ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 130 โฮโลแกรม
บทที่ 130 โฮโลแกรม
ซิงรุ่ยเทคโนโลยีเป็นบริษัทเกมที่กู้หนานได้ทำการก่อตั้งขึ้นมาด้วยตัวเอง แต่มันยังคงเป็นบริษัทเล็ก ๆ และยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่ พูดง่าย ๆ ก็คือยังไม่มีใครรู้ว่าบริษัทนี้เป็นของกู้หนานนั่นเอง
แต่ในงานเลี้ยงวันเกิดของหนวนหน่วนวันนี้ จู่ ๆ จอขนาดใหญ่ก็เล่นภาพงานแถลงข่าวของบริษัท ซึ่งเป็นงานเปิดตัวแถลงข่าวของบริษัทซิงรุ่ย!
โดยบุคคลที่ทำหน้าที่หลักในการนำเสนอผลิตภัณฑ์นี้คือหนานเฟิง หลังจากที่ได้รับสัญญาณจากกู้หนาน เขาก็เริ่มแนะนำผลิตภัณฑ์ของซิงรุ่ยให้ทุกคนได้รับชมแบบเรียลไทม์พร้อมกัน
“ผมเชื่อว่าทุกคนคงจะเคยได้ยินเกี่ยวกับโฮโลแกรมมาก่อนในนวนิยายหรือภาพยนตร์วิทยาศาสตร์แนวไซไฟ ผู้คิดค้นเทคโนโลยีนี้ก็คือ ดร.เดิร์นผู้มีชื่อเสียง และในปัจจุบันก็ได้มีนักวิทยาศาสตร์มากมายที่เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีพยายามจะพัฒนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีโฮโลแกรมนี้ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาแย่มาก แต่ในวันนี้ สิ่งที่ผมจะนำเสนอให้ทุกคนได้รับชมกันก็คือ… เทคโนโลยีโฮโลกราฟิกที่ถูกพัฒนาขึ้นในประเทศของเรา”
ทันทีที่หนานเฟิงกางแขนออก ท้องฟ้าจำลองที่เต็มไปด้วยดวงดาวก็ปรากฏขึ้นมาบนเวที เขาเหมือนกำลังลอยอยู่กลางอวกาศไม่มีผิด
มันเจ๋งมากเลย!
ไฟในห้องโถงมืดดับลงทั้งหมด ก่อนจะปรากฏภาพท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวสะท้อนอยู่ตรงหน้าของแขกในงาน มันเหมือนจริงมากจนบางคนอดไม่ได้ที่จะลองคว้ามันอย่างไม่รู้ตัว
ทุกคนต่างอุทานออกมา พวกนักข่าวเองก็ตื่นตาตื่นใจจนต้องรีบถามออกไป “คุณหนานเฟิง สิ่งนี้คือเทคโนโลยีโฮโลแกรมที่คุณกำลังพูดถึงใช่ไหม?”
“แต่เท่าที่พวกเรารู้มา เทคโนโลยีโฮโลแกรมสร้างภาพเหมือนได้ก็จริง แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นมันก็ยังให้ความรู้สึกว่ามันเป็นของปลอมในแง่ของการสัมผัส หรือหากให้กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ นี่เป็นเพียงเอฟเฟกต์พิเศษขั้นสูงเท่านั้น”
แม้ว่าภาพตรงหน้าจะเสมือนจริงมาก แต่นักข่าวเหล่านั้นก็ไม่ได้ปรานีกันง่าย ๆ และหลังจากที่พวกเขาเอ่ยปากถามคำถามทีละคน ผู้คนที่ตื่นตาตื่นใจกับเทคโนโลยีจนอ้าปากค้างเมื่อครู่ก็เริ่มสงบลงทันที
หนานเฟิงยกยิ้มก่อนจะเอ่ยตอบ “แน่นอนครับ นี่เป็นเพียงแค่ภาพพื้นหลังเท่านั้น ต่อไปทางเราจะแนะนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทซิงรุ่ยซึ่งเป็นแว่นตาโฮโลแกรมให้ได้ลองชมกันครับ”
บริกรคนหนึ่งเดินถือแว่นไฮเทคโปร่งแสงออกมา มันรูปร่างใหญ่จนเกือบครอบศีรษะได้เกือบครึ่ง ถึงจะเรียกมันว่าแว่นตา แต่อันที่จริงแล้วมันกลับคล้ายหมวกกันน็อกเสียมากกว่า แต่ถ้านำมันไปเปรียบเทียบกับหมวกกันน็อกจริง ๆ แล้ว ทางด้านการใช้งานถือเป็นเทคโนโลยีมากกว่า
หนานเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง หลังจากที่ใส่ชิปลงในแว่นตาโฮโลแกรมแล้ว เขาก็นั่งลงบนเก้าอี้ข้าง ๆ ก่อนสวมมันเข้าไป
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่เขา แม้ว่าจะยังไม่ได้เริ่มสาธิตขั้นตอนการทำงาน แต่ทุกคนก็มีลางสังหรณ์ใจว่าบริษัทที่ชื่อซิงรุ่ยแห่งนี้อาจทำให้ทั้งโลกตกตะลึงได้
สามวินาทีผ่านไป บนเวทีที่ว่างเปล่าก็มีบุคคลที่รูปลักษณ์เหมือนกับหนานเฟิงทุกประการปรากฏขึ้นมา มันดูเหมือนคนจริง ๆ แต่… ร่างจริง ๆ ของหนานเฟิงยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้นั่น!
“ว้าว…”
ทุกคนในงานแถลงข่าวลุกขึ้นยืนอย่างเหลือเชื่อ พวกนักข่าวเองก็รีบวิ่งกรูเข้าไปถ่ายภาพกันอย่างบ้าคลั่ง โชคดีที่มีหน่วยรักษาความปลอดภัยมากพอคอยรับมือ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาได้
ไม่เพียงแค่ผู้คนที่งานแถลงข่าวเท่านั้นที่ตกตะลึง แต่ผู้คนในแวดวงชั้นสูงที่กำลังชมภาพหน้าจอในงานเลี้ยงต่างก็อดไม่ได้ที่จะยิ่งเข้าหา หากเทคโนโลยีโฮโลแกรมมีจริง พวกเขาย่อมรู้ดีกว่าใครว่ามันจะนำโลกไปสู่การพัฒนาอย่างแน่นอน
“คุณกู้ ขอถามได้ไหมคะว่านี่มันเกิดขึ้นได้ยังไง?”
“คุณกู้หนาน นี่เป็นเทคโนโลยีโฮโลแกรมจริง ๆ เหรอ?”
ความสงบก่อนหน้านั้นหายวับไปทันตา ทุกคนตระหนักได้แล้วว่านี่คือผลงานชิ้วโบว์แดง พวกเขามองไปยังตระกูลกู้อย่างใจจดจ่อด้วยดวงตาร้อนผ่าว หากได้มันมาสักชิ้นคงจะดีไม่น้อย
ดวงตาแสนเย็นชาเฉียบคมของกู้หนานกวาดมองไปทั่ว ถึงแม้ว่าใบหน้าของเขาจะไร้ซึ่งการแสดงออก แต่ออร่าความมีอำนาจของเขาก็แผ่ไปทั่วอยู่ดี
“ต้องติดตามกันต่อไปครับ” เขาไม่พูดอะไรมาก
ทุกคนต่างรู้ว่าเขาเป็นคนเงียบขรึมมากแค่ไหน พอเอ่ยปากพูดแบบนี้ แม้แต่เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายก็ไม่กล้าหือต่อ
เพราะเทคโนโลยีโฮโลแกรมในงานแถลงข่าวอยู่ในมือของชายหนุ่มคนนี้ พวกเขาจึงไม่กล้าล้ำเส้น ทำได้เพียงข่มความตื่นเต้นไว้และจ้องมองการถ่ายทอดสดบนหน้าจอขนาดใหญ่ต่อไป
“กรุณาอยู่ในความสงบด้วยครับ ผมเข้าใจว่าพวกคุณต้องการถามอะไร ผมจะให้เวลาพวกคุณค่อย ๆ คิดคำถาม แต่ในตอนนี้ ขอให้ผมได้แนะนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทเราและพาพวกคุณไปทำความเข้าใจกับเทคโนโลยีโฮโลแกรมกันก่อนนะครับ สิ่งที่คุณเห็นอยู่ตรงหน้า ณ ตอนนี้ คือภาพโฮโลแกรมตัวผม มันเป็นเพียงแค่ภาพฉายเท่านั้น ถ้าใครไม่เชื่อ ผมขออาสาสมัครสักคนหนึ่งขึ้นมาทดสอบให้เราได้ลองดูกันก็ได้ครับ”
หนานเฟิงผู้ยืนอยู่ภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวบนเวทีพูดขึ้น น้ำเสียงของเขาราบรื่นและเป็นธรรมชาติมาก อีกทั้งการเคลื่อนไหวและการแสดงออกของเขาก็เหมือนกับร่างกายของเขาจริง ๆ
ซึ่งนั่นดูเป็นภาพธรรมดามาก หากร่างของเขาไม่ได้นั่งอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ คงไม่มีใครเชื่อว่านี่เป็นเพียงภาพโฮโลแกรม
“ผม ผม ผม ผม!!!”
ตอนนี้แทบทุกคนได้ยกมือขึ้นและต้องการที่จะขึ้นไปสัมผัสด้วยตัวเอง
ในที่สุดสปอตไลต์ก็ตกลงไปที่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินขึ้นมาก่อนจะยกมือของตนอย่างตื่นเต้น ตอนขึ้นไปบนเวที เขาก็กระวนกระวายใจขึ้นเรื่อย ๆ ตอนที่มือค่อย ๆ ทะลุผ่านร่างโฮโลแกรมไป
หนานเฟิงปรากฏรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า “ตอนนี้ผมเป็นเพียงภาพฉายโฮโลแกรม ผู้คนในโลกจริง ๆ จะไม่สามารถสัมผัสผมได้ เช่นเดียวกับที่คุณไม่สามารถสัมผัสดวงดาวเหล่านี้ได้ แต่ตอนนี้ผมสามารถสัมผัสพวกมันได้ เหมือนผมกับทุกคนอยู่ในพื้นที่ต่างมิติกัน”
“ทุกคนต่างทราบกันดีว่าโฮโลกราฟิกเป็นโลกจริงในออนไลน์ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งทั้งในและต่างประเทศต่างเร่งคิดค้นเทคโนโลยีนี้ ที่จริงแล้วสองปีนี้มีหลายประเทศที่ประสบความสำเร็จในด้านเทคโนโลยีโฮโลแกรมนี้แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และมันก็ยังไม่สมบูรณ์แบบสักเท่าไหร่ เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว หน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศจีนได้พิชิตเทคโนโลยีนี้สำเร็จ เราจึงมีความก้าวหน้าอย่างมาก”
“นอกจากนี้ ทางซิงรุ่ยเองก็ได้สิทธิ์ในการทดลองพัฒนาเกมด้วยเทคโนโลยีโฮโลแกรมนี้ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวที่พวกคุณได้เห็นเป็นเพียงพิมพ์เขียวของเทคโนโลยีโฮโลแกรมเท่านั้น และตอนนี้ผมจะแสดงให้พวกคุณเห็นโลกที่เต็มไปด้วยดวงดาวในดวงตาของผม”
หนานเฟิงอธิบายพลางเริ่มทำอะไรสักอย่างกับความว่างเปล่าตรงหน้า นักข่าวที่อยู่ตรงหน้ากดชัตเตอร์กัดอย่างถี่รัว ทุกคนต่างหน้าแดงด้วยความตื่นเต้นราวกับกำลังเมามาย คนในงานคนอื่นเองก็จ้องหนานเฟิงตาไม่กะพริบจนดวงตาของพวกเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง
“ข้างหน้าผมคือภาพที่มีเพียงผมคนเดียวเท่านั้นที่สามารถมองเห็น ตอนนี้มีดาวเคราะห์หลายดวงมากให้เลือก และผมก็กำลังจะเลือกเจ้าดาวเคราะห์สีน้ำเงินอันคุ้นเคยของทุกคนครับ”
หลังจากที่เขาพูดจบ เพียงไม่กี่วินาทีดวงดาวที่อยู่ตรงหน้าผู้คนจำนวนมากก็หายวับไป ก่อนจะปรากฏภาพหนานเฟิงร่วงหล่นลงไปในดาวเคราะห์ดวงหนึ่งซึ่งทุกคนรู้จักกันดี แตกต่างกันตรงที่ว่า ดาวเคราะห์ดวงนี้ยังไม่พัฒนาสักเท่าไหร่ มันเต็มไปด้วยพืชพรรณเขียวชอุ่ม น้ำสีใส ท้องฟ้าสีครามและเมฆสีขาวนั้นแตกต่างจากเมืองใหญ่ในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง
“ตำแหน่งเริ่มต้นของผมตอนนี้คือเซี่ยกั๋วหลินเฉิง เป็นภูมิประเทศเริ่มต้นที่หัวหน้าของพวกเราได้ไปค้นคว้าและนำมาใส่ไว้”
ในขณะที่เขาพูดนั้น เขาก็ได้ย่อตัวลงแตะหญ้าบนพื้น โดยที่ทุกคนมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาสามารถจับหญ้าได้!
สายตาของผู้ที่ไม่ว่าจะอยู่ในเหตุการณ์จริงหรือกำลังดูการถ่ายทอดสดนั้นร้อนผ่าวไปด้วยความตกใจ
สะ… สัมผัสได้จริงด้วย!