ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 124 พี่น้องฝาแฝด
บทที่ 124 พี่น้องฝาแฝด
เมื่อไป๋โม่ฮัวได้พบทั้งคู่อีกครั้งก็รู้สึกตกตะลึงกับของมากมายที่ทั้งสองหอบมาอย่างพะรุงพะรังในมือ
“พี่กู้เป่ย หอบหิ้วอะไรมามากมายครับเนี่ย?”
กู้เป่ยเผยรอยยิ้ม “ฉันไปซื้อของกับหนวนหน่วนมา”
หนวนหน่วน “…”
โชคดีที่เป็นเครื่องบินส่วนตัว ไม่อย่างนั้นพวกเขาอาจเสียเวลาไปมากกับการตรวจสอบของที่หอบหิ้วขึ้นเครื่อง
ซูหรานแต่งกายในชุดลำลองไปรับพวกเขา หลังเห็นข้าวของมากมายในมือ เขาก็ชะงักและเงียบไปพักหนึ่ง จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา
“ผมจะเรียกรถอีกสองคันมาช่วยขนของนะครับ”
หนวนหน่วนก้มหน้าด้วยท่าทีเขินอาย ไม่กล้าสบตาพี่ซูหราน ส่วนกู้เป่ยประทับใจเด็กหนุ่มผู้นี้มาก
“นายคือครูที่แสนน่ารักและอบอุ่นของหนวนหน่วนใช่ไหม? ยังดูเด็กอยู่เลย”
ซูหรานเอ่ยอย่างถ่อมตัวหลังได้รับคำชื่นชม “พี่ก็เหมือนกันนะครับ อายุยังไม่มาก แต่ความสำเร็จของพี่ก็เหนือกว่าผู้คนมากมายแล้ว”
เห็นได้ชัดว่าซูหรานรู้จักกู้เป่ย ทั้งสองคนเป็นคนฉลาดและมีไหวพริบในการพูด แต่คนที่ตามบทสนทนาไม่ทันกลับคิดว่าพวกเขาแปลกประหลาด
รถทั้งสองคันแล่นมาอย่างรวดเร็ว หลายคนช่วยกันเคลื่อนย้ายสิ่งของมากมายขึ้นรถก่อนจะออกเดินทางไปยังสนามบิน
ซูหรานเตรียมขนม ผลไม้ และอาหารมากมายไว้ต้อนรับพวกเขาบนเครื่องบิน รวมถึงสตรอวเบอร์รีสดใหม่จากบ้านคุณย่าหลิวที่หนวนหน่วนชอบกินด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีองุ่นแสนอร่อยของโปรดเธอ หลังกินไปหนึ่งคำ แก้มของหนวนหน่วนก็พองเหมือนกระรอกน้อยที่กำลังกินถั่ว
หนวนหน่วนชื่นชอบอาหารที่พี่ชายจัดเตรียมไว้ให้บนเครื่องบินอย่างมาก เธอไม่รู้สึกเบื่อเลย
หลังจากนั่งไปไม่นานก็มาถึงปลายทาง เมื่อเดินออกจากสนามบิน หนวนหน่วนก็เห็นชายหนุ่มผู้โดดเด่นอยู่ไกล ๆ ชายคนนั้นสวมเสื้อกันลมสีดำ ดูน่าเกรงขามอย่างยิ่ง
การปรากฏตัวของหนวนหน่วนและพี่ ๆ เป็นที่จับตามองจนผู้คนที่ผ่านไปมาอดไม่ได้ที่จะสอดส่องสายตา
“พี่ใหญ่!”
หนวนหน่วนดีใจเป็นอย่างยิ่ง เธอไม่คาดคิดว่าพี่ใหญ่จะเดินทางมารับด้วยตนเอง เมื่อเห็นดังนั้น เธอก็โบกมือให้กู้หนานแล้วตะโกนเรียกเขาด้วยความตื่นเต้น
มือของกู้หนานสอดอยู่ในกระเป๋าเสื้อกันลม เขากำลังหันมองโดยรอบ อารมณ์ของเขาที่แสดงออกมาเยือกเย็นราวกับภูเขาน้ำแข็ง แต่ภูเขานั้นละลายทันทีที่ได้เห็นหนวนหน่วน ดวงตาที่เฉียบคมและระแวดระวังของเขาก็อ่อนแสงลงทันทีเช่นกัน
กู้เป่ยรู้สึกประหลาดใจ เขาดันแว่นตาขึ้นบนดั้งด้วยปลายนิ้วเรียวยาวของตนพลางครุ่นคิดว่าเขารู้จักพี่ชายฝาแฝดของตัวเองเป็นอย่างดี เท่าที่เขาจำได้ พี่ชายมักจะเผยสีหน้าจริงจังและเคร่งขรึมเสมอ ยิ่งเติบโตก็ยิ่งเย็นชาก็ว่าได้
ครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นพี่ชายอ่อนโยนต่อผู้อื่นคือเมื่อไรกันนะ?
ไม่เคยเห็นเหรอ… ไม่สิ นับตั้งแต่ที่น้องสาวลืมตาดูโลก ทุกครั้งที่สวมกอดเธอ กู้หนานก็จะอ่อนโยนตลอด เพราะแบบนี้หนวนหน่วนจึงไม่รู้สึกหวาดกลัว เธอยื่นมือออกไปแล้ววิ่งไปสวมกอดพี่ชายด้วยตนเองด้วยซ้ำ
แม้เสียงพูดคุยของฝูงชนจะไม่ดังนัก แต่กู้หนานและกู้เป่ยก็ได้ยินเสียงคนชื่นชมพวกเขาสามพี่น้องอย่างชัดเจน รอยยิ้มอันอบอุ่นจึงฉายขึ้นในดวงตาของกู้เป่ย
ชายหนุ่มจูงมือเล็ก ๆ ของน้องสาวเข้าไปหาพี่ใหญ่ เมื่อพี่น้องสองฝาแฝดยืนเคียงข้างกัน เสียงกรีดร้องก็ดังลั่น
“ฝาแฝดเหรอเนี่ย เป็นพี่น้องฝาแฝดที่หล่อเหลามากเลย!”
“คนหล่อขนาดนี้มีอยู่จริง ๆ เหรอ? ดูนิสัยดีด้วย”
“โชคดีของฉันจริง ๆ ที่ได้เจอฝาแฝดหล่อ ๆ แบบนี้!”
แม้เสียงพูดคุยของฝูงชนจะไม่ดังนัก แต่กู้หนานและกู้เป่ยก็ได้ยินชัดเจน
อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้ยินคำชมเชยเช่นนี้มาตั้งแต่เด็ก เมื่อครั้งเยาว์วัย ทุกคนต่างบอกว่าพวกเขาน่ารักน่าชัง และตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็นชมว่าหล่อเหลาแทน
กู้หนานและกู้เป่ยจ้องมองกัน คนหนึ่งเฉยชา ส่วนอีกคนเผยรอยยิ้มอันอบอุ่น นี่จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะแยกแยะว่าใครเป็นใคร
หนวนหน่วนยืนอยู่ระหว่างพวกพี่ชาย เธอเงยหน้าขึ้นจ้องมองพวกเขาก่อนจะเอื้อมมือจับแขนทั้งสองคน
“พี่ใหญ่ พี่รอง กลับบ้านกันเถอะค่ะ”
กู้เป่ยลูบศีรษะเด็กหญิงอย่างอ่อนโยน ขณะที่กู้หนานพยักหน้าอย่างแผ่วเบา
กู้หนานเอ่ยถาม “กระเป๋าเดินทางอยู่ที่ไหน?”
กู้เป่ยกวักมือเรียกทางด้านหลัง จากนั้นชายฉกรรจ์สองคนก็ลากกระเป๋าสัมภาระมา
กู้หนานที่ตอนแรกจะช่วยพวกเขาหอบหิ้วกระเป๋าเดินทาง “…”
เขาลืมไปว่าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น
เมื่อมองไปยังสัมภาระมากมาย ดวงตาของกู้หนานก็ฉายแววสับสน หลังสบตาเข้ากับซูหราน ชายหนุ่มก็ชะงักไปสองวินาที
“คุณครูของหนวนหน่วน?”
หนวนหน่วนเคยเล่าเรื่องซูหรานให้เขาฟัง
แม้ซูหรานจะเป็นวัยรุ่น แต่เขาก็ถูกเลี้ยงดูมาในฐานะทายาทของตระกูลซูตั้งแต่เด็ก เขามาจากตระกูลนักวิชาการ การวางตัวของเขาจึงไม่ธรรมดาและไม่เขินอายเมื่อเผชิญหน้ากับกู้หนาน
เด็กหนุ่มพยักหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ
“สวัสดีครับพี่ชายของหนวนหน่วน ผมชื่อซูหราน วันนี้ต้องขอโทษด้วยนะครับที่รบกวน”
กู้หนานขานรับในลำคอ ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเพียงพยักหน้าเป็นการทักทายแล้วจ้องมองไปยังกระเป๋าเดินทางของตัวเอง จากนั้นก็โบกมือเรียกรถทั้งสองคันด้วยสีหน้าเรียบนิ่งดังเดิม
เมื่อพวกเขาออกไป สนามบินก็เต็มไปด้วยความวุ่นวายทันที
วันนี้เป็นวันอะไร ทำไมมีผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาเต็มไปหมด!
สาว ๆ หลายคนแอบถ่ายรูปพวกเขาและหมายจะอัปโหลดลงบนโลกออนไลน์ แต่รูปภาพเหล่านั้นก็ถูกปิดกั้นอย่างรวดเร็ว พวกเธอได้รับข้อความแจ้งเตือนทันที
ข้อความแจ้งเตือน : มีภาพของบอสใหญ่ในรูปภาพ กรุณาอย่าเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต!!!
ไม่เพียงหล่อเหลา แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ธรรมดาด้วยนะเนี่ย
ในเมื่อโพสต์ในโลกออนไลน์ไม่ได้ พวกเธอก็ส่งรูปไปพูดคุยกันในกลุ่มแชตแทน
จากนั้นกู้เป่ยก็เป็นที่เลื่องลือทันที
แมวเหมียว [นี่นี่นี่!!! เพื่อนสาวทั้งหลาย นี่คือเทพบุตรสุดหล่อของฉัน! เทพบุตรฝาแฝด!]
กระดิ่งน้อย [บอกเลยว่าเป็นฝาแฝดที่หล่อเหลาที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเลย! หลงรักแล้วอะ]
เบื่อแทบตาย [แม่เจ้า… น่าเสียดายนะ ทำไมคนหล่อ ๆ หุ่นล่ำ ๆ แบบนี้ไม่ได้เข้าวงการบันเทิง]
แมวเหมียว [คิดเหมือนกันเลยเธอ! เสียดายที่เขาไม่ได้เข้าวงการบันเทิง คิดเหมือนกันไหมว่ากู้เป่ยเหมาะจะเป็นดาวเด่นในวงการบันเทิงมากกว่าในวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่าแต่พวกเธอรู้ไหมว่าพวกเขาประสบความสำเร็จด้านไหนบ้าง? รู้ไหมว่าได้รับรางวัลมากี่รางวัล? ถ้าเขาเป็นดารานะ ความสำเร็จที่มีในตอนนี้ต้องด้อยกว่าแน่]
จากนั้นเหล่าหญิงสาวก็เริ่มค้นหาและเผยแพร่ความสำเร็จของกู้เป่ยในห้องแชต
ทุกคนที่ได้อ่านผลงานของกู้เป่ย […]
เบื่อแทบตาย [ให้ตายเถอะ นี่มันน่าตื่นเต้นกว่าไล่ตามดวงดาวอีกไม่ใช่เหรอ?]
กู้หมิงอวี๋เป็นสามีของฉัน [แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ฉันก็ยังรักอวี๋อวี่ของฉันที่สุด]
กระดิ่งน้อย [กู้เป่ยคือเทพบุตรตัวจริง ฉันชอบมากเลยผู้ชายหล่อ ๆ ที่อาศัยพรสวรรค์ของตัวเองทำมาหากิน]
กู้หมิงอวี๋เป็นสามีของฉัน [อวี๋อวี่ของฉันก็อาศัยพรสวรรค์ในการทำมาหากินเหมือนกัน แต่แค่อยู่คนละสาขาอาชีพกันหรอก]
กระดิ่งน้อย [ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรกู้หมิงอวี๋เลยสักนิด แต่ละคนมีความชอบไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ฉันเองก็ชอบเขาเหมือนกัน! ฉันตัดสินใจแล้ว อวี๋อวี่คือสามีคนแรกของฉัน ส่วนกู้เป่ยเป็นสามีคนที่สอง พี่ชายฝาแฝดของกู้เป่ยคือสามีคนที่สาม ว้าว มีหนุ่มหล่อเป็นสามีตั้งเยอะ!]
แมวเหมียว [@กระดิ่งน้อย เกินไปรึเปล่า กู้เป่ยเป็นสามีของฉันต่างหาก พูดไร้สาระแบบนั้นได้ยังไง!]
กู้หมิงอวี๋เป็นสามีของฉัน [@กระดิ่งน้อย จะพูดอะไรเกรงใจชื่อแอ็กฉันด้วย!]
เบื่อแทบตาย [ฉันชอบพี่ชายฝาแฝดของกู้เป่ยมากกว่า ทั้งเคร่งขรึมทั้งสุขุม พนันได้เลยว่าตัวตนของเขาต้องไม่ธรรมดาแน่]
กระดิ่งน้อย [หึ! เมียหลวงคือฉันต่างหาก พวกเธอเป็นแค่ผู้หญิงบำเรอ!]
แน่นอนว่ากู้เป่ยและคนที่เกี่ยวข้องไม่รับรู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนนี้แต่อย่างใด