ฉันก็แค่อยากตาย แต่ไหงต้องมาเกิดใหม่ด้วยล่ะ! - ตอนที่ 41 องค์กรล่ามารและแผนการของยูริ
- Home
- ฉันก็แค่อยากตาย แต่ไหงต้องมาเกิดใหม่ด้วยล่ะ!
- ตอนที่ 41 องค์กรล่ามารและแผนการของยูริ
ต้องขออธิบายก่อนว่าทำไมเรื่องราวมันถึงมาในลักษณะนี้ได้
เรื่องมันเริ่มมาจากตอนที่เธอตัดสินใจว่าจะไปโบสถ์เพื่อไปหาข้อมูลเกี่ยวกับเทพธิดาเพิ่ม ตอนนั้นจู่ๆ นักบวชคนหนึ่งที่เธอลืมชื่อไปแล้วได้เข้ามาพูดคุยกับเธอและเผยแพร่ ‘สาร’ จากเทพธิดาให้
แม้จะไม่รู้ว่าอโลวีนัสมีแผนการอะไรและอยากจะคุยกับเธอไปทำไมก็เถอะ แต่สารที่เธอได้รับในตอนนั้นมีข้อความสำคัญอยู่สองอย่าง
อย่างแรกคือคำว่าเบอร์มิวด้าที่เธอยังไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร แต่เธอจำได้ว่ามันเป็นคำที่เธอได้ยินผ่านทางความฝันในตอนที่เผชิญกับจันทร์หายนะทรีอาร์เป็นครั้งแรก
คำที่สองคือคำว่าองค์กรล่ามาร องค์กรลับอันตรายที่มีข่าวเล่าลือหลายอย่างเกี่ยวกับองค์กรนี้ ทั้งข่าวลือที่ว่าจริงๆ เป็นแค่องค์กรกระจอกๆ ข่าวลือที่ว่าเป็นองค์กรที่มีเป้าหมายล้างบางเผ่าพันธุ์ที่ไม่ใช่มนุษย์ทั้งหมด องค์กรที่มีข่าวลือว่านับถือและเคารพบูชาเทพมารเบนิล
ถ้าให้เปรียบเทียบองค์กรล่ามารกับองค์กรลับในโลกเก่า ก็คงต้องนำไปเทียบกับองค์กรอิลลูมินาติ
องค์กรที่มีข่าวเล่าลือมากมาย องค์กรที่ว่ากันว่าเป็นผู้ชักใยเหตุการณ์สำคัญๆ ต่างๆ บนโลก แต่แน่นอน สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าองค์กรนั้นมีเป้าหมายอะไร หรือมีอยู่จริงหรือไม่ บางทีอาจจะเป็นเพียงทฤษฎีสมคบคิดของพวกคนบางกลุ่มที่เสพยาเกินขนาดเท่านั้น
แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ว่าองค์กรอิลลูมินาติมีอยู่จริงหรือไม่
แต่ดูเหมือนว่าโลกนี้ องค์กรล่ามารจะมีอยู่จริง และสไตล์การตั้งชื่อองค์กรของพวกมันแม่งห่วยบรมเลยล่ะ
ยูริรู้ว่าสารจากเทพธิดานั้นสำคัญ แม้จะวางตัวเป็นศัตรู แต่เธอก็ไม่อาจเมินเฉยสารที่เทพเจ้าจงใจส่งมาหาเธอได้
อารมณ์แบบ ไม่ชอบหน้านายกรัฐมนตรีของประเทศ แต่ก็ไม่อาจเมินเฉยนโยบายและข้อกฎหมายใหม่ๆ ที่เกิดจากนายกคนนั้นได้ ต่อให้จะเป็นกฎหมายสุดเฮงซวยก็ตาม
แถมจากสถานการณ์ เธอคิดว่าเธอคงไม่ต่างอะไรจากนักการเมืองในระดับสูงที่ไม่อาจเมินเฉยกฎหมายใหม่ได้อย่างแท้จริง
เพราะว่าไม่อาจเพิกเฉยต่อสารของเทพธิดาได้ เธอจึงต้องพยายามตีความสารของยัยนั่น
เบอร์มิวด้าคือสารที่ยังตีความไม่ได้ เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลยสักอย่าง เลยต้องหันไปตีความอีกสารหนึ่งแทน
องค์กรล่ามาร
ทำไมเทพธิดาถึงเอ่ยถึงองค์กรนั้นกันล่ะ?
เอางี้ดีกว่า มีตำนานมากมายที่เล่าว่าอโลวีนัสและเทพมารเบนิลเคยต่อสู้กันมาก่อนและจบลงด้วยชัยชนะของเทพธิดา และองค์กรนั้นก็มีข่าวเล่าลือว่าบูชาเทพมารเบนิล
บางทีเทพธิดาอาจจะมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้ไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองได้ จึงต้องยืมมือของเธอในการจัดการองค์กรลับนั่นซะ
แม้ว่าเธอจะเป็นศัตรูของอีกฝ่าย แต่อโลวีนัสก็ยังคงวางแผนใช้งานศัตรูของตัวเองราวกับไม่สนใจอะไรเลย
แม้ว่ายูริจะรู้อย่างงั้น แต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้อยู่ดี แม้ว่าอยากจะขัดขืนและไม่ทำตามก็ตาม เพราะอะไรน่ะหรือ?
เธอเองก็ไม่อยากให้เทพมารเบนิลคืนชีพกลับมายังไงล่ะ
จากที่เธอหาข้อมูลมาหลังจากมาโลกนี้ เทพเจ้านั้นไม่มีวันตาย ไม่มีวันที่จะร่วงหล่นหรือดับสูญไปโดยสมบูรณ์ ต่อให้อยู่ในสภาพย่ำแย่ขนาดไหน พวกนั้นก็จะไม่มีวันตายเด็ดขาด ราวกับอยู่เหนือแนวคิดเรื่องความตายไปแล้ว
และเทพเจ้าก็มีโอกาสกลับมาได้เสมอๆ แม้จะไม่รู้ว่าจะกลับมาได้ยังไง แต่ยูริก็สังหรณ์ว่าการกระทำขององค์กรล่ามารอาจจะมีส่วนทำให้เทพมารตนนั้นคืนชีพ
และหากเทพมารเบนิลคืนชีพ หายนะจะมาเยือนโลกใบนี้ และเธอก็ยังไม่อยากตายตอนนี้ด้วย
ดังนั้น หากการมีอยู่ขององค์กรล่ามารถือว่าเป็นภัยคุกคามของโลกใบนี้ เธอก็จะทำลายพวกมันทั้งหมดก่อนที่พวกมันจะสร้างความโกลาหลไปมากกว่านี้
และจากความรู้ของเธอ องค์กรล่ามารมักจะตั้งฐานที่มั่นแถวๆ ท่อระบายน้ำ แม้จะไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน แต่เธอก็ต้องลองสืบดู
นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เธอสั่งให้ลูเมี่ยนและลอยด์คอยสอดส่องจับตาดูคนน่าสงสัยเข้าไว้
เพราะเธอคิดว่า คนน่าสงสัยที่สองคนนั้นอาจจะเจอหรือไม่เจอก็ได้นั้น คือสมาชิกขององค์กรล่ามารยังไงล่ะ
และกลุ่มคนน่าสงสัยที่ลูเมี่ยนไปเจอนั้น มีโอกาสสูงมากที่จะเป็นคนขององค์กรล่ามารนั่น
นอกจากนี้ คำทำนายของโนอายังทำให้เธอต้องเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ
‘อนาคตคุณอาจจะได้เผชิญหน้ากับสิ่งผิดปกติ’
แม้ว่าหลักฐานจะน้อยมากๆ แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าการที่สารจากเทพธิดาเตือนเธอถึงองค์กรล่ามาร กับคำทำนายของโนอาที่บอกเธอเกี่ยวกับสิ่งผิดปกตินั้นมีความเกี่ยวข้องกัน
องค์กรล่ามารกับสิ่งผิดปกติมีความเกี่ยวข้องกันยังไง? เธอเองก็ไม่รู้ แต่ลางสังหรณ์มันบอกเธอว่าทั้งสองสิ่งนี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน
และเธอเองก็จำได้ถึงข่าวคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในหนังสือพิมพ์นั่น มีคนมากมายที่ถูกฆ่า และมีคนสันนิษฐานว่าฆาตกรคือสิ่งผิดปกติ
การฆาตกรรมต่อเนื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากสิ่งผิดปกติ สิ่งผิดปกติคือตัวตนแห่งความชั่วร้ายที่เกิดมาจากเทพมารเบนิล เทพมารเบนิล ‘อาจจะ’ ถูกเคารพบูชาโดยองค์กรล่ามาร
โนอาเตือนเธอถึงสิ่งผิดปกติในเวลาไม่นานนักหลังจากที่เทพธิดาส่งสารเกี่ยวกับเบอร์มิวด้าและองค์กรล่ามารมาถึงเธอ
เบอร์มิวด้าปรากฏในความฝันของเธอในตอนที่จันทร์หายนะทรีอาร์ขึ้นครั้งแรก และเป็นตอนที่เธอพึ่งลงมาบนโลกนี้
และจันทร์หายนะทรีอาร์เกิดมาจากเทพมารเบนิล
จันทร์หายนะขึ้นครั้งแรกตอนที่เธอมายังโลกนี้ใหม่ๆ ราวกับเป็นเรื่องบังเอิญ
เรื่องบังเอิญที่ร้อยเรียงกันเป็นเรื่องราวและนำพาเธอให้มาอยู่ตรงจุดนี้ จุดที่กำลังวิเคราะห์และวางแผนรับมือกับเหตุการณ์ร้ายในอนาคตที่อาจจะเกิดหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้
มันคือโชคชะตาที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้วรึเปล่า? หรือเทพธิดาอโลวีนัสจะวางแผนทั้งหมดนี่เอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว?
เบอร์มิวด้า องค์กรล่ามาร สิ่งผิดปกติ คำทำนายของโนอา กลุ่มคนน่าสงสัยที่อาจจะเป็นสมาชิกขององค์กรล่ามาร คดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ต้องสงสัยว่าสิ่งผิดปกติเป็นตัวการเบื้องหลัง สารจากเทพธิดา แผนการที่แท้จริงขององค์กรล่ามาร แผนการของอโลวีนัส
ทั้งหมดนั่นมีความเกี่ยวข้องกัน
แต่…เกี่ยวข้องกันยังไงล่ะ?
รู้สึกราวกับว่ายิ่งไขปริศนามากขึ้น ปริศนาใหม่ๆ ที่ซับซ้อนยิ่งกว่าก็ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดเลย
“ดังนั้น ท่านก็เลยคิดว่าบางทีองค์กรล่ามารอะไรนั่นอาจจะมีแผนการคืนชีพเทพมารเบนิลเหรอครับ?”
ลอยด์ถามอย่างข้องใจ
“ใช่ แต่มันเป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น บางทีพวกนั้นอาจจะมีเป้าหมายอย่างอื่นเก็บซ่อนเอาไว้ก็ได้”
ยูริถอนหายใจ การใช้สมองเยอะๆ เข้ามันทำให้เธอเริ่มอ่อนล้า
“ยังไงก็ตาม เรื่องนี้มันใหญ่เกินกว่าที่พวกเจ้าจะทำอะไรได้ หากเกิดอะไรขึ้นก็จงวิ่งหนีสุดชีวิตและอย่าได้เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงเด็ดขาด”
พวกนายมีหน้าที่แค่รายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนน่าสงสัยพวกนั้นก็พอ ที่เหลือเธอจะจัดการเอง
เธออาจจะเกลียดเทพธิดาก็จริงอยู่ แต่เวลานี้การหยุดยั้งแผนการของพวกองค์กรลับนั่นสำคัญกว่า
เอาตรงๆ เธอก็ได้แต่หวังว่าการวิเคราะห์ทั้งหมดของเธอก่อนหน้านี้จะผิดและทุกอย่างเกิดจากการมโนไปเองของเธอ
บางทีเธออาจจะคิดมากไปเอง องค์กรล่ามารอาจจะเป็นแค่องค์กรกระจอกๆ และบางทีอาจจะไม่ได้วางแผนอะไรเลย หรืออาจจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
แต่ มันก็แค่ความหวังลมๆ แล้งๆ
ว่าแต่ หึหึ จากฆาตกรต่อเนื่องที่ทำลายโลกต้องมาปกป้องโลกซะเองเนี่ยนะ นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกันเนี่ย
ถ้าเป็นเธอในสมัยก่อน เธอคงจะวางแผนสนับสนุนแผนการ
ขององค์กรล่ามารและวางแผนให้โลกนี้พินาศแน่ๆ เธอคงจะไม่สนใจเลยว่าใครจะเป็นยังไง
แต่ทำไมตอนนี้เธอถึงได้—เปลี่ยนไปแบบนี้ล่ะ?
ยูริหวนคิดถึงใบหน้าของใครบางคนโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าที่มีดวงตาสีแดงและผมสีดำเงางาม เขี้ยวเล็กๆ สองซี่ของแวมไพร์ที่เก็บซ่อนเอาไว้ในปาก นิสัยที่ทั้งอบอุ่นและอ่อนโยนราวกับดวงตะวันยามเช้า
บางทีอาจจะเป็นเพราะคนๆ นั้นก็เป็นได้