ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 143 ลูกชายของฉันเองก็คงไม่อยากให้ใครมารบกวนเช่นกัน
บทที่ 143 ลูกชายของฉันเองก็คงไม่อยากให้ใครมารบกวนเช่นกัน
วันเสาร์นี้ฝนตกลงมา หนวนหน่วนนั่งกอดกล่องข้าวที่เตรียมไว้ให้กับคุณพ่อและพี่ใหญ่อย่างใจจดใจจ่อพร้อมบรรดาสัตว์เลี้ยงอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้า
“คุณหนูหนวนหน่วนครับ”
หนานเฟิงเดินเข้ามาพลางยื่นแขนออกมารับกล่องข้าวจากเด็กหญิงตัวน้อย
กู้หมิงหลี่อุ้มน้องสาวของตัวเองขึ้นมาพร้อมกางร่มสีดำที่พกไว้กับตัวออก
“ไปเถอะ”
หนวนหน่วนตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของพี่สี่โบกมือลาบรรดากลุ่มก้อนขนฟู
“บ๊ายบาย จะรีบกลับนะ”
“โฮ่ง โฮ่ง!”
“เมี้ยว~”
“ลาก่อน ลาก่อน”
ราวกับว่าพวกเขาเข้าใจกันและกัน เหล่าสัตว์ก้อนขนจึงกล่าวลาตอบกลับเธอเช่นกัน มันช่างเป็นภาพที่ดูมีชีวิตชีวามากจนเด็กตัวน้อยต้องระบายยิ้มอย่างสดใสออกมา
“โอ้ หนวนหน่วนมาส่งอาหารให้คุณพ่ออีกแล้วเหรอ”
“สวัสดีตอนบ่ายนะหนวนหน่วน ถึงเวลามาส่งอาหารให้คุณพ่อแล้วสินะ”
เมื่อเด็กหญิงตัวน้อยเดินทางมาถึงบริษัท เธอก็ตกเป็นเป้าความสนใจขึ้นมาทันที ทุกคนที่ได้พบเห็นต่างก็กล่าวทักทายเธอด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าภายในใจลึก ๆ จะรู้สึกอิจฉาคุณนายกู้อยู่ก็ตาม
เด็กหญิงน้อยจับมือพี่สี่พลางยกรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าขึ้น ถึงเธอจะเขินอาย แต่ก็เอ่ยปากทักทายทุกคนอย่างนอบน้อมด้วยน้ำเสียงอ่อนละมุน
ตลอดทางจนกระทั่งมาถึงห้องทำงานของกู้หลินโม่ซึ่งอยู่ข้างบนมีชีวิตชีวามากทีเดียว
น่าเสียดายที่ตอนนี้กู้หลินโม่ติดประชุม เขาไม่ได้อยู่ในห้องทำงาน กล่องอาหารจึงถูกนำไปวางลงบนโต๊ะใหญ่ จากนั้นเด็กหญิงน้อยก็ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาแล้วนำโทรศัพท์ออกมาเล่นเกมจับคู่ ทั้งกู้หมิงหลี่และหนวนหน่วนต่างนั่งเล่นเกมอยู่ข้างกัน
เลขาเดินเข้ามาในห้องอย่างเงียบเชียบก่อนจะวางจานผลไม้แล้วเดินออกไป
หลังจากนั้นไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง หนวนหน่วนที่กำลังนำองุ่นใส่ปากคิดว่าเป็นคุณพ่อจึงหันไปทางต้นเสียง แต่แล้วก็ต้องรีบหันกลับมาด้วยสีหน้าแปลกใจ เพราะบุคคลที่เข้ามาเป็นผู้หญิงที่มีรูปลักษณ์เย่อหยิ่ง อีกทั้งยังแต่งหน้าหนาเตอะ
“คุณเอมิลี่ออกมาเถอะค่ะ ทางเราไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามาในห้องของท่านประธานโดยไม่ได้รับอนุญาตนะคะ”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเลขาต่างหยุดผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ตรงหน้าประตู
เอมิลี่ถอดแว่นกันแดดออกแล้ววางท่าอย่างถือตัว “ก็บอกแล้วไงว่าคุณกู้ให้ฉันมา พวกแกรู้ไหมว่าความสัมพันธ์ของฉันกับคุณกู้ไปถึงไหนกันแล้ว? ให้ฉันเข้าไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นพวกแกโดนเด้งแน่!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเลขาต่างยืนกรานจะหยุดเธอไม่ให้ก้าวต่อแม้แต่เพียงครึ่งก้าว
“ต้องขอโทษด้วยค่ะ แต่กรุณาออกไปด้วยนะคะ”
เธอกลอกตามองบนอีกครั้ง “ก็บอกแล้วไง ให้ฉันเข้าไปรอคุณกู้ข้างในดีกว่า ไม่งั้นฉันจะบอกให้เขาไล่พวกแกออก”
“ต้องขอโทษด้วยค่ะคุณเอมิลี่ แต่คุณกู้ไม่ได้บอกว่ามีนัดกับคุณวันนี้”
เอมิลี่หมดความอดทน “ฉันคือว่าที่ภรรยาของเจ้านายพวกแกนะ ไปให้พ้น!”
กู้หมิงหลี่และหนวนหน่วน “???”
เลขามองเธออย่างขบขัน “คุณเอมิลี่ คุณต้องพูดเล่นแน่เลย ประธานกู้กับภรรยาของเขายังรักกันดีนะคะ”
เอมิลี่กลอกตาขึ้นมองบน “ใครบอกว่าฉันหมายถึงคุณกู้ คุณกู้คือว่าที่พ่อสามีของฉันต่างหาก”
ทุกคน “…”
การมีความมั่นใจก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ามั่นใจเกินไปมันจะดูไร้ยางอายเกินทน
“ถึงจะเป็นกรณีนั้นก็ต้องรอให้ประธานกู้มาก่อนค่ะ”
เอมิลี่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงก้องกังวาน “ฉันกับกู้หนานรู้จักกันตั้งแต่อยู่ที่ประเทศ M นี่ไงหลักฐานภาพคู่ เมื่อวานเราคุยกัน เขาดูชอบใจมากเลย เพราะงั้นฉันถึงมั่นใจว่าจะได้เป็นสะใภ้ของตระกูลนี้ พวกแกยังจะขวางทางฉันอีกเหรอ?”
ทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเลขา “…”
มั่นหน้ามาจากไหนกันนะ? แม้แต่ตัวพวกเขาเองยังมองข้ามผู้หญิงคนนี้ได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องพูดถึงพวกนายน้อยเลย
“ยัยผู้หญิงคนนี้น่าเกลียดจัง ไปมั่นหน้ามาจากไหน?”
กู้หมิงหลี่ที่นั่งอยู่ในออฟฟิศพูดด้วยเสียงดังลั่น เอมิลี่จึงมองผ่านไหล่ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปพบกับเขาที่นั่งอยู่ด้านใน และเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด ใบหน้าอันงดงามก็บิดเบี้ยวขึ้นมาทันที
“แกกำลังพูดถึงใครฮะไอ้เด็กเวรนี่? แกใช่ไหมที่สั่งห้ามไม่ให้ใครเข้าไป? ทำอะไรอยู่ บอกให้สองคนนี้ไปให้พ้นทางแล้วให้ฉันเข้าไปเดี๋ยวนี้”
“คุณเอมิลี่ คนที่ควรออกไปคือคุณมากกว่านะคะ”
เอมิลี่หันกลับไปจ้องเธอตาเขม็ง “พวกแกไม่อยากมีงานทำต่อใช่ไหม? ให้ฉันเข้าไปเดี๋ยวนี้ ถ้าพ่อสามีฉันมาเมื่อไหร่ ฉันจะบอกให้เขาไล่พวกแกออกให้หมดเลย!”
อันที่จริงแล้ว หากเธอพบกู้หนานได้โดยตรงก็คงไม่มาวุ่นวายตรงนี้แน่นอน
“เอะอะอะไรกัน”
เสียงของกู้หลินโม่ดังขึ้น ความเย่อหยิ่งของเอมิลี่หายวับไปทันที หล่อนผุดพรายรอยยิ้มบนใบหน้าแล้วเอ่ยว่า
“สวัสดีค่ะคุณกู้ พบกันอีกแล้วนะคะ หนูเอมิลี่ค่ะ เมื่อวานนี้คุณพ่อกับคุณได้พูดคุยกันเรื่องการร่วมมือทางธุรกิจใช่ไหมคะ เหมือนว่าคุณพ่อจะพอใจกับเรื่องนี้มากนะคะ”
เลขาคิด ‘อ้าว… ที่มั่นหน้าเอาไว้ตั้งเยอะเมื่อกี้หายไปไหนหมด ทำไมพูดถึงแค่เรื่องร่วมงานล่ะ’
กู้หลินโม่มองเธอก่อนจะขมวดคิ้วขึ้น “ห้องทำงานของฉันไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้า แล้วนี่คุณเข้ามาได้ยังไง?”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืนขึ้น “คุณกู้ครับ ถ้าพวกเรา… แตะต้องตัวเธอนิดหน่อยเธอก็จะฟ้องเราข้อหาทำอนาจารครับ”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบางทีก็ขลาดเขลาเหลือเกิน
ใบหน้าของกู้หลินโม่มืดครึ้มขึ้นมาทันที “คุณเอมิลี่ คนที่เข้าเรียนการศึกษาภาคบังคับเก้าปีจะรู้กันทั้งนั้นว่าถ้าล่วงล้ำบริษัทของผู้อื่น เราสามารถแจ้งตำรวจได้”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเอมิลี่หุบลงทันที ส่วนเลขาซึ่งยืนอยู่ข้างกันแค่นหัวเราะออกมา เจ้าตัวจะรู้ไหมนะว่าแบบนี้มันสะใจมากแค่ไหน? สะใจมากเลยละ
“คุณลุงคะ คุณลุงมาช้าเกินไปเลยไม่ทันเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น คือว่า…”
กู้หมิงหลี่มองเอมิลี่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะพูดด้วยท่าทีรังเกียจ “คุณป้า”
เอมิลี่ “…”
เมื่อได้ยินดังนั้น เอมิลี่ก็แทบจะล้มทั้งยืนเลยก็ว่าได้ ใบหน้าที่บิดเบี้ยวอยู่แล้วยิ่งหนักขึ้นกว่าเดิม
“ป้าคนนี้บอกว่า ลุงเป็นว่าที่พ่อสามี ตนเองเป็นลูกสะใภ้กับเป็นคู่ครองของพี่ใหญ่น่ะครับ…”
กู้หมิงหลี่ยกแขนขึ้นกอดอกแล้วมองเธออย่างคาดคั้น
สีหน้าของกู้หลินโม่ทะมึนลงมากกว่าเดิม เขายกยิ้มขึ้นมา แต่หากมองดูดี ๆ แล้วดูเป็นรอยยิ้มที่ค่อนไปทางหัวเราะเยาะมากกว่า
“คุณเอมิลี่ใช่ไหม? ต้องขอโทษด้วย เมื่อวานนี้ฉันไม่ทันได้สังเกตเห็นคุณเลย อีกอย่างครอบครัวของพวกเราค่อนข้างซีเรียสกับเรื่องพวกนี้มาก นอกจากว่าลูกชายของพวกเราจะพาแฟนมาให้รู้จักเอง เราจะไม่ยอมรับพวกที่มาหาลูกชายเราถึงหน้าประตู เพราะฉะนั้นโปรดเคารพพื้นที่ตรงนี้ด้วย ลูกชายของฉันเองก็คงไม่อยากให้ใครมารบกวนเช่นกัน”
ความหมายของมันก็คือ เธออย่ามาให้ลูกฉันเห็นหน้าอีกเลย ตระกูลกู้ไม่ได้ขาดของและสามารถเลือกได้!
“อุ๊บ ฮ่าฮ่าฮ่า….”
คนอื่นต่างหัวเราะ รวมถึงตัวกู้หมิงหลี่เองด้วยที่หัวเราะดังลั่นสุดเสียง
สีหน้าของเอมิลี่เจื่อนลงทันที
“พาคุณเอมิลี่ออกไปหน่อย”
เลขาแสยะยิ้มขึ้นบนใบหน้า “ต้องให้อันเชิญไหมคะคุณเอมิลี่?”
เอมิลี่ไม่เอ่ยถามสิ่งใดอีก เธอกระทืบรองเท้าส้นสูงแล้วเดินหนีออกมาจากเหตุการณ์ตรงหน้า ถึงแม้ว่าโดยพื้นฐานแล้วจะเป็นคนหน้าด้านหน้าทน แต่เธอก็คงไม่มีทางเสนอหน้าอยู่ต่ออย่างแน่นอน
แล้วทำไมประธานกู้ถึงมีฝีปากแรงกล้าตอนพูดกับสาวสวยอย่างเธอขนาดนี้!
“ฉันมีเรื่องจะขอค่ะคุณเอมิลี่ อย่าได้เผยแพร่รูปออกไปนะคะ ไม่งั้นทางเรา คุณกู้ และรวมถึงนายน้อยเองคงโกรธเคืองคุณน่าดู”
เอมิลี่ก้าวเดินเร็วขึ้นและจากไปในที่สุด
“คุณพ่อ”
เจ้าของเนื้อตัวนุ่มนิ่มกระโดดเกาะพ่อของตนจากด้านหลัง จากนั้นเธอก็ถูกอุ้มจนขาต่องแต่งอยู่ในอ้อมแขนอีกฝ่าย
“หนวนหน่วนเอาข้าวมาส่งให้พ่ออีกแล้ว เป็นเด็กดีมากเลยลูกสาวพ่อ”
เด็กหญิงน้อยส่ายหัว “ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ คุณป้าแม่บ้านเป็นคนทำกับข้าว ส่วนหนวนหน่วนแค่นั่งรถเอามาส่งให้เฉย ๆ”
เมื่อกู้หลินโม่เห็นว่าภายในกล่องอาหารเป็นของโปรดของเขาทั้งหมด ภายในใจก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที การมีลูกสาวที่เอาใจใส่ช่างเป็นเรื่องที่ดีมากเลย
“แล้วคุณแม่ล่ะ?”
หนวนหน่วนพูดขึ้น “คุณแม่ออกไปช็อปปิงกับเพื่อนค่ะ หนวนหน่วนไม่อยากไป”
เธอเคยออกไปซื้อของกับคุณแม่สองครั้ง มันเหนื่อยกว่าการตื่นมาวิ่งตอนเช้ากับพี่ใหญ่เสียอีก
คุณพ่อกู้หัวเราะแล้วลูบหัวเด็กหญิงน้อยอย่างเอ็นดู พูดตามตรงเขาชอบที่จะทำงานล่วงเวลามากกว่าไปเดินช็อปปิงกับพวกผู้หญิงเสียอีก
การช็อปปิงกับผู้หญิงเป็นอะไรที่เหนื่อยที่สุด ไม่รู้เลยว่าผู้หญิงที่แสนบอบบางกลายเป็นเหมือนเครื่องบินรบขึ้นมาได้อย่างไรในทุกครั้งที่ออกไปซื้อของ ราวกับไม่รู้ว่าความเหน็ดเหนื่อยคืออะไรอย่างนั้นแหละ
หลังจากอยู่ในห้องทำงานของคุณพ่อได้ไม่นาน หนวนหน่วนและพี่สี่ก็เดินออกไปตามหาพี่ใหญ่ด้วยกัน
เมื่อมาถึงสตูดิโอของเขาได้ไม่นาน กู้หมิงหลี่ก็รีบเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้อีกฝ่ายฟังทันที
“พี่ใหญ่ ไม่คิดเลยนะว่าพี่จะมีว่าที่ภรรยาแล้ว ทุกคนมารุมล้อมอยากถ่ายรูปพี่กันทั้งนั้นเลย”
กู้หนานปรายตามองเขาด้วยสายตาเย็นชา “พูดไร้สาระอะไร?”
กู้หมิงหลี่หัวเราะ “ถ้าไม่เชื่อก็ลองถามหนวนหน่วนดูสิ ผู้หญิงคนนั้นไปหาถึงหน้าห้องทำงานของพ่อพี่เลยนะ แล้วก็ตะโกนป่าวประกาศไปทั่วว่าตนเองเป็นนายหญิงของตระกูลกู้ ส่วนลุงเป็นว่าที่พ่อสามี”
หนวนหน่วนพยักหน้ายืนยัน “อื้ม ๆ แต่ว่าคุณพ่อไล่กลับไปแล้วค่ะ”
กู้หมิงหลี่หัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง “คุณลุงไล่ไปอย่างสุภาพมาก แต่ก็น่ากลัวอยู่นะ ใครจะทนฝีปากแรงกล้าของคุณลุงได้?”