ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 120 พี่ชายคนที่สอง กู้เป่ย
บทที่ 120 พี่ชายคนที่สอง กู้เป่ย
เมื่อปลายเดือนสิงหาคม ไป๋โม่ฮัวได้จบการศึกษาจากคณะจิตรกรรมของมหาวิทยาลัย A ทางมหาวิทยาลัยได้เตรียมงานเฉลิมฉลองสำหรับเหล่านักศึกษา นักเรียนดีเด่นหลายคนที่สำเร็จการศึกษาแล้วจะได้รับเชิญให้มาเข้าร่วม ในงานนี้ อาจารย์ก็ได้เชิญเขาด้วย
กิจกรรมวิทยาลัยแบบนี้สามารถพาคนในครอบครัวไปด้วยได้ ไป๋โม่ฮัวเลยพาหนวนหน่วนไปด้วย
หลังจากที่ทุกคนออกไปข้างนอก กู้อันก็กลับมาจากโรงเรียนพอดี เขาโกรธมากจนต้องกระโดดฮึดฮัดไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากโทรหาหนวนหน่วนให้เธอปลอบโยนเขา
[สวัสดีค่ะ หนูเองนะ พี่โม่ฮัวพาหนวนหน่วนมางานฉลองของวิทยาลัย เดี๋ยวก็กลับแล้วค่ะ พี่อย่าโกรธเลยนะ อยากได้อะไรไหมคะ เดี๋ยวหนวนหน่วนซื้อไปฝาก]
หนวนหน่วนเกลี้ยกล่อมพี่ชายของเธอได้เก่งมาก กู้อันจึงไม่โกรธเธอแล้ว น้องสาวเขาช่างเหมือนแมวขนฟูที่ช่างคลอเคลียเสียจริง
หนวนหน่วนยังหวีผมและจัดทรงผมให้เรียบได้เก่งมาก ในตอนที่พี่ชายคนเล็กของเธออยู่บ้าน เธอก็จะเป่าผมให้เป็นครั้งคราว แค่เธออ้อนเขา เขาก็ยอมเธอทุกอย่างแล้ว
กู้อันรับฟังน้องสาวปลอบโยนเขาอย่างนุ่มนวล พอเธอสัญญาว่าจะซื้อของมาให้ เขาก็ยอมลูบผมที่ฟูฟ่องของตนเองเสียเอง จากนั้นเด็กชายก็ไล่แมวสีน้ำนมตัวน้อยสองตัวกลับไปที่รัง เจ้าแมวตัวดำสีก้อนถ่านที่อยู่ข้าง ๆ เหลือบมองกู้อันก่อนจะเดินจากไปโดยดี
หลังจากที่เกลี้ยกล่อมพี่ชายคนเล็กเสร็จ หนวนหน่วนก็พบว่าตนเองเกือบจะถึงมหาวิทยาลัยของลูกพี่ลูกน้องแล้ว
มีผู้คนเข้าออกประตูมหาวิทยาลัย A มากมาย ส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่มและหญิงสาวในชุดสูทและรองเท้าหนัง การสวมชุดสวย ๆ นี้แตกต่างจากวัยรุ่นในชุดนักเรียนมัธยมปลายอย่างสิ้นเชิง
มหาวิทยาลัยเป็นเพียงพื้นที่เล็ก ๆ ในสังคม เมื่อเข้ามาในที่นี่แล้ว นักศึกษาจำเป็นต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ในขณะที่เรียนไปด้วยเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและเพิ่มความสามารถในการทำงาน
นักศึกษามหาวิทยาลัยจึงจำเป็นต้องฝึกการเป็นผู้ใหญ่ให้มากแล้วค่อย ๆ ทิ้งความไร้เดียงสาในชีวิตที่วุ่นวายของมัธยมไปทีละนิด แบบนี้พวกเขาจะได้เติบโตขึ้น
เช่นเดียวกับไป๋โม่ฮัว มีไม่กี่คนที่ยังคงรักษาท่าทางที่เป็นระเบียบของนักศึกษาได้ แม้ว่าจะสำเร็จการศึกษาแล้วก็ตาม
ความสามารถนี้ถือว่าเป็นสมบัติที่ดีของชาติเลยทีเดียว
มหาวิทยาลัย A วันนี้มีชีวิตชีวาอย่างไม่ต้องสงสัย ผู้คนในงานล้วนมีใบหน้าเปื้อนด้วยรอยยิ้ม ไป๋โม่ฮัวเข้ามาแล้วก็พาหนวนหน่วนไปหาอาจารย์ของเขาทันที
“หนวนหน่วนรออยู่ตรงนี้นะ เป็นเด็กเชื่อฟัง เดี๋ยวฉันจะกลับมา”
จริง ๆ แล้วทางเดินควรจะเงียบกว่านี้ แต่เวลานี้มีนักศึกษามากมายที่รอพบกับอาจารย์ พวกเขาจึงเดินเข้าเดินออกกันขวักไขว่ ไม่เหมาะที่เขาจะพาหนวนหน่วนเข้าไปหาอาจารย์ด้วย
อย่างไรก็ตาม ไป๋โม่ฮัวแค่จะเข้าไปทักทาย ถ้าหากมีเรื่องอื่นที่จะต้องคุย เขาก็จะคุยกับอาจารย์หลังจากงานฉลองจบลง
หนวนหน่วนเชื่อฟังคำสั่งได้ดีมาก เขาลูบหัวน้อย ๆ นุ่ม ๆ ของเธอแล้วให้เจ้าตุ๊กตากระเบื้องตัวน้อยนั่งในทางเดินที่เงียบสงบ
ที่นี่เป็นมหาวิทยาลัย เขาจึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีบุคคลที่ประสงค์ร้ายเข้ามาได้
หลังจากไป๋โม่ฮัวจากไป หนวนหน่วนก็นั่งบนม้านั่งตรงทางเดินแล้วเล่นโทรศัพท์มือถือ พอขาสั้น ๆ ห้อยอยู่กลางอากาศ เธอก็กลายเป็นเจ้าตัวเล็กนุ่มนิ่มจนอาจารย์และนักศึกษาที่เดินผ่านไปมาอดใจไม่ได้ที่จะแตะเธอสักสองสามครั้ง มีหลายคนถึงกับถามเธอว่าพ่อแม่ของเธออยู่ที่ไหน เพราะคิดว่าเด็กน้อยคงหลงทาง
ครั้งนี้หนวนหน่วนตอบเบา ๆ พร้อมกับยักคิ้วหลิ่วตา
“พี่ชายให้หนวนหน่วนนั่งรออยู่ตรงนี้ พี่ชายกำลังไปหาอาจารย์อยู่ เดี๋ยวก็กลับมาแล้วค่ะ”
เด็กที่เชื่อฟังนั้นหายากจริง ๆ สาว ๆ หลายคนต่างมองเธอด้วยสายตาของคนเป็นแม่กันทั้งนั้น
แต่เมื่อรู้ว่าหนวนหน่วนกำลังรอใครบางคนอยู่ที่นี่ พวกเขาจึงไม่ถามอะไรมากมาย แล้วรีบเดินจากไปเพราะยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมาก
หนวนหน่วนหยิบอมยิ้มออกมาจากกระเป๋า แกะเปลือกออกแล้วยัดเข้าไปในปาก
รสสตรอวเบอร์รีหวานจังเลยน้า…
คนตัวเล็กหรี่ตาอย่างมีความสุข แก้มข้างหนึ่งพองโตขึ้น ใบหน้าน้อย ๆ ที่น่าทะนุถนอมเหมือนหน้าเด็กทารกดูนุ่มจนใครต่อใครต่างก็อยากจะหยิกมันจริง ๆ
เธอยังคงถือโทรศัพท์มือถือแล้วเล่นเกมจับคู่ต่อไป
สุดทางเดินมีกลุ่มคนกำลังเดินเข้ามา ด้านหน้าเป็นชายหนุ่มร่างผอมเพรียวสวมสูทสีดำดูเรียบร้อย เขาสวมแว่นตาขอบทองที่จมูก ดูเหมือนว่ากำลังฝึกท่องสุนทรพจน์ ขายาว ๆ นั้นกำลังก้าวเดินไปตามทางเดินอย่างใจเย็น ทันใดนั้นทางเดินที่ดูธรรมดา ๆ ก็ถูกเขาเปลี่ยนให้เป็นรันเวย์โดยทันที
และยังมีคนที่ติดตามเขา นักศึกษาของมหาวิทยาลัย A ทุกคนจำพวกเขาได้ คนที่ตามชายหนุ่มคนนั้นต่างเป็นอาจารย์ใหญ่ของวิทยาลัยและอาจารย์ที่มีชื่อเสียง
พอเห็นกลุ่มคนจำนวนมากที่กำลังเดินเข้ามา เหล่านักศึกษาก็อดตื่นเต้นไม่ได้
กลิ่นอายรอบตัวชายหนุ่มคนนั้นทรงพลังมาก ใครเห็นก็ยากที่จะเพิกเฉย ทุกคนต่างหวีดร้องเบา ๆ ด้วยความตื่นเต้น
หนวนหน่วนเงยหน้าขึ้นอย่างสงสัย จากนั้นเธอก็ตกตะลึง
เด็กหญิงตัวน้อยกะพริบตาปริบ ๆ
ทำไมพี่ใหญ่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
แม้จะงงเล็กน้อย แต่เธอก็รู้สึกแปลกใจมากกว่า
เธอกระโดดลงจากเก้าอี้พลางคลี่ยิ้ม รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอตอนนี้สว่างไสวราวกับว่าเป็นดวงอาทิตย์ดวงน้อย ๆ ก็ไม่ปาน
หนวนหน่วนวิ่งไปหาเขาด้วยขาสั้น ๆ ของตน ท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงและคาดไม่ถึงของคนกลุ่มนั้น เด็กหญิงก็กอดขายาว ๆ ของพี่ใหญ่อย่างร่าเริง
“พี่ใหญ่มาที่นี่ได้ยังไงคะ? ทำไมถึงไม่บอกหนวนหน่วนกับพี่โม่ฮัว”
เด็กหญิงตัวน้อยแปลกใจมาก ทำไมเขาไม่มาพร้อมเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอล่ะ
จู่ ๆ ชายหนุ่มที่ถูกกอดก็ชะงัก เขาทำท่าเหมือนแปลกใจครู่หนึ่ง มือที่ถือสุนทรพจน์ถึงกับสั่นไหว
แต่คนที่ดูเหมือนจะประหลาดใจยิ่งกว่าคือคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบตัวเขา
ทันใดนั้นก็มีชายคนหนึ่งเดินแทรกออกมาแล้วดึงหนวนหน่วนตัวน้อยออกไปจากเขา ชายคนนั้นพูดอย่างจริงจังว่า
“หนูจำผิดคนแล้ว”
ชายคนนี้ได้รับคำสั่งให้ปกป้องศาสตราจารย์กู้จึงพอจะรู้สถานการณ์ในครอบครัวของศาสตราจารย์กู้ และเขาก็ยังรู้ด้วยว่าตระกูลกู้ไม่มีลูกสาว
เพราะถูกคุณลุงหน้าเคร่งขรึมดุ หนวนหน่วนที่ไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนจึงถอยกลับด้วยความกลัว
เธอเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มตรงหน้า
“พี่… พี่ใหญ่…”
เสียงที่นุ่มนวลของเธอกำลังบีบคั้นหัวใจของชายตรงหน้าอย่างมาก
เดี๋ยวก่อน… พี่ใหญ่คนนี้ดูเหมือนจะ…ดูแปลกไป?
หนวนหน่วนชักจะสับสน
ชายหนุ่มที่เธอเรียกว่าพี่ใหญ่ยื่นกระดาษไปให้ชายผู้เคร่งขรึมข้าง ๆ จากนั้นก็โน้มตัวลงเล็กน้อยแล้วลูบหัวน้อย ๆ ของเธอเบา ๆ
“หนูน้อย ฉันไม่ใช่พี่ใหญ่ของเธอหรอก”
เสียงของเขาฟังดูอ่อนโยนและฟังชัดเจน แตกต่างจากเสียงอันเย็นชาของกู้หนานอย่างสิ้นเชิง
ดวงตากลมโตของหนวนหน่วนจ้องใบหน้าของชายที่หน้าคล้ายพี่ใหญ่ทุกประการอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็รู้สึกตัว
คนที่หน้าเหมือนพี่ใหญ่ทุกกระเบียดนิ้วแต่ดูแตกต่างกัน = น้องชายฝาแฝดของพี่ใหญ่ = พี่รอง!
ขณะที่หัวเล็ก ๆ ของหนวนหน่วนกำลังครุ่นคิด กู้เป่ยก็จ้องมองเด็กน้อยผู้บอบบางแล้วขมวดคิ้ว เด็กคนนี้ทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยประหลาด…
เขาคิดหลายสิ่งหลายอย่างอยู่ในหัว รู้ตัวอีกทีเด็กหญิงตัวน้อยที่อยู่ตรงหน้าก็จับมือของเขาด้วยสีหน้าประหม่า ดวงตากระจ่างของเธอเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น เธอเอ่ยเสียงเล็ก ๆ ออกมาอย่างเขินอาย
“พี่รอง! พี่รองใช่ไหมคะ”
เสียงของเด็กหญิงตัวเล็กนุ่มนวล แต่ก็เจือความกังวลใจออกมาเล็กน้อย มือขาวบางคู่นั้นจับนิ้วของเขาแน่น เขาจึงรู้สึกถึงเหงื่อที่ซึมออกมาจากฝ่ามือเล็ก ๆ นั้นได้ชัดเจน