จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 89 ความยินดีที่ไม่คาดคิด
บทที่ 89 ความยินดีที่ไม่คาดคิด
“ยังกล้าหนี!”
ชายคนนั้นถูกกดลงบนพื้นแต่กลับไหลลื่นเจ้าเล่ห์อย่างยิ่ง เขาส่งเสียงดังราวกับลิงและหนีไปทางประตู
พี่เป้าเห็นดังนั้นก็เตะเขากลับเข้าไป
ขณะกำลังจะเข้าไปเตะซ้ำ กลับได้ยินเสียงของส้งเชี่ยงร้องลั่นขึ้นมาเสียก่อน “โปรดยั้งมือก่อน นั่นคือพี่ชายของฉัน”
"อะไรนะ? "
โล่เฉินมองดูและเห็นว่าชายที่สวมกางเกงขาดๆ นั้นมีหน้าตาคล้ายคลึงกับส้งเชี่ยงอยู่สามส่วนจริงๆ”
ส้งเชี่ยงรีบประคองชายหนุ่มขึ้นมาและเอ่ยอย่างปวดใจ “พี่ชาย ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“น้องสาว พวกเขาเป็นใคร คนของเหล่ากุ่ยหรือ?” ส้งหลงหน้าตาหล่อเหลาอย่างยิ่ง คิ้วคมรูปดาบ สูงถึงร้อยแปดสิบ แต่เพราะขาดสารอาหารจึงทำให้ตัวซูบผอม
ในดวงตาคู่นั้นกลับเต็มไปด้วยประกายกล้าและแฝงความดื้อรั้น
"ไม่ นี่คือพี่โล่เฉิน ส่วนนี่คือพี่เป้า เรื่องมีอยู่ว่า….”
ส้งเชี่ยงเล่าเรื่องให้ฟังคร่าวๆ ส้งหลงทั้งตกใจและซาบซึ้ง เขาคุกเข่าลงทันที: "ขอบคุณคุณทั้งสองที่ยื่นมือช่วยเหลือ ผมส้งหลงซาบซึ้งอย่างยิ่ง หากวันหน้ามีงานใดๆ มอบหมาย ผมจะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน”
“ในห้องมีคนไข้อยู่” โล่เฉินรับรู้ได้ถึงลมหายใจที่แผ่วเบา
ส้งเชี่ยงนึกอะไรออก เธอรีบวิ่งเข้าไปในห้องแล้วร้องอุทาน “แม่ แม่ เกิดอะไรขึ้น?”
“น้องสาว แม่เป็นหมดสติไปแล้ว เวลาอาจจะเหลือไม่มากแล้ว”
ส้งหลงขอบตาแดงก่ำและปาดน้ำตา
อารมณ์เศร้าโศกพลุ่งพล่านขึ้นมา
โล่เฉินเข้าไปในห้องเพื่อตรวจอาการของผู้หญิงคนนั้นในพริบตา ก่อนจะพบว่ามันแย่อย่างยิ่ง และอาจจะไม่สามารถอยู่รอดได้เกินคืนนี้
เขารีบเอ่ยสั่ง “เป้าจื่อ นายรับไปซื้อเข็มเงินมา ยิ่งเร็วยิ่งดี”
"ไม่มีปัญหา” เป้าจื่อรีบพุ่งออกไปทันที
“ส้งหลงส้งเชี่ยง พวกนายออกไป ฉันจะรักษาแม่ของพวกนาย”
“พี่โล่ คุณยังเป็นหมออีกด้วย?”
โล่เฉินหันกลับมาอย่างเย็นชา “ถ้ายังชักช้า วันนี้ปีหน้าก็คือวันครบรอบของแม่นาย”
"อ๊ะ! ครับครับครับ”
ส้งหลงตกใจและรีบดึงส้งเชี่ยงออกจากห้องไปทันที
โล่เฉินหลับตาลง รวบรวมอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นจึงลืมตาขึ้น แสงศักดิ์สิทธิ์สองสายระเบิดออกมา พลังทิพย์บนมือทั้งสองของเขาเคลื่อนไหวพุ่งขึ้นกลายเป็นหยดน้ำเข้าสู่ร่างกายของหญิงสาว
พลังทิพย์สายนั้นไหลผ่านแขนขาเข้าไปตามเส้นเลือดทั้งร่าง
โรคยูรีเมียไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากมาย เหตุผลหลักคือไตไม่สามารถขับพิษออกมาได้ สารพิษทั้งหมดจึงซึมเข้าสู่เลือด
เนื่องจากเธอไม่ได้รับการฟอกเลือดมาเป็นเวลานาน สารพิษในเลือดของเธอจึงอยู่ในระดับที่สูงมาก ใบหน้า ริมฝีปาก และแม้กระทั่งผิวของเธอก็เปลี่ยนสีไปแล้ว
หญิงสาวหน้าตาไม่เลว แต่ตอนนี้มองแล้วกลับดูราวกับปีศาจ น่ากลัวอย่างยิ่ง
สิ่งที่โล่เฉินกำลังจะทำก็คือการใช้พลังทิพย์ชำระล้างสารพิษในเลือดของหญิงสาว
ในโลกนี้ พลังทิพย์สามารถเรียกได้ว่าเป็นพลังงานขั้นสูงสุด เหนือจินตนาการ และมีประโยชน์มากมาย
ทำไมโล่เฉินถึงเป็นผู้ฝึกอมตะ?
ใน 《วิชาอมตะ》
พลังทิพย์ที่เกิดจากการฝึกฝน จะยิ่งบริสุทธิ์ เพิ่มพูน และเข้าปรับปรุงร่างกายของเขาอยู่ตลอดเวลา ทำให้เซลล์ในร่างกายของเขายังคงมีชีวิตอยู่เสมอ อีกทั้งยังส่งเสริมให้อวัยวะต่างๆ ไม่แก่ชรา
นี่เป็นสาเหตุหนึ่ง
ตึงตึงตึง
ท่ามกลางความหม่นหมอง ร่างกายของหญิงสาวราวกับกำลังมีกองกำลังทหารม้าหลายพันนายวิ่งอยู่ ราวกับสายน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก
เห็นได้ว่า สีหน้าม่วงคล้ำของหญิงสาวจางหายไปโดยมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หลังจากสลายไปแล้วผิวหนังทั้งร่างก็เริ่มผลัดเปลี่ยน
สิบห้านาทีต่อมา
โล่เฉินเสร็จงาน ทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ สีหน้าขาวซีดเล็กน้อย และกำลังนั่งลงปรับลมหายใจ
การผลัดเปลี่ยนเลือดของผู้ใหญ่ทั้งร่างไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้งคนยังเป็นคนป่วยใกล้ตาย เส้นเลือดยังเปราะบางถึงขีดสุด
สิ่งนี้ต้องการการควบคุมที่น่ากลัวอย่างยิ่ง หากประมาทเพียงเล็กน้อย พลังทิพย์ก็จะทำลายเส้นเลือดและผลที่ตามมานั้นไม่สามารถคาดเดาได้
โชคดีที่โล่เฉินทำสำเร็จ
จากนั้น เขาก็แค่ใช้เข็มมังกรเก้าหางเพื่อกระตุ้นไตของหญิงสาว ให้ไตของเธอกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
"เข้ามาเถอะ"
เอี๊ยด
ส้งหลงสองพี่น้องรออยู่ที่หน้าประตูอย่างใจจดใจจ่อมานานแล้ว เมื่อได้ยินคำสั่งก็รีบพุ่งเข้าไปทันที
เป้าจื่อเองก็รีบตามเข้าไป
เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของหญิงสาวคนนั้นที่ตอนนี้มีลมหายใจสม่ำเสมอ สองพี่น้องก็ตะลึงงันไป
เป้าจื่อเองก็คิดว่านี่น่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง เขารู้แค่ว่าโล่เฉินเป็นกังฟู แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นหมออีกด้วยถามยังเป็นหมอเทพ
เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเป็นผู้ป่วยยูรีเมียที่กำลังจะใกล้ตาย ใบหน้าม่วงคล้ำ ต่อให้เปลี่ยนไตก็ยังไม่ทันกาล แทบจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เพียงเวลาในช่วงสั้น ๆ ไม่ถึงสิบห้านาที กลับเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ สถานการณ์ดีขึ้นมา
เหลือเชื่อ!
จะเรียกว่าปาฏิหาริย์ก็ยังได้
"ไต้ซือ เข็มเงินที่คุณต้องการ"
"ลำบากแล้ว"
โล่เฉินลุกขึ้นและเอ่ย "พวกเธอวางใจเถอะ ตอนนี้เธอไม่มีอันตรายถึงชีวิตแล้ว จากนี้ไปฉันจะต้องทำขั้นตอนสำคัญอีกขั้นตอนหนึ่งก็คือการกระตุ้นไตของเธอ"
ตุบ
ส้งหลงสองพี่น้องคุกเข่าซาบซึ้งจนน้ำตาไหลพราก
“หมอย่อมต้องมีจรรยาบรรณ นี่คือสิ่งที่ฉันควรทำ ออกไปเถอะ”
ถัดมา โล่เฉินก็ผ่อนคลายอย่างยิ่ง
เข็มมังกรเก้าหาง เขาใช้มันมาห้าพันปีแล้ว ตอนนี้ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะยังไม่ฟื้นตัว แต่เขาก็มีเชี่ยวชาญอย่างยิ่ง
ปลุกการทำงานของไต กระตุ้นให้มันฟื้นตัว
ครึ่งชั่วโมงต่อมา โล่เฉินก็เดินออกจากประตู
“พี่ชาย แม่หายแล้วหรือ?”
โล่เฉินหัวเราะและเอ่ย “ฉันไม่ใช่เซียน ไหนเลยจะเร็วขนาดนั้น ฉันจะต้องฝังเข็มสามครั้ง ยังมีอีกสองครั้ง ระยะห่างกันหนึ่งสัปดาห์ เวลาต่อจากนี้ พวกเธอซื้ออาหารบำรุงมาให้มากหน่อย บำรุงร่างกายแม่ของเธอ ดูแลให้ดีๆ ก็ได้แล้ว”
ส้งเชี่ยงร้องไห้ด้วยความสุข
ส้งหลงกำลังทำท่าจะคุกเข่าอีกครั้ง แต่โล่เฉินหยุดเอาไว้ น้ำเสียงของเขาเคร่งขรึม “ไม่ต้องขอบคุณ สำหรับฉันแล้วนี่เป็นแค่เรื่องเพียงหยิบมือเท่านั้น ฉันดูออกว่านายเป็นลูกกตัญญู พยายามเข้าเถอะ นายคงไม่อยากให้แม่และพี่สาวของนายต้องอยู่ในสลัมไปทั้งชีวิต ถูกต้องไหม”
กึก
ส้งหลงตัวสั่นอย่างแรง
จากนั้น เขาก็พยักหน้าอย่างแน่วแน่ ไม่มีคำพูดใด ๆ
"นี่คือเบอร์โทรศัพท์ของฉัน มีเรื่องอะไรก็โทรมา ฉันไปก่อน"
ในรถ
เป้าจื่อรู้สึกนับถือชื่นชมจนเกินกว่าจะบรรยายออกมา เขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยชม “ไต้ซือ คุณช่างมีเมตตาเสียจริง อีกทั้งยังลึกลับอย่างยิ่งด้วย ผมรู้สึกราวกับว่าไม่มีเรื่องไหนที่คุณทำไม่ได้”
"โลกกว้างใหญ่ คนมีความสามารถมากมายอย่างยิ่ง สายตาของนายคับแคบเกินไป "
เป้าจื่อยิ้มเขินๆ ไม่ได้เอ่ยต่อ
โล่เฉินหลับตาลง และเริ่มปรับลมหายใจ
ตึงตึง
ท่ามกลางความมืด ดูเหมือนคล้ายจะมีเสียงแตกหักบางอย่าง
“หืม? "
โล่เฉินรู้สึกประหลาดใจ เขาพบว่าความแข็งแกร่งของตนเพิ่มขึ้นมาแล้วอีกส่วน ช่างเป็นเรื่องเหนือความคาดคิด
"ตามที่คนกล่าวกัน ช่วยคนหนึ่งชีวิตได้กุศลยิ่งกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น นี่คือการสั่งสมบุญ ผู้ฝึกอมตะ มีชีวิตฝืนชะตาฟ้าดินหันหลังจากทางของมนุษย์”
“หากต้องการอยู่อย่างมั่นคง ต้องทำความดีให้มากขึ้น"
“บางที ฉันอาจฆ่าคนมามากเกินไป อุปสรรคที่ต้องแบกรับจึงมีมากมาย สิบปีก่อนประสบกับหายนะครั้งใหญ่ ถึงแม้ว่าจะรอดมาได้เกิดใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้ฉันคิดว่าฉันน่าจะทำลายอุปสรรคขั้นสุดท้ายของผู้ฝึกอมตะได้ "
โล่เฉินกำหมัด ขวัญกำลังใจเพิ่มขึ้น
《วิชาอมตะ》มีที่มาอย่างไรเขาไม่รู้ ราวกับมันได้เกิดขึ้นเองในสมองและเขาก็รู้วิถีฝึกฝนขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ
ห้าพันปีมานี้ โล่เฉินไม่ได้ฝึกฝนวิชาอมตะไปจนถึงขั้นสูงสุด
มีทั้งหมดหกชั้น
ขั้นสูงสุดของก็แค่ฝึกฝนได้ถึงระดับที่ห้าเท่านั้น
พิบัติอมตะ ทุกๆ หนึ่งพันปีจะเกิดขึ้นหนึ่งครั้ง
นั่นหมายความว่า ในอีกหนึ่งพันปีจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนจนถึงระดับที่หก มิฉะนั้นความพยายามก่อนหน้านี้จะศูนย์เปล่าและต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ต้น
และการฝึกฝนจนถึงขั้นสูงสุดระดับที่หก มีการกล่าวกันว่าจะสามารถทำลายพันธนาการของพิบัติอมตะได้
เป็นเรื่องจริงหรือเท็จ โล่เฉินเองก็ไม่รู้แน่ชัด
ปริศนาความลับของระดับหกใน《วิชาอมตะ》เองก็ยังคงคลุมเครืออย่างยิ่ง มีเพียงคำพูดไม่กี่คำเท่านั้น จำเป็นต้องประสบด้วยตนเองจึงจะเข้าใจได้
……
รุ่งขึ้น วันที่ 12 เดือนกันยายน
วันงานชุมนุมสำนักผานหลง
โล่เฉินมาที่ชิงเฟิงซานจวนตั้งแต่เช้า เสี้ยงหยวน เสี้ยงจื้อสงและคนอื่นๆ กำลังรออยู่
“ไต้ซือ”
ตระกูลเสี้ยงประสานมือคำนับ
“ไม่จำเป็นต้องมากพิธี อย่าได้ชักช้าอยู่เลย ไปสำนักผานหลงเถอะ”
เสี้ยงหยวนประดักประเดิด เขาเตรียมอาหารเช้าต้อนรับเอาไว้ แต่เมื่อโล่เฉินพูดแบบนี้อีกทั้งยังมีท่าทางแน่วแน่ เขาเองก็ขี้เกียจจะเอ่ยปากและรู้สึกเบื่อ
"ไต้ซือ ทั้งนี้ฉ่ายเอ่อกับเหยาเหยาจะไปเป็นเพื่อนคุณ"
“ อ้อ?”
โล่เฉินคิ้วกระตุก เสี้ยงฉ่ายเอ่อถือว่าเป็นไปตามคาด แต่ว่าเสี้ยงเหยาเหยานั่นทำตัวต่อต้านเขามาตลอด คิดไม่ถึงว่าจะไปด้วยกัน
ราวกับว่าสังเกตเห็นสายตาของโล่เฉิน ปากของเสี้ยงเหยาเหยาเอ่ยบ่น “ใครกันจะอยากไปกับนาย ถ้าไม่ใช่เพราะคุณปู่และพ่อยืนกราน ฉันไม่อยากจะเห็นนายด้วยซ้ำ"
“เหยาเหยา ห้ามไร้มารยาท”
"พอแล้ว ออกเดินทางเถอะ"
โล่เฉินขี้เกียจจะไปเถียงเรื่องไร้สาระ เขาหันหลังและเดินออกไปข้างนอก
เสี้ยงหยวนยิ้มอย่างขมขื่นและส่งสายตาให้เสี้ยงฉ่ายเอ่อ ก่อนจะหันไปส่งสายตาเตือนให้เสี้ยงเหยาเหยา
"คุณปู่ คุณลุง พวกเราไปก่อน"
"ตามไต้ซือให้ดี เชื่อฟังและปฏิบัติตาม” เสี้ยงหยวนเอ่ยกำชับอีกครั้ง
“เข้าใจแล้ว คุณปู่”
เสี้ยงฉ่ายเอ่อขับรถจี๊ปออฟโรด และบอกว่าสถานที่ชุมนุมสำนักผานหลงอยู่ห่างไกลออกไป จำเป็นต้องเดินทางผ่านภูเขา