ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 150 สตรอว์เบอร์รีสุกแล้ว
บทที่ 150 สตรอว์เบอร์รีสุกแล้ว
“พี่คะ ได้เวลาเรียนแล้วค่ะ”
ขณะที่กู้หมิงหลี่กำลังจะเล่นเกม หนวนหน่วนตัวน้อยก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับหนังสือในอ้อมแขน
กู้หมิงหลี่ “…”
จะจัดการกับน้องสาวที่บังคับให้เขาเรียนหนังสือยังไงดี อย่าคิดว่าไม่รู้นะว่าหนวนหน่วนคิดอะไรอยู่
หนวนหน่วนนั่งลงข้าง ๆ พลางหยิบหนังสือของตนขึ้นมาอ่านเช่นกัน
อ๋อใช่ ยังมีพี่กู้อันอีกคนนี่นา
เด็กหญิงมีความพยายามที่จะให้พี่ชายทั้งสองของเธอตั้งใจเรียน ทั้งสามคนต่างดูแลซึ่งกันและกัน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นน้องสาวที่ดูแลพวกพี่ชายมากกว่า เนื่องจากว่าพวกเขาจ้องจะทะเลาะกันอยู่ทุกเมื่อ
บางทีแบบนี้มันก็ถือว่าไม่เลว เพราะแบบนี้กู้หลินโม่จึงลงทุนจ้างติวเตอร์มาสอนให้ถึงที่บ้าน
ติวเตอร์เป็นชายหนุ่มนิสัยอ่อนโยน เขายังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ แต่ก็หารายได้เสริมโดยการมาสอนพิเศษ
เทียบกับเมื่อก่อนแล้ว กู้หมิงหลี่กับกู้อันลงเรียนกันแค่วันละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ตอนนี้…
เมื่อน้องสาวเฝ้ามอง พวกเขาจึงจำเป็นต้องตั้งใจเรียนอย่างขะมักเขม้นด้วยใจอันขื่นขม
หลังจากที่เรียนมาทั้งวัน กู้หมิงหลี่ก็รู้สึกอ่อนล้าไปทั้งกาย ภายในสมองเต็มไปด้วยความรู้ตีกันยุ่งเหยิงไปหมด
กู้อันเองก็เช่นกัน เขารู้สึกว่าตัวเองไร้ค่ามาก ทั้งคู่จึงทิ้งตัวลงนอนบนเตียงพลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายด้วยกัน
เด็กหญิงรู้สึกกังวล จึงรีบลงไปข้างล่างเพื่อรินน้ำผลไม้ให้กับพี่ชายทั้งสอง
“พี่สี่ พี่เล็ก เหนื่อยมากเลยนะคะวันนี้” เด็กหญิงเอาน้ำมาให้อย่างกระตือรือร้น
ทั้งสองรีบลุกขึ้นทันที เมื่อมองดูน้องสาวแสนนุ่มนิ่มของตนรินน้ำผลไม้ให้ก็คิดได้ทันทีว่า… การเรียนก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่แล้ว
เมื่อมองดูท่าทางกระฉับกระเฉงของหนวนหน่วนแล้วก็รู้สึกชื่นชมอยู่ลึก ๆ
“ไม่เหนื่อยเลยหรือไง?”
หนวนหน่วนจ้องมองด้วยแววตาไร้เดียงสาก่อนจะเอ่ยตอบ “ไม่เหนื่อยค่ะ แค่นั่งอ่านหนังสือเอง”
ทั้งสองคนที่รู้สึกเหนื่อย “…”
กู้อัน “…ทำไมเหมือนมีฉันคนเดียวในครอบครัวที่โดนชะตากลั่นแกล้ง?”
ทั้งพี่ใหญ่และพี่รองต่างก็เรียนจบที่ต่างประเทศ แถมยังสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศอีก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องผลการเรียนเลย ส่วนหนวนหน่วนเองก็มีความจำที่เป็นเลิศราวกับสามารถถ่ายภาพเก็บบันทึกไว้
เพราะแบบนี้… กู้หมิงหลี่และเขาก็เหมือนคนไม่เอาไหนที่สุดในครอบครัวแล้วมั้ง?
หนวนหน่วนเอ่ยถามอย่างนุ่มนวล “พี่เล็กปกติไม่ค่อยเรียน แต่วันนี้ทำได้ดีมากเลยค่ะ”
กู้อันเหมือนโดนดูถูกเข้าอย่างจัง
“ไปก่อนนะคะ ต้องไปเรียนกู่ฉินแล้ว”
หนวนหน่วนบอกลาพี่ชายทั้งสองของเธอ ถึงเวลาต้องไปเรียนกู่ฉินแล้ว เดี๋ยวยังมีเรียนวาดภาพอีก
ในหนึ่งวัน เวลาส่วนใหญ่ของเธอหมดไปกับการเรียนรู้ หากเป็นเด็กทั่วไปคงทนไม่ไหวแน่ แต่หนวนหน่วนกลับรู้สึกสนุกสนาน
หันมองดูกู้หมิงหลี่และกู้อันแล้วรู้สึกว่าพวกเขากลับดูทุกข์ทรมานมากกว่า ส่วนเธอ หากไม่ได้เรียนเธอก็จะไม่สบายใจ
เป็นอีกวันที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดวันที่โรงเรียนของกู้หมิงหลี่จัดงานกีฬาสีก็มาถึง
“หนวนหน่วน พรุ่งนี้ไปโรงเรียนกับพี่ไหม ช่วงนี้โรงเรียนมีงานกีฬาสี พี่กลับบ้านได้ ก็เลยคิดว่าอยากจะพาเธอไปด้วยทุกวันเลย โรงเรียนจะไม่มีเรียนทั้งวัน เอาให้โง่กันไปข้างหนึ่งเลย”
หนวนหน่วนถามเสียงนุ่ม “ถ้าอย่างนั้นพี่สามกับพี่โม่ฮัวไปด้วยไหมคะ?”
กู้หมิงอวี๋ยกยิ้มขึ้นพลางใช้มือลูบศีรษะเด็กหญิง
“พี่ไปไม่ได้หรอก อีกไม่กี่วันพี่จะต้องเดินหน้าโปรโมตหนังแล้ว”
หนวนหน่วนเอนตัวพิงพี่สาม เธอนำแขนพาดวางไว้บนตักของเขาแล้วเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาใสซื่อ
“หนังเรื่องอะไรเหรอคะ? พี่สามจะไปนานไหม? หนวนหน่วนจะได้เจอพี่สามอีกไหม?”
ก่อนหน้านี้ที่พี่รองกลับไป เธอทำได้แค่คุยโทรศัพท์กับเขาเพียงนิดเดียวเท่านั้น
“อืม… ไม่นานหรอก ถ้าคิดถึงพี่ก็โทรมาหาได้ตลอดเลยนะ เปิดทีวีก็เจอพี่”
เมื่อรู้ว่าสามารถคุยกันทางโทรศัพท์ได้ หนวนหน่วนก็ยิ้มขึ้นทันที
“แล้วพี่ล่ะคะจะไปไหม?”
ไป๋โม่ฮัวหันมองไปทางกู้หมิงหลี่
กู้หมิงหลี่เอนตัวพิงโซฟาอย่างหน่าย ๆ “คิดว่าไงล่ะ?”
ไป๋โม่ฮัว “ฉันว่านายไม่อยากให้ฉันไป”
กู้หมิงหลี่ “ไม่อยากไปเองมากกว่า”
หนวนหน่วนใช้สายตาออดอ้อนมองไปที่ลูกพี่ลูกน้องของตน เรียกว่าสามารถเห็นความปรารถนาของเธอที่ส่งผ่านสีหน้าออกมาได้อย่างชัดเจน
‘ไปเถอะค่ะ ไปเถอะ’
ไป๋โม่ฮัวยิ้มกว้างขึ้น “ถ้าหนวนหน่วนไปพี่ก็ไป”
ทางด้านกู้อันนั้น เขาติดเรียนไปไม่ได้แน่นอน
กู้อัน “…”
รู้สึกเหมือนถูกโลกทอดทิ้งอีกแล้ว
ก่อนการแข่งขันกีฬาที่โรงเรียนหนานเฉิง หนวนหน่วนก็นำสตรอว์เบอร์รีสุกพร้อมทานไปด้วย
เพราะเมื่อวานเป็นวันอาทิตย์ ทุกคนในตระกูลกู้จึงรีบไปที่คฤหาสน์ของกู้หนานเพื่อเก็บสตรอว์เบอร์รีที่สุกแล้ว
“โว้ว! ลูกนี้ใหญ่จัง!”
กู้หมิงหลี่ยกฝ่ามือของเขาขึ้นมาเทียบ สตรอว์เบอร์รีลูกนี้เขาถือมันไว้ได้ด้วยมือข้างเดียวไม่ได้ด้วยซ้ำ
สตรอว์เบอร์รีแต่ละลูกขึ้นได้อย่างสวยงามมาก เพราะเป็นฝีมือการปลูกของพวกเขา การได้เห็นสตรอว์เบอร์รีที่ขึ้นในสวนจึงรู้สึกได้ถึงความสำเร็จจริง ๆ
นอกจากนี้มันยังปลอดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายอีกด้วย เพราะฉะนั้นทานได้อย่างหายห่วงแน่นอน
หนวนหน่วนนั่งลงบนพื้นโดยมีตะกร้าใบเล็กวางอยู่ด้านข้าง พร้อมกับลูกแมวทั้งสองตัวที่คลอเคลียอยู่ตรงขาของเธอ
มันต่างพากันเอียงคอมองดูสตรอว์เบอร์รีที่อยู่ตรงหน้าหนวนหน่วน ก่อนจะใช้อุ้งเท้าขาวเขี่ยมันลงมา
หลังจากนั้นหนวนหน่วนก็เก็บสตรอว์เบอร์รีใส่ลงในตระกร้า เธอจับลูกแมวทั้งสองใส่ลงไปด้วย
ลูกแมวทั้งสองถูกจับใส่ลงไปจนกินพื้นที่ไปครึ่งตระกร้า จริง ๆ ก็เป็นเพราะพวกมันขนยาวเกินไป
“กินสิ”
เมื่อลูบขนนุ่ม ๆ ของพวกมันแล้ว หนวนหน่วนก็เด็ดสตรอว์เบอร์รีอีกลูกแล้วนำมาเช็ดทำความสะอาดโดยไม่ต้องล้างน้ำ จากนั้นจึงนำมันใส่ปาก
กลิ่นหอมของสตรอว์เบอร์รีฟุ้งขึ้นในปากทันที นอกจากจะมีเนื้อหวานฉ่ำ รสก็เปรี้ยวลิ้นเล็กน้อย ยิงเคี้ยวความหวานยิ่งเพิ่มขึ้น แววตาของหนวนหน่วนจึงเป็นประกายและโค้งงอเป็นจันทร์เสี้ยวเล็ก บ่งบอกว่าเด็กหญิงมีความสุขล้นปรี่เพียงใด
“รสชาติดีกว่าที่ซื้อมาอีก!”
กู้อันเด็ดสตรอว์เบอร์รีออกจากก้านแล้วเลือกกิน
เยอะแบบนี้กินได้เป็นเดือนเลย
“ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นอย่างที่คิดเลย ลูกสาวของพ่อทำอะไรก็ดีไปหมด!”
กู้หลินโม่หัวเราะออกมาพลางโผเข้ากอดหนวนหน่วน จากนั้นก็จุ๊บลงบนแก้มทั้งสองข้างของเธอ
ใบหน้าของหนวนหน่วนขึ้นสีแดงระเรื่อ “พวกพี่ก็ช่วยกันค่ะ”
กู้หนานเดินเข้ามาแล้วลูบศีรษะของเธอ “อร่อยมาก”
กู้หมิงหลี่ขมวดคิ้วขึ้นก่อนจะหัวเราะแห้ง ๆ ออกมา “พวกเราไม่ได้ทำอะไรเลย แค่กำจัดพวกวัชพืชบางครั้งเท่านั้นเอง ทั้งหมดนี่เป็นเพราะเธอเลยนะ”
ไม่เกินจริงเลย ก่อนที่พวกผักและสตรอว์เบอร์รีจะผลิดอกออกผล ไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะออกมาดูดีและรสชาติอร่อยมากขนาดนี้
พวกเขาได้ลองทานผักไปบ้างแล้ว ต้องบอกเลยว่ามันรสชาติดีกว่าของที่เคยซื้อมาเสียอีก ผู้อาวุโสเองก็เจริญอาหารมากขึ้นไปด้วย
“เลือกอันที่สุกมากินก่อน พรุ่งนี้น่าจะแดงขึ้นอีกเยอะเลย”
ทุกคนต่างยุ่งวุ่นวาย และเห็นได้ชัดเลยว่าทั้งครอบครัวต่างก็ชอบทานสตรอว์เบอร์รีกันทั้งนั้น ถึงขั้นเด็ดกินในสวนกันสด ๆ ของดี ๆ จะได้ไม่เสียไปก่อน
สวนในคฤหาสน์ของกู้หนานค่อนข้างกว้างขวาง นอกจากนี้ยังมีสวมหย่อมเล็ก ๆ อีกด้วย หนวนหน่วนจึงปลูกสตรอว์เบอร์รีได้เยอะ การเพาะปลูกครั้งแรกนี้ได้สตรอว์เบอร์รีถึงห้ากล่องเลยทีเดียว
คนในครอบครัวนี้ทานไม่หมดอย่างแน่นอน และหากทิ้งสตรอว์เบอร์รีไว้ข้ามคืนความสดของมันก็จะลดน้อยลงไปด้วย นอกจากนี้ยังมีบางส่วนที่จะสุกงอมในวันพรุ่งนี้อีก จึงไม่จำเป็นต้องเก็บมาไว้ก่อน
ดังนั้นนอกจากจะเก็บไว้ให้ทานกันในครอบครัวแล้ว พวกเขาก็คิดจะนำไปฝากคนอื่นด้วย
หลังจากนั้น ผู้เฒ่ากู้ก็ได้นำสตรอว์เบอร์รีสองตะกร้าใหญ่ไปฝากเพื่อนที่ชอบมาเล่นหมากรุกด้วยกัน
นอกจากนี้กู้หลินโม่เองก็ได้นำบางส่วนไปฝากคนที่บริษัท ส่วนคุณหญิงกู้นั้นก็ได้นัดน้องสาวมาจิบชายามบ่ายและมอบสตรอว์เบอร์รีกลับไปด้วย กู้หนานเองก็เช่นกัน เขานำมันไปใส่รถเพื่อจะนำไปแจกจ่ายให้กับคนที่ทำงานของตัวเอง