ่าเขา “ไม่เป็นไรหรอก พี่โม่ฮัวกลมกลืนกับพวกเด็กนักเรียนมากกว่าพี่กู้อีก ส่วนหนวนหน่วน ฉันมีแผน ว่าจะทำให้คนอื่นคิดว่าชั้นปีเรามีการแสดงพิเศษมาสคอตตัวน้อย”
คนอื่นต่างพยักหน้า ก่อนที่เสียงประกาศอันคุ้นเคยจะดังขึ้น ไม่ทันที่ไป๋โม่ฮัวจะคัดค้านอะไร เขาก็ถูกลากให้ไปเข้าแถวเรียบร้อยแล้ว ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูดี เขาจึงถูกดันให้ไปอยู่แถวหน้าต่อหลังจากกู้หมิงหลี่ ส่วนถัดไปเป็นลู่สิงจื่อ
นี่คือสมบัติแสนล้ำค่าของห้อง 4
หนวนหน่วนถูกกู้หมิงหลี่อุ้มขึ้น เธอถือป้ายของห้อง 4 ด้วยใบหน้างุนงง
“รอเดี๋ยว หนวนหน่วนเป็นมาสคอตของห้องเรา ต้องติดอันนี้ไว้”
จากนั้นหนวนหน่วนก็โดนสวมเขากวางน้อยแสนน่ารักคู่หนึ่งไว้บนศีรษะ
“น่ารักจังเลย!”
“ความคิดใครเนี่ยอัจฉริยะจริง”
เป็นอีกครั้งที่ถูกถ่ายภาพแบบรัว ๆ โดยครั้งนี้กู้หมิงหลี่เองก็ถูกถ่ายด้วย
หนวนหน่วนเอื้อมมือแตะเขากวางบนหัวของตัวเอง จากนั้นก็โน้มตัวไปหาพี่สี่ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเบา
“พี่สี่ หนูดูแปลกไหม?”
กู้หมิงหลี่จ้องไปที่ศีรษะของเธอ อดไม่ได้ที่จะยื่นนิ้วเข้าไปจิ้มมัน
“ไม่แปลกนะ”
เขาเองก็เพิ่งรู้วันนี้ว่าเพื่อนร่วมชั้นผู้หญิงของเขามีความคิดประหลาดขนาดไหน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเมื่อน้องสาวของเขาใส่ชุดนี้แล้วเธอดูน่ารักมาก อย่าพูดถึงพวกผู้หญิงที่ชอบตุ๊กตาเลย กระทั่งเด็กผู้ชายเองก็ยังอยากจะกอด อยากจะอุ้ม
“ขออุ้มบ้างได้ไหม?”
ถังเล่อเสนอหน้าเข้ามา
“บ้าหรือไง”
ถังเล่อ “อย่าใจร้ายนักสิ น้องของนายก็น้องของฉันเหมือนกันแหละ”
กู้หมิงหลี่มองเพื่อนด้วยสายตาเฉียบคมดุจมีด ถังเล่อจึงรีบหุบปากฉับ หลังทำท่ารูดซิปปากเขาก็กลับเข้าไปยืนที่ตัวเองทันที
เมื่อครูประจำชั้นมาถึง เขาก็แสร้งทำเป็นเมินเมื่อเห็นนักเรียนสองคนที่ไม่ได้อยู่ในชั้นของตน เพราะทั้งคู่นั้นต่างเป็นสมบัติล้ำค่าของชั้นที่ประเมินค่าไม่ได้ สองคนนี้สามารถสร้างหน้าสร้างตาให้กับเหล่าคุณครูประจำห้อง 4 ได้อยู่ไม่น้อย
สนามเคล้าคลอไปด้วยเพลง ‘March of Athletes’ ที่ตราตรึงอยู่ในสายเลือดของเหล่านักเรียน แต่ละชั้นปีต่างเดินสวนสนามไปด้วยชุดของห้องตัวเอง จากนั้นก็มีตัวแทนแต่ละชั้นปีขึ้นไปกล่าวสุนทรพจน์บนโพเดียม
เมื่อถึงเวลาที่ห้อง 4 ต้องเดินโชว์ หนวนหน่วนก็กอดพี่สี่แน่น เธอจ้องมองตรงไปข้างหน้าโดยที่ไม่กล้ามองทางอื่นเลยแม้แต่น้อย โชคดีที่หน้าที่นี้ไม่ได้หนักหนามากนัก ไม่งั้นกู้หมิงหลี่คงไม่ให้เธอทำแน่นอน
เด็กหญิงประหม่าจนหน้าขึ้นสีแดงเล็กน้อย ร่างเล็กทั้งร่างเกร็งไปหมดจนเหงื่อออกบนฝ่ามือ
หลังจากผ่านพ้นไปเธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
กู้หมิงหลี่บีบจับแก้มด้วยความเอ็นดู
“ไม่เลวเลยนะ ไหนขอพี่สี่มองหน้าหน่อย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เด็กสาวตัวน้อยก็ยกยิ้มจนตาหยีทันที รอยยิ้มนี้ช่างสวยงามน่าทะนุถนอมจนบางคนถึงกับต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูปทันที เมื่อเห็นรอยยิ้มนั้นแล้วก็อยากจะยิ้มตามจนแทบทนไม่ไหว
ไป๋โม่ฮัวย่อตัวลงไปถามด้วยความเป็นห่วง “หนวนหน่วนตื่นเต้นรึเปล่า?”
หนวนหน่วนส่ายหัว หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็พูดขึ้นเบา ๆ “มีบ้างนิดหน่อยค่ะ”
เธอจีบนิ้วขึ้นเล็กน้อยประกอบคำว่านิดหน่อย
น่ารักจังเลย
กู้หมิงหลี่และคนอื่น ๆ ต่างยืนอยู่ในแถวของตนเอง ทันใดนั้นสายตาจากทุกทิศทางก็จับจ้องมองมาที่เขา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สงบนิ่งไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย
สิ่งที่น่าเบื่อที่สุดก็คือตอนที่ประธานในพิธีกล่าวให้โอวาท นักเรียนที่อยู่แถวล่างต่างรู้สึกกระสับกระส่ายอย่างบอกไม่ถูก
ในที่สุดประธานก็พูดจบ ภายใต้คำสั่งของอาจารย์ใหญ่ แต่ละชั้นปีจะต้องนั่งลงบนที่นั่งซึ่งแบ่งไว้ในสนามแล้วเริ่มทำการแสดงความสามารถ นี่เป็นครั้งแรกที่หนวนหน่วนได้มาดูงานกีฬาสีจึงตื่นเต้นมาก เธอนั่งคั่นกลางระหว่างพี่ชายทั้งสองก่อนจะชะเง้อคอมองดูโดยรอบอย่างตื่นตาตื่นใจ
กู้หมิงหลี่จับเขากวางอันน้อยบนศีรษะของเธอ และเมื่อเห็นท่าทีที่ตื่นเต้นของน้องสาวตัวน้อย มุมปากของเขาก็ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพูดกดเสียงต่ำ
“มีอะไรน่าดูเหรอ นี่เทียบไม่ได้กับตอนไปดูคอนเสิร์ตของพี่สามเลยนะ”
ไป๋โม่ฮัวเองก็ตั้งใจรับชมการแสดงเช่นกัน แต่ก็ไม่ลืมที่จะหันกลับไปพูดขัด “ไม่เหมือนกันสักหน่อย”
การแสดงของนักเรียนอาจไม่สมบูรณ์แบบหรือมีเอฟเฟกต์แพรวพราวเหมือนบนเวที แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความทรงจำในวัยเยาว์ที่แสนล้ำค่า
ตอนนี้ที่ยังอยู่ในวัยเรียน พวกเขาอาจไม่ได้รู้สึกถึงสิ่งสวยงามเหล่านี้เลย แต่ในสักวันหนึ่งเมื่อได้เติบโตขึ้นและมองย้อนกลับมา พวกเขาจะรู้สึกได้ทันทีเลยว่าสิ่งที่น่าจดจำที่สุดก็คือช่วงเวลาที่เคยเกลียดชังเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก
ไป๋โม่ฮัวหยิบกระดานวาดภาพขึ้นมา เขาไม่เพียงแค่ดูอย่างเพลิดเพลินเท่านั้น แต่มือก็ทำการวาดไปด้วย
กู้หมิงหลี่ “นี่ นายบอกว่าจะวาดแต่คนหน้าตาดีไม่ใช่เหรอ?”
“นายไม่เข้าใจ ฉันไม่ได้วาดคน แต่กำลังเก็บช่วงเวลาวัยเยาว์ต่างหาก”
กู้หมิงหลี่ : ไม่เข้าความคิดเจ้าโง่นี่เลย
หลังจากการแสดงจบลง รายการต่อไปก็คือเพลงมาร์ชกีฬา งานกีฬาสีของโรงเรียนได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว