จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) - บทที่ 464 มังกรไฟ
บทที่ 464 มังกรไฟ
ม่านพลังที่ใช้สำหรับขับไล่วิญญาณร้าย ไม่ได้เป็นม่านพลังที่จะนั่งอยู่แบบสะดวกสบาย เพราะผู้ที่อยู่ในม่านพลังแห่งนี้ต้องทนรับความเจ็บปวดไม่รู้จบ
ลำแสงจากดอกบัวไฟสามารถสร้างความเจ็บปวดได้ไม่ต่างจากเข็มเล็ก ๆ ก่อให้เกิดความรู้สึกร้อนผ่าวบนผิวหนังอย่างรุนแรง ความร้อนของมันสามารถละลายภูเขาและก้อนหินได้อย่างง่ายดาย
พวกเกาโม่หานเป็นจอมยุทธ์ขั้นเซียน ถึงจะเรียกไม่ได้ว่ามีผิวทองแดงกระดูกเหล็ก แต่อย่างน้อยด้วยรากฐานพลังที่แข็งแกร่ง จึงทำให้ร่างกายของพวกเขาสามารถทนทานลำแสงของดอกบัวไฟได้เป็นอย่างดี
ในขณะนี้ ปรากฏเหงื่อเม็ดโป้งขึ้นมาที่หน้าผากของชายชราทั้งสาม ใบหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยว ร่างกายสั่นสะท้าน ดูก็รู้ว่ากำลังทรมานอย่างแสนสาหัส
พลังจากดอกบัวไฟไหลรินเข้าสู่ร่างกาย เหมือนมีเข็มจำนวนนับไม่ถ้วนละลายลงสู่ใต้ผิวหนังและเลือดเนื้อ และความเจ็บปวดเหล่านี้จะคงอยู่ไปอีกเนิ่นนาน
ฟู่!
ผิวทะเลสาบลาวาเดือดปุด แต่นั่นก็ยังไม่ได้ทำให้ฉู่ชวิ๋นรู้สึกสนใจ จนกระทั่งเขาได้กลิ่นเหมือนยาสมุนไพรลอยมาเตะจมูก
ชายหนุ่มหันหน้ากลับไปมอง แล้วดวงตาก็สว่างไสว บริเวณกลางทะเลสาบ มีดอกบัวแดงดอกหนึ่งกำลังเบ่งบานดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
นี่มันปาฏิหาริย์ชัด ๆ
ฉู่ชวิ๋นยืนนิ่งด้วยความตกตะลึง ดูจากสีสันและความแปลกประหลาดของดอกบัวแดงนี้แล้ว อย่างน้อยมันต้องมีอายุหลายพันปี ถือเป็นสมุนไพรจิตวิญญาณระดับสูง
นี่คือยาเสริมลมปราณชั้นดี
วูบ!
ฉู่ชวิ๋นลอยตัวออกไปเหนือทะเลสาบลาวา และเอื้อมมือลงไปจะคว้าจับดอกบัวแดงดอกนั้น
ดอกบัวแดงพลันมีไฟลุกพรึบพรั่บ ลำแสงสีแดงเป็นประกายสว่างไสว ดูสวยงามและร้อนแรง
ตู้ม!
แต่ในตอนที่มือของฉู่ชวิ๋นกำลังจะสัมผัสดอกบัวแดงนั้นเอง ปากขนาดใหญ่ยักษ์ก็พุ่งขึ้นมาจากใต้ทะเลสาบด้วยความเร็วที่น่าหวาดกลัว
ฉู่ชวิ๋นตกตะลึง แอบตำหนิตนเองอยู่ในใจว่าประมาทมากเกินไป สมุนไพรจิตวิญญาณระดับสูงสุดอย่างนี้ ต้องมีสัตว์ประหลาดคอยเฝ้าเอาไว้อยู่แล้ว
ปากขนาดใหญ่ยักษ์ปากนี้ เพียงฟันหนึ่งซี่ก็มีขนาดเท่ากับตัวฉู่ชวิ๋นแล้ว และฉู่ชวิ๋นก็รู้ดีว่า เขาคงไม่ต่างไปจากไม้จิ้มฟันของมันด้วยซ้ำ
เปรี้ยง!
ฉู่ชวิ๋นซัดพลังลมปราณใส่ฟันของสัตว์ประหลาด อาศัยจังหวะจากแรงดีดสะท้อน ม้วนตัวถอยกลับมายืนบนริมฝั่ง และจ้องมองเจ้าสัตว์ประหลาดในทะเลสาบลาวาให้เต็มตา
มังกร?
ฉู่ชวิ๋นเบิกตาโตจ้องมองสัตว์ประหลาดในลาวาด้วยความเหลือเชื่อ มันมีความยาวมากกว่าสิบเมตร มีเขาสองข้าง เขาแต่ละข้างมีขนาดใหญ่โตเท่ากับมนุษย์หนึ่งคน ตลอดร่างกายของมันมีลาวาไหลเวียนผ่าน ดูน่าสยองขวัญยิ่งนัก
โฮก!
สัตว์ประหลาดยักษ์คำรามใส่ฉู่ชวิ๋นเสียงดังปานฟ้าผ่า เสียงคำรามของมันถึงกับทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน
ฉู่ชวิ๋นหรี่ตาลงจ้องมองด้วยความพินิจพิเคราะห์ มังกรตัวนี้มีเขาขนาดเล็กสั้นและแหลมตรงบนศีรษะ นี่คือมังกรไฟไม่ผิดแน่
วูบ!
มังกรไฟว่ายวนในลาวา ส่งผลให้ลาวาในทะเลสาบแตกกระจายกลายเป็นระลอกคลื่น บางส่วนก็ลอยกระเด็นขึ้นท้องฟ้า กระเด็นขึ้นมาบนริมฝั่ง กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ก่อนที่มันจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนเดียว และกลายเป็นมังกรลาวาอีกตัวหนึ่งขึ้นมาแล้ว
อุณหภูมิที่ร้อนสูงและกลิ่นเหม็นของกำมะถันทำให้ฉู่ชวิ๋นหน้านิ่วคิ้วขมวด ชายหนุ่มโคจรพลังลมปราณ และร่ายวิชาด้วยพลังจิต
วิชากลอักษรพิฆาต! “ฆ่า”
พลังลมปราณรูปทรงตัวอักษรปรากฏขึ้นในอากาศ และพุ่งตรงเข้าไปหามังกรลาวาตัวนั้น
เปรี้ยง!
เมื่อพลังลมปราณปะทะกันก็เกิดแรงระเบิดตามมา มังกรลาวาร่างกระจุยกลางอากาศ กลับคืนสู่สภาพลาวาหลอมเหลวตกลงสู่พื้นดินพร้อมกับควันสีขาวที่คลุ้งโขมงไปทั่วบริเวณ
โฮก!
มังกรไฟคำรามด้วยความเดือดดาล มันสะบัดหางอย่างรุนแรง แล้วคลื่นลาวาในทะเลสาบก็โถมเข้าหาฉู่ชวิ๋นที่ยืนอยู่บนชายฝั่ง
ฉู่ชวิ๋นกระโดดถอยหลังหลบหนีทันที
เปรี๊ยะ!
เมื่อลาวาไหลมากระทบดินบนฝั่ง พื้นดินก็แตกแยก มวลอากาศปั่นป่วน ได้ยินแต่เสียงการแตกตัวดังเปรี๊ยะปร๊ะ
วูบ!
หางมังกรตวัดขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว เป้าหมายของมันอยู่ที่การฟาดฉู่ชวิ๋นให้บี้แบน
ฉู่ชวิ๋นเคลื่อนที่ว่องไวราวกับเป็นภูตผี เขาไม่รู้เลยว่ามังกรไฟตัวนี้มีชีวิตอยู่นานเท่าไหร่แล้ว แต่เห็นได้ชัดว่ามันมีพละกำลังแข็งแกร่งกว่าพวกเกาโม่หานหลายเท่า
เปรี้ยง เปรี้ยง…!
ฉู่ชวิ๋นกระโดดหลบหนี หางมังกรไล่ตามมาฟาดใส่เขาไม่ลดละ ทุกครั้งที่หางมังกรตวัดลงมา ภูเขาจะสั่นสะเทือน ก้อนหินใหญ่จะแตกกระจาย พื้นดินจะเกิดรอยแตกร้าว และลาวาจะกระเด็นไปทุกหนทุกแห่ง
วูบ!
หางมังกรตวัดเข้ามาหาฉู่ชวิ๋นอีกครั้งหนึ่งแล้ว
ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงกลิ่นเส้นผมเผาไหม้ จึงรีบหมุนตัวกลับไป และระเบิดพลังลมปราณสีม่วงออกจากกำปั้นทันที
ผลั่ก!
การปะทะที่เกิดขึ้นทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน หางมังกรกระเด็นกลับไปด้วยฤทธิ์หมัดของฉู่ชวิ๋น แต่ตัวชายหนุ่มเองก็โดนฟาดลอยกระเด็นออกมาเช่นกัน
ฉู่ชวิ๋นไม่อยากเชื่อ ฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งเกินไป แค่ระดับพลังอย่างเดียวเจ้ามังกรไฟตัวนี้ ก็น่าจะมีฝีมือสูสีกับเขาแล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงว่ามันมีพละกำลังมากกว่าเขาหลายเท่านัก
ทันใดนั้น มังกรไฟหมุนตัว และโถมเข้ามาหาฉู่ชวิ๋นอีกครั้ง
ผลั่ก!
ฉู่ชวิ๋นซัดกำปั้นใส่หัวขนาดใหญ่เหมือนภูเขาของมังกรไฟ แต่แรงกระแทกที่เกิดขึ้น ก็ทำให้ชายหนุ่มลอยกระเด็นตกลงมาในทะเลสาบลาวาเสียงดังตู้ม สะเก็ดลาวาพลันกระเด็นไปทุกหนทุกแห่งทันที
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มตกลงมาในทะเลสาบลาวาแล้ว มังกรไฟก็ส่งเสียงคำรามด้วยความชอบใจ สองตาจ้องมองตำแหน่งที่ฉู่ชวิ๋นตกลงไปเขม็ง
หลังจากที่ฉู่ชวิ๋นตกลงมาในทะเลสาบลาวา เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ก็หลอมละลาย ร่างกายของเขาเปลือยเปล่าอยู่ท่ามกลางความร้อนแรง
“อ้ากกก….อ้าว สบายตัวจังแฮะ!” ผิวหนังของฉู่ชวิ๋นเปล่งแสงสว่างเรืองรองเหมือนแก้วคริสตัล ผิวหนังของเขาสามารถทนทานการกัดกร่อนของลาวาได้!
ด้วยความที่มีโครงกระดูกมังกรอยู่ในร่างกาย และเคยอาบเลือดมังกรมาแล้ว ความร้อนของลาวาไม่อาจทำอะไรผิวหนังของฉู่ชวิ๋นได้ นอกจากนั้น มันยังกลายเป็นธาตุสำคัญ ช่วยบำรุงผิวหนังและกระดูกให้เขาโดยไม่รู้ตัว
ฉู่ชวิ๋นว่ายวนอยู่ในทะเลสาบลาวาเหมือนเป็นปลาตัวหนึ่ง ความร้อนของลาวาช่วยบำรุงผิวหนังและกระดูกทำให้รู้สึกสบายผ่อนคลายไม่ต่างจากอยู่ในบ่อน้ำพุร้อน
ฉู่ชวิ๋นว่ายน้ำตรงเข้าไปหาดอกบัวแดงกลางทะเลสาบ
ดอกบัวแดงมีก้านขนาดเท่ากับแขนเด็กข้างหนึ่ง ก้านของมันทอดยาวลึกลงไปใต้ทะเลสาบ
ฉู่ชวิ๋นขยับเข้าไปดมกลิ่นดอกบัวแดง ก่อนที่จะอ้าปากลองกัดกินคำหนึ่ง
กร๊วบ!
รสชาติหวานและอร่อยเหมือนกับอ้อยชั้นดี ฉู่ชวิ๋นลองกัดอีกคำ แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ลิ้มรสชาติมัน ก้านบัวแดงก็ละลายในปาก ไหลลงสู่กระเพาะอาหารของเขาแล้ว
เส้นเลือดในร่างกายของชายหนุ่มเปล่งประกาย อวัยวะภายในระเบิดลำแสงเจิดจ้า โครงกระดูกของเขาเปล่งแสงสีทองเรืองรอง เขาไม่รู้สึกว่าร่างกายของเขาจะสบายแบบนี้มานานแล้ว
แน่นอนว่ามันเป็นยาเสริมลมปราณ ฉู่ชวิ๋นรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายของตนเองแข็งแกร่งมากขึ้น ดูเหมือนว่ามันจะแสดงสรรพคุณออกมาให้เขาเห็นแล้วจริง ๆ
ฉู่ชวิ๋นตัดสินใจดำน้ำลงไปที่ใต้ทะเลสาบ เพื่อค้นหาดอกบัวแดงดอกอื่น ทะเลสาบลาวาแห่งนี้มีความลึกทั้งหมดประมาณ 100 เมตร
เมื่อชายหนุ่มลงมาถึงก้นทะเลสาบ เขาก็เห็นว่าที่พื้นด้านล่างมีรู ปล่อยลาวาอยู่จำนวนหลายสิบรู และในจำนวนรูเหล่านี้ก็มีก้านบัวแดงโผล่พ้นออกมาเป็นจำนวนมาก
ฉู่ชวิ๋นดำน้ำตรงเข้าไปกัดกินก้านบัวแดงเหล่านั้นโดยไม่รอช้า เมื่อเขาขยับตัวสองเมตร เขาจะกินก้านบัวแดงก้านละหนึ่งคำ…ดำเนินไปเช่นนี้วนไปวนมาไม่รู้จบ ฉู่ชวิ๋นกัดกินพวกมันก้านละหนึ่งคำโดยไม่คิดอะไรอีกแล้ว
ก้านบัวแดงที่ก้นทะเลสาบมีอยู่เป็นจำนวนมาก ฉู่ชวิ๋นกัดกินพวกมันทีละคำจนรู้สึกอิ่มท้องในที่สุด
ชายหนุ่มรู้สึกว่าพลังของตนเองเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน เรียกได้ว่าสภาพร่างกายของเขาในตอนนี้สมบูรณ์แบบในทุก ๆ ด้าน
บรรดาดอกบัวแดงที่อยู่ก้นทะเลสาบถูกกัดกินไปเพียงแค่ดอกละหนึ่งคำ ดังนั้น จึงไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับดอกของมันสักเท่าไหร่ เมื่อผ่านช่วงระยะเวลาหนึ่งไปแล้ว พวกมันก็จะฟื้นตัวขึ้นมาเอง
แต่ดอกบัวแดงเหล่านี้มีอายุเท่าไหร่แล้วนะ? ฉู่ชวิ๋นไม่อยากคิดเลยว่าตนเองเป็นผู้ที่ทำให้พวกมันมีหน้าตาแหว่งเว้าไปเช่นนี้
ฟู่!
ฉู่ชวิ๋นพุ่งตัวกลับขึ้นมาบนผิวทะเลสาบลาวาอีกครั้ง ดอกบัวแดงที่อยู่เหนือผิวน้ำปรากฏขึ้นตรงหน้า ฉู่ชวิ๋นไม่ลังเล รีบเอื้อมมือออกไปเด็ดมันมาเก็บไว้ในแหวนเก็บสมบัติทันที
มังกรไฟหลงคิดว่าฉู่ชวิ๋นตกตายใต้ทะเลสาบลาวาไปแล้ว อยู่ดี ๆ ชายหนุ่มก็กลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง นอกจากจะไม่ได้ตกตายแล้ว กลับยังหยิบดอกบัวที่มันเฝ้าอารักขาไปหน้าตาเฉยอีกด้วย
โฮก!
มังกรไฟคำรามด้วยความโกรธแค้น อ้าปากกว้าง พุ่งตรงเข้าไปหมายจะกัดฉู่ชวิ๋น
“พูดอะไรของแก ฉันฟังไม่รู้เรื่อง?” ฉู่ชวิ๋นยกมืออุดหูตัวเองโดยเร็ว ก่อนที่จะลอยตัวขึ้นจากทะเลสาบ พุ่งตรงเข้าไปหาปากของมังกรไฟ
ควับ!
มังกรไฟกัดอย่างดุร้าย มะ …ไม่สิ มันไม่สามารถกัดได้ เพราะปากของมันไม่สามารถหุบลงมาได้อีกแล้ว
นั่นก็เป็นเพราะว่าฉู่ชวิ๋นยืนอยู่ตรงกลางระหว่างปากของมัน มือของเขาดันเขี้ยวแหลมที่อยู่ด้านบน เท้าของเขาก็ยันเขี้ยวแหลมที่อยู่ด้านล่าง ทำให้มังกรไฟไม่สามารถหุบปากงับลงมาได้
มังกรไฟส่งเสียงคำราม พยายามสะบัดศีรษะอย่างแรง
“จะเลิกเห่าได้หรือยัง? รู้ตัวไหมว่าแกปากเหม็นชะมัด” หลังจากฉู่ชวิ๋นพูดจบแล้ว เขาก็ระเบิดพลังลมปราณออกจากมือและเท้าของตัวเอง
กร๊อบ กร๊อบ…!
เสียงกระดูกแตกหักดังถนัดหู ทั้งฟันบนและฟันล่างของมังกรไฟ มีอันหลุดกระเด็นไปเพราะฉู่ชวิ๋นอย่างละซี่
มังกรไฟส่งเสียงโหยหวนด้วยความเจ็บปวดและโกรธแค้น
“ลองส่งเสียงอีกครั้งสิ ฉันจะเลาะฟันแกให้หมดปากเลย” ฉู่ชวิ๋นกระโดดออกจากปากของมังกรไฟและกลับลงไปที่ทะเลสาบลาวาอีกครั้ง
โฮก!
มังกรไฟตกอยู่ในสภาวะโกรธแค้นบ้าคลั่ง เขี้ยวศักดิ์สิทธิ์ของมันแตกหักไปอย่างนี้ จะไม่ให้มันโกรธแค้นได้อย่างไร
หางขนาดใหญ่ถูกฟาดเข้าใส่ฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นยามอยู่ในทะเลสาบลาวามีความคล่องแคล่วเหมือนมัจฉาตัวหนึ่ง สามารถหลบหนีได้อย่างง่ายดาย
ฟู่!
ผิวลาวาถูกหางมังกรฟาดกระจาย ละอองลาวาระเบิดตัวสูงขึ้นไปหลายสิบเมตร
มังกรไฟมีร่างกายที่ใหญ่โตเกินไป เมื่อมันหมุนตัวในทะเลสาบ ก็ก่อให้เกิดเป็นคลื่นขนาดใหญ่ขึ้นมาแล้ว คลื่นลาวาเหล่านั้นซัดตรงมาที่ฉู่ชวิ๋น พยายามจะหลอมเหลวเขาให้กลายเป็นดินโคลน
ฉู่ชวิ๋นลอยตัวขึ้นจากทะเลสาบ และกระโดดไปยืนบนหัวของมังกรไฟ เขาสะบัดมือวูบ แล้วกระแทกพลังลมปราณใส่หัวของมัน
เปรี้ยง!
เมื่อถูกพลังลมปราณกระแทกเข้าใส่อย่างแรง หัวของมังกรไฟก็จมหายลงไปใต้ผิวลาวาทันที
มังกรไฟร้องคำราม โผล่หัวกลับขึ้นมาจากผิวลาวา แล้วสะบัดศีรษะอย่างแรง พยายามจะสลัดฉู่ชวิ๋นให้หลุดไปจากหัวของมัน
ฉู่ชวิ๋นใช้ทั้งมือทั้งขาเกาะเขาบนหัวมังกรไฟเอาไว้แน่น ไม่ว่าสลัดอย่างไร ตัวคนก็ไม่มีทางหลุด
มังกรไฟโกรธแค้นแทบคลั่งตาย มันพุ่งตัวขึ้นสูง เอาหัวโขกกำแพงหิน อุโมงค์ใต้ดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ก้อนหินบนกำแพงร่วงหล่นลงมา เกิดรอยแตกร้าวขนาดใหญ่
ผลั่ก…!
หลังจากนั้น มังกรไฟก็ไล่เอาหัวตัวเองไปโขกตามก้อนหินใหญ่ ๆ อย่างไม่หยุดหย่อน ถ้ำใต้ดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงมากขึ้น เริ่มมีก้อนหินบนเพดานถ้ำร่วงหล่นลงมาเกรียวกราว
“ใจเย็น ๆ ก่อนสิเฮ้ย” ฉู่ชวิ๋นใช้แขนข้างหนึ่งยึดเขาของมังกรไฟไว้ไม่ยอมปล่อย ส่วนแขนอีกข้างก็กระแทกหมัดออกไปอีกครั้ง
ผลั่ก!
มังกรไฟเจ็บปวดสุดขีด ฉู่ชวิ๋นต่อยหัวมันอีกแล้ว หัวของมังกรไฟกระแทกลงไปฟาดกับพื้นดิน เกิดเป็นรอยแตกร้าวขนาดใหญ่
ผลั่ก…!
ฉู่ชวิ๋นรัวหมัดต่อยหัวมังกรไฟอย่างต่อเนื่องสิบกว่าครั้ง ผิวหนังและเศษเนื้อของมังกรปลิวว่อนในอากาศ เกล็ดมังกรหลายแผ่นหลุดล่อนออกมา
มังกรไฟร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่จะพุ่งกลับลงไปในทะเลสาบลาวาอย่างไม่มีทางเลือก