ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 148 โง่บรม!
บทที่ 148 โง่บรม!
เมื่อออกมาจากเกม หนวนหน่วนก็รีบมุ่งตรงไปหาพี่ใหญ่แทบจะทันที เธอเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาเห็นอกเห็นใจ
กู้หนานจ้องมองไปที่ดวงตาของเธอ รู้สึกเหมือนหนังตากระตุกแปลก ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทำอะไรไม่ถูก
“มีอะไรหรือเปล่า?”
หนวนหน่วนกุมมือของตัวเองไว้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร “พี่ใหญ่จะล้มละลายแล้ว”
กู้หนาน “…”
“อุ๊บ ฮ่าฮ่าฮ่า”
กู้หมิงหลี่หัวเราะจนแทบกลิ้งลงไปกับพื้น
คนรอบ ๆ ที่ได้ยินคำพูดของหนวนหน่วน “…”
ไม่สิ… ไปฟังเรื่องแบบนี้มาจากไหน? เจ้านายของพวกเขาเนี่ยนะกำลังจะล้มละลาย? ใครมันปล่อยข่าวกัน!
ต่อให้ตายเจ้านายของเขาก็ไม่มีทางล้มละลายหรอก!
หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ยินหนวนหน่วนตัวน้อยเล่าสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเกมให้ฟัง ใบหน้าของผู้ออกแบบเกมก็ถอดสีซีดเผือดขึ้นมาทันที
กู้หนานเองก็รู้สึกประหลาดใจ เขารู้แค่เพียงว่าผู้ที่จะเข้าสู่ดินแดนลึกลับได้นั้นต้องมีเลเวลสูงพอสมควร มันจะถูกเปิดให้เล่นสำหรับผู้เล่นที่อัปเลเวลได้ถึง 60 แต่ไม่มีใครทันคาดคิดว่าหนวนหน่วนจะหลงเข้าไปในนั้นได้โดยไม่ตั้งใจ ไหนจะได้ไข่สัตว์เลี้ยงออกมาอีก
ทุกคนในสตูดิโอของกู้หนานก็เงียบลงราวกับไม่รู้จะพูดอะไร
หนวนหน่วนมองไปที่ผู้คนโดยรอบด้วยความเขินอาย “ม… มีบางอย่างไม่ถูกต้องหรือเปล่าคะ?”
กู้หนานยังคงนิ่งเฉย “ไม่มีหรอก”
ทุกคน “…”
ลองถามสามัญสำนึกอีกครั้งแล้วตอบออกมาดีไหมเจ้านาย?
กู้หมิงหลี่จ้องกู้หนานที่ยังทำตัวนิ่งสนิท “พี่ พี่ออกแบบเกมนี้มาแบบมีฟังก์ชันพิเศษให้หนวนหน่วนรึเปล่า?”
กู้หนานยังคงนิ่งสงบ “เปล่า ในโลกจริง หนวนหน่วนก็เข้าถึงและเป็นมิตรกับสัตว์ได้ทุกชนิดอยู่แล้ว ที่หลงเข้าไปในโลกลึกลับนั่นก็คงเป็นโชคของหนวนหน่วนเอง”
กู้หมิงหลี่แอบยกนิ้วให้กู้หนานอย่างเงียบ ๆ
ในเมื่อเขาว่าอย่างนั้นก็คงจริงแท้แน่นอน ความจริงที่ว่าน้องสาวของเขาเข้าถึงและเป็นมิตรกับสัตว์ได้ทุกชนิดก็เป็นความจริงทุกประการ
หนวนหน่วนจะสามารถเล่นเกมได้เพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะนี่เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการติดเกม เธอจึงตัดสินใจมอบไข่ทั้ง 2 ฟองให้กับพี่สี่ และเฝ้ารอจนกว่าจะถึงวันรุ่งขึ้นเพื่อไปดูพวกมัน
“ไข่นั่นจะต้องใช้เวลาฟัก 3 วัน ต้องอยู่ในตู้ฟักไข่พิเศษโดยเฉพาะ”
ก่อนที่กู้หมิงหลี่จะออกจากเกม เขาได้อ่านดูรายละเอียดเกี่ยวกับการฟักไข่เรียบร้อยแล้ว เอาเข้าจริงเขายังไม่เคยได้ยินข่าวเลยว่าคนอื่น ๆ เคยได้รับไข่สัตว์เลี้ยงมาไว้ในครอบครอง แต่น้องสาวของเขาเพิ่งเล่นเกมได้แค่วันเดียวกลับได้มันมาเสียแล้ว
“พี่ต้องอัปเลเวลให้ถึง 30 ก่อนถึงจะซื้อตู้ฟักไข่ได้ ตอนนี้ยังอยู่แค่เลเวล 27 หนวนหน่วนเล่นอยู่ตรงนี้ไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปอัปเลเวล ซื้อตู้ฟักไข่ก่อน”
หนวนหน่วนพยักหน้าอย่างว่าง่าย ระหว่างเฝ้ามองพี่สี่เดินจากไป เธอก็ถูกพี่ใหญ่อุ้มเข้าไปในห้องทำงาน
หลังจากหยิบอมยิ้มรสองุ่นออกมาแล้วยัดเข้าปาก หนวนหน่วนก็กอดตุ๊กตากระต่ายแสนนุ่มนิ่มแล้วนั่งบนโซฟาอย่างเชื่อฟัง
ตั้งแต่ที่หนวนหน่วนนำอาหารเที่ยงมาส่งให้เขา ความทะมึนตึงเครียดในห้องทำงานของกู้หนานก็คลายลงอย่างน่าเหลือเชื่อ
นอกจากตุ๊กตาที่อยู่ในอ้อมแขนของหนวนหน่วนแล้ว ในห้องทำงานยังประกอบไปด้วยตู้เย็นอันเล็กซึ่งมีนมและผลไม้เตรียมพร้อมอยู่เสมอ แน่นอนว่าผลไม้นั้นแปรเปลี่ยนไปทุกวัน เขายังมีไมโครเวฟและเตาอบอีกด้วย
พวกรองเท้าแตะสีชมพูขนนุ่มก็ถูกจัดหาไว้เช่นกัน เสื้อผ้าที่ถูกจัดแขวนอยู่ในตู้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยก็มีเสื้อผ้าของหนวนหน่วนวางพับปะปนอยู่ด้วย
กระถางต้นไม้ลวดลายน่ารักถูกจัดวางไว้ตรงระเบียง แม้แต่กระถางของต้นกระบองเพชรบนโต๊ะทำงานยังเป็นสีชมพู…
โดยที่ผู้ดูแลเจ้าต้นไม้น้อยเหล่านั้นก็คือหนวนหน่วนนั่นเอง เพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ห้องทำงานของเขาก็แปรเปลี่ยนไป จากห้องที่จืดชืดแสนเย็นชาก็เริ่มไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าของห้องทำงานนี้ก็ไม่ได้คัดค้านการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เลย
กู้หนานนำแก้วนมมาให้หนวนหน่วน เด็กน้อยค่อย ๆ จิบดื่มนมทีละนิด ก่อนจะโดนลูบกลุ่มผมหนานุ่มอย่างแผ่วเบา
“อยากหลับสักหน่อยไหม”
หนวนหน่วนเริ่มหาวหลังจากดื่มนมเสร็จ เธอยกหลังมือขึ้นขยี้ตาตัวเองแล้วตอบไปว่า
“ดีค่ะ”
ตอนนี้เด็กหญิงง่วงอย่างจริงจังเลยละ
กู้หนานย่อตัวลงนั่งเพื่อถอดรองเท้าของน้องสาว เขาวางรองเท้าลง จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือใหญ่สวมกอดเจ้าตัวแล้วอุ้มเธอขึ้น
หนวนหน่วนใช้แขนคล้องคอพี่ชายของตนไว้พลางวางศีรษะลงตรงซอกคออีกฝ่าย คางเล็กแหลมวางทิ้งแนบอิงอยู่บนไหล่ของพี่ชายคนโต ดวงตาเป็นประกายตอนนี้ปิดพริ้ม หลับลงด้วยความรู้สึกสบายใจ
มุมปากของกู้หนานยกยิ้มขึ้นบาง ๆ เขาวางคนลงบนเตียงเพื่อให้ได้พักผ่อนอย่างสบาย จากนั้นเขาจึงออกไปทำงานต่อ
หนวนหน่วนเป็นเด็กดีมาก ทุกครั้งที่มาหาก็ไม่เคยรบกวนเขาเลยสักครั้ง ส่วนใหญ่เธอจะนั่งเล่นพักผ่อนอยู่ในห้องทำงานของเขาอยู่เงียบ ๆ ไม่ก็อ่านหนังสือ หรือเล่นโทรศัพท์ เขาจึงสะดวกที่จะพาเธอมาอยู่ด้วย
ส่วนกู้หมิงหลี่ หลังอัปเลเวลเรียบร้อยแล้ว เขาก็พบว่าหนวนหน่วนยังหลับอยู่ เด็กหนุ่มไม่เบื่อเลยสักนิด หากไม่มีอะไรทำเขาก็นั่งรอตรงโซฟาด้วยท่าทางประหนึ่งหัวหน้าโจร
เด็กหนุ่มหยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบไว้ในปากพลางหมุนไฟแช็กระหว่างนิ้วทั้งห้าเล่นประหนึ่งว่ากำลังเชยชมดอกไม้
กู้หนานเดินเข้ามาพอดี เมื่อเห็นญาติผู้น้องหยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบไว้ในปากก็ขมวดคิ้วไม่พอใจก่อนจะเดินดุ่ม ๆ เข้ามาดึงมันออกแล้วทิ้งลงถังขยะ
“ห้ามสูบบุหรี่ตอนนี้”
กู้หมิงหลี่ยืดตัวขึ้น “รู้น่า ผมแค่เอาออกมาเล่นเฉย ๆ”
มันเป็นกฎของครอบครัวที่ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ได้จนกว่าจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย กู้หมิงหลี่เห็นพวกเด็กเกเรจำนวนมากสูบบุหรี่ในห้องน้ำโรงเรียน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยสูบมัน
ถึงแม้ว่าจะมีคนเคยยื่นบุหรี่ให้เขาก็ตาม แต่เขาก็ทำเพียงแสร้งเอามันเข้าปากประหนึ่งว่าแกล้งสูบ จนถึงตอนนี้กู้หมิงหลี่ก็ไม่เคยเอ่ยปากบอกเรื่องนี้กับใครเลย ถ้าหากเป็นอย่างนั้นคงเป็นเรื่องอย่างแน่นอน
“พี่”
หนวนหน่วนเดินออกมาพอดีขณะที่พี่ชายทั้งสองของเธอกำลังจะเดินออกจากห้องไป
“เดี๋ยวพี่จะพาไปกินข้าวก็แล้วกัน”
อีก 20 นาทีก็จะถึงเวลาเลิกงานแล้ว แต่กู้หนานกลับตัดสินใจอยากเลิกงานเร็วในวันนี้เพราะอยากพาหนวนหน่วนออกไปทานข้าว
“อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม?”
หลังจากที่เอ่ยถามหนวนหน่วน เขาก็หันไปพูดกับกู้หมิงหลี่ “ลองถามไป๋โม่ฮัวกับกู้หมิงอวี๋ดูว่าจะมาด้วยกันไหม”
กู้หมิงหลี่รีบก้มหน้าก้มตาส่งข้อความหาแต่ละคน
เจ้าเด็กน้อยเอ่ยตอบคำถามพี่ชายคนโตด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว “หนวนหน่วนไม่เรื่องมากค่ะ กินได้ทุกอย่างเลย”
กู้หนานบีบปลายจมูกเล็กของเธออย่างเอ็นดูแล้วยกยิ้มเล็กน้อย
เมื่อกู้หมิงอวี๋ได้รับข้อความ เขาก็รีบตอบกลับทันที
[ดาราใหญ่สายเมาท์ : กินที่ไหนดีล่ะ สมองกระทบกระเทือนอะไรหรือเปล่าถึงคิดอยากจะมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างขึ้นมา?]
กู้หมิงอวี๋กำลังนั่งลูบหัวแมวอยู่อย่างเอื่อยเฉื่อย เมื่อได้รับข้อความวีแชตจากน้องชายเขาก็รีบตอบกลับทันที
เมื่อได้รับและอ่านข้อความที่ตอบกลับมาจากพี่ชาย กู้หมิงหลี่ก็แทบจะของขึ้น
[ไอ้น้องโง่ : พี่ใหญ่ชวน!]
[ดาราใหญ่สายเมาท์ : ว้าว บอกว่ารอหน่อย ฉันจะรีบไป]
เมื่อเห็นว่าไป๋โม่ฮัวยังไม่ตอบกลับมา กู้หมิงหลี่จึงรีบกดโทรไปหาทันที
[ฮัลโหล?]
กู้หมิงหลี่ดึงหน้าเรียบเฉยก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย “ทำอะไรอยู่ หัดอ่านข้อความซะบ้าง!”
ไป๋โม่ฮัวยกโทรศัพท์ออกจากหูพลางปรายตามองรายชื่อ ‘เจ้าหมูตีนใหญ่’
อ๋อ กู้หมิงหลี่นั่นเอง
[ยังไม่ได้ดูเลย เดี๋ยวเปิดดูก่อน]
สิ้นคำพูด เสียงตัดสายก็ดังขึ้นข้างหูของกู้หมิงหลี่
ใบหน้าของกู้หมิงหลี่มืดครึ้มเข้าไปใหญ่ เขากระชับบีบจับโทรศัพท์ของตนแน่นก่อนจะตะโกนว่า “ไอ้โง่บรม!”
อุตส่าห์โทรไปชวน แต่กลับวางสายใส่เพื่อจะไปอ่านข้อความเนี่ยนะ!
[ไอ้งี่เง่า : ฉันเห็นละ]
[ไอ้งี่เง่า : จะไปกินข้าวที่ไหนเหรอ? นายชวน?]
ด้านไป๋โม่ฮัว เขาจับโทรศัพท์แน่นก่อนจะบ่นพึมพำออกมา “นายใจดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
ไม่นานนักโทรศัพท์ก็สั่นขึ้น เป็นข้อความจากกู้หมิงหลี่นั่นเอง
[เจ้าหมูตีนใหญ่ : พี่ใหญ่ชวน นี่นายโง่บรมเลยนะ ฉันอุตส่าห์โทรมาพูดแล้วยังจะวางสายใส่เพื่อมาอ่านข้อความอีก!]
[ไอ้งี่เง่า : ก็นายให้ฉันเข้ามาอ่านเองไม่ใช่เหรอ จะมาโทษกันทำไมอะ]
กู้หมิงหลี่เวทนาเป็นบ้าเลย!