ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 145 ดินแดนลึกลับ
บทที่ 145 ดินแดนลึกลับ
โลกของเกมแตกต่างจากโลกแห่งความจริงอย่างสิ้นเชิง หนวนหน่วนเดินไปมาพร้อมกับพี่สี่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่แล้วเธอก็ได้ทำความรู้จักกับคนในหมู่บ้านด้วยความบังเอิญ ทำให้คะแนนความโปรดปรานของเธอเพิ่มขึ้นเป็น 70 คะแนน
กู้หมิงหลี่ “…”
แล้วทำไมของเขาถึงมีแค่ 60 คะแนนล่ะ?
“ฉันมีพี่ชาย 7 คน มานี่สิ”
เกมนี้สมจริงใช้ได้เลยแฮะ
หนวนหน่วนใช้ชื่อในเกมว่า ‘ฉันมีพี่ชาย 7 คน’
พอได้ยินหัวหน้าหมู่บ้านเรียก หนวนหน่วนจึงวิ่งเข้าไปหาด้วยขาสั้น ๆ
“มีอะไรคะคุณหัวหน้า?”
[ความชื่นชอบจากหัวหน้าหมู่บ้าน +3]
เพียงแค่เอ่ยถามเท่านั้น เธอก็ได้คะแนนเพิ่ม +3 แล้ว
เริ่มต้นคือ 70 คะแนน เพียงแค่หนวนหน่วนเดินไปเดินมาคะแนนก็เพิ่มเป็น 80 แล้ว การที่คะแนนเพิ่มขึ้นเป็นเรื่องดี แต่ก็ตกเป็นเป้าของความอิจฉาจากผู้คนด้วย
“ฉันมีจดหมายอยากให้เธอนำไปให้หมอสวี่”
[เควสประจำวัน : นำจดหมายฉบับนี้ไปส่งให้ถึงมือหมอสวี่ ยอมรับหรือไม่]
หนวนหน่วนพยักหน้าแล้วยื่นมือไปรับซองจดหมายจากหัวหน้าหมู่บ้าน
“คุณหัวหน้าหมู่บ้าน แล้วผมล่ะมีงานอะไรต้องทำไหม?”
กู้หมิงหลี่ที่ยืนอยู่ข้างหลังหนวนหน่วนถามขึ้นอย่างกระตือรือร้น
หัวหน้าหมู่บ้านมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า “อะนี่ เอาเหยือกนี่ไปใส่ไวน์มาให้ฉันหน่อย”
ทั้งหนวนหน่วนและกู้หมิงหลี่ได้รับเควสประจำวันเรียบร้อย
หนวนหน่วนจูงมือพี่สี่แล้วมุ่งหน้าไปทางโรงพยาบาล หลังจากนั้นก็ได้ส่งจดหมายถึงมือหมอสวี่ และเมื่อพวกเขากำลังจะกลับก็โดนหยุดไว้เสียก่อน
“ฉันจะไปที่ภูเขาเพื่อเก็บสมุนไพร พวกเธอสองคนจะไปด้วยกันไหม?”
ทันใดนั้นดวงตาของกู้หมิงหลี่ก็เป็นประกายขึ้นมาทันที “ไปครับ!”
หัวข้อเควสปรากฏขึ้นบนหน้าจอของหนวนหน่วนและกู้หมิงหลี่แทบจะพร้อมกัน
[ภารกิจหลัก : ความรู้ทางเภสัชวิทยาของหมอสวี่”
มันเป็นทักษะที่ต้องเรียนรู้จากเกม และสิ่งที่หมอสวี่กำลังพูดออกมานั้นก็เพื่อให้พวกเขาได้จดจำและเรียนรู้
หลังจากกู้หมิงหลี่นำไวน์ไปให้หัวหน้าหมู่บ้านแล้ว เขาก็ขึ้นเขาไปกับอีกสองคน แต่แล้ว… เขาก็อดตื่นเต้นไม่ได้
ทำไมทักษะการเรียนรู้ในเกมมันต้องเหมือนวิชาในชั้นเรียนขนาดนี้ด้วยนะ แถมยังคลุมเครือกว่าอีก
กู้หมิงหลี่ยืนฟังอยู่ด้านข้างด้วยความงุนงง ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงประหลาดดังหึ่ง ๆ ขึ้นมา
ส่วนหนวนหน่วนตั้งใจฟังหมอสวี่อย่างจริงจัง
“ฉันจะไปดูตรงนั้น!”
ด้วยความคาใจในเสียงที่ได้ยิน กู้หมิงหลี่จึงเดินไปสำรวจ ก่อนจะพบเข้ากับอะไรบางอย่างจนแทบจะต้องวิ่งหนีอย่างสุดชีวิต
หมอสวี่ส่ายหัวอย่างหน่าย ๆ “คนหนุ่มสาวนี่ไม่มีความอดทนเอาซะเลย”
และแน่นอนว่าหนวนหน่วนจะต้องปกป้องพี่สี่ของเธออยู่แล้ว
“พี่สี่ต่อสู้ได้เก่งมากเลยนะคะ”
เธอรู้ดีว่าพี่สี่ชอบกีฬามากกว่าการเรียนวิชาการ
“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเขาเลย เธอกังวลอะไรขนาดนั้นล่ะแม่สาวน้อย”
ใบหน้าเรียวบางของหนวนหน่วนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อเมื่อสบเข้ากับดวงตาที่ฉายแววความขี้เล่นของหมอสวี่
…
“แม่ง!”
หลังจากกู้หมิงหลี่หายไปได้ไม่นานก็มีเสียงสบถดังขึ้นมา หลังจากนั้นเขาก็หายวับไปต่อหน้าคนทั้งสอง
“วิ่งเร็ว! ดันไปแหย่รังงูโดยไม่ได้ตั้งใจซะได้!”
สิ้นเสียงพูดก็มีเสียงขู่ฟ่อตามมาพร้อมกับเสียงใบไม้กรอบแกรบ แค่เพียงชั่วอึดใจเดียวเท่านั้น บรรดางูทั้งฝูงก็ไล่ตามพวกเขามา ถ้าหากเป็นผู้เล่นที่กลัวงูขึ้นสมองอาจทำให้หัวขาวโพลนได้เลย
และแล้วงูยักษ์สีดำก็โผล่ออกมา!
หนวนหน่วน “!!!”
“วิ่ง!”
กู้หมิงหลี่อุ้มหนวนหน่วนขึ้นในอ้อมแขนของตนแล้ววิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ในขณะที่หมอสวี่เองก็ทิ้งจอบของตัวเองแล้ววิ่งตามกันไปติด ๆ
“เจ้านี่ต้องอาภัพแน่เลย คนอาภัพอยู่ที่ไหนก็พาซวย! ดันพาราชันอสรพิษออกมาซะได้!”
กู้หมิงหลี่ปรายตามองหมอสวี่อย่างขุ่นเคือง ยังจะมีอารมณ์มาหยอกล้ออีก “ดูเหมือนไม่ค่อยมีแรงแต่ก็วิ่งเร็วมากนะเนี่ย”
หมอสวี่ “…”
น่าเสียดายที่เขาไม่ได้อยู่ใกล้กว่านี้ ไม่เช่นนั้นคงตบหัวกู้หมิงหลี่ไปแล้ว!
หลังจากวิ่งไปได้สักพักพวกเขาก็ถูกไล่ล่าจนทัน กู้หมิงหลี่หันหลังกลับไปหยิบอาวุธออกมาจากกระเป๋าเป้ อาวุธของเขาคือมีดอันเล็ก
เขาโยนหนวนหน่วนไปให้หมอสวี่อุ้มไว้
“พวกนายไปก่อนเลย!”
“พี่สี่!”
กู้หมิงหลี่คิดจะต่อสู้ “ไปก่อนเลย ถ้าพี่ตาย อย่างมากก็แค่กลับไปเริ่มต้นใหม่ที่จุดเกิด”
หนวนหน่วน : ใช่แล้ว นี่มันก็แค่เกมนี่นา
หลังจากนั้นเธอก็ถูกหมอสวี่พาตัวไป “พี่สี่ หนูจะไปรอที่จุดเกิดนะ!”
กู้หมิงหลี่ “…ถ้าฉันชนะก็น่าจะได้ของดี ๆ อยู่นะ”
หลังจากนั้นไม่กี่นาที หนวนหน่วนก็หายไปในป่าเขาลำเนาไพรด้วยสีหน้าเศร้าหมอง เธอไม่รู้ว่าทำไม…อยู่ดี ๆ ถึงแยกจากหมอสวี่ได้
เด็กน้อยนั่งลงอยู่บนหินก้อนใหญ่พลางใช้มือเล็กเท้าคางตนเองจนใบหน้ายับยู่ ก่อนจะถอนหายใจออกมา
แค่เพียงถอนหายใจเท่านั้น พื้นด้านล่างก็เกิดการสั่นไหว เด็กน้อยตกลงไปในหลุมดำด้วยความงุนงง เธอกลิ้งม้วนเป็นก้อนกลมราวกับก้อนข้าวเหนียวสีขาว
“อ๊าาา!!!”
มันดูน่าจะเจ็บ แต่ก็ไม่ได้เจ็บ อีกทั้งยังรู้สึก… เวียนหัวจัง!
ความรู้สึกเบาหวิวเหมือนร่างไร้น้ำหนักแบบนี้แย่มากเลย QAQ
กลิ้งไปสิบกว่ารอบในที่สุดก็หยุดลง หนวนหน่วนรีบลุกขึ้นยืนจากพื้นด้วยความงุนงงพร้อมกับใบหน้าที่เปรอะเปื้อนเล็กน้อย เธอใช้นัยน์ตาชื้นน้ำตามองไปรอบ ๆ
หลังจากนั้นระบบก็ได้แจ้งเตือน
[ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘ฉันมีพี่ชาย 7 คน’ ที่เข้ามาในดินแดนลึกลับ เชิญสำรวจได้]
หนวนหน่วน “…”
เธอไม่รู้ว่านี่คือสถานที่ที่ผู้เล่นหลายคนคาดหวังอยากจะพบเจอ รู้แค่เพียงว่า ในดินแดนอันมืดมิดนี้มีเพียงเธอที่ต้องอยู่ตัวคนเดียว
และดูเหมือนว่าจะมีแสงสว่างปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้าของหนวนหน่วน เธอมุ่งหน้าเดินตรงไปอย่างระมัดระวังก่อนจะตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า
เบื้องหน้าถ้ำน้ำแข็งกว้างใหญ่ไพศาล บนพื้นเรียบและสะท้อนดุจกระจกเงา ตัวถ้ำค่อนข้างกว้างใหญ่ คริสตัลประดับอยู่บนผนังตลอดทาง นอกจากนี้ข้างบนยังมีน้ำแข็งหินย้อยห้อยลงมาอีกด้วย โลกใบนี้เหมือนกับเทพนิยายที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะไม่มีผิด
“ส… สวยจังเลย”
หนวนหน่วนยืนอยู่ตรงปากทางเข้าถ้ำ ในขณะที่อ้าปากค้างกว้างจนเกือบจะยัดไข่เข้าไปได้ทั้งลูก
หลังจากลังเลอยู่สักพัก เธอก็มุ่งหน้าเดินเข้าไป ระหว่างทางก็มีเสียงเล็กบ่นพึมพำไม่หยุด
“พี่สี่บอกว่ามันไม่เจ็บ และถ้าตายในเกมก็แค่กลับไปเริ่มใหม่ เพราะฉะนั้น… อย่ากลัวนะหนวนหน่วน!”
หนวนหน่วนกำหมัดแน่นเพื่อเพิ่มความกล้าให้กับตัวเอง จากนั้นก็มุ่งหน้าเดินต่อไป เด็กน้อยไม่รู้ว่าต้องเดินไปอีกนานแค่ไหน แต่ก็เหมือนจะมีสิ่งกีดขวางขนาดใหญ่วางอยู่ตรงหน้า
กว่าจะเดินมาถึงก็ใช้เวลานานพอสมควร
หนวนหน่วนจับเข้าที่สิ่งกีดขวางตรงหน้าแล้วปีนขึ้นไป ต้องยอมรับเลยว่าเธอแข็งแรงมาก
อาจเป็นเพราะมันคือโลกในเกมด้วย หากเป็นในชีวิตจริงเธอคงไม่สามารถปีนได้แบบนี้อย่างแน่นอน
และในที่สุดเธอก็ปีนขึ้นไปจนเหนือสุด หนวนหน่วนมองดูสิ่งกีดขวางนี้พลางยกมือเกาศีรษะอย่างงุนงง ก่อนที่เธอจะพยายามไปต่อก็พบเข้ากับสิ่งกีดขวางที่มีลักษณะคล้ายกับเขากวางสองอันอยู่ตรงหน้า
เด็กหญิงคิดขึ้นในหัว ‘มันก็เหมือน… จะไม่เป็นอุปสรรคอะไรนะ’
หนวนหน่วน “???”
“ฟ่อ…”
เสียงขู่ฟ่อที่ดังขึ้นมาทำให้ใต้เท้าของสิ่งที่เธอเหยียบย่ำสั่นสะเทือน ตัวของหนวนหน่วนเซไปมาจนเกือบจะล้มลง โชคยังดีที่เธอคว้าจับสิ่งตรงหน้าไว้ทัน ถึงตัวจะกระเด้งกระดอนลอยขึ้นลงก็ตาม
หนวนหน่วนหน้าแดงก่ำ น้ำตาไหลพราก
คิดถึงพี่สี่จังเลย ฮืออออ
สัตว์ประหลาดที่อยู่ตรงหน้าลืมตาขึ้น นัยน์ตาสีทองอร่ามคู่นั้นจับจ้องไปยังร่างของหนวนหน่วน ขนาดร่างของเธอยังไม่ใหญ่เท่ารูม่านตาของมันเลยด้วยซ้ำ!
หนวนหน่วนขนลุกขึ้นทังตัว มือไม้อ่อนแทบจับอะไรไม่ได้ สุดท้ายก็ล้มลงทั้งยืน
“อ๊ากกกก!!!”
เสียงอันไร้เดียงสาดังก้องไปทั่ว หนวนหน่วนนั่งลงพร้อมกุมศีรษะของตัวเองจนกลายเป็นเหมือนบอลกลมลูกเล็ก เธอทั้งกลัวและสมเพชตัวเองอย่างมากที่ต้องรอให้ตัวเองฟื้นคืนชีพอีกครั้ง
แต่สิ่งที่ไม่ทันคาดคิดก็ได้เกิดขึ้น เมื่อเธอลืมตาขึ้นมากลับพบว่าตัวเองยังคงอยู่ในถ้ำอันมืดมิด ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน
สัมผัสตรงฝ่ามือที่วางอยู่บนพื้นนั้นค่อนข้างเย็นมาก ไม่นานตัวของเธอก็ค่อย ๆ ลอยขึ้น
หนวนหน่วนเงยหน้าซีดเผือดขึ้น ก่อนจะพบเข้ากับศีรษะอันใหญ่โตและนัยน์ตาสีทองอร่าม