จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 92 โชว์ฝีมือเล็กน้อย
บทที่92 โชว์ฝีมือเล็กน้อย
การเจาะจงของป๋ายอู๋จี้ โล่เฉินและอีกสามคนไม่ค่อยสนใจ
แค่ตระกูลป๋าย แม้จะเป็นเจ้านายของหลินสุ่ยแล้วยังไงล่ะ ต่อหน้าตระกูลเสี้ยงก็เป็นแค่มด ในสายตาโล่เฉิน ยิ่งไก่อ่อนเข้าไปใหญ่
ป๋ายอู๋จี้หยุดอย่างพอประมาณจะดีที่สุด หากเขายังคงยุ่งอีก เขาไม่รังเกียจที่จะให้นายน้อยตระกูลป๋ายเปลี่ยนเป็นคนอื่นแทน
"พี่โล่คะ"
หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เสี้ยงฉ่ายเอ่อรู้สึกว่าเธอและโล่เฉินใกล้ชิดกันมากขึ้น ดังนั้นจึงเปลี่ยนชื่อเรียก
"ว่าไง?"
"ปิ่นนั้นไม่ธรรมดาเหรอ?ถ้านายอยากได้ ฉันจะติดต่อตระกูลไปจัดการ และให้ตระกูลป๋ายส่งปิ่นให้นายอย่างเชื่อฟัง"
เสี้ยงฉ่ายเอ่อพูดอย่างมีอำนาจมาก ตระกูลเสี้ยงมีความสามารถนี้จริงๆ
โล่เฉินส่ายหัวและยิ้มพูดว่า:"ไม่ ฉันดูผิดไปเอง ตอนแรกคิดว่ามันเป็นของดี ภายหลังถึงเห็นว่ามันเป็นแค่ปิ่นหยกเลียนแบบธรรมดา จึงหลอกป๋ายอู๋จี้ได้"
"ฮ่าฮ่าฮ่า พี่โล่ร้ายจริงๆ"
"จะว่าไปก็เป็นเพราะพวกเธอนั่นแหละ"โล่เฉินพูดอย่างเคร่งขรึม "นารีเป็นเหตุ มันเป็นรูปลักษณ์และออร่าของพวกเธอที่ดึงดูดป๋ายอู๋จี้ และฉันเป็นแพะรับบาป"
"เอางี้ พวกเธอใส่แมสสิ"
"ไม่เอา"เสี้ยงเหยาเหยาปฏิเสธทันที"นายเก่งมากไม่ใช่เหรอ คุณปู่ ลุงสาม และพี่สาวต่างก็ชื่นชมนาย งั้นนายต้องดูแลความปลอดภัยของพวกเรา ไม่ว่ายังไงเงินของตระกูลเสี้ยงเราก็ไม่ได้มีไว้ให้นายใช้ฟรีๆ"
"เธออย่าสร้างปัญหาให้ฉันก็พอ"
ตลอดที่ผ่านมา ไม่มีอะไรดีเลย
ข้างหน้า ก็เข้าสู่เขตบู๊ซุกแล้ว
บู๊ซุกในนี้ หมายถึง:นักบู๊และนักพรต
เขตนี้ก็โดดเด่นที่สุด สิ่งที่นักบู๊และนักพรตนำมา ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน อีกอย่าง เจ้าขุนมูลนายต่างก็สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับนักบู๊ นักพรต
นี่คือพลังที่น่ากลัว
"เอ๊ะ"
ไม่นาน จากนั้นโล่เฉินก็เห็นแผงขายของ มีเครื่องประดับสำหรับชายและหญิง และกระดาษยันต์
ดวงตาของเสี้ยงฉ่ายเอ่อประกายขึ้น"กระดาษยันต์ที่วาดโดยนักพรต พี่โล่ เราไปดูกันเถอะ"
มีผู้คนมากมายอยู่หน้าบูธ แต่ละคนที่มีเอกลักษณ์พิเศษ และยังมีนักบู๊และนักพรตอยู่บ้าง
เจ้าของเป็นชายชราผมขาว มีเคราสีขาว แต่เขาไม่น่าจะอายุมากเกินไป ประมาณหกสิบ
เสื้อนักพรต
ดูมีชีวิตชีวา ร่างกายไม่ธรรมดา
"นักพรตเฒ่า ยันต์พิชิตมารนี้ขายยังไง?"
"จะพูดอีกครั้ง ไม่ขาย แลกเปลี่ยนได้เท่านั้น แลกเปลี่ยนกับสมบัติที่มีมูลค่าเท่ากัน หากไม่มีสมบัติ โปรดออกไปด้วยตัวเอง อย่ามาเกะกะคนอื่น"
ชายชรากล่าวอย่างเย็นชา ท่าทีของเขาไม่เป็นมิตรมาก
"หลีกไป!"
ในขณะนี้ มีชายร่างกำยำลุกขึ้นยืน
เป็นนักบู๊ ที่ฝึกฝนกำลังภายใน
แต่ว่ากำลังภายในนั้นน้อยมาก น่าจะบรรลุ แต่เมื่อเทียบกับคนธรรมดา มันก็แข็งแกร่งมากแล้ว
"นักพรต ข้าต้องการกระดาษยันต์ของท่าน ข้าไม่มีสมบัติใด ๆ เดิมทีจะให้เงินท่าน แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว"
ขณะที่เขาพูด ชายร่างใหญ่คว้ากระดาษยันต์สามแผ่น ยัดใส่กระเป๋า และจ้องไปที่ผู้เฒ่า:"ข้าก็ไม่เอาเยอะ ถือว่ากระดาษยันต์สามแผ่นนี้ท่านให้ข้าแล้วกับ ถ้าท่านกล้าพูดว่าไม่ ข้าจะชกหัวท่านจนแตกไปเลย"
เผด็จการ หยิ่งผยอง
ผู้เฒ่ายังคงหรี่ตา ใบหน้าของเขานิ่ง และไม่พูด
เมื่อเห็นเช่นนี้ ชายร่างใหญ่ก็คิดว่าชายชรากำลังกลัวเขา หัวเราะอย่างภาคภูมิใจ และผลักทุกคนออกแล้วไปจากบูธ
ก่อนหน้านี้ทุกคนคิดว่าผู้เฒ่าไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้มีนักบู๊หนึ่งคนเอากระดาษยันต์เดินแกว่งไปมา และนักบู๊คนอื่นๆและนักพรตพลังต่ำก็พร้อมที่จะเคลื่อนไหว
"นักพรตเฒ่า ฉัน……"
นักบู๊สองคนก้าวไปข้างหน้า
แต่หลังจากพูดออกไปไม่กี่คำ มีเพียงเสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่วโลก
ซ่า
เมื่อทุกคนหันหน้าไป ก็พบว่ามีคนไฟกลิ้งอยู่บนพื้นไม่ไกล
คนนั้นคือผู้ชายที่ฉกกระดาษยันต์เมื่อกี้
"อ๊าก!"
"ช่วยฉัน ช่วยฉันด้วย"
ชายร่างใหญ่ร้องโอดโอ้ย ไฟลุกทั้งตัว
ชายชุดดำที่รักษาระเบียบของสำนักผานหลงปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับถือถังน้ำสองสามถัง และสาดชายร่างใหญ่ลงบนร่างของเขา
"ฟู่!"
พอสาดไป ทำให้เปลวไฟมีความรุนแรงมากขึ้น
"อ๊าก"
เสียงกรีดร้องทำให้หนังศีรษะชา
"ช่วย ช่วย……"
ค่อยๆไม่มีเสียง
ประมาณห้านาที เปลวไฟก็ดับลง และชายคนนั้นก็กลายเป็นถ่านไหม้แล้ว
น่าตกใจ
ทุกคนรู้สึกได้ถึงเจตนาฆ่าที่เย็นชา และคำพูดที่เย็นชาของผู้เฒ่าก็มาจากด้านหลัง
"กระดาษยันต์ของฉันไม่ได้จับต้องง่าย ดังนั้นควรเตรียมใจไว้ด้วย"
ตึ๋ง
หัวใจของทุกคนหดตัว และมีความคิดผุดขึ้นมาในใจพร้อม ๆ กัน
นักพรต ยุ่งไม่ได้!
โล่เฉินแอบพยักหน้า ผู้เฒ่าคนนี้ฝีมือไม่ธรรมดา
นักพรต ฝึกฝนพลังทางจิต นั่นคือพลังเนี่ยง พลังทางจิตของผู้เฒ่าแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาหลายเท่า และพลังของกระดาษยันต์ที่วาดนั้นไม่ธรรมดา
เมื่อกี้มันเกิดขึ้นโดยยันต์เพลิง ชายร่างใหญ่ก็ถูกเผาทั้งเป็น
"พี่สาว"
เสี้ยงเหยาเหยาตกใจ จนกอดแขนเสี้ยงฉ่ายเอ่อแน่น
เธอรู้จักนักบู๊เพียงคนเดียว และคิดว่านักบู๊ล้วนเป็นผู้ชายที่บ้าบิ่น มีฝีมือเล็กน้อย ไม่ต้องกังวล
แต่เมื่อกี้นี้ วิธีแสนวิเศษนั้น
เช่นเดียวกับในละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์และตำนาน ทำให้ไฟลุกไหม้ขึ้นมาได้เฉยๆ เทพเจ้าเหรอ?
ในโลกนี้มีเทพเจ้าจริงๆหรือ? !
เสี้ยงเหยาเหยาตัวสั่น และรู้สึกกลัวเป็นครั้งแรก
"พี่โล่ แข็งแกร่งมาก ฉันเคยได้ยินนักพรต แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นวิธีนี้" หัวใจของเสี่ยงฉ่ายเอ๋อก็เต้นรัวเช่นกัน
"เห็นบ่อยๆก็จะชินเอง"
เสี้ยงฉ่ายเอ่อกระซิบถาม"งั้นนักบู๊เก่งกว่า หรือนักพรตเก่งกว่าล่ะ?"
โล่เฉินตกอยู่ในความคิดที่ลึกซึ้ง สักครู่ก็ตอบกลับไป:"แต่ละคนมีข้อดีของตัวเอง นักบู๊มีร่างกายที่แข็งแกร่ง และด้านวิธีการจะอ่อนแอกว่า นักพรตมีวิธีการที่หลากหลาย แต่ร่างกายอ่อนแอ นอกจากนี้ พลังจิตเป็นเรื่องยากที่จะฝึกฝน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้นักพรตนั้นหายากมาก"
เสี้ยงฉ่ายเอ่อพยักหน้าดูเหมือนจะเข้าใจ
ในอีกด้านหนึ่ง เสี้ยงเหยาเหยาแอบดูโล่เฉิน และพบว่าใบหน้าของเขาเรียบเฉย และมีแววตาที่ดูไม่เห็นมีอะไรเลย
เธอไม่พอใจ และแอบคิดว่า:ผู้เฒ่าเก่งขนาดนี้ นายยังดูถูก ไอ้บ้าที่ไม่รู้ว่าตัวเองเก่งมาจากไหน
ชายคนนั้นถูกไฟคลอกตาย และไม่มีใครกล้าขยับ
จากนั้น บางคนก็เอาสมบัติของพวกเขาแลกเปลี่ยนกับผู้เฒ่า มองผ่านแล้วส่ายหัวปฏิเสธทันทีแทบทั้งหมด
ในครึ่งชั่วโมงเต็ม ผู้คนมาและไปเหมือนกันหมด
"ฮึ นักพรตเฒ่านี้มาเพื่อล้อเล่นพวกเรา"
"ใช่ มันไม่ได้อยากแลกเปลี่ยนอย่างจริงใจเลย เมื่อกี้ท่านผู้นั้นเอาโอนิกซ์ออกมา ซึ่งมีค่ามาก ยังไม่แลกเลยด้วยซ้ำ"
"ไปล่ะ ไม่จำเป็นต้องหาเรื่องให้ตัวเองลำบากใจ"
ทุกคนค่อยๆแยกย้ายกันไป
เสี้ยงเหยาเหยาว่า:"พวกเราก็ไปกันเถอะ"
ทันทีที่สิ้นเสียง ก็เห็นโล่เฉินนั่งลง หยิบกระดาษยันต์สองสามแผ่นขึ้นมามองดู แล้วพยักหน้าพูดว่า:"วาดได้ดี แต่ก็มีข้อบกพร่องอยู่มาก"
ทันใดนั้น
เสี้ยงเหยาเหยาหน้าซีด และรีบดึงโล่เฉิน:"นายจะทำอะไรอยู่ อยากตายรึไง ถ้ายั่วนักพรตเฒ่า พวกเราจะตายกันหมด เมื่อกี้นายไม่เห็นตอนจบของชายร่างใหญ่คนนั้นเหรอ? นายบ้าหรือเปล่า!"
"เหยาเหยา อย่ายุ่ง"
เสี้ยงฉ่ายเอ่อดึงเธอไปข้างๆ
ผู้เฒ่าไม่พูดอะไร สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนแปลง
โล่เฉินหัวเราะเบา ๆ :"ไม่เชื่อเหรอ? งั้นก็ฟังให้ดี นี่เป็นเพียงยันต์พิชิตมาร ตอนที่ท่านวาดขีดที่สาม ข้อมือของท่านสั่น และเบี่ยงเบนไปจากรางปกติ0.1 มิลลิเมตร นี่เป็นข้อบกพร่องแรก"
ชิ้ง
ทันใดนั้นผู้เฒ่าก็ลืมตาขึ้น
เช่นเดียวกับดาบที่แหลมคมออกมาจากฝัก มันระเบิดด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์สองดวง
"ข้อบกพร่องที่สอง ตอนขีดที่เก้า เพราะว่าท่านใช้พลังมากเกินไป หลังๆจึงหมดแรงและมีความเร่งรีบในตอนท้าย"
"รวมๆแล้วยันต์ยันต์พิชิตมารนี้พอได้มาตรฐาน"
โล่เฉินวิเคราะห์เสร็จ แล้วถามว่า:"มีกระดาษยันต์และพู่กันหรือไม่?"
ผู้เฒ่ามีสีหน้าเคร่งขรึม แล้วหยิบอุปกรณ์วาดยันต์ออกจากกระเป๋าเดินทาง และส่งให้โล่เฉิน
"เชิญ"
"ท่านดูไว้"
โล่เฉิน เขียนด้วยใจที่เป็นหนึ่งเดียวกัน
เวลาห้าพันปี พลังจิตของเขาถึงระดับที่น่ากลัว ซึ่งผู้เฒ่าเทียบไม่ได้เลย
แต่แล้ว ข้อแรกคือเขาไม่มีแรง และข้อสองเขาไม่ได้จับพู่กันมานานกว่าสิบปี
นอกจากนี้ยังต้องระมัดระวัง
ขยับแล้ว
พู่กันและหมึกของโล่เฉิน ไหลลื่นดั่งมังกรและฟีนิกซ์เต้นรำ
แรกๆผู้เฒ่าประหลาดใจจนถึงตกใจ สุดท่านหายใจอย่างรวดเร็ว และริมฝีปากของเขาสั่น:"นี่มัน นี่มัน….."
ฉากที่ดำเนินการในขณะนี้ ทำให้ความรู้ความเข้าใจของเขาแตกสลายไปอย่างสิ้นเชิง
วาดยันต์ ไม่ใช่ว่าควรระวัง วาดทีละขีดเหรอ?
กระดาษยันต์หนึ่งใบ เขาต้องใช้15นาทีถึงจะวาดออกมาได้ แต่อัตราความสำเร็จมีเพียง 50%
แต่ตอนนี้……
แค่ในระหว่างหายใจเข้าออก โล่เฉินก็หยุดวาด
"ลองดูสิ"
ผู้เฒ่ากลืนน้ำลายด้วยความฮึดฮัด และหยิบกระดาษยันต์ขึ้นมาอย่างสั่น ๆ
ไม่กี่วินาทีต่อมารูม่านตาของเขาหดตัวลงทันที เขากำหมัดแน่นและพูดว่า:"ขอคารวะไต้ซือ"
"ถ่อมตัวหน่อย"โล่เฉินส่ายหัวเล็กน้อย
ผู้เฒ่ารู้ทัน และควบคุมอารมณ์ของเขาได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครสังเกตเห็น
นอกเหนือจากผู้เฒ่า คนที่ตกใจมากที่สุดคือน้องสาวเสี้ยงฉ่ายเอ่อ
เดิมคิดว่าโล่เฉินเป็นเพียงปรมาจารย์บู๊ ไม่คาดคิดเลยว่ะจะสามารถใช้เทคนิคนักพรตได้ นี่ก็คือพรตและบู๊แบบคู่ในตำนานงั้นเหรอ?
เสี้ยงฉ่ายเอ่อใจเต้นแรง และสายตาที่มองโล่เฉินก็ชื่นชมมากขึ้นเรื่อย ๆ
ส่วนเสี้ยงเหยาเหยาเธอตื่นตระหนก
ผู้เฒ่าเป็นเหมือนเทพเจ้าและการดำรงอยู่ที่น่ากลัวเช่นนี้กลับเรียกโล่เฉินว่าไต้ซือ ด้วยความเคารพ
เป็นไปไม่ได้
ไอ้บ้านี่มัน เก่งขนาดนั้นเลยเหรอ!
ฉันทำให้เขาขุ่นเคือง แล้วยังไง จะตายเหมือนชายร่างใหญ่คนนั้นหรือเปล่า?