จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) - บทที่ 444 การต่อสู้ของจิ่วโยว
บทที่ 444 การต่อสู้ของจิ่วโยว
จิ่วโยวยืนอยู่บนแผ่นหลังช้างเผือก กระบองช่อหนามทองคำอยู่ในมือของเธอ
“ตายซะเถอะ!”
จิ่วโยวกระโดดลงจากหลังช้างเผือกพร้อมกับควงกระบองในมือ ร่างของเด็กหญิงพุ่งทะยานเหมือนนกอินทรีถลาลม นำหน้าทุกคนเปิดฉากสังหารจิ้งจอกปีศาจ
“องค์หญิงจิ่วโยว ทำแบบนี้มันมากเกินไปแล้ว”
จิ้งจอกปีศาจที่มีพลังระดับ 9 คำรามด้วยความโกรธแค้น กระโดดเข้าไปเผชิญหน้ากับจิ่วโยว
จิ่วโยวออกคำสั่งให้ผู้ติดตามทุกตัวเริ่มต้นลงมือโจมตีได้
เสือใหญ่แสดงฝีมือด้วยความดุร้ายก้าวร้าว มันกระโดดหนึ่งครั้ง ร่างกายก็พุ่งไปไกลนับร้อยเมตร
จิ้งจอกปีศาจเหล่านั้นไม่มีโอกาสได้ตอบโต้ ก็ถูกฆ่าตายไปก่อนที่จะรู้ตัวเสียอีก
จิ่วโยวควงกระบองช่อหนามในมือ เปล่งแสงสว่างสีทองคำระยิบระยับ แต่จิ้งจอกปีศาจระดับ 9 ก็เคลื่อนไหวหลบหลีกด้วยความรวดเร็วยิ่งนัก
เปรี้ยง!
เสียงระเบิดดังสนั่นกลางอากาศ ก้อนหินที่ตั้งอยู่รายล้อมบริเวณระเบิดตูมตามอย่างน่าหวาดกลัว
จิ้งจอกปีศาจเหล่านี้สามารถใช้ได้ทั้งกรงเล็บ เขี้ยวแหลมและหางของมันเป็นอาวุธได้หมด
วูบ!
หางของจิ้งจอกปีศาจระดับ 9 ตวัดกวัดแกว่งเหมือนกับแส้โลหะ ยามที่มันเคลื่อนกายเข้าใกล้จิ่วโยว กระแสลมก็ปั่นป่วนรุนแรงขึ้นในพริบตา
จิ่วโยวคำรามออกมา โคจรลมปราณลงไปที่อาวุธในมือกระบองช่อหนามระเบิดประกายสีทองคำเจิดจ้า ประกายสีทองคำเหล่านั้นปรากฏเป็นคลื่นพลังพุ่งเข้าใส่หางของจิ้งจอกปีศาจเต็มแรง
แต่จิ้งจอกปีศาจระดับ 9 มีความยืดหยุ่นของร่างกายที่สูงมาก มันสามารถหมุนตัวได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะตวัดกรงเล็บซึ่งเหมือนตะขอเหล็กลงมาที่จิ่วโยว
จิ่วโยวดีดตัวขึ้นกลางอากาศสูงราว 10 เมตร แล้วกระบองทองคำก็ส่งแสงเป็นประกายอีกครั้ง เมื่อเธอฟาดมันเข้าใส่ช่วงเอวของจิ้งจอกปีศาจ
จิ้งจอกปีศาจลงมือพลาดเป้าหมาย จึงระวังตัวอยู่ก่อนแล้ว มันหมุนตัวหลบ พร้อมกับสะบัดหางใส่ร่างของเด็กหญิงที่กำลังร่วงหล่นลงมา
เปรี้ยง!
หางของมันปะทะเข้ากับกระบองทองคำ ร่างของจิ่วโยวลอยกระเด็นไปทันที
จิ่วโยวสีหน้าเย็นชาในขณะที่หมุนตัวตีลังกากลับลงสู่พื้นดิน เมื่อเธอตวัดกระบองทองคำในมือ พลังลมปราณก็พุ่งใส่จิ้งจอกปีศาจผู้เป็นคู่ต่อสู้
เมื่อเห็นดังนั้น จิ้งจอกปีศาจก็พยายามกระโดดหนีโดยเร็วไว
จิ่วโยวคำนวณการเคลื่อนไหวจังหวะนี้ล่วงหน้าไว้แล้ว จึงตวัดกระบองขวางหน้าจิ้งจอกปีศาจไว้ ก่อนที่จะหมุนตัวแล้วฟาดมันเข้ากับกลางลำตัวของจิ้งจอกปีศาจเต็มแรง
ตู้ม!
ลมปราณสีทองระเบิดเจิดจ้า จิ้งจอกปีศาจร้องโหยหวน กลางลำตัวของมันมีเลือดไหลโชก ผิวหนังเปิดออก เผยให้เห็นบาดแผลเหวอะหวะในขณะที่ตัวลอยกระเด็นไปไกล
เมื่อร่างของมันร่วงหล่นกระแทกพื้น ดวงตาจิ้งจอกก็สาดประกายดุร้ายขณะจ้องมองจิ่วโยว หลังจากนั้น มันก็ตะกุยสี่เท้าพุ่งกายเข้าหาจิ่วโยวด้วยความดุดัน
พื้นดินใต้เท้าจิ่วโยวระเบิดตัว เด็กหญิงหมุนตัวตีลังกากลางอากาศพุ่งเข้าหาจิ้งจอกปีศาจ ในวินาทีที่เกิดการปะทะกัน จิ่วโยวพลันลอยตัวขึ้นบนท้องฟ้าอีกครั้ง กระบองทองคำในมือของเธอเปล่งประกายเจิดจ้า มวลพลังลมปราณที่แข็งแกร่งทะลักทลายออกมา…
เปรี้ยง!
เมื่อเกิดการระเบิดของลมปราณสีทอง ร่างของจิ้งจอกปีศาจก็ลอยกระเด็นกลิ้งไปหลายตลบ ผิวหนังของมันฉีกขาด เลือดสีแดงสดสาดกระจาย
โครม!
จิ้งจอกปีศาจกระแทกเข้ากับก้อนหินใหญ่ ก่อนที่จะนอนแน่นิ่งอยู่กับที่
“พยายามได้ดี แต่ก็อ่อนหัด” จิ่วโยวยกกระบองช่อหนามชี้หน้าจิ้งจอกปีศาจ ใบหน้าน่ารักน่าชังของเด็กหญิงเต็มเปี่ยมไปด้วยความเหยียดหยาม
ช่วงกลางลำตัวของจิ้งจอกปีศาจมีเลือดไหลโชก มันมีพลังขั้นจักรพรรดิระดับ 9 แต่กลับไม่อาจรับมือจิ่วโยวที่มีพลังเพียงขั้นจักรพรรดิระดับ 8 ได้เลย ผลการต่อสู้ครั้งนี้ ทำให้มันแทบคลั่งตาย
บัดนี้ เสียงกรีดร้องดังก้องกังวานทั่วบริเวณ จิ้งจอกปีศาจขั้นจักรพรรดิระดับ 7 สองตัวถูกเสือใหญ่ผู้ติดตามจิ่วโยวปลิดชีวิตตายคาที่
โฮก!
สิงโตทองคำอวดพลังของตนเองบ้าง เสียงคำรามของมันดังสะท้อนก้องทั่วหุบเขา จิ้งจอกปีศาจขั้นจักรพรรดิระดับ 7 ตัวสั่นเทา สิงโตทองคำอาศัยจังหวะนี้พุ่งเข้าไปงับหัวของฝ่ายตรงข้ามด้วยความโหดเหี้ยม
แต่ผู้ที่ลงมือด้วยความรุนแรงที่สุดกลับเป็นช้างเผือก มันมีลมปราณสีขาวห่อหุ้มร่างกาย ขาทั้งสี่ข้างที่ใหญ่โตเหมือนกับเสาหิน เหยียบย่ำพวกจิ้งจอกปีศาจระดับจักรพรรดิขั้นแรกเริ่มร่างกายแหลกเหลวไปตัวแล้วตัวเล่า
จิ้งจอกปีศาจขั้นจักรพรรดิระดับ 9 ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของจิ่วโยว มองเห็นเหตุการณ์รอบตัว พลัน ต้องออกคำสั่งเสียงเข้มว่า “พวกเราถอย”
กลุ่มจิ้งจอกปีศาจที่เหลืออยู่ ต่างก็รีบหมุนตัววิ่งหนีกลับขึ้นไปบนภูเขาจิ้งจอกด้วยความเชื่อฟังเป็นอย่างดี
“จะหนีไปไหน?”
จิ่วโยวจะปล่อยให้ศัตรูผู้บาดเจ็บหลบหนีไปง่ายๆ ได้อย่างไร เธอต้องใช้โอกาสที่ฝ่ายตรงข้ามอ่อนแอสังหารทิ้งให้จงได้ นี่คือสิ่งที่ฉู่ชวิ๋นสอนเธอเอาไว้
จิ่วโยวโคจรพลังลมปราณใส่กระบองช่อหนาม ลมปราณสีทองเป็นประกายขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเด็กหญิงหมุนตัว เธอก็กระโดดตามเข้าไปฟาดกระบองใส่จิ้งจอกปีศาจขั้นจักรพรรดิระดับ 9 ตัวนั้น
เมื่อเห็นดังนั้น จิ้งจอกปีศาจที่มีขั้นจักรพรรดิระดับ 9 ก็หมุนตัวกลับมา พร้อมกับฟาดหางหมายจะสังหารจิ่วโยวเช่นกัน
ฟู่!
กลุ่มควันสีเหลืองพลันพวยพุ่งออกมาจากบริเวณก้นของจิ้งจอกปีศาจ หมอกควันนี้ฟุ้งในอากาศ ส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวล
จิ่วโยวเผลอตัวสูดดมเข้าไป ก็ให้รู้สึกวิงเวียนศีรษะ อยากจะอาเจียนอาหารมื้อดึกที่รับประทานเข้าไปเหลือเกิน กลิ่นมันเหม็นมากเกินไปแล้ว
แต่ละอองควันพิษไม่ได้ส่งผลแค่กับเด็กหญิงคนเดียวเท่านั้น
เสือใหญ่ สิงโตทองคำ และบรรดาสัตว์ป่าชนิดอื่นๆ ก็ได้รับชะตากรรมเช่นเดียวกัน จิ้งจอกปีศาจปล่อยควันพิษออกมาทำให้พวกมันมีสติสับสน แถมยังใช้หมอกเหล่านั้นอำพรางร่างกายได้อีกด้วย
กลุ่มสัตว์ป่าที่เหลืออยู่รีบวิ่งหลบหนี พยายามหลีกเลี่ยงหมอกควันพิษ
จิ่วโยวยกมือขึ้น ปล่อยพลังลมปราณออกมา ขับไล่ควันพิษเหล่านี้ออกไป
เมื่อหันกลับไปมองพวกของสิงโตทองคำและสัตว์ป่าชนิดอื่นๆ เด็กหญิงก็พบว่าพวกมันกำลังอ้วกแตกอ้วกแตน บางส่วนถึงขั้นกำลังจะเป็นลมหมดสติแล้ว
“ไอ้พวกจิ้งจอกไร้ยางอาย” เสือใหญ่ด่าไปด้วยอาเจียนไปด้วยในเวลาเดียวกัน
“ผายลมของมันรุนแรงยิ่งกว่าเสียงคำรามของฉันอีกนะเนี่ย” สิงโตทองคำอาเจียนออกมากองใหญ่
“ในโลกนี้มีใครใช้กลยุทธ์ที่สกปรกหยาบคายแบบนี้ด้วยหรือ ฉันอยากจะฆ่าพวกแกให้สูญพันธุ์จริงๆ” ช้างเผือกที่มีร่างกายขาวสะอาดเหมือนหยกขาว จึงมีนิสัยรักความสะอาด ย่อมรับไม่ได้กับการโจมตีที่สกปรกเช่นนี้
“เราตามขึ้นไปฆ่าพวกมันบนภูเขากันเลยดีกว่า” จิ่วโยวพูดด้วยความเคียดแค้น จิ้งจอกปีศาจอาศัยจังหวะชุลมุนเมื่อสักครู่นี้หลบหนีไปได้แล้ว ทำให้เด็กหญิงรู้สึกเจ็บใจยิ่งนัก
“พวกเราบุกขึ้นไปฆ่ามันกันเถอะ”
กลุ่มสัตว์ป่าร้องคำราม ก่อนที่จะเดินหน้าปีนขึ้นไปบนภูเขาจิ้งจอกทีละตัว
ณ ยอดเขาจิ้งจอก ชายชราสองคนยืนเอามือไขว้หลัง ข้างกายของพวกมันคือจิ้งจอกปีศาจระดับ 9 ผู้ได้รับบาดเจ็บ จิ้งจอกตัวนี้ก้มหัวด้วยความเคารพ มันยังคงไม่พูดอะไรออกมา เนื่องจากไม่กล้าขัดบทสนทนาของชายชราทั้งสองคน
หนึ่งในชายชรามีสีหน้ายุ่งเหยิง เส้นผมและหนวดเคราของมันเป็นสีเหลืองสลวยสวยงาม ชายชราหันหน้ากลับมา ขมวดคิ้วถามจิ้งจอกปีศาจว่า “เจ้าบาดเจ็บมาหรือ?”
“เหล่าชี องค์หญิงจิ่วโยวมีพลังแค่ขั้นจักรพรรดิระดับ 8 ก็จริง แต่ฝีมือนางแข็งแกร่งมากขอรับ” จิ้งจอกปีศาจขั้นจักรพรรดิระดับ 9 ค้อมศีรษะลงต่ำ
*เหล่าชี คือ ผู้อาวุโสลำดับที่ 7
“ไม่ได้เรื่อง” ผู้อาวุโสลำดับที่ 7 ซึ่งมีนามว่าหูฉือเอินพูดด้วยความเดือดดาล
จิ้งจอกปีศาจก้มหัวต่ำมากกว่าเดิม ไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้ว
ในขณะนี้ ชายชราอีกคนหนึ่งลืมตาขึ้นมา ดวงตาของมันมีสีน้ำเงินแปลกประหลาด เช่นเดียวกับริ้วรอยบนใบหน้า เพียงแค่เหลือบตามองเท่านั้น ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวสั่นด้วยความหวาดกลัวได้แล้ว
“นางเป็นคนใกล้ชิดของจอมมารฉู่ชวิ๋น ย่อมต้องมีฝีมือไม่ธรรมดา”
เมื่อพูดถึงจอมมารฉู่ชวิ๋น หูฉือเอินและจิ้งจอกปีศาจระดับ 9 ก็หันขวับไปมองหน้าชายชราคนพูดทันที
“เผ่าพันธุ์มนุษย์จิ้งจอกของข้าฟื้นตื่นขึ้นมาช้าเกินไป ไม่ทราบว่าจอมมารฉู่ชวิ๋นมีฝีมือทัดเทียมฟ้าดินขนาดนั้นเชียวหรือ?” หูฉือเอินถามด้วยความไม่อยากเชื่อ
ชายชราพยักหน้าและตอบว่า “พลังของเขายิ่งกว่าทัดเทียมฟ้าดิน ผู้อาวุโสของบรรดาสัตว์ร้ายกลายพันธุ์ที่ตื่นขึ้นมาก่อนหน้านี้ ล้วนแต่ต้องตายด้วยน้ำมือของจอมมารฉู่ชวิ๋นทั้งสิ้น รวมถึงผู้อาวุโสลำดับที่ 10 และหวงเซิงผู้อาวุโสลำดับที่ 8 ของเผ่าพันธุ์ข้าด้วยเช่นกัน”
ชายชราผู้นี้ก็คือผู้อาวุโสลำดับที่ 7 ของเผ่าพันธุ์พังพอนปีศาจ มีนามว่าหวงหยิน
หูฉือเอินสีหน้าแปรเปลี่ยนไปแล้ว กล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นเราเกิดทำอันตรายต่อองค์หญิงจิ่วโยวขึ้นมา จอมมารฉู่ชวิ๋นไม่โกรธแย่หรือ?”
หวงหยินส่ายศีรษะและยิ้มออกมาเล็กน้อย “ตอนนี้ไม่มีใครทราบว่าจอมมารฉู่ชวิ๋นยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว เราไม่ต้องกังวลถึงเรื่องนั้นหรอก วันนี้ถ้าเราเก็บกวาดงานให้เรียบร้อย นอกจากท่านกับข้าแล้ว แม้แต่สวรรค์ก็ไม่มีทางรู้เด็ดขาดว่าพวกเราเป็นคนฆ่าองค์หญิงจิ่วโยว แล้วจะต้องเป็นกังวลไปใย?”
เมื่อหูฉือเอินได้ยินแบบนี้ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“น้องหู เตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดี เหล่าลิ่วของพวกข้าฟื่นตื่นขึ้นมาแล้ว ในขณะนี้กำลังเดินทางไปเจรจากับพวกสัตว์ร้ายทุกสายพันธุ์ หวังรวมพวกเราเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อไปโค่นล้มตระกูลฉู่ในเร็ววัน” หวงหยินพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
*เหล่าลิ่ว คือ ผู้อาวุโสลำดับที่ 6
หูฉือเอินมีสีหน้ามึนงงเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดด้วยความเคารพนบนอบว่า “เหล่าลิ่วของท่านไม่ใช่ทะลวงสู่ระดับเซียนแล้วหรือ? เช่นนี้ ข้าเชื่อว่าคงไม่มีเผ่าพันธุ์ไหนปฏิเสธพวกท่านเป็น”
“น้องหู ท่านกับข้าเรารู้จักกันมาเป็นพันปี เหล่าลิ่วเองก็เข้าใจความต้องการของท่านเป็นอย่างดี เมื่อเราแก้แค้นตระกูลฉู่ได้สำเร็จ เหล่าลิ่วจะช่วยมอบความยิ่งใหญ่ให้แก่เผ่าพันธุ์จิ้งจอกปีศาจเอง” หวงหยินพูดแล้วยิ้มกว้าง
หูฉือเอินตื่นเต้นเป็นที่สุด ความจริงแล้ว เผ่าพันธุ์จิ้งจอกปีศาจเป็นเพียงแค่สาขาหนึ่งของเผ่าพันธุ์จิ้งจอกเก้าหางเท่านั้น สิทธิและอำนาจส่วนใหญ่ยังขึ้นตรงต่อเผ่าพันธุ์จิ้งจอกเก้าหาง ส่วนเผ่าพันธุ์จิ้งจอกปีศาจของมันเป็นแค่เพียงผู้รับใช้เท่านั้น
เผ่าพันธุ์จิ้งจอกมีแยกย่อยอยู่หลายสายพันธุ์ และทุกสายพันธุ์ต่างก็หวังว่าตนเองจะสามารถเป็นอิสระ และมีชื่อเสียงยิ่งใหญ่เกรียงไกร เหมือนเผ่าพันธุ์จิ้งจอกเก้าหางได้สักวันหนึ่ง
ทันใดนั้น จิ้งจอกตัวหนึ่งเดินเข้ามารายงานว่า “ผู้อาวุโสขอรับ พวกมันมากันแล้ว”
หูฉือเอินหันไปยิ้มให้กับหวงหยิน
“มาแล้วก็ดี” หวงหยินยิ้มออกมาเล็กน้อย
สัตว์ป่าขนาดใหญ่ยักษ์หลายสิบตัว บุกขึ้นมาบนภูเขาจิ้งจอก ภายใต้การนำขบวนของจิ่วโยว
“ว่ากันว่าจอมมารฉู่ชวิ๋นเป็นพวกแค้นฝังหุ่น เขาจะรู้สึกอย่างไรบ้างนะ ถ้ารู้ว่าพวกเราเป็นคนฆ่าองค์หญิงจิ่วโยว?” หูฉือเอินยิ้มกริ่ม
“รู้แล้วจะทำไม? เหล่าลิ่วของพวกข้าเป็นถึงผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเซียน ยุคสมัยของจอมมารฉู่ชวิ๋นได้ผ่านพ้นไปแล้ว” หวงหยินมีแววตาเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง
สถานการณ์ในตอนนี้ เผ่าพันธุ์พังพอนปีศาจแทบจะล่มสลาย เหลือจำนวนสมาชิกอยู่เพียงแค่หยิบมือเดียว ส่วนสมาชิกที่ฟื้นตื่นขึ้นมาก่อนหน้านี้ ถูกจอมมารฉู่ชวิ๋นสังหารทิ้งไปหมดสิ้น ความแค้นครั้งนี้ไม่มีวันให้อภัยได้เด็ดขาด
ทุกคนล้วนทราบดีว่าพังพอนเป็นสัตว์ที่อาฆาตแค้นมากขนาดไหน
“สั่งให้พวกเราถอนกำลังไปก่อน” หูฉือเอินออกคำสั่ง
การต่อสู้ครั้งนี้ผู้เข้าต่อสู้มีเพียงจิ้งจอกปีศาจที่มีพลังขั้นจักรพรรดิระดับสูงเท่านั้น ถ้ามีพลังต่ำต้อยก็จะตกตายโดยเปล่าประโยชน์ ยิ่งตอนนี้จำนวนสมาชิกในเผ่าพันธุ์ของมันยังไม่มากนัก ความตายของบริวารแต่ละครั้ง ทำให้หูฉือเอินรู้สึกปวดใจยิ่ง
กลุ่มจิ้งจอกปีศาจที่มีระดับพลังไม่ถึงขั้นจักรพรรดิ ต่างก็พร้อมใจกันล่าถอยและรีบไปหลบซ่อนตัวทันที ปล่อยให้จิ้งจอกปีศาจระดับสูงจัดการศึกครั้งนี้ต่อไป
หูฉือเอินกับหวงหยินต่างก็มีพลังอยู่ในขั้นจักรพรรดิระดับ 9 ทั้งคู่
เมื่อรวมดูแล้ว ก็พบว่าเผ่าพันธุ์จิ้งจอกปีศาจ มีผู้มีพลังขั้นจักรพรรดิระดับ 9 อยู่ราว 30 กว่าตัว
ก่อนหน้านี้ พวกมันเคยส่งคนลงไปทดสอบฝีมือที่ตีนเขา แต่ก็ถูกพวกของจิ่วโยวฆ่าตายอย่างง่ายดาย ทำให้หูฉือเอินรู้สึกปวดใจมากกว่าเก่า
จิ่วโยวนำบริวารของเธอเดินทางขึ้นมาถึงยอดเขา และได้เผชิญหน้าหูฉือเอินกับหวงหยิน
“องค์หญิงจิ่วโยว อุตส่าห์เดินทางมาถึงภูเขาจิ้งจอกของข้าน้อย พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง” หูฉือเอินยิ้มกว้าง
แต่จิ่วโยวไม่ยอมเล่นด้วย เธอยกกระบองขี้หน้ามัน พูดด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง “จิ้งจอกเฒ่า ไสหัวออกไปจากภูเขาลูกนี้เดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าพวกแกให้หมด”
“องค์หญิงจิ่วโยว เจ้ามีพลังเพียงแค่ขั้นจักรพรรดิระดับ 8 แต่เหิมเกริมนักวันนี้ต่อให้เจ้าพาจอมมารฉู่ชวิ๋นมาด้วย เขาก็ยังไม่กล้าพูดจาสามหาวเช่นนี้เลย” หวงหยินหัวเราะเยาะ
จิ่วโยวเป็นสุดยอดหัวหน้าสัตว์ร้าย มีความรู้สึกปราดเปรียวฉับไว เธอสังเกตได้จากลมหายใจของหวงหยิน ว่ามันแตกต่างไปจากจังหวะหายใจของหูฉือเอิน
“แกไม่ใช่จิ้งจอก? แกเป็นตัวอะไรกันแน่?”
“นับว่ามีสายตาเฉียบแหลมนัก ข้ามาจากเผ่าพันธุ์พังพอนปีศาจ เป็นผู้อาวุโสลำดับที่ 7 มีนามว่าหวงหยิน”