จิตวิญญาณเทพยุทธ์สยบเทวะ - ตอนที่ 58 เดิมพัน
“แม่นางปิงหลันจะเข้าร่วมการแข่งขันด้วยอย่างนั้นหรือ?” หลู่เส่าโหย่วมองไปที่กูตู๋ปิงหลันด้วยความรู้สึกแปลกใจ หลู่เส่าโหย่วจำได้ว่าลุงหนานเคยบอกเอาไว้ว่าเทียนเป่าเหมินมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา แล้วนางจะมาเข้านิกายอวิ๋นหยางเพื่ออะไร
“ใช่แล้ว ข้าอยากจะไปดูว่านิกายอวิ๋นหยางเป็นอย่างไร คงจะดีหากถึงตอนนั้นแล้วข้าสามารถไปนิกายอวิ๋นหยางพร้อมกับเจ้าได้ หรือว่าเจ้าไม่ต้อนรับข้า?” กูตู๋ปิงหลันมองไปทางหลู่เส่าโหย่วและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“คุณหนู นายน้อยหลู่ ข้ามาแล้ว” ตอนนั้นเอง หวู่จื่อซือก็ได้เข้ามาในห้องโถงเล็ก
“หวู่จื่อซือ รีบคำนวณให้ข้าทีว่าข้าจะเหลือหนี้อยู่อีกเท่าไหร่?” หลู่เส่าโหย่วยื่นโอสถเสริมพลังทั้งหนึ่งร้อยเม็ดให้แก่หวู่จื่อซือ
หวู่จื่อซือรับโอสถเสริมพลังมาแล้วกล่าวว่า “นอกจากซื้อสมุนไพรสำหรับหลอมโอสถแล้ว นายน้อยหลู่ได้ซื้อดาบจันทร์ครามในราคาแปดพันหกร้อยเหรียญทอง แต่ท่านเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของเทียนเป่าเหมิน เมื่อซื้อสินค้าจะได้รับส่วนลดยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ทำให้ท่านต้องจ่ายเพียงหกพันแปดร้อยแปดสิบเหรียญทอง และนายน้อยหลู่ได้นำโอสถเสริมพลังมาทั้งหมดหนึ่งร้อยหกสิบหกเม็ด โอสถเพิ่มลมปราณหนึ่งเม็ด โอสถเจิ้งหยวนอีกหนึ่งเม็ด หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว ตอนนี้เทียนเป่าเหมินต้องจ่ายเงินให้ท่านสามร้อยเหรียญ”
“ในที่สุดข้าก็ไม่ต้องเป็นหนี้แล้ว” หลู่เส่าโหย่วยิ้มเล็กน้อย เขารู้สึกเหมือนร่างกายเบาขึ้น ไม่น่าแปลกใจที่ผู้อื่นมักจะกล่าวว่า ‘ไม่มีหนี้แล้วตัวเบา’ นี่มันช่างดีจริงๆ
“นายน้อยหลู่ นี่คือเงินสามร้อยเหรียญของท่าน” หวู่จื่อซือหยิบบัตรหยกออกมาแล้วส่งให้กับหลู่เส่าโหย่ว จากนั้นก็กล่าวเบาๆ ว่า “นายน้อยหลู่ ข้าขอคุยอะไรกับท่านหน่อยได้หรือไม่?”
หลู่เส่าโหย่วรับบัตรหยกมาแล้วกล่าวตอบ “เชิญพูด”
“โอสถเจิ้งหยวนที่นายน้อยหลู่นำมาครั้งก่อนยังมีอีกหรือไม่ เมื่อผู้คนได้ยินว่าเทียนเป่าเหมินมีโอสถเจิ้งหยวนขาย ตระกูลอื่นในเมืองก็ได้เข้ามารอจองกับพวกเราไม่น้อย คนธรรมดาทั่วไปข้ายังปฏิเสธได้ง่าย แต่มีแขกประจำอีกสามคนที่ข้าไม่สามารถปฏิเสธได้จริงๆ ข้าไม่ขอเยอะ เพียงแค่สามเม็ดก็พอ ไม่รู้ว่านายน้อยหลู่ยังมีอีกหรือไม่ ส่วนเรื่องราคา ตอนนี้ข้าขายให้กับพวกเขาในราคาสี่ร้อยห้าสิบเหรียญทอง ถ้านายน้อยหลู่ขายให้แก่เทียนเป่าเหมินก็จะเป็นราคานี้เช่นเดียวกัน”
“นี่…” หลู่เส่าโหย่วลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ตัวเขานั้นได้หลอมโอสถเจิ้งหยวนออกมาทั้งหมดสิบเม็ด กินไปแล้วหนึ่งเม็ดจึงเหลืออีกเก้าเม็ด ซึ่งทั้งหมดนั่นเขาตั้งใจเตรียมเอาไว้สำหรับตัวเอง ทว่าตอนนี้เทียนเป่าเหมินกำลังต้องการมันจากเขา ไม่ง่ายเลยที่จะปฏิเสธ
“ไม่มีปัญหา” หลู่เส่าโหย่วกล่าวแล้วหยิบโอสถเจิ้งหยวนออกมาสามเม็ด เทียนเป่าเหมินนั้นดีกับเขาไม่น้อย ตอนนี้เขาก็ไม่ได้เสียเปรียบอะไร เพียงเขาแค่คิดไม่ถึงว่าโอสถเจิ้งหยวนที่หลอมออกมานั้นจะเป็นที่ต้องการมากขนาดนี้
“ขอบคุณนายน้อยหลู่มาก” หวู่จื่อซือรับโอสถเจิ้งหยวนมาและจากนั้นก็จ่ายเงินให้กับหลู่เส่าโหย่วอีกหนึ่งพันสามร้อยห้าสิบเหรียญทอง นี่เป็นเงินที่ไม่น้อยเลย
หลู่เส่าโหย่วได้พบกับกำไรมากมายจากโอสถเจิ้งหยวน สมุนไพรของโอสถเจิ้งหยวนนั้นมีราคาไม่ถึงแปดสิบเหรียญทอง แต่ตอนนี้เขากลับสามารถขายมันได้ถึงสี่ร้อยห้าสิบเหรียญทอง กำไรขนาดนี้ค่อนข้างน่าตกใจทีเดียว
‘ในภายภาคหน้า หากมีโอกาสข้าจะต้องขายโอสถเองแล้ว’ หลู่เส่าโหย่วแอบกล่าวในใจ
“เส่าโหย่ว เช่นนั้นอีกสามวันเราค่อยเจอกัน เมื่อถึงตอนนั้น เจ้าต้องดูแลข้าให้มากๆ ล่ะ” กูตู๋ปิงหลันกล่าว
“ข้าคิดว่าความแข็งแกร่งของแม่นางปิงหลันคงเพียงพอที่จะเข้านิกายอวิ๋นหยางแล้ว” หลู่เส่าโหย่วกล่าวด้วยรอยยิ้ม ตัวเขามองความแข็งแกร่งของกูตู๋ปิงหลันไม่ออกมาโดยตลอด แต่เขาก็คิดว่านางต้องไม่อ่อนแออย่างแน่นอน หลู่เส่าโหย่วรู้สึกว่าการที่กูตู๋ปิงหลันจะเข้าสู่ห้าอันดับแรกคงไม่มีปัญหาอะไร
หลังออกมาจากเทียนเป่าเหมิน หลู่เส่าโหย่วก็รู้สึกผ่อนคลาย ในที่สุดเขาก็ชำระหนี้ได้จนหมด ตลอดทางกลับตระกูลหลู่ หลู่เส่าโหย่วก็ไม่ลืมที่จะระวังสภาพแวดล้อมรอบข้างของตัวเอง เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะถูกลอบโจมตีอีกครั้ง
“รีบมาเดิมพันเร็ว อีกสามวันก็จะประกาศผลแล้ว หากเจ้าลงเดิมพันเยอะก็จะได้เยอะ ทุกคนรีบมาเดิมพันเร็ว”
“หลู่เส่าโหย่วแห่งตระกูลหลู่ สิบห้าต่อหนึ่ง ฉินเทียนห่าวแห่งตระกูลฉิน สิบห้าต่อหนึ่ง หวังกวางแห่งตระกูลหวัง หนึ่งต่อแปด รีบมาเดิมพันเร็ว”
เสียงตะโกนเรียกความสนใจของหลู่เส่าโหย่ว ทางฝั่งขวาของร้านค้าเล็กๆ มีผู้คนหลายสิบคนกำลังก้มหัวมุงดูอะไรบางอย่าง และเมื่อเขาได้ยินชื่อของตัวเอง หลู่เส่าโหย่วก็เดินเข้าไปในร้านด้วยความสงสัย
“นายน้อยท่านนี้ ท่านมาเพื่อเดิมพันใช่หรือไม่ เชิญดูตามสบาย ครั้งนี้พวกเรามีการแนะนำข้อมูลของผู้เข้าแข่งขันจากตระกูลใหญ่อย่างละเอียด เชิญท่านดูได้เลย หากท่านซื้อเยอะก็จะได้รับเยอะ” ชายร่างใหญ่ที่มีพลังบ่มเพาะระดับสาวกขั้นสองได้เข้ามาล้อมหลู่เส่าโหย่วทันทีเมื่อเห็นการแต่งกายที่เรียบร้อยของเขา
หลู่เส่าโหย่วลอบสังเกตภายในร้าน บนผนังทั้งสี่ฝั่งมีข้อมูลแขวนอยู่ไม่น้อย ที่ผนังด้านหน้ามีข้อมูลเกี่ยวกับฉินเทียนห่าวแห่งตระกูลฉิน อายุสิบแปดปี ผู้ฝึกวิญญาณระดับนักรบขั้นสี่ อัตราเดิมพันเข้าสู่ห้าอันดับแรก สิบห้าต่อหนึ่ง
หลู่เส่าโหย่วแห่งตระกูลหลู่ อายุสิบหกปี ผู้ฝึกยุทธ์ระดับนักรบขั้นสาม เป็นผู้ฝึกยุทธ์สามธาตุ ได้แก่ธาตุลม, ไฟ และดิน อัตราเดิมพันเข้าสู่ห้าอันดับแรก สิบห้าต่อหนึ่ง
หยางเมี่ยวแห่งตระกูลหยาง อายุสิบเจ็ดปี ผู้ฝึกยุทธ์ระดับนักรบขั้นสาม เป็นผู้ฝึกยุทธ์สองธาตุ ได้แก่ธาตุไฟและธาตุน้ำ อัตราเดิมพันเข้าสู่ห้าอันดับแรก สิบต่อหนึ่ง
หลู่เส่าหู่แห่งตระกูลหลู่ อายุ…
“บนผนังมีข้อมูลของผู้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ไม่รู้ว่าคนเหล่านี้ไปนำข้อมูลพวกนี้มาจากที่ไหน” หลู่เส่าโหย่วพึมพำออกมา นี่มันเปรียบได้กับหนูมีวิธีของหนู งูมีวิธีของงูจริงๆ เขาได้ข้อมูลจากที่แห่งนี้มากทีเดียว ดูเหมือนว่าคู่แข่งของเขานั้นจะมีไม่น้อยเลย
กูตู๋ปิงหลัน อายุสิบแปดปี ระดับบ่มเพาะไม่ทราบ ระดับธาตุไม่ทราบ อัตราเดิมพันหนึ่งต่อสิบ
ในหน้าสุดท้ายของข้อมูลเหล่านี้ หลู่เส่าโหย่วก็ได้เห็นข้อมูลของกูตู๋ปิงหลัน ข้อมูลของนางนั้นไม่มีรายละเอียดใดๆ ซึ่งมันหมายความว่าคนเหล่านี้ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลของกูตู๋ปิงหลันได้
“หนึ่งต่อสิบ” หลู่เส่าโหย่วเผยยิ้มออกมา ผู้อื่นไม่รู้เรื่องของกูตู๋ปิงหลัน แต่ตัวเขารู้ นี่ไม่เรียกว่าเป็นการยื่นเงินให้เขาหรอกหรือ การที่กูตู๋ปิงหลันจะเข้าสู่ห้าอันดับแรกนั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีปัญหาแน่นอน
“ข้าลงเดิมพันกูตู๋ปิงหลันเข้าสู่ห้าอันดับแรก หนึ่งพันห้าร้อยเหรียญ” หลู่เส่าโหย่วเดินไปที่โต๊ะรับรองด้านในร้านและหยิบบัตรหยกออกมา
“เดิมพันหนึ่งพันห้าร้อยเหรียญทอง” ทันใดนั้น ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่อยู่รอบๆ ต่างก็มองมายังหลู่เส่าโหย่วด้วยความประหลาดใจ ในบรรดาผู้ที่มาเดิมพันนั้น ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีผู้เดิมพันที่ร่ำรวยอยู่บ้าง อย่างในปีก่อน มีคนไม่น้อยที่สูญเสียจนสิ้นเนื้อประดาตัว เงินหนึ่งพันเหรียญทองนั้นไม่นับว่าน้อย ถือได้ว่าสามารถเข้าสู่อันดับของนักพนันที่ร่ำรวยได้เลย คนธรรมดาที่ไหนจะมีเงินมากขนาดนี้มาลงเดิมพัน
“ไม่มีปัญหา นี่คือใบรับรอง นายน้อยต้องเก็บไว้ให้ดี” ชายวัยกลางคนที่อวบอ้วนได้กล่าวและมอบใบรับรองให้กับหลู่เส่าโหย่ว จากนั้นก็หยิบกล่องที่มีลักษณะเหมือนหยกออกมาและรูดบัตรหยกของหลู่เส่าโหย่วหนึ่งครั้งเพื่อนำเงินออกไปหนึ่งพันห้าร้อยเหรียญทอง
“หนึ่งต่อสิบ หลังจากนี้สามวันก็จะกลายเป็นเงินหนึ่งหมื่นห้าพันเหรียญทองแล้ว” หลู่เส่าโหย่วยิ้มเบาๆ จากนั้นก็ออกไปจากร้านพนัน ในใจของเขาไม่รู้สึกกังวลเท่าไร ด้วยความแข็งแกร่งของเทียนเป่าเหมิน หากกูตู๋ปิงหลันไม่มีความสามารถที่จะเข้าสู่ห้าอันดับแรกก็คงไม่ไปเข้าร่วมอย่างแน่นอน
ตลอดทางกลับตระกูลหลู่ หลู่เส่าโหย่วก็ไม่ได้พบเจอกับอันตรายใดๆ อีกทั้งคราวนี้เขายังได้เข้าตระกูลจากประตูหน้าอีกด้วย
“คารวะนายน้อยเส่าโหย่ว” เมื่อชายสองคนที่อยู่หน้าประตูเห็นหลู่เขาก็รีบร้อนทำความเคารพและรู้สึกกังวลจนตัวสั่นขึ้นมา
“เหอะ” หลู่เส่าโหย่วส่งเสียงออกมาอย่างแผ่วเบา ทั้งสองคนนี้คือสุนัขรับใช้ที่ไม่ให้หลู่เส่าโหย่วใช้ประตูหน้าในตอนที่เขาพึ่งข้ามมิติมายังโลกใบนี้ ถึงแม้หลู่เส่าโหย่วจะรู้ว่าไม่มีอะไรให้ไปคิดเล็กคิดน้อยกับคนรับใช้ทั้งสอง แต่ในใจของเขาก็ยังคงรู้สึกโกรธอยู่เล็กน้อย
ทว่าหลู่เส่าโหย่วก็ไม่ได้สร้างความลำบากให้กับสุนัขรับใช้ทั้งสองคนนั้น เมื่อกลับมาถึงบ้าน แม่ของเขาก็ได้เตรียมอาหารเย็นรออยู่แล้ว ซึ่งนั่นทำให้หลู่เส่าโหย่วรู้สึกอบอุ่นไปทั่วหัวใจ หลังจากกินข้าวเสร็จ หลู่เส่าโหย่วก็ได้พูดคุยกับมารดาเป็นเวลาหนึ่ง แล้วจากนั้นค่อยกลับไปที่ห้องของตัวเอง
หลู่เสี่ยวไป๋ทำงานที่ต้องจัดการได้อย่างรวดเร็ว ผนังห้องที่แตกร้าวได้กลับคืนสู่สภาพเดิมแล้ว เมื่อกลับมาถึงห้อง หลู่เส่าโหย่วก็หยิบโอสถเจิ้งหยวนออกมาหนึ่งเม็ดและกินเข้าไป ครั้งก่อนที่ขัดเกลาโอสถเจิ้งหยวนเพื่อทะลวงระดับนักรบขั้นสี่นั้น ได้ถูกดูดซับไปหมดแล้ว ตอนนี้เขาสามารถขัดเกลาโอสถได้อีกครั้ง ยิ่งมีพลังบ่มเพาะสูงขึ้น เมื่อถึงวันประลอง โอกาสที่จะเข้าสู่ห้าอันดับแรกก็จะมากขึ้นด้วย