จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) - บทที่ 469 เราคือจิ้งจอกสาว
บทที่ 469 เราคือจิ้งจอกสาว
“เจ้าดูมั่นใจเหลือเกินนะ แต่ข้าขอบอกเอาไว้เลยว่า คนเมื่อถูกจับตัวอยู่ที่นี่แล้ว ไม่เคยมีใครกลับออกไปได้มาก่อน” หญิงสาวชุดแดงพูดพร้อมกับกดปุ่มกลไก แล้วกรงเหล็กก็เริ่มจมตัวลงไปใต้พื้นดิน
“เดี๋ยวก่อน” ฉู่ชวิ๋นร้องตะโกน
“ข้าขอแนะนำให้เจ้าพูดความจริงมาดีกว่า ถ้าเล่นลวดลายอีก ข้าจะฆ่าเจ้าเสียเดี๋ยวนี้” ดวงตาของหญิงสาวชุดแดงเป็นประกายดุร้ายชัดเจน
“ฉันแค่จะบอกว่า ถึงกดกรงลงไปใต้ดิน แต่ตัวฉันก็ไม่ได้ลงไปด้วยหรอก” ฉู่ชวิ๋นหัวเราะในลำคอ ก่อนที่จะใช้มือง้างลูกกรงพร้อมกับส่งเสียงคำรามเล็กน้อย พลังลมปราณสีม่วงพวยพุ่งออกมาจากแขนทั้งสองข้างของเขา
หญิงสาวในชุดแดง จื่อหยวนและหลานหยิง ยืนจ้องมองด้วยสีหน้าตกตะลึง
พวกเธอเห็นกับตาว่าลูกกรงเหล็กที่มีขนาดเท่ากับท่อนแขนเด็ก ถูกฉู่ชวิ๋นง้างออกอย่างง่ายดาย และในขณะนี้ มันก็มีช่องว่างมากพอที่คนคนหนึ่งจะแทรกตัวออกมาได้แล้ว
ฉู่ชวิ๋นเดินออกมาอย่างง่ายดาย เมื่อเห็นว่าหญิงสาวทั้งสามคนยังคงยืนนิ่งเฉยด้วยความตกตะลึง เขาก็ยิ้มออกมาแล้วพูด “ทีนี้ก็กดกรงลงไปได้ตามสบาย”
“สุดยอดเลยแฮะ” จื่อหยวนอุทานออกมาด้วยความอัศจรรย์ใจ
ใบหน้าของหญิงสาวชุดแดงแปรเปลี่ยนไปแล้ว เธอรีบพูดทันทีว่า “พวกเจ้าสองคนเข้าไปหลบในห้องลับเดี๋ยวนี้”
เมื่อพูดจบ หางสีขาวสี่หางก็ปรากฏขึ้นด้านหลังเธอ
ฉู่ชวิ๋นอุทานออกมาด้วยความเหลือเชื่อ “จิ้งจอกเงินเก้าหาง”
หญิงสาวชุดแดงมีพลังลมปราณสีแดงแผ่ออกมาจากร่างกาย มวลอากาศปั่นป่วนด้วยความรุนแรงของพลังที่แผ่ออกมา
วูบ…!
หางจิ้งจอกสี่หางเปลี่ยนสภาพกลายเป็นหอกแหลม ทิ่มแทงเข้าใส่ฉู่ชวิ๋นด้วยความรวดเร็วรุนแรง
ฉู่ชวิ๋นยกมือขึ้นยิงพลังลมปราณสวนกลับไป หางจิ้งจอกปะทะเข้ากับพลังลมปราณของเขา โต๊ะและเก้าอี้ที่อยู่รอบตัวแตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี
วูบ!
พลังลมหมุนลอยออกมาจากรอบกายหญิงสาวชุดแดง แล้วหางของเธอก็ชี้ขึ้นท้องฟ้า มันเปลี่ยนสภาพไปกลายเป็นเหมือนปืนใหญ่สี่กระบอก ที่ยิงลมปราณพุ่งเข้าใส่ฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นอดส่ายหัวไม่ได้ เสียงระเบิดดังตูมตาม เขาโคจรพลังลมปราณขึ้นมาห้อมล้อมรอบกาย พลังลมปราณของเขาแผ่ออกไปเหมือนกับเกลียวคลื่นที่สาดซัดใส่ชายฝั่ง
สีหน้าของหญิงสาวชุดแดงเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เธอยังไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ตกอยู่ในสภาพเหนื่อยล้า ฉู่ชวิ๋นแข็งแกร่งมากเกินไป เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
ฉู่ชวิ๋นย่างสามขุมเข้าหาอย่างน่ากลัว
หญิงสาวชุดแดงตะลึงลาน ใช้หางทั้งสี่ข้างซัดลมปราณเข้าใส่ฉู่ชวิ๋นอีกครั้ง
ฉู่ชวิ๋นยกมือขึ้น ข้างหนึ่งซัดลมปราณกระแทกหางสองข้างกระเด็นกลับไป ส่วนมืออีกข้างของเขาคว้าจับหางที่เหลืออยู่อีกสองข้างของฝ่ายตรงข้ามเอาไว้แนบแน่น
ความอับอายและโกรธแค้นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาวชุดแดง เธอขึงตามองฉู่ชวิ๋นด้วยความดุร้าย อยากจะถอยหนีจากชายหนุ่ม แต่น่าเศร้าที่ความห่างชั้นของระดับพลังมีมากเกินไป ฉู่ชวิ๋นเพิ่มแรงกดบนหางของเธอ ทำให้หญิงสาวชุดแดงไม่สามารถหลบหนีได้
“เจ้าตัวชั่วร้าย ปล่อยพี่ใหญ่ของข้ามาเดี๋ยวนี้นะ!” จื่อหยวนพูดพร้อมกับกางกรงเล็บในมือ
ฉู่ชวิ๋นส่ายศีรษะเล็กน้อย แล้วเส้นไหมวิญญาณจำนวนนับพันเส้นก็ลอยออกไปรัดพันร่างของจื่อหยวน ก่อนจะยกตัวหญิงสาวขึ้นไปกลางอากาศ
“ปล่อยเธอมาเดี๋ยวนี้!” หลานหยิงคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด พร้อมกันนั้นก็กระโดดเข้าหาฉู่ชวิ๋นความเดือดดาล
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเป็นประกายระยิบระยับ เขาสั่งงานด้วยจิตวิญญาณสร้างม่านพลังขึ้นมาห้อมล้อมรอบกายหลานหยิง ไม่ว่าเธอจะโจมตีด้วยความรุนแรงแค่ไหน พลังการโจมตีของหลานหยิงก็ไม่สามารถทะลุม่านพลังออกมาได้เลย
ทันใดนั้น ฉู่ชวิ๋นก็ต้องปล่อยหางของหญิงสาวชุดแดงโดยทันที เนื่องจากว่าขนบริเวณปลายหางของเธอแข็งตัวขึ้นมาเหมือนเหล็กแหลมทิ่มแทงมือเขา
“เจ้าจงตายเสียเถอะ!!” หญิงสาวชุดแดงคำรามด้วยความโกรธแค้น ยกมือขึ้นโบกสะบัดไปมา พลัน พลังลมปราณสีแดงก็สว่างไสวห้อมล้อมรอบกาย สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ามวลพลังงานครั้งนี้ช่างรุนแรงยิ่งนัก
หญิงสาวชุดแดงกระแทกฝามือมาข้างหน้า แล้วลูกบอลไฟดวงหนึ่งก็พุ่งเข้ามาหาฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นยกมือขึ้นเล็กน้อย เมื่อสะบัดมือ พลังลมปราณก็ถูกยิงออกไปจากปลายนิ้วทั้งห้า มวลอากาศปั่นป่วนกลายเป็นเกลียวคลื่นที่มองไม่เห็น แล้วในทันใดนั้น ชายหนุ่มก็สะบัดมือออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วฉับไว
เปรี้ยง!
ลูกบอลไฟระเบิดตัวหายไปแล้ว
หญิงสาวชุดแดงคำรามในลำคอ ถอยหลังกลับไปหลายก้าว ใบหน้าของเธอแดงซ่านผิดปกติ ที่มุมปากมีเลือดไหลซึมออกมาแล้ว
“เธอแข็งแกร่งไม่น้อย แต่ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันอยู่ดี” ฉู่ชวิ๋นว่า
หญิงสาวชุดแดงฝึกวิชาจนก้าวผ่านขั้นจักรพรรดิมาได้สำเร็จ แต่เธอก็ยังอ่อนแอมากเกินไปเมื่อสู้กับเขา
“เจ้าคนเลว ปล่อยพวกเราเดี๋ยวนี้” จื่อหยวนพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากการรัดพันของเส้นไหมวิญญาณ
“พี่ใหญ่ รีบหนีไป” หลานหยิงตะโกน
“เอาละ ฉันเห็นแล้วว่าพวกเธอพี่น้องรักกันจริง ๆ” ฉู่ชวิ๋นหัวเราะออกมาเล็กน้อย โบกมือหนึ่งครั้ง ทั้งเส้นไหมวิญญาณและม่านพลังก็หายวับไปกับตา จื่อหยวนและหลานหยิงถูกปล่อยตัวเป็นอิสระแล้ว
หญิงสาวทั้งสองคนมีสีหน้าตื่นกลัว จากนั้น พวกเธอก็รีบวิ่งเข้ามาหาหญิงสาวชุดแดง
“พี่ใหญ่ ท่านบาดเจ็บหรือไม่?” จื่อหยวนถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
“บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง” หญิงสาวชุดแดงตอบกลับมา
แล้วเธอก็หันไปมองหน้าฉู่ชวิ๋น ผู้ซึ่งสามารถง้างกรงเหล็กพันปี จับตัวจื่อหยวนกับหลานหยิง และทำให้ตัวเธอเองบาดเจ็บได้อย่างง่ายดาย นับว่าบุรุษหนุ่มคนนี้น่ากลัวมากเกินไปจริง ๆ
“เจ้าต้องการอะไร?”
ฉู่ชวิ๋นตอบว่า “ฉันมาที่นี่เพื่อตามหาดอกซานเซิง”
“ฝันไปเถอะ” หญิงสาวชุดแดงตอบด้วยความเย็นชา
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเปลี่ยนไปทันที พลังลมปราณที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเขาเพิ่มความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
“ไม่มีใครจะขัดขวางฉันได้ทั้งนั้น!”
ดอกซานเซิงสำคัญกับความเป็นความตายของของฮวาชิงหวู่ ไม่ว่าใครมาขัดขวาง มันผู้นั้นจะต้องตาย!
จื่อหยวนกับหลานหยิงพูดคุยกันเรื่องดอกซานเซิงระหว่างเดินทางมาที่นี่ ดังนั้น ฉู่ชวิ๋นจึงอยากรู้ข้อมูลมากกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้ ชายหนุ่มจึงลงมืออย่างยั้งมือไว้ไมตรี ไม่เช่นนั้น เขาคงสังหารหญิงสาวทั้งสามคนนี้ไปแล้ว
“ฉันจะเอาดอกซานเซิงไปช่วยคน อย่าทดสอบความอดทนของฉัน! เมื่อฉันตัดสินใจแล้วว่าต้องมาเอาดอกซานเซิงไปให้ได้ ใครก็ตามที่มาขัดขวาง เท่ากับว่ารนหาที่ตาย” ฉู่ชวิ๋นพูดออกมาแต่ละคำด้วยน้ำเสียงราบเรียบเป็นอย่างยิ่ง
หญิงสาวชุดแดงตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว เธอและน้องสาวจ้องมองดวงตาที่ไร้อารมณ์ของฉู่ชวิ๋น ราวกับว่าการฆ่าคนเป็นเรื่องธรรมดาของเขาเหลือเกิน
“เจ้าจะเอาดอกซานเซิงไปไม่ได้ ไม่งั้นพวกข้าก็ต้องติดอยู่ที่นี่ตลอดไปน่ะสิ” จื่อหยวนขึงตามองหน้าฉู่ชวิ๋น
“หมายความว่ายังไง?” ฉู่ชวิ๋นถามด้วยความสงสัย
“ดอกซานเซิงบานสะพรั่งเมื่อไหร่ เราถึงจะได้รับอนุญาตออกไปจากที่นี่ ถ้าดอกซานเซิงเกิดความเสียหายหรือถูกแย่งชิงไป พวกเราจะต้องติดอยู่ที่นี่ตลอดกาล แล้วเราจะยกมันให้กับเจ้าได้อย่างไร?” จื่อหยวนคำรามด้วยความโกรธแค้น
ฉู่ชวิ๋นเลิกคิ้วสูงอย่างประหลาดใจ “ไหนเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม?”
หญิงสาวชุดแดงหันไปมองหน้าน้องสาวทั้งสอง แล้วพูดว่า “เดี๋ยวข้าจัดการเอง”
“เจ้าคงเห็นแล้วนะว่าพวกเราคือจิ้งจอกเงินเก้าหาง ตอนที่พวกเรายังเป็นเด็ก ต้องทนทุกข์ทรมานจากความเปลี่ยนแปลงของโลก นายท่านของพวกเราซึ่งมีนามว่าท่านจื่อหยางช่วยพวกเราเอาไว้ นายท่านบอกว่าหากพวกเราช่วยดูแลดอกซานเซิงจนเบ่งบานได้เมื่อไหร่ ก็จะปล่อยเราออกไปจากที่นี่ และจะช่วยพวกเราแก้แค้นศัตรูที่เคยทำร้ายเผ่าพันธุ์จิ้งจอกเงินเก้าหาง”
เมื่อรับฟังจบแล้ว ฉู่ชวิ๋นก็พูดทันที “ฉันก็พาพวกเธอออกไปได้เหมือนกัน”
หญิงสาวชุดแดงมองเขาเขม็ง ในดวงตาปรากฏความหวังขึ้นเล็กน้อย แต่แล้วเธอก็ส่ายศีรษะ พูดว่า “นายท่านช่วยชีวิตพวกเราเอาไว้ เราต้องคอยดูแลดอกซานเซิงจนมันเบ่งบานตามสัญญา ไม่อย่างนั้น จะถือว่าพวกเราไม่ได้ทดแทนบุญคุณอย่างเต็มที่”
ฉู่ชวิ๋นเบิกตาโตด้วยความประหลาดใจ คำพูดของหญิงสาวชุดแดงทำให้เขารู้สึกเคารพและนับถือเธอมากยิ่งขึ้น
“แล้วดอกซานเซิงจะบานเต็มที่เมื่อไหร่?” ฉู่ชวิ๋นถาม
“อีก 1 สัปดาห์หลังจากนี้”
“ตกลง งั้นฉันจะรอให้ดอกซานเซิงบานเต็มที่ก่อน แล้วค่อยเอามาก็แล้วกัน ถึงตอนนั้น ก็นับว่าพวกเธอไม่ได้ทำผิดสัญญาอะไรแล้ว” ฉู่ชวิ๋นกล่าว
แต่หญิงสาวชุดแดงกลับมองหน้าฉู่ชวิ๋นด้วยความตกใจ และย้ำเตือนว่า
“แต่ข้าขอแนะนำให้เจ้ารีบหนีไปให้เร็วที่สุดจะดีกว่า หากดอกซานเซิงบานเต็มที่เมื่อไหร่ ถึงตอนนั้น นายท่านจื่อหยางก็คงกลับมาแล้ว”
ฉู่ชวิ๋นขมวดคิ้ว “เธอรู้ได้ยังไง?”
“นายท่านบอกว่ามันบานเมื่อไหร่เขาจะกลับมา” หญิงสาวชุดแดงตอบ
ฉู่ชวิ๋นหัวเราะในลำคอ “เธอคงไม่รู้ใช่ไหมว่าตัวเองอยู่ที่นี่มาหลายพันปีแล้ว โลกภายนอกเปลี่ยนแปลงไปมาก นายท่านของเธอน่ะ คงไม่กลับมาแล้วล่ะ”
“ไม่ นายท่านเดินทางไปต่างแดน เขามักจะหายตัวไปครั้งละสิบ ๆ ปีเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว”
“ถ้างั้นครั้งนี้เขาหายตัวไปนานแค่ไหนแล้วล่ะ?”
หญิงสาวชุดแดงนิ่งคิดเล็กน้อย ก่อนจะตอบอุบอิบว่า “จริงด้วย ครั้งนี้เขาหายไปนานมาก น่าจะซัก 1,000 ปีได้แล้ว”
“ท่านลุงจื่อหยางจะไม่กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ?” จื่อหยวนแสดงสีหน้าเป็นกังวลเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเธอจะมีความผูกพันต่อจื่อหยางอะไรนั่นอยู่ไม่ใช่น้อย
“ไม่มีทาง ท่านลุงจื่อหยางไม่มีทางทิ้งพวกเราเด็ดขาด เขาคงเจอเรื่องอะไรบางอย่างที่ทำให้ล่าช้า ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องกลับมาแน่นอน” หลานหยิงพยายามปลอบโยนน้องสาว
“ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องเอาดอกซานเซิงมาให้ได้ ต่อให้นายท่านของพวกเธอกลับมา เขาก็ขัดขวางฉันไม่ได้หรอก”
“แต่ถึงท่านลุงจื่อหยางไม่กลับมา ก็ยังมีพี่กิเลนไฟคอยปกป้องดอกซานเซิงอยู่อีกนะ” จื่อหยางพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“งั้นฉันกับกิเลนตัวนั้นก็คงต้องสู้กันสักหน่อยแล้ว” ในแววตาของฉู่ชวิ๋นปรากฏความเศร้าจาง ๆ เพื่อทำให้เสี่ยวหวู่ของเขาฟื้นขึ้นมา ชายหนุ่มยินดีเผชิญหน้ากับทุกคนที่คอยปกป้องดอกซานเซิง และขณะนี้ เหลือการต่อสู้อีกแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
“ทำไมเจ้าถึงหมกมุ่นในดอกซานเซิงนัก? ถึงมันจะเป็นของวิเศษก็จริง แต่ไม่เห็นจะต้องเอาชีวิตมาทิ้งขนาดนี้เลย” หญิงสาวชุดแดงกล่าวด้วยความไม่เข้าใจ
“ฉันจะเอาไปช่วยชีวิตคนรักของฉัน วิญญาณของเธอได้รับความเสียหาย ตอนนี้คนรักของฉันหลับมานานเกินไปแล้ว” ฉู่ชวิ๋นพึมพำตอบกลับ “ฉันสาบานเอาไว้แล้วว่า ฉันจะทำให้เธอฟื้นขึ้นมาให้ได้ ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม”
หญิงสาวทั้งสามคนยืนนิ่งอึ้งตกตะลึง พวกเธอรู้สึกได้ถึงความเศร้าที่ปรากฏขึ้นในแววตาของฉู่ชวิ๋นอย่างชัดเจน