ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗] - บทที่ 469: การทดสอบของขั้นตุลาการนรก
บทที่ 469: การทดสอบของขั้นตุลาการนรก
ฉินเย่พยายามที่จะรักษาศักดิ์ศรีของขั้นตุลาการนรกขณะที่ควบคุมไม่ให้ความกังวลฉายชัดออกมาทางใบหน้า เขาก้าวเดินทีละก้าว ๆ ตามผู้ติดตามของเหล่านักวิจัยในชุดปฏิบัติการไปขณะที่พวกเขาเดินเข้ามาในห้อง
นี่คือห้องประชุมของรัฐบาล แต่มันกลับดูไม่เหมือนอย่างนั้นอีกต่อไป เพราะเครื่องมือมากมายและหน้าจอขนาดใหญ่ได้ถูกแขวนไว้ที่ทั้งสองฝั่งของผนัง แต่ส่วนที่โดดเด่นที่สุดของห้องยังคงเป็นเครื่องทรงกระบอกที่ตั้งอยู่ ณ จุดกึ่งกลาง กล้องสังเกตการณ์เองก็ถูกติดไว้ตามส่วนต่าง ๆ ของห้อง มันมีแม้กระทั่งหุ่นยนต์ทรงกลมที่คอยช่วยเหลือการดำเนินการของเครื่องมือเหล่านี้และอุปกรณ์ทั้งหมดอีกด้วย
เห้อ… หน่วยสอบสวนพิเศษได้รับอำนาจสูงสุดในการเข้าถึงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดอย่างแท้จริง ในวินาทีนั้น ฉินเย่รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากที่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็นคนจีน เกียรติของการได้เป็นส่วนหนึ่งของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกลุ่ม P5 นั้นเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การได้รับมาอย่างแท้จริง
แต่ในขณะที่คลื่นความภูมิใจกำลังถาโถมเข้ามานั้น ความรู้สึกราวกับได้ทานอุจจาระเข้าไปก็ผุดขึ้นมา…
ให้ตายเถอะ… นี่ของพวกนี้ทั้งหมดจะถูกใช้กับเขาอย่างนั้นหรือ?! นี่คนพวกนี้รู้หรือเปล่าว่าเขามีความลับอะไรที่กักเก็บอยู่ภายในร่างนี้?!
แต่เขามีทางเลือกอะไรอีกนอกจากจะต้องกัดฟันและผ่านมันไปให้ได้? เดี๋ยวนะ… ไม่ใช่ว่าขั้นยมทูตขาวดำก็ถูกนับว่าเป็นผู้ฝึกตนกระดับกลางแล้วหรอกเหรอ? หากวัดจากการจัดระดับของยมทูต? ทำไมมันถึงไม่มีอะไรแบบนี้ในตอนที่เขาบรรลุสู่ขั้นยมทูตขาวดำกัน?
ชายในชุดปฏิบัติการสีขาวสี่คนเดินเข้ามาในห้อง รวมถึงโม่ฉางห่าว ผู้ที่แย้มยิ้มบางให้กับฉินเย่ “ไม่ต้องกังวลนะครับ ทุกอย่างที่เราเห็นที่นี่จะถูกเก็บเป็นความลับ ขั้นตุลาการนรกนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน การทดสอบนี้ถูกทำขึ้นเพื่อจุดประสงค์ในการจดบันทึกของเราเท่านั้น”
จริงน่ะหรือ?
ฉินเย่เหลือบมองชายในชุดปฏิบัติการอย่างสงสัย – หากมันเป็นแบบนั้นจริง ๆ คุณก็ช่วยอธิบายทีได้ไหมว่าทำไมใบหน้าของสมาชิก SRC เหล่านี้ถึงดูเบิกบานและเปล่งประกายขนาดนี้?!
นักวิจัย A : ในวันพรุ่งนี้พวกเราจะต้องทำการทดสอบร่างกายของขั้นตุลาการนรกที่อายุแค่ 19 ปีอย่างเต็มรูปแบบ มีใครจะอาสาไหม?
นักวิจัย B : ผม! ผมอยากจะผ่าร่างเด็กคนนี้มานานแล้ว นี่เป็นโอกาสที่ดีมากๆ!
นักวิจัย C : คุณเองก็สามารถไว้ใจผมได้เหมือนกัน! ผมอยากเห็นจริง ๆ ว่ามันมีอะไรพิเศษเกี่ยวกับร่างกายของเขา นิ้วมือของผมนี่รู้สึกคันไปหมดแล้ว!
น่าหงุดหงิดชะมัด… ฉินเย่สูดหายใจเข้าช้า ๆ ก่อนจะแย้มยิ้มออกมา “แล้วผมต้องทำอะไรบ้าง?”
หนึ่งในนักวิจัยยิ้ม “ถอดเสื้อผ้าออกและก้าวเข้าไปยืนในเครื่อง”
เงียบ
ไม่กี่วินาทีต่อมา ฉินเย่ก็กระแอมออกมาเบา ๆ และถามต่อ “รวมถึงชั้นใน?”
“ทั้งหมด!” นักวิจัยทั้งสี่ที่อยู่ภายในห้องตอบกลับมาพร้อมกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่สามารถปกปิดความตื่นเต้นภายในใจของตัวเองไว้ได้อีกต่อไป แต่เดี๋ยวก่อนนะ… ทำไมพวกคุณถึงต้องตื่นเต้นด้วย?!
“คุณสามารถถอดเสื้อผ้าภายในเครื่องมือได้เลยครับ เสื้อผ้าพวกนั้นจะถูกนำออกมาโดยอัตโนมัติในภายหลัง” คำพูดของโม่ฉางห่าวทำให้ฉินเย่รู้สึกมีความหวังมากขึ้นเล็กน้อย
ด้วยความไม่เต็มใจ ฉินเย่ได้ยอมรับการประนีประนอมและเดินเข้าไปในเครื่องมือที่อยู่กลางห้อง
มันเป็นอุปกรณ์ทรงกระบอก คล้ายกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บตัวอย่างร่างของเอเลี่ยนในภาพยนตร์ไซไฟในสมัยนี้ มันมีขนาดใหญ่และกว้างมาก เส้นผ่านศูนย์กลางสองเมตรและสูงเสียดกำแพง ด้านในของอุปกรณ์ดังกล่าวมีสีดำสนิท ทันทีที่เขาเดินเข้าไป เสียงของระบบก็ดังขึ้นจากด้านในทันที “ตรวจพบผู้ทดสอบหมายเลข 9527 กรุณาถอดเสื้อผ้าทั้งหมดที่สวมอยู่โดยเร็วที่สุด กาทดสอบจะเริ่มขึ้นภายในห้านาที”
โอเค โอเค… ผมจะถอดเสื้อผ้าออก… ให้ตายเถอะ พวกคุณรู้บ้างหรือเปล่าว่าแม้แต่ภรรยาในอนาคตของผมก็ยังไม่เคยเห็นเรือนร่างของผมทั้งหมด แต่พวกคุณกลับบังคับให้ผมเปิดเผยทุกอย่างกับคุณเนี่ยนะ? ด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก ฉินเย่ค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าออก แขวนมันไว้ที่ไม้แขวนเสื้อที่ทำจากโลหะที่อยู่ด้านหลัง
ฉินเย่สูงประมาณ 1.8 เมตร เขาอาจจะดูเหมือนเด็กหนุ่มที่แสนน่ารักเมื่อสวมเสื้อผ้า แต่กล้ามเนื้อบนร่างกายของเขากลับกระชับอย่างไม่สามารถปฏิเสธได้ แต่เขาก็ให้ความรู้สึกของความเป็นชายแท้ดั้งเดิมออกมาเมื่อไม่ได้สวมเสื้อผ้าอยู่บนร่างกาย
ติ๊ง… ทันใดนั้นเอง เสียงของระบบก็ดังขึ้นอีกครั้ง “การทดสอบจะเริ่มขึ้นในอีกหนึ่งนาที ผู้เข้ารับการทดสอบกรุณาเตรียมตัวให้พร้อม”
ไม้แขวนเสื้อด้านหลังค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไปอย่างเงียบๆ หน้ากากออกซิเจนและแว่นตากันน้ำคู่หนึ่งตกลงมาเหนือศีรษะ และฉินเย่ก็รีบสวมมันเอาไว้ทันที ไม่กี่วินาทีต่อมา ท่อที่มีขั้วต่อไฟฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนก็หล่นลงมาและติดลงบนเป็นส่วนต่าง ๆ ของแผงอกของเขา
เราเริ่มรู้สึกเหมือนว่าตัวเองจะต้องใช้ชีวิตที่เหลือทั้งหมดที่นี่ซะแล้วสิ… ช่างเถอะ อย่างน้อยก็ไม่มีใครเห็น…
“ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง… เริ่มต้นการทดสอบ” ทันทีที่การนับถอยหลังจบลง ของเหลวใสจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากใต้เท้าของเขาและเริ่มเติมเต็มอุปกรณ์ทั้งหมด
เป็นเทคโนโลยีที่น่าอัศจรรย์ชะมัด… เส้นผมของเด็กหนุ่มพลิ้วไหวอยู่ในน้ำขณะที่เขาไล่นิ้วไปตามผนังด้านในของอุปกรณ์ด้วยความสนใจเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกัน สิ่งที่ติดอยู่บนร่างกายของเขาก็เจาะเข้าไปในผิวหนังและดูดเลือดส่วนหนึ่งออกไป มันรู้สึกไม่ต่างอะไรกับการโดนยุงกัด ในขณะเดียวกัน กระแสไฟฟ้าก็ไหลผ่านผิวหนังของเขาและเริ่มเก็บข้อมูลเกี่ยวกับร่างกายของฉินเย่
จากนั้น ขณะที่ฉินเย่เริ่มจะจมดิ่งไปกับห้วงความคิดของตัวเอง ผนังทั้งหมดของอุปกรณ์ก็ถูกเปิดออก!
เด็กหนุ่มแน่นิ่งไปด้วยความตกตะลึง
หากพูดให้ถูกก็คือ ผนังที่ถูกเปิดออกเป็นเพียงผนังชั้นนอกของอุปกรณ์เท่านั้น และมันยังมีผนังที่เป็นแก้วซึ่งแยกฉินเย่ออกจากส่วนอื่น ๆ ของห้องเหลืออยู่ แต่แน่นอนว่ามันคือฝันร้ายที่เลวร้ายที่สุดของเขา เพราะผนังชั้นนอกได้ถูกถอดออกไปจนหมด และทำให้คนทั้งห้องสามารถมองเห็นร่างของเขาได้อย่างสมบูรณ์!
นักวิจัยทั้งสี่รีบวิ่งมาด้านหน้าและเริ่มจดบันทึกในสมุดของตัวเองทันที สองในสี่ของคนทั้งหมดเดินมาอยู่ด้านหลังของเขาขณะที่ทั้งคู่เริ่มพูดคุยบางสิ่งด้วยความสนใจเป็นอย่างมาก
บัดซบ…
เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน?!
“สวัสดีครับ” ทันใดนั้น หนึ่งในนักวิจัยก็พูดขึ้นกับชุดหูหังที่สวมอยู่ และเสียงของเขาก็ดังเข้ามาด้านใน มันน่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมากที่เขาสามารถสื่อสารผ่านของเหลวพวกนี้ได้อย่างชัดเจน
“สิ่งนี้เรียกว่า A-RE Strengthening Liquid มันจะสามารถชำระล้างบาดแผลทุกอย่างบนร่างกายของคุณ แม้ว่าจะเล็กเพียงใดก็ตาม แต่สิ่งที่เราตกใจมากที่สุดก็คือคุณไม่มีอะไรแบบนั้นบนร่างเลยแม้แต่นิดเดียว! นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?!”
ไปให้พ้น!
ตาแก่นี่! ใครอนุญาตให้คุณมาสังเกตร่างกายของผมอย่างใกล้ชิดแบบนี้?! ไปไกล ๆ! ไปให้พ้นเลย! แม้แต่หลินฮั่นหรือหวังเฉิงห่าวก็ไม่เคยเห็นผมอย่างละเอียดแบบนี้มาก่อน เพราะฉะนั้นคุณช่วยขยับใบหน้าอันเหี่ยวย่นเหมือนเปลือกส้มของคุณออกไปไกล ๆ จากร่างกายผมที่ได้ไหม?!
ฉินเย่จ้องมองนักวิจัยสูงวัยด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก น่าเสียดายที่สีหน้าที่แสดงออกไปของเขากลับถูกตีความผิดไปว่าเขากำลังตกใจ “ไม่ต้องตกใจครับ คุณไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่พบว่ามันน่าเหลือเชื่อ พวกเราเองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน แต่มันก็เป็นหนึ่งในนโยบายของหน่วยสอบสวนพิเศษที่จะไม่ถามลึกลงไปถึงทักษะและความสามารถของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่สามารถก้าวขึ้นสู่การบ่มเพาะระดับสูง ดังนั้นตราบใดที่คุณเป็นมนุษย์ มันจะไม่มีใครมีข้อสงสัยในตัวคุณเด็ดขาด”
ติ้ง… ทันใดนั้น อุปกรณ์ก็ส่งเสียงที่ดังชัดเจนออกมา และแถวข้อความสีฟ้าก็ปรากฏขึ้นบนผิวของกำแพงกระจก
“ผลการทดสอบ: S9527 มนุษย์”
“ส่วนสูง: 181ซม. น้ำหนัก: 69 กก.”
“ระยะเวลาตอบสนอง: มนุษย์ธรรมดา – 0.2-0.3 วินาที S9527 – 0.0001 วินาที
สรุป: ผู้เชี่ยวชาญขั้นตุลาการนรกระดับต้น ยอดเยี่ยม”
“ค่าพลังปราณ: 4,200,000.
“การระเบิดพลัง: มนุษย์ธรรมดา – 1/3 ของพละกำลังทั้งหมด S9527 – ครึ่งหนึ่งของพละกำลังทั้งหมด”
“การทลายขีดจำกัด: 6,000,000 สรุป: ยอดเยี่ยม”
“ทักษะ/ความสามารถ: ไม่มีบันทึกอยู่ในฐานข้อมูล
ความเร็วสูงสุด: วิ่ง – 200 เมตรต่อวินาที บิน – 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สรุป: ผู้เชี่ยวชาญขั้นตุลาการนรกระดับต้น ยอดเยี่ยม”
เมื่อข้อความทั้งหมดปรากฏขึ้นบนกำแพงแก้ว ทั่วทั้งห้องก็ถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบทันที นักวิจัยทั้งหมดขยับแว่นตาของตัวเองพร้อมกันขณะที่อ่านผลการทดสอบ ก่อนจะหันไปมองฉินเย่ด้วยสายตาราวกับพวกเขาได้เห็นสัตว์ประหลาด จากนั้น คนทั้งหมดก็รีบหลุบตาต่ำเพื่อปกปิดความตื่นเต้นภายในใจของตนเองอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ ฉินเย่แทบจะไม่ได้สนใจกับสายตาของคนเหล่านี้เลยสักนิด เพราะอย่างไรแล้ว เขาก็สามารถวางใจได้เมื่อเขาเห็นคำว่า “มนุษย์” ปรากฏขึ้นในแถวแรกของผลการทดสอบ
และมันก็เป็นตอนนั้นเองที่เขารู้สึกมั่นใจพอที่จะอ่านข้อมูลส่วนตัวส่วนที่เหลือต่อ การได้สังเกตร่างกายตัวเองผ่านข้อมูลทั้งหมดช่างเป็นเรื่องที่น่าทึ่งเป็นอย่างมาก มันเป็นโอกาสที่ดีในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับความสามารถใหม่ของเขาเอง เพราะอย่างไรแล้ว การจัดลำดับของยมโลกก็คลุมเครือเกินกว่าที่จะสามารถมองเห็นเป็นรูปธรรม
ระยะเวลาตอบสนอง 0.0001 วินาทีมันน่ากลัวสุด ๆ ไปเลย หากมีอะไรเกิดขึ้น ขั้นตุลาการนรกก็จะสามารถใช้ท่า ‘วิชวลเอฟเฟคท์’ ที่มีให้เห็นในภาพยนตร์เรื่องเดอะเมทริกซ์ กระสุนปืนทั้งหมดจะไม่มีผลกับเขาอีกต่อไป หรือต่อให้เขาจะไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา มันก็จะไม่สามารถทะลุการป้องกันของศักดิ์ศรีแห่งอำนาจ ฉินเย่กำหมัดแน่นและลอยตัวอยู่ภายในกระบอกของเหลวอย่างไร้น้ำหนัก รับรู้ถึงพลังงานที่ไหลเวียนผ่านเส้นเลือด – ค่าพลังปราณที่อ่านได้ก็น่าจะสะท้อนถึงค่าพลังหยินภายในร่างกายของเขาเช่นกัน เพราะไม่ว่าอย่างไร ขั้นตุลการนรกก็มักจะมีค่าพลังอยู่ราว ๆ 4 ล้านอยู่แล้ว
การระเบิดพลังแสดงถึงปริมาณพลังที่เขาสามารถปลดปล่อยออกไปได้ในทันที เขาคิดว่าคำว่ายอดเยี่ยมนั่นน่าจะเป็นระดับคะแนนที่สูงที่สุดภายในระบบ ส่วนการทลายขีดจำกัด… เขาคิดว่านั่นน่าจะหมายถึงพลังที่เขาสามารถรวบรวมได้ภายใต้สถานการณ์คับขัน? เขาเคยได้ยินมาว่ามนุษย์ทุกคนจะสามารถรวบรวมพลังที่เกิดขีดจำกัดของมนุษย์ได้เมื่อถูกต้อนให้จนมุม…
ความเร็ว…เขาจำได้ว่าความเร็วเสียงนั้นอยู่ที่ประมาณ 340 เมตรต่อวินาที หากพูดอีกความหมายหนึ่งก็คือตอนนี้เขามีความเร็วเป็น 2 ใน 3 ของความเร็วเสียง นั่นทำให้เขาดูไม่ต่างอะไรกับซุปเปอร์แมนเลยสักนิด มนุษย์ธรรมดาจะไม่สามารถจับตามองเขาได้ทันอีกต่อไป ส่วนเรื่องความในการบิน... นั่นก็เหมือนกับรถไฟความเร็วสูงเลยไม่ใช่เหรอ? เขาแทบจะไม่ต้องนั่งเครื่องบินอีกต่อไปด้วยซ้ำหากเขาไม่ต้องการ… ด้วยความเร็วของรถไฟความเร็วสูง เขามีความเร็วเป็น 2 ใน 5 ของโบอิง 747…
และหากเขาคาดการณ์จะผลทดสอบเหล่านี้ ไม่ใช่ว่ามันหมายความว่าขั้นฝู่จวินก็คือผู้ที่สามารถก้าวข้ามความเร็วเสียงและเครื่องบินทั้งหมดที่มนุษย์รู้จักไปแล้วหรอกหรือ?! นั่นมันน่ากลัวชะมัด ขั้นตุลาการนรกยังสามารถพิจารณาได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งมีชีวิต แต่ขั้นฝู่จวินนั้นกลับเป็นตัวตนที่อยู่นอกโลกไปอย่างสิ้นเชิง เอาเถอะ…หากไร้เงาทำภารกิจสำเร็จ เขาก็จำเป็นจะต้องระมัดระวังอย่างถึงที่สุดในการเจรจาที่กำลังจะมาถึง เพราะอย่างไรแล้ว…เขาก็อาจจะมองไม่เห็นด้วยซ้ำหากอีกฝ่ายปล่อยการโจมตีที่อยู่เหนือความเร็วเสียงออกมา…
ทันใดนั้นเอง ของเหลวที่อยู่รอบ ๆ ร่างของเขาก็เริ่มถูกระบายออกไปพร้อมกับเสียงฟู่เบา ๆ ฉินเย่กลับมาได้สติและมองไปรอบ ๆ ห้องอีกครั้ง ก่อนจะพบว่าทุกคนในห้องกำลังมองมาที่เขาด้วยสีหน้าแปลกประหลาด เด็กหนุ่มเลิ่กคิ้วขึ้น “เป็นอะไรกันครับ? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
หรือว่าพวกคุณกำลังตกตะลึงกับอาวุธลับของผม?
“ยอดเยี่ยมสุด ๆ ต่างหากครับ!!” โม่ฉางห่าวส่ายศีรษะไปมาและเอ่ย “ข้อมูลแบบคุณจะสามารถเห็นได้ก็ต่อเมื่อหลังจากที่คน ๆ นั้นบรรลุขั้นตุลาการนรกไปแล้วสามปี ตัวเลขพวกนี้จะปรากฏขึ้นก็ต่อเมื่อคุณสามารถใช้ทักษะใหม่ทั้งหมดได้อย่างเชี่ยวชาญ เพราะอย่างไรแล้ว การบรรลุระดับก็จะมาพร้อมกับพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และมันก็ต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งในการทำความคุ้นชินกับมัน หากพูดกันตามความจริง พวกเราได้พาผู้เชี่ยวชาญมาเพื่อช่วยให้คุณทำความเคยชินกับความสามารถของตัวเองด้วย และตอนนี้เขาก็กำลังรออยู่ด้วยนอก แต่…ด้วยค่าตัวเลขเหล่านี้ ผมคิดว่าคุณคงไม่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือตรงนั้นเสียแล้ว…”
นั่นก็เป็นเพราะว่าผมคนนี้ได้ก้าวเข้าสู้เส้นทางแห่งอำนาจที่ไม่ธรรมดาอย่างไรเล่า เจ้าพวกขยะ!
ความรู้สึกของการที่เส้นผมเปียก ๆ เกาะอยู่ที่ผิวนั้นค่อนข้างไม่น่าพอใจนัก ฉินเย่เช็ดหน้าของตนเองและมองไปยังนักวิจัยคนอื่น ๆ มันเป็นวินาทีนั้นเองที่เขาพบว่านักวิจัยสูงวัยกำลังจ้องมองมาที่ตนด้วยแววตาเป็นประกาย “ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าอัศจรรย์ใจจริง ๆ… ต่อไปเราจะมาเริ่มทำการตรวจสอบการทำงานภายในร่างกายของคุณกัน มันจะให้ผลที่แม่นยำมากกว่าเดิมมาก...”
พรึ่บ!
ทันทีที่เขาพูด ท่อหลายเส้นก็พุ่งขึ้นมาจากแท่นยืนด้านล่าง และหนึ่งในนั้น…ก็เริ่มติดเข้าที่ส่วนที่ไม่สามารถเอ่ยออกมาได้ของฉินเย่!
เห้ย?!
นี่คุณจะทำบ้าอะไร?!
ฉินเย่เหงื่อแตก นี่ดอกเดซี่น้อยที่เขาได้รักษามาตลอดหลายพันปีกำลังจะเบ่งบานแล้วอย่างนั้นเหรอ? แต่นี่มันไม่ใช่คนด้วยซ้ำ! มันไม่เกินไปหน่อยหรือ?!
“เอาล่ะ” โม่ฉางห่าวหัวเราะเบาๆ “หากต้องการจะทำการตรวจสอบภาพใน พวกคุณจำเป็นจะต้องได้รับความยินยอมจะผู้ทดสอบเสียก่อน และผมก็สามารถสัมผัสได้ว่าคุณฉินนั้นไม่เต็มใจที่จะทำมัน ดังนั้นเรารีบสรุปและทำการล้างตัวดีกว่า ตัวแทนของเว็บไซต์ฤกษ์มงคลได้มาถึงแล้วและกำลังรอคุณฉินอยู่ที่ห้องประชุม อ้อ ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ รองผู้อำนวยการจากสำนักฝึกตนแห่งแรกได้โทรศัพท์มาเพื่อเอ่ยคำขอโทษ เขาไม่สามารถมาเข้าร่วมพิธีเลื่อนตำแหน่งของคุณได้เนื่องจากมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น”
ผนังชั้นนอกของอุปกรณ์ถูกปิดกลับดังเดิมอีกครั้ง และฉินเย่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หากพูดกันตามตรง เขายังไม่รู้เลยว่าตัวเองจะหลอกโจวเซียนหลงได้อย่างไร
น้ำอุ่น ๆ ไหลขึ้นมาจากด้านล่าง และฉินเย่ก็หลับตาลงอีกครั้ง
กลับมาด้านนอก โม่ฉางห่าวขมวดคิ้ว “มันไม่มีอะไรผิดปกติ”
“ผมไม่เข้าใจพวกคุณเลยจริง ๆ มันเป็นเรื่องดีที่พวกเรามีขั้นตุลาการนรกอีกคนหนึ่งในแผ่นดินจีน ดังนั้นผมถึงไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องทำทุกอย่างให้วุ่นวายด้วย ผมจำได้ว่ามันไม่มีอะไรแบบนี้ในตอนที่ผมเลื่อนขั้นเมื่อหลายปีก่อน ทั้งหมดที่ผมต้องทำมีเพียงเข้าร่วมพิธีเลื่อนตำแหน่งที่ถูกจัดขึ้นในอีกหนึ่งเดือนให้หลัง เพราะฉะนั้น บอกมา นี่พวกคุณพยายามจะทำอะไรกันแน่?”
หัวหน้านักวิจัยปรับระดับแว่นตาของตน สีหน้าหลงระเริงของเขาได้จางหายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขากดปุ่มเพื่อตั้งเวลาการชำระล้างให้เป็น 20 นาที ก่อนจะพยักหน้าให้กับโม่ฉางห่าวและเดินออกไปจากห้อง
โม่ฉางห่าวขมวดคิ้วยุ่ง แต่ทันทีที่เขาเดินออกมาจากห้อง เขาก็ต้องหยุดชะงักไปด้วยความตกใจ
ตอนนี้มีชายอีกคนหนึ่งที่ยืนเอนหลังพิงผนังบริเวณทางเดินด้านนอก เขาสวมชุดสูททรงจีน และกำลังจุดบุหรี่ในมือของตน
“รองผู้อำนวยการโจว?!” โม่ฉางห่าวตกตะลึง “ไม่ใช่เมื่อครู่นี้คุณเพิ่งโทรศัพท์มาเพื่อขอโทษหรอกเหรอครับ? ไม่ใช่ว่ามีเรื่องด่วนเกิดขึ้นหรอกเหรอ?”