ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 132 แผนของกู้หว่านล้มเหลว
บทที่ 132 แผนของกู้หว่านล้มเหลว
งานเลี้ยงครั้งนี้ทำให้คนในแวดวงคนรวยได้ตระหนักถึงความผงาดง้ำของตระกูลกู้ที่ต้องการให้ทุกคนได้รู้ว่าพวกเขารักหนวนหน่วน ลูกสาวที่พบเจอจากชนบทมากแค่ไหน
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะไม่มีใครกล้าดูถูกเด็กน้อยตระกูลกู้คนนี้ว่าเป็นคนบ้านนอกอีกต่อไป
พูดถึงเรื่องนี้แล้ว หากลองเปรียบเทียบความมั่งคั่งของคนเป็นพ่อที่มีลูกสาว ก็จะพบว่ามีประชากรเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มีลูกสาวแล้วจะมีเงิน
นี่ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้า
นอกจากนี้ ไม่เพียงแค่บรรดาพี่ชายของเธอที่คอยปกป้องและหวงแหนเพียงเท่านั้น แต่เธอเองก็เป็นเด็กดีมากเช่นกัน
รูปร่างหน้าตาของหนวนหน่วนนั้นก็ไม่ได้เป็นข้อกังขาเลยแม้แต่น้อย เพราะยีนของตระกูลกู้ไม่มีทางอัปลักษณ์แน่นอน อีกทั้งการแสดงออกของเธอก็น่าทึ่งมาก แม้ว่าเธอจะชอบเขินอายและประหม่า แต่ในตอนนี้กลับไม่ได้แสดงด้านนั้นออกมาเลย เธอเต็มเปี่ยมไปด้วยไหวพริบ กิริยามารยาทก็นุ่มนวล เด็กหญิงจึงเป็นที่รักของพวกผู้ใหญ่เป็นอย่างมาก
ผิวกายเธอขาวราวกับหยก ใบหน้าเรียวบางก็แสนจะงดงาม ยิ่งเอ่ยคำพูดคำจาที่แสนสุภาพนุ่มนวล พวกเขาก็บริภาษว่า ใครกันที่บอกว่าสาวน้อยคนนี้จะทำให้ตระกูลกู้ต้องอับอาย? เธอนำเกียรติมาสู่ตระกูลชัด ๆ!
เมื่องานเลี้ยงกำลังจะเลิกรา ในที่สุดกู้หว่านก็หาทางพูดคุยกับหนวนหน่วนจนได้
เด็กหญิงตัวน้อยเดินไปเข้าห้องน้ำ เมื่อออกมาก็ได้พบเข้ากับกู้หว่าน
หนวนหน่วนความจำดีมาก เพราะครอบครัวคนตรงหน้าทิ้งความทรงจำแย่ ๆ เอาไว้ให้ นั่นทำให้เธอสามารถจดจำกู้หว่านได้ทันที
เดิมทีเด็กสาวตัวน้อยอยากจะเดินหลีกหนีไปให้พ้นทาง แต่ก็ถูกกู้หว่านขวางทางเอาไว้
ดูจากชุดเสื้อผ้าของหนวนหน่วน แค่เพียงกระโปรงก็กินขาดแล้ว อีกทั้งอัญมณีบนมงกุฎนั่นอีก คงเป็นของจริงแน่นอน เพราะครอบครัวกู้รักเธอมาก ไม่มีทางที่พวกเขาจะนำของปลอมมาสวมใส่ให้เธออย่างแน่นอน
กู้หว่านพยายามข่มความริษยาภายในจิตใจด้วยการปั้นยิ้มบนใบหน้า “หนวนหน่วน ฉันเป็นญาติของเธอนะ”
ใบหน้าเรียวบางของหนวนหน่วนพยักหน้าลงอย่างหนักแน่น ก่อนสายตาใสซื่อนั้นจะจ้องมองคนพูด “หนูจำได้ ครั้งก่อนพี่มาบ้านหนู”
รอยยิ้มบนใบหน้าของกู้หว่านแข็งทื่อขึ้นมาทันที นัยน์ตาเองก็มืดลงหลายส่วน หากพูดถึงครั้งสุดท้ายที่ได้พบกัน มันไม่ใช่ความทรงจำที่ดีสำหรับหนวนหน่วนสักเท่าไหร่ กู้หนวนหน่วนคนนี้ความจำดีและรอบคอบดีเสียจริง ไม่สมกับที่ไปเจอมาจากบ้านนอกเลย
กู้หว่านตั้งใจสร้างมิตรภาพที่ดีกับหนวนหน่วน เพราะแผนการให้กู้หลิงถูกรับเลี้ยงภายใต้ความดูแลของกู้หลินโม่ไม่ได้ผลแล้ว เธอจึงเปลี่ยนแผนใหม่โดยการเข้าหาหนวนหน่วนเพื่อหวังผลประโยชน์จากเธอ และมันคงไม่ใช่เรื่องยากหากจะหวังอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเด็กหญิงคนนี้ในอนาคต เพราะพิจารณาจากการที่กู้หนานและคนอื่น ๆ ปฎิบัติต่อหนวนหน่วนแล้ว เธอคงได้ของล้ำค่าและสมบัติมากมายมาไว้ในกำมือแน่นอน
เมื่อนึกได้แบบนี้ สีหน้าของกู้หว่านก็เริ่มฉายแววความจริงจังขึ้นมาทันที เธอเดินเข้าไปใกล้ หวังจะจับมือหนวนหน่วน แต่เด็กหญิงตัวน้อยไม่ได้อยากให้มันเป็นเช่นนั้น สองเท้าถอยห่างอย่างระแวดระวัง
แม้ว่าหนวนหน่วนที่มีนิสัยอ่อนโยนจะเป็นเรื่องดี แต่นั่นก็อาจทำให้ถูกรังแกได้ง่าย เหมือนกับที่พวกพี่ชายชอบพูดกัน
เธออ่านความรู้สึกของผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าลูกพี่ลูกน้องตรงหน้าจะส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้อย่างตั้งใจ แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงไม่ชอบมันเลย
เด็กหญิงขมวดคิ้วก่อนจะใช้ดวงตากลมโตจ้องมองคนตรงหน้า สายตาคู่นั้นราวกับว่ามันสามารถมองเห็นจิตใจข้างในของผู้คนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
กู้หว่านไม่พอใจที่เธอถอยหลังหนี แต่เด็กสาวก็ปกปิดความรู้สึกเอาไว้อย่างมิดชิด
“ขอโทษทีนะหนวนหน่วน ครั้งล่าสุดที่เจอกันคุณย่าของฉันก็ทำเกินไปจริง ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเป็นคนไม่ดีอะไรนะ ก็แค่อยากให้พ่อเธอรับน้องสาวของฉันไปเลี้ยงเท่านั้น เพราะตั้งแต่เธอหายไป แม่เธอก็เสียใจมาก ป่วยหนักจนถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลเลย”
กู้หว่านปั้นสีหน้าโศกเศร้าพลางจ้องมองสีหน้าของหนวนหน่วนไปด้วย ตอนที่บอกว่าคุณหญิงกู้ป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล ใบหน้าของเธอก็เคลือบไปด้วยความรู้สึกผิด แต่มุมปากกลับแสยะยิ้มเล็กน้อย
เด็ก ๆ ก็แบบนี้แหละ โน้มน้าวง่ายจะตายไป
“หึ… แต่ฉันไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้นนะ พ่อกับคนอื่น ๆ มาเล่าให้ฟัง เขาไปเกลี้ยกล่อมให้แม่เธอรับน้องสาวของฉันไปเลี้ยง จะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน กู้หลิงอายุไล่เลี่ยกับเธอ ก็เลยคิดว่าถ้าทำแบบนั้นแม่เธออาจรู้สึกดีขึ้นบ้าง แต่ไม่คิดว่าแม่เธอจะคิดถึงเธอขนาดนั้น มากขนาดที่ว่ายอมให้สภาพจิตใจย่ำแย่มากกว่าเอากู้หลิงไปเลี้ยง”
“แต่พวกเราไม่ได้มีจุดประสงค์ร้ายอะไรนะ พวกเราก็ยินดีในการกลับมาของเธอเหมือนกัน แต่ก็อย่างว่า ย่าของฉันอายุมากแล้วจึงกู่ไม่ค่อยกลับสักเท่าไหร่ ครั้งล่าสุดก็เลยบุกไปที่บ้านของเธอ….”
เด็กสาวถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดประโยคที่เหลือ “หลังจากที่เธอกลับมาพวกเรามีความสุขมากจริง ๆ นะ หนวนหน่วน ฉันเป็นญาติของเธอ แน่นอนว่าต้องหวังให้เธอสุขสบายอยู่แล้ว ตอนนั้นเธอยังผอม ตัวก็เล็กมาก ฉันไม่อยากจะนึกถึงเลยว่าก่อนหน้านี้เธอใช้ชีวิตมายังไง ฉันทุกข์ใจนะที่เห็นแบบนั้น ดีแล้วที่ทุกคนไปเจอเธอแล้วพากลับมาได้”
หลังจากพูดจบกู้หว่านก็แค่นหัวเราะออกมาก่อนจะใช้นัยน์ตาแดงก่ำจ้องมองหนวนหน่วนราวกับว่าตนห่วงใยจริง ๆ
เด็กที่ใสซื่อไร้เดียงสาอาจหวั่นไหวกับสิ่งที่เธอพูดได้ แต่มันใช้ไม่ได้ผลกับหนวนหน่วน เด็กหญิงย่นใบหน้าขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะใช้สายตาใสซื่อของตัวเองจ้องมองไปที่กู้หว่าน
ไม่ชอบพี่คนนี้เลยแฮะ
ความสับสนงุนงงฉายผ่านดวงตาของหนวนหน่วน แน่นอนว่าสิ่งที่ลูกพี่ลูกน้องคนนี้พูดมันดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ดีและแฝงไปด้วยความจริงใจ แต่ถึงอย่างนั้น… เธอก็ยังไม่ชอบอยู่ดี
เธอคิดแบบนี้ไม่ดีใช่หรือเปล่า? เพราะไม่อยากให้พี่สาวคนนี้มาแย่งพวกพี่ชายไปใช่ไหม?
เด็กหญิงตัวน้อยพยักหน้ายอมรับสิ่งที่เธอคิดอยู่ภายในใจ พวกพี่ ๆ เป็นของเธอ ใครหน้าไหนก็อย่าคิดที่จะแย่งไปเชียว
เมื่อเห็นว่าเด็กหญิงดูท่าทางกังวลใจ กู้หว่านจึงต้องรีบแก้ต่าง เนื่องจากปฏิกิริยาของคนตรงหน้าแตกต่างจากที่เธอคิดเอาไว้มาก เธอเลยต้องรีบทำให้จบก่อนที่กู้หนานและคนอื่น ๆ จะสังเกตถึงความผิดปกติแล้วออกมาตามหาหนวนหน่วน
“หนวนหน่วน”
กู้หว่านรีบคว้ามือหนวนหน่วนเอาไว้
“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!”
เพียงเสี้ยววินาที เสียงที่โกรธแค้นของกู้หมิงหลี่ก็ดังขึ้นมาจากข้างหลัง เขาก้าวขายาว ๆ เข้ามาพลางเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาอันมืดทึบของเขาจ้องไปยังกู้หว่านอย่างเย็นชาราวกับเสือดำที่กำลังโกรธเกรี้ยว
กู้หว่านใบหน้าถอดสีทันที จบกัน ถ้าซื้อใจหนวนหน่วนไม่ได้ก็คงทำให้มีเรื่องเข้าใจผิดกันมากขึ้นไปอีก สงสัยวันนี้ดวงไม่ดีแน่เลย
จังหวะหัวใจของกู้หว่านที่เต้นแรงค่อย ๆ สงบลง
ไม่มีอะไรหรอก ไม่เป็นปัญหาอะไร เธอยังไม่ได้ทำอะไรเลย แค่มาคุยกับหนวนหน่วนเท่านั้น
“พี่หมิงหลี่”
กู้หว่านคิดอยู่ภายในใจ ใครกันที่ตั้งชื่อเขาได้สิ้นคิดเช่นนี้ หมิงหลี่แปลว่าสุภาพอ่อนน้อม… แต่ไอ้หยาบคายคนนี้กลับเป็นคนไร้มารยาทซะได้!
แววตาราวกับสัตว์ป่าดุร้ายของกู้หมิงหลี่จ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า กู้หว่านอยากจะวิ่งหนีไปจากตรงนี้ให้ได้
“ต้องการอะไร?”
กู้หมิงหลี่ดึงหนวนหน่วนให้ไปหลบอยู่ข้างหลังตนเอง เด็กหนุ่มทำเหมือนสัตว์ร้ายที่หวงลูก พร้อมที่จะแยกเขี้ยวใส่ทุกสิ่งที่มารังควานลูกของมัน
“ไม่มีอะไรสักหน่อย”
กู้หว่านดูน่าสงสารมาก เธอทำท่าเหมือนจะร้องไห้ แต่น้ำตาก็ไม่ได้ร่วงหล่นลงมา
“พี่หมิงหลี่เข้าใจผิดแล้ว ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันมาเข้าห้องน้ำแล้วบังเอิญเจอกับหนวนหน่วนก็เลยพูดคุยกันเท่านั้นเอง ไม่เชื่อก็ถามเธอเอาก็ได้”
กู้หมิงหลี่หันกลับไปมองหนวนหน่วน สายตาของเขาช่างแตกต่างจากตอนมองกู้หว่านเหลือเกิน มันอ่อนโยนลงอย่างชัดเจนเมื่อจับจ้องไปยังคนตัวเล็ก
ไม่ว่าใคร หากโดนเลือกปฎิบัติแบบนี้คงอกแตกตายเป็นแน่
กู้หว่านเองก็เจ็บใจเช่นกัน แต่เธอจะทำอะไรได้ล่ะ? ใครใช้ให้ตัวเองไม่ใช่น้องสาวของเขากัน
ไม่ใช่สิ ถ้าพูดถึงตามสายเลือดแล้ว หนวนหน่วนไม่ใช่น้องสาวแท้ ๆ ของเขาด้วยซ้ำ!
กู้หว่านรู้สึกอิจฉาขึ้นมา ทำไมกันนะ ทำไมเธอถึงไม่ได้เป็นน้องสาวของพวกเขา ทำไมต้องปฎิบัติต่อเธอแย่กว่าคนแปลกหน้าอีก! เธอรู้จักพวกเขามานานกว่าหนวนหน่วนด้วยซ้ำ!
เล็บของกู้หว่านแทบจะฝังลงบนมือของตัวเอง เด็กสาวจำเป็นต้องกัดฟันอดทนข่มความคิดริษยาและน้อยใจเอาไว้ข้างใน
หลังจากเห็นสายตาของกู้หมิงหลี่ที่จ้องมองมาเต็มไปด้วยคำถาม หนวนหน่วนก็ส่ายศีรษะให้ทันที “พี่สี่ พี่เขาไม่ได้รังแกอะไรหนวนหน่วนค่ะ ไปกันเถอะนะ”
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รังแกอะไร แต่เธอก็ไม่ชอบอยู่ดี
อยู่ห่างเอาไว้คงดีกว่า
เด็กหญิงครุ่นคิดจนใบหน้ายับยู่ยี่ไปหมด เธอรู้สึกได้ว่าสิ่งที่ได้รับฟังก่อนหน้านี้มันแปลก แต่หัวน้อย ๆ ของเธอบอกไม่ได้จริง ๆ ว่ามันแปลกที่ตรงไหน