ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 123 พี่ใหญ่กับพี่รองยังมีบางอย่างที่ต่างกัน
บทที่ 123 พี่ใหญ่กับพี่รองยังมีบางอย่างที่ต่างกัน
ไป๋โม่ฮัวผละไปหาอาจารย์ของเขาที่ไม่ได้เจอมาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อมีโอกาสกลับมายังมหาวิทยาลัยในฐานะนักศึกษา เขาก็อยากจะพบอาจารย์ที่เคยสนิทสนม
หนวนหน่วนจึงเดินไปทานอาหารที่ร้านอาหารกับพี่รองของเธอเพียงสองคน และในที่สุดกู้เป่ยก็มีเวลาสอบถามเรื่องราวทั้งหมด
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
หนวนหน่วนขอให้เขาโทรหาพี่ใหญ่ ในเมื่อเธอรู้ว่าใครคือพี่ใหญ่ที่แท้จริง เขาก็มั่นใจว่าน้องสาวที่พลัดพรากกันไปถูกตระกูลกู้ค้นพบแล้ว
ดีจริง ๆ…
ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้าอันน่าเอ็นดูของน้องสาว เธอช่างละม้ายคล้ายคลึงกับคุณย่ามาก นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เขารู้สึกว่าความสัมพันธ์ทางสายเลือดนั้นยอดเยี่ยมขนาดไหน
หนวนหน่วนนั่งข้างพี่รองอย่างเชื่อฟังพลางตอบคำถามของเขาอย่างใสซื่อ
“หนวนหน่วนกลับมาได้เดือนกว่าแล้วค่ะ ตอนที่หนวนหน่วนกลับมา หนวนหน่วนผอมมาก แต่พ่อกับพี่ชายอ้วนขึ้นกันหมดเลยค่ะ”
เด็กหญิงตัวน้อยพูดเจื้อยแจ้วพลางยกมือประคองใบหน้าของตน ดวงตาหยีเป็นเสี้ยวพระจันทร์คู่นั้นขับประกายสดใสออกมาเต็มเปี่ยม
กู้เป่ยลูบศีรษะเด็กหญิงด้วยฝ่ามืออันอบอุ่นของเขาพลางถามเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังเธอได้กลับบ้าน
หนวนหน่วนเอ่ยอย่างแผ่วเบา ไม่นานร่างเล็กของเธอก็เข้าใกล้พี่รองมากยิ่งขึ้น
ในที่สุดเด็กน้อยก็เอนกายลงบนตัวเขา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสุข ดวงตาสีเข้มเปล่งประกายสดใส อยู่บนตัวเขาแล้วเธอดูผ่อนคลายมาก
กู้เป่ยยกมุมปาก สวมกอดเด็กหญิงตัวเล็กไว้ในอ้อมแขนแล้ววางคางไว้บนผมอันนุ่มสลวยของเธอ จากนั้นก็ตั้งใจฟังน้องสาวอย่างจริงจัง การตอบสนองเป็นครั้งคราวของเขาทำให้เด็กหญิงรู้สึกตื่นเต้น
เมื่อเห็นว่าน้องสาวดูมีชีวิตชีวาอย่างมาก กู้เป่ยก็รู้สึกพึงพอใจ ในที่สุดน้องสาวของเขาก็กลับมา เขาได้พบลูกสาวที่แสนน่ารักของครอบครัวกู้สักที
“พี่รองคะ พี่กับพี่ใหญ่หน้าเหมือนกันมากเลยค่ะ หนวนหน่วนสับสนจนเข้าใจผิดคิดว่าพี่ใหญ่ไม่ยอมมากับพวกเราซะอีก”
เมื่อพูดถึงเรื่องชี้ตัวพี่ชายผิด หนวนหน่วนก็ปิดหน้าด้วยท่าทีเขินอาย
กู้เป่ยหัวเราะอย่างอบอุ่นพลางเกาจมูกเล็ก ๆ ของเด็กน้อยด้วยนิ้วอันเรียวยาวของเขา
“พี่และพี่ใหญ่เป็นฝาแฝด เราเหมือนกันมาก หลายคนจะสับสนจนแยกไม่ออกเป็นธรรมดา”
เขากล่าวพลางถอดแว่น หรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วจ้องมองหนวนหน่วน
“หนวนหน่วนรู้สึกแบบนั้นไหม?”
หนวนหน่วนผงกศีรษะซ้ำ ๆ ราวกับไก่จิกข้าว จากนั้นก็ลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะส่ายหน้า “พี่ใหญ่กับพี่รองยังมีบางอย่างที่ต่างกันค่ะ”
กู้เป่ยดันแว่นตาเข้าที่พร้อมรอยยิ้ม เขารู้ดีว่าสิ่งที่หนวนหน่วนกล่าวหมายถึงอะไร แม้เขาจะมีพี่ชายฝาแฝดที่หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกันจนสมาชิกในครอบครัวไม่อาจแยกแยะพวกเขาได้เมื่อครั้งยังเด็ก แต่เมื่อโตขึ้น บุคลิกของพวกเขาก็แตกต่างกันอย่างชัดเจน
บุคลิกของทั้งสองคนแตกต่างกันขนาดนี้ ผู้ใดที่ได้รู้จักกับพวกเขาทั้งสองจะไม่มีวันสับสนอย่างแน่นอน
แม้แต่หนวนหน่วนที่ได้พบเขาเป็นครั้งแรกก็สามารถบอกความแตกต่างระหว่างพี่ชายทั้งสองได้อย่างรวดเร็ว
“พี่ใหญ่อยู่ที่หลินเฉิงเหรอ?”
พี่ใหญ่ของตระกูลนี้เดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศหลังจากเรียนจบมัธยมปลาย อีกทั้งยังทำการพัฒนาในต่างประเทศตั้งแต่นั้นมา
หนวนหน่วนพยักหน้า “พี่ใหญ่งานยุ่งทุกวันเลยค่ะ”
เมื่อได้พูดคุยเกี่ยวกับบุคคลในครอบครัว กู้เป่ยก็รู้สึกได้ว่าความห่างเหินในใจระหว่างเขาและน้องสาวหายไปแล้วอย่างสิ้นเชิง
เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ พี่น้องทั้งสองก็กินกันอย่างเงียบงัน ขณะกำลังรับประทานอาหารกับน้องสาวเพียงสองคน กู้เป่ยก็จ้องมองใบหน้าของเด็กหญิงที่กำลังเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยพร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกาย
ในขณะเดียวกัน เขาไม่ลืมที่จะส่งข้อความถึงพี่ชายฝาแฝดเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์
กู้หนาน [หนวนหน่วนอยู่กับนาย?]
แน่นอนว่าใช่อย่างไม่ต้องสงสัย
ความสงสัยเรื่องน้องสาวของเขาได้รับการยืนยันทันทีที่ได้รับข้อความจากกู้หนาน
กู้เป่ย [ฉันกำลังกินข้าวอยู่ เธอบังเอิญพบฉันในงานที่มหาลัยวันนี้ น้องคิดว่าฉันเป็นนาย]
กู้หนาน [ดูแลเธอให้ดี ค่อยคุยกันเรื่องนี้อีกครั้งหลังจากที่นายกลับมา]
เมื่อได้รับข้อความนี้ กู้เป่ยก็ไม่ลังเลที่จะรีบรับประทานอาหารและบอกหนวนหน่วนให้ทำแบบนั้นเช่นเดียวกัน
ตอนแรกเขาตั้งใจจะอยู่ที่นี่ต่ออีกสักพัก แต่เป็นเพราะหนวนหน่วน เขาจึงตัดสินใจที่จะเดินทางกลับก่อนกำหนด
หนวนหน่วนนึกถึงซูหรานขึ้นมา พี่ชายของซูหรานบอกว่าจะเดินทางมายังเมืองหลินเฉิงนี่นา
ซูหรานที่อยู่ในเมือง A รู้ดังนั้นก็ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะมาเมืองหลินเฉิง
ซูหราน [พวกเธอจะกลับยังไง?]
เมื่อได้รับข้อความ หนวนหน่วนก็หันไปถามพี่รองของเธอทันที
กู้เป่ยตอบกลับ “เราจะขึ้นเครื่องบินกลับ ใครถามหนวนหน่วนเหรอ?”
หนวนหน่วนตอบกลับอย่างจริงจัง “พี่ซูหรานค่ะ เขาเป็นคนสอนกู่ฉินให้หนวนหน่วน วันมะรืนเป็นวันเกิดเขา หนวนหน่วนจะไปร่วมด้วยค่ะ”
กู้เป่ยเอื้อมมือลูบหัวของเด็กหญิง หลังจากใช้เวลากับเธอระยะหนึ่งเขาก็พบว่าน้องสาวคนนี้น่ารักและเชื่อฟังอย่างมาก
“ถ้าเป็นแบบนั้นเราไปกับเขาดีไหม เราจะไปเมื่อโม่ฮัวกลับมา”
หนวนหน่วนตอบกลับอย่างเชื่อฟัง
ซูหราน [ปู่ของฉันว่าจะส่งฉันไปที่นั่นด้วยเครื่องบินส่วนตัว แล้วพวกเธอล่ะ ไปด้วยกันไหม?]
กู้เป่ยจ้องมองข้อความพลางกล่าว “ไปด้วยกันเถอะ”
เมื่อครั้งมาพวกเขามากันเพียงสองคน แต่เมื่อกลับกลายเป็นว่าต้องกลับกันสี่คน
หนวนหน่วนยังคงไม่ลืมสัญญาที่เคยให้ไว้กับพี่ชายคนเล็ก เธอเดินทางไปซื้อเสื้อโค้ตและรองเท้าคู่หนึ่งให้กับเขา
แน่นอนว่าเด็กหญิงไม่มีทางลืมพี่รอง แต่เพราะไม่รู้ว่าเขาชอบอะไรจึงเลือกกระดุมติดแขนเสื้อสีดำและสีขาวคู่หนึ่งที่มีความหรูหราและย้อนยุคมาให้เขา
“พี่รองคะ นี่สำหรับพี่รองค่ะ”
เมื่อกู้เป่ยได้รับของขวัญจากน้องสาว ใบหน้าเขาก็เต็มไปด้วยความสุข เขาจับมือหนวนหน่วนแล้วถามว่า
“หนวนหน่วนอยากได้อะไรไหม? เดี๋ยวฉันซื้อให้”
หนวนหน่วนก้มหน้าลงพลางครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะตระหนักได้ว่าตนไม่ต้องการอะไรแล้ว
เมื่อเห็นว่าน้องสาวกำลังครุ่นคิดด้วยความลำบากใจ กู้เป่ยก็พาเธอไปยังห้างสรรพสินค้า หลังจากจับจ่ายซื้อของจนเสร็จและเดินทางออกมา นอกจากหนวนหน่วนแล้ว รอบตัวก็เต็มไปด้วยถุงช็อปปิง
ชายฉกรรจ์สองคนที่รับหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของกู้เป่ย “…”
พวกเขาไม่คาดคิดว่าการช็อปปิงของศาสตราจารย์กู้จะไม่ต่างไปจากผู้หญิง
อันที่จริงหนวนหน่วนแค่ดูปรารถนาบางสิ่งอยู่ในใจ ก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไร ศาสตราจารย์กู้ก็รูดบัตรเพื่อซื้อมันแล้ว
หนวนหน่วนไม่คาดคิดเลยว่าพี่รองของเธอจะสุรุ่ยสุร่ายขนาดนี้ เธอไม่กล้าแม้แต่จะเหลือบมองสินค้าใด ๆ พร้อมรีบลากพี่รองออกมา
แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น… พี่ชายของเธอก็กลับมาพร้อมของติดมือมากมาย
เธอได้รับเสื้อผ้าทั้งชุดและรองเท้าหลายคู่จากพี่ชาย รสนิยมของพี่ชายเป็นที่ประทับใจเลยทีเดียว เด็กหญิงชอบชุดเจ้าหญิงสีชมพูและปิ่นปักผมมาก
ทว่าหนวนหน่วนกลับขมวดคิ้วทันทีที่เห็นพี่ชายของเธอรูดบัตรเครดิต
เธอค่อนข้างไม่พอใจเมื่อเห็นว่าพี่ชายรูดบัตรจับจ่ายซื้อของอย่างสุรุ่ยสุร่าย
ใครกันจะคิดว่าศาสตราจารย์กู้ที่ดูมั่นคงและอ่อนโยนจะฟุ่มเฟือยเช่นนี้
ส่วนของที่เขาซื้อให้ตัวเองนั้น…
หนวนหน่วนเอ่ยถามขณะอยู่ในห้างสรรพสินค้า “พี่รองคะ พี่อยากซื้อเสื้อผ้าให้ตัวเองหน่อยไหม?”
กู้เป่ยตอบกลับ “ฉันไม่อยากซื้ออะไรให้ตัวเองเลย แล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าควรเลือกเสื้อผ้ายังไงให้เหมาะสม ปกติแล้วมีผู้ช่วยเป็นคนเตรียมให้ทั้งหมดน่ะ”
เขาไม่สนใจว่าจะใส่เสื้อผ้าอะไรหรือแต่งตัวอย่างไร เพราะผู้ช่วยจัดไว้ให้อย่างเหมาะสมสม่ำเสมอในทุกวัน เขาเพียงหยิบออกมาแล้วสวมใส่มันเท่านั้น
เมื่อจ้องมองรูปลักษณ์ภายนอกของกู้เป่ยจะเห็นได้ว่าท่าทางของเขาค่อนข้างน่าเชื่อถือ แต่ใครจะคิดว่านักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่คนนี้… ไม่เชี่ยวชาญในการเลือกเสื้อผ้าให้ตนเอง
อย่างไรก็ตาม เขาเป็นคนสะอาดและเจ้าระเบียบอยู่เสมอ ทุกอย่างในที่อยู่อาศัยของเขาต้องถูกวางอย่างเรียบร้อย แต่สิ่งของทั้งหมดจะถูกจัดเตรียมโดยผู้ช่วย
อันที่จริงเมื่อตอนที่เขาเลือกซื้อของให้กับหนวนหน่วน กู้เป่ยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องซื้ออะไรและเลือกอย่างไร แต่เมื่อเห็นน้องสาวจ้องมองสิ่งนั้นหลายครั้ง เขาจึงมั่นใจและรูดบัตรเพื่อซื้อมันทันที
อย่างไรเขาก็ไม่ได้ขาดแคลนเงินในการจับจ่าย พี่ใหญ่ของเขาเป็นผู้สนับสนุนหลักสำหรับเงินทุนในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ และเขาก็สามารถสร้างผลงานได้ทุกครั้ง ไหนจะเงินมากมายจากสิทธิบัตรและรางวัลอีก แน่นอนว่าไม่มีสิ่งใดดีไปกว่านี้แล้ว