ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 137 ซื้อรถให้น้องสาว
บทที่ 137 ซื้อรถให้น้องสาว
เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถรับชมไลฟ์สตรีมได้ ทุกคนจึงทำได้เพียงแค่รอให้หลี่หยางได้ซึมซับประสบการณ์จากเกมแล้วมารีวิวให้พวกเขาได้ฟัง
แต่ว่าการรอในครั้งนี้… กินเวลาไปเกือบสามชั่วโมงเลยทีเดียว
[เขาไม่สบายหรือเปล่า หลับไปสามชั่วโมงแล้วนะ! ยังดีที่สีหน้าเขายังไม่เป็นอะไรมาก]
[ฉันก็แอบคิดนะว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขาไหม เฮ้ นี่ฉันยังอยู่ในห้องไลฟ์นี่อยู่นะ เขาหลงเข้าไปในโลกของเกมแล้วลืมพวกเราไปแล้วหรือเปล่า!]
[ตอนนี้อยากได้แว่นโฮโลแกรมมากเลยอะ พวกเธอบอกว่ามันมีตัวละครที่จำลองจากน้องสาวประธานบริษัทซิงรุ่ยด้วยใช่ไหม เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะสั่งให้คนทำงานล่วงเวลาเพื่อให้ได้วางขายแว่นนี่ได้เร็ว ๆ]
[อยากลองด้วยอะ]
ตอนนี้ข่าวล่าสุดในอินเทอร์เน็ตต่างพาดหัวข้อถึงหลี่หยางว่าเป็นผู้เสพติดการเล่นเกมไปแล้ว
ส่วนหลี่หยาง หลังจากที่เขาเข้าสู่โลกแห่งความเวิ้งว้างก็ได้ปรับแต่งตัวละครของตัวเองเล็กน้อย
ทุกอย่างที่นี่ดูสมจริงมาก ทั้งดอกไม้ ต้นไม้ และตัวบ้าน ต่างสามารถใช้มือสัมผัสได้ราวกับหลุดเข้าไปอยู่ในโลกอีกใบจริง ๆ
แม้ว่าหนานเฟิงจะได้บอกกล่าวล่วงหน้าแล้วว่ายังไม่ได้ปรับแต่งเรื่องกลิ่นหรือการรับรสของอาหารภายในตัวเกม แต่มันก็เป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่งเหลือเกิน
มีตัวอักษรระบุอยู่บนหัวของตัวละครต่าง ๆ หลังจากที่หลี่หยางได้เข้ามาสู่โลกของเกมได้แล้ว ตัวอักษรบนหัวของเขาก็เปลี่ยนเป็นคำว่า ‘ให้ทำการช่วยเหลือผู้สูงอายุ’
ดังนั้นภารกิจแรกในเกมจึงเป็นการช่วยเหลือผู้สูงอายุตามหาแกะที่หายไป
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้พบกับผู้นำหมู่บ้านที่กำลังต้องการกระต่ายในป่าทางทิศตะวันออก
หลี่หยางวิ่งตรงไปหากระต่าย พวกมันถูกมองว่าเป็นสัตว์ประหลาดที่อาศัยอยู่ภายในป่า แม้ว่ามันจะขนปุยและดูน่ารักน่าสัมผัส แต่เจ้าตัวน้อยกลับกระโดดฝังเขี้ยวใส่เขาทันทีเมื่อจับเข้าที่ตัวมัน แถบเลือดของเขาเลยลดลงไปเกือบครึ่ง
ยังไม่ทันที่จะได้ฟื้นตัว หลี่หยางก็ถูกกัดอีกครั้ง เขาจึงวิ่งหลบไปยังจุดเซฟเพื่อฟื้นฟูเลือดของตัวเอง
หลี่หยาง “…”
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาเกือบพลาดท่าให้กระต่าย
แน่นอนว่าหลี่หยางไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน เขาเริ่มต้นออกเดินทางเพื่อตามหากระต่ายนั่นอีกครั้ง
แม้ว่าภารกิจในเกมจะดูเล็กน้อย แต่ความรู้สึกหลังจากได้ลองเล่นเกมนั้นมันน่าประทับใจมาก
นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาหลงอยู่ในโลกของเกมเป็นเวลาเกือบสามชั่วโมง เขาคงเล่นต่อหากแถบแจ้งเตือนไม่โผล่ขึ้นในเกมแล้วบอกให้เขาต้องกินข้าว นั่นทำให้เขาออกจากเกมอย่างไม่เต็มใจนัก
หลังจากที่ออกมาจากเกม เขาก็นึกได้ว่าเขาเปิดไลฟ์สตรีมเอาไว้
เขาไล่อ่านคอมเมนต์ที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองในห้องแชต หลังจากนั้นสีหน้าของหลี่หยางก็ค่อย ๆ สลดลง
แน่นอนว่าสิ่งที่หลี่หยางเป็นนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้คนโดยทั่วไป หากเป็นพวกติดเกมเหมือนกันก็เข้าใจได้ เขาจึงอธิบายรายละเอียดของตัวเกมให้ทุกคนได้ฟังอย่างละเอียด หลังจากนั้นไม่นานทั้งแว่นโฮโลแกรมและเกม ‘โลกแห่งเทพนิยาย’ ก็ติดเทรนด์ขึ้นมาทันที
จนถึงตอนนี้ ผู้ที่ยังไม่ได้รับแว่นตาโฮโลแกรมไปครอบครองยิ่งรู้สึกสิ้นหวังเข้าไปใหญ่ พวกเขาจึงพากันเข้าไปที่เว็บไซต์ทางการของบริษัทซิงรุ่ยแล้วเริ่มซักถามถึงวันที่จะวางจำหน่ายแว่นตาโฮโลแกรมล็อตถัดไป พวกเขาพร้อมที่จะเสียเงินแล้ว!
นอกจากนี้ ข่าวที่ว่าเซี่ยกั๋วมีเทคโนโลยีโฮโลแกรมที่สมบูรณ์แบบแล้วก็ได้แพร่ไปยังต่างประเทศอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีบางคนที่ยังไม่ปักใจเชื่อ โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจ พวกเขาต่างงุนงงว่าเซี่ยกั๋วสามารถพัฒนาเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำพวกเขาไปได้อย่างไร?
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าประเทศจีนสามารถสร้างนวัตกรรมนี้ได้แล้ว
หลังจากนั้นไม่นานข่าวลือก็เริ่มแพร่กระจายไปยังชาวเน็ตต่างประเทศ ทำให้ชาวต่างชาติเริ่มเข้ามาหาซื้อแว่นตาโฮโลแกรมนี้
แต่ว่า…
[ตอนนี้คนในประเทศเราบางคนยังซื้อไม่ได้เลย แล้วทำไมถึงมีพวกต่างชาติเข้ามาได้]
[อย่านะ ลำพังพวกเราเองก็แย่งชิงกันแทบบ้าอยู่แล้ว ถ้าเปิดช่องทางให้ต่างชาติเข้ามาอีกเราก็ยิ่งชวดหนักน่ะสิ]
[แต่ว่า จากที่เห็นชาวต่างชาติก็พยายามหาซื้อมากเลยนะ รู้สึกภาคภูมิใจบ้างไหมล่ะ?]
[คุณพ่อแห่งชาติ 666*[1]]
ซิงรุ่ยเดินมาถูกทางแล้ว มีผู้คนจำนวนมากที่ถือเงินมาหวังร่วมลงทุนกับกู้หนาน ในฐานะประธานที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของซิงรุ่ย ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นว่าหลายคนคาดการณ์ว่าเขาจะเป็นลูกเขยที่ดีได้อย่างแน่นอน และไม่ว่าใครก็ตามที่มีลูกสาวก็แทบอดใจไม่ไหวที่จะพาเธอเข้าสู่การเป็นสะใภ้ของตระกูลกู้
ตำแหน่งว่าที่ภรรยาดูเหมือนจะมีจำนวนคนมากขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนคอยมาหาคุณหญิงกู้และถามไถ่ถึงลูกชายทั้งสองของเธอ
หนวนหน่วนที่อยู่บ้านได้ยินเข้าพอดีจึงแอบไปส่งข่าวให้พี่ใหญ่และพี่รองของเธอได้รับรู้
“พี่ใหญ่ พี่รอง มีคนอยากแนะนำแฟนให้พวกพี่เยอะมากเลยค่ะ”
เด็กหญิงตัวน้อยกัดแอปเปิลคำเล็กที่อยู่ภายในมือพลางแกว่งขาสั้น ๆ ของเธอในอากาศ ถึงเธอจะพูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสา แต่สีหน้ากลับจริงจังอย่างยิ่ง
พูดจบเธอก็ก้มศีรษะลงงับแอปเปิล กู้หนานจึงจับเข้าที่หลังคอเล็ก ๆ ของหนวนหน่วนอย่างแผ่วเบา ฝ่ามือเย็นเฉียบทำให้เด็กหญิงตัวน้อยต้องหดคอหนี เธอพองแก้มกลมพลางใช้ดวงตาคู่สดใสเป็นประกายมองพี่ชายอย่างออดอ้อน
กู้หนานถามขึ้น “รู้ด้วยเหรอว่าแฟนคืออะไร?”
หนวนหน่วนทำแก้มพองลมพลางกัดแอปเปิลเข้าปาก จากนั้นก็กลืนมันลงไปพร้อมผงกศีรษะด้วยใบหน้าจริงจัง
“รู้ค่ะ คนที่จะมาเป็นพี่สะใภ้ของหนวนหน่วนในอนาคตไง”
กู้เป่ยยกมือขึ้นเกาคางของหนวนหน่วนราวกับเห็นน้องสาวเป็นแมวน้อย ก่อนจะส่งยิ้มให้ภายใต้กรอบแว่นอันหนาเตอะ
“เด็ก ๆ ไม่ควรพูดเรื่องไร้สาระนะ”
หนวนหน่วนพยักหน้าพลางส่งเสียงอ้อนเบา ๆ เธอกัดแอปเปิลในมือของตน แล้วทิ้งเรื่องนี้ไว้โดยไม่กลับมาใส่ใจอีก
กู้เป่ย “ไปกันเถอะ เดี๋ยวพี่จะพาหนวนหน่วนไปซื้อของ”
สีหน้าของหนวนหน่วนเป็นกังวลขึ้นมาทันที “ไม่ต้องหรอกค่ะ พี่รองซื้อของให้หนวนหน่วนเยอะแล้ว”
กู้เป่ยบีบเข้าที่จมูกน้อย ๆ ของเธออย่างไม่ค่อยพอใจนัก
“น้องสาวของคนอื่นอยากให้พี่ชายตัวเองซื้อของให้ทั้งนั้น แล้วทำไมเธอถึงไม่อยากได้ของจากพี่บ้างล่ะ”
หนวนหน่วนลูบจมูกของตัวเองแล้วโผเข้ากอดแขนของกู้เป่ย จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“ก็พี่รองใจดีกับหนวนหน่วนมาก ๆ ของที่พี่ซื้อให้ครั้งก่อนหนวนหน่วนยังใช้ไม่หมดเลยค่ะ”
กู้เป่ยลูบคางของเธอแล้วถอนหายใจออกมา
“อีกสองวันพี่ก็จะกลับไปที่สถาบันวิจัยแล้ว”
หนวนหน่วนหยุดงับแอปเปิลทันที เธอรีบหันไปมองพี่รองก่อนจะกระชับแขนของเขาแน่น
“ทำไมพี่รองถึงกลับเร็วขนาดนี้ล่ะคะ?”
สีหน้าของเด็กหญิงดูผิดหวังเล็กน้อย
กู้เป่ยรีบสวมกอดน้องสาวตัวน้อยแสนนุ่มนิ่มของตนแล้วอุ้มเธอขึ้นมานั่งบนตัก
เขาเองก็รู้สึกลังเลเช่นกันที่ต้องกลับไปเร็วขนาดนี้
“พี่มีโปรเจกต์ใหญ่ที่จะต้องทำให้เสร็จเร็ว ๆ นี้ หนวนหน่วนต้องใส่สร้อยข้อมือที่พี่ให้ไว้ตลอดเลยนะรู้ไหม ห้ามถอดวางไว้เด็ดขาดเลยนะ ไว้พี่ทำโปรเจกต์เสร็จแล้วจะรีบกลับมาอยู่ด้วย โอเคไหม?”
เมื่อรู้ว่าพี่รองกำลังจะไป ช่วงเวลานี้หนวนหน่วนจึงเกาะติดเขามากเป็นพิเศษ เธอวิ่งตามเขาทุกวันราวกับเป็นหางกระรอกตามติดตัว สุดท้ายก็ได้รับรู้ถึงนิสัยสุรุ่ยสุร่ายของเขา
“หนวนหน่วนว่ารถคันนี้เป็นยังไงบ้าง? เหมาะกับเธอดีนะ”
กู้เป่ยชี้ไปยังรถลัมโบร์กินีสีชมพูที่ข้างในก็ฉาบไปด้วยสีชมพูสุดเท่
สีหน้าของหนวนหน่วนมึนงงขึ้นมาทันที เธอกางแขนเล็กของตัวเองขึ้นหวังจะให้ตนเองอยู่ในระยะสายตาของพี่ชาย
“พี่คิดว่าหนวนหน่วนขับรถได้เหรอคะ?”
ทักษะการโน้มน้าวของกู้เป่ยถือว่าเชี่ยวชาญเลยก็ว่าได้ เขาหลับตาลงก่อนจะพ่นลมหายใจหนักหน่วงออกมา “ถึงตอนนี้จะยังเด็ก ขับรถยังไม่ได้ แต่ในอนาคตก็ต้องขับรถอยู่ดี ตอนนี้ก็ให้คนขับรถให้ก่อน พอโรงเรียนเปิดแล้วค่อยเอารถคันนี้ไปนะ รับรองว่าเพื่อนร่วมชั้นต้องบอกว่าอิจฉาแน่นอน”
[1] 666 เลขหกในภาษาจีนสามารถแปลว่าสุดยอด