จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 53 มันก็เพียงแค่สินสอด
บทที่ 53 มันก็เพียงแค่สินสอด
ที่บ้านเก่าแก่ของตระกูลหาน บรรยากาศคึกคักกันมาก
ได้ยินว่าคุณชายตระกูลโล่แห่งจีนหลิงจะมาเจรจาเรื่องสินสอดการแต่งงาน บ้านเก่าแก่ของตระกูลหานบรรยากาศอลหม่านวุ่นวายกันไปหมด หญิงสาวแต่งตัวสวยงามกันอย่างที่สุด
หานหยุนซียอมที่จะจ่ายเงินหลายหมื่นเพื่อเชิญช่างแต่งหน้าที่มีชื่อเสียงจากเจียงโจว มาแต่งหน้าและแต่งทรงผมให้มีรูปลักษณ์ที่สวยงาม ตกตะลึงกันเป็นอย่างมาก
“คุณแม่”
ครอบครัวของหานเจี้ยนเย่รีบร้อนเพื่อเดินทางมา หลิวเซียงหลันเห็นหานหยุนซีที่แต่งองค์ทรงเครื่องอย่างสวยงาม แววตาก็แสดงออกถึงความดูถูกและดูหมิ่นแวบหนึ่ง
ขณะที่กำลังเดินทางมานั้น หลิวเซียงหลันได้กำชับเอาไว้ก่อนแล้ว
ใครก็ห้ามพูดออกมาว่าคุณชายตระกูลโล่จะมาสู่ขอหยู่เยน รอจนกว่าท้ายที่สุด เธอต้องการเชิดหน้าชูตา ทำให้ทุกคนตะลึงโดยไม่ทันตั้งตัว
“ยืนอยู่ด้านข้าง ใกล้เวลาที่เหมาะสมแล้ว คุณชายโล่ใกล้จะมาถึงแล้ว! ” คุณย่ามองดูแวบหนึ่ง พูดอย่างเบา ๆ ว่า
คิดไม่ถึงว่าตระกูลโล่แห่งจีนหลิง จะยิ่งใหญ่มากถึงขนาดนี้
“พวกเราน่าจะคิดได้ตั้งแต่แรกแล้ว ครอบครัวตระกูลโล่ ก็มีเพียงตระกูลโล่แห่งจีนหลิง การที่คุณชายโล่มาในครั้งนี้ น่าจะเป็นการตัดสินใจคัดเลือกคนแล้ว”
“เป็นไปตามนั้น แต่ที่น่าเสียดสีเหน็บแนมที่สุดก็คือ คุณชายตระกูลโล่ชื่อว่าโล่เฉิง โดยคำว่าเฉิงใช้ตัวอักษรเดียวกับชื่อของซิงเฉิน ส่วนสามีของหานหยู่เยนก็มีชื่อว่าโล่เฉิน แต่ใช้คำว่าเฉินที่ตรงกับตัวอักษรของคำว่าฮุยเฉิน (หมายถึงเศษฝุ่น)”
พูดถึงเรื่องนี้ ลูกหลานวัยหนุ่มสาวต่างพากันหัวเราะ
หานหยู่เยนไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ แต่กลับเป็นหานหยู่ถิงที่โมโหไม่น้อย จ้องไปที่กลุ่มหนุ่มสาวเหล่านั้น
ในเวลานี้ ผู้ที่ตื่นเต้นดีใจที่สุด ผู้ที่หยิ่งผยองที่สุดก็คือหานหยุนซี
เธอมีความมั่นใจในตนเองเป็นอย่างมากว่า คุณชายตระกูลโล่จะมาดูตัวเธออย่างแน่นอน คิดถึงการที่ได้แต่งงานเข้าไปอยู่ในตระกูลโล่แห่งจีนหลิง เธอตื่นเต้นดีใจมากถึงขนาดมากที่สุด
“หานหยู่เยน สามีของแกและสามีของฉันคนหนึ่งอยู่บนฟ้าอีกคนหนึ่งอยู่ใต้ดิน โชคชะตาเล่นตลกจริงเชียว โครงการของบริษัทเฉิงหยู่จะนับจำนวนได้เท่าไหร่กัน เมื่อเปรียบเทียบกับโครงการธรรมดาทั่วไปของตระกูลโล่แห่งจีนหลิงแล้ว ยังมีขนาดใหญ่กว่าหลายเท่าตัวเลย”
มาถึงขั้นนี้แล้ว หานหยุนซีก็ไม่ได้สนใจในเกียรติและศักดิ์ศรีอันใด พูดเสียดสีถากถางแบบตรง ๆ
คุณย่าหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่กลับไม่พูดอะไร
“แกแน่ใจนะว่าคุณชายตระกูลโล่จะมาทำการสู่ขอแกน่ะ? ”
“หรือว่าจะเป็นแกงั้นเหรอ? ” หานหยุนซีเหยียดหยาม
หานหยู่ถิงยักไหล่ โบกมือแล้วพูดว่า: “ไม่ใช่ฉันอย่างแน่นอน ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็ขอแสดงความยินดีด้วย แต่งงานกับตระกูลคนร่ำรวยจะต้องทำตัวเป็นคุณหญิงที่ดีด้วยล่ะ”
“แกไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”
หานหยุนซีค่อย ๆ แหงนหน้าที่สวยงามขึ้น ราวกับนกยูงที่สง่างาม วันนี้เธองดงามมากจริง ๆ ทำให้ลูกสาวคนอื่นในตระกูลหานหมดรัศมีความงามไปเลยทีเดียว
“นี่ หยุนซี”
“มีเรื่องอะไรเหรอ? ”
หานหยุนเทาพูดเบา ๆ ว่า: “ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับแกก่อน ลำดับต่อไปก็คืออย่าลืมเด็ดขาดนะ ในอนาคตต้องให้ความช่วยเหลือตระกูลหานมาก ๆ ช่วยเหลือฉันมาก ๆ อย่าให้หานหยู่เยนมีชีวิตอย่างสุขสบาย”
หานหยุนซีชำเลืองมองเล็กน้อย “อืม จำไว้แล้ว”
น่ารังเกียจเสียจริง
หานหยุนเทาเหมือนถูกมองข้ามจิตใจจึงขุ่นมัว แต่ก็ต้องจำยอม ตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะล่วงเกินหานหยุนซีแล้ว
ห้านาทีต่อมา มีเสียงตะโกนดังมาจากด้านนอก “คุณชายโล่มาถึงแล้ว คุณชายโล่มาถึงแล้ว”
ครู่เดียว ห้องโถงก็เงียบสงบ
คุณย่าลุกขึ้นแล้วไปยืนอยู่ด้านหน้าสุด แวบเดียว ก็มองเห็นหนุ่มหล่อในชุดภูมิฐานสง่างาม ข้างกายมีบอดี้การ์ดสองคนคอยอารักขา ก้าวเดินเข้ามาด้านใน
“สวัสดีครับคุณนายใหญ่หาน”
“คุณชายโล่ เชิญนั่ง”
หญิงสาวในบริเวณนั้นจิตใจหวั่นไหว พวกเธอเคยได้ยินเพียงชื่อเสียงของคุณชายโล่ ไม่เคยพบเห็นตัวตนจริงของโล่เฉิง
เวลานี้ ได้พบเห็นท่าทางที่องอาจสง่างามเช่นนี้ ราวกับเป็นเจ้าชายผู้ขี่ม้าขาวที่ปรากฏในความฝันเลยทีเดียว
ใบหน้างดงามของหายหยุนซีค่อย ๆ แดงขึ้น ยกน้ำชาแก้วหนึ่งมาเสิร์ฟ “คุณชายโล่ ฉันคือหานหยุนซี เชิญดื่มน้ำชา”
“ขอบคุณมาก ได้ยินว่าลูกสาวของตระกูลหานเป็นหญิงสาวงามทั้งหมด วันนี้ได้พบเห็น เป็นเช่นดังที่เลื่องลือกันจริง ๆ ”
“คุณชายชมกันเกินไปแล้ว”
หานหยุนซีเก็บอาการตื่นเต้นและดีใจเอาไว้ไม่อยู่ กลัวว่าจะเสียภาพพจน์ จึงรีบถอยกลับไปยืนอยู่ด้านข้างของคุณย่า
ในกลุ่มคนดังกล่าว พวกหานหยู่เยนทั้งสามคนหลบอยู่ด้านหลังสุด ไม่ได้ออกไปแสดงตัว พวกเขาไม่ต้องการที่จะออกไปพบเห็นคนจอมปลอม
คุณย่าเห็นว่าโล่เฉิงดื่มชาแล้วสักคำสองคำ รู้สึกว่าพอเหมาะพอเจาะกับเวลา ยิ้มและสอบถามว่า: “คุณชายโล่มาที่บ้านตระกูลหานของเรา รู้สึกเป็นเกียรติและมีหน้ามีตามากขึ้นทีเดียว ได้ยินว่าการมาครั้งนี้เพื่อเจรจาเรื่องสินสอดการแต่งงาน เชิญคุณชายโล่พูดถึงรายละเอียดสักหน่อย”
“ง่ายมาก ฉันชอบพอกับลูกสาวของตระกูลหานคนหนึ่ง ต้องการที่จะสู่ขอกลับไปที่จีนหลิง ช่วงก่อนหน้านี้งานเลี้ยงฉลองวันเกิดอายุครบเจ็ดสอบปีของคุณย่า ฉันได้ทำการมอบสินสอดไว้แล้ว ท่านคงยังจำได้อยู่ใช่ไหม? ”
“แน่นอนจำได้อยู่แล้ว และไม่ทราบว่าคุณชายชอบพอกับหญิงสาวตระกูลหานคนไหนกันเหรอ? ”
“เรื่องสำคัญมาถึงแล้ว”
หานหยุนซีก้มหน้าลง ท่าทางเขินอาย
ลูกสาวคนอื่นจิตใจริษยาพลุกพล่าน พวกเธอแม้ว่าจะไม่พอใจแต่ก็รู้ตัวตนเองดีอยู่แล้ว รู้ว่ายังไงก็เทียบกับหานหยุนซีไม่ได้
“คุณย่า ฉันมีเรื่องรบกวนหนึ่งเรื่อง”
“อ๋อ? คุณชายกล่าวออกมาได้เลย”
โล่เฉิงกวาดตามองไปทั่ว แม้ว่าจะไม่พบเห็นหานหยู่เยน แต่ก็ได้สบสายตากับหลิวเซียงหลัน
“คุณย่ามีบางเรื่องที่ยังไม่ทราบ ผมกับหยู่เยนเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ได้ยินมาว่าสามีของเธอทำเป็นเพียงงานบ้านงานเรือน ถูกมองว่าเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องได้ราว ทั้งนี้เพื่อไม่ต้องการถ่วงเวลาความสุขของหยู่เยน หวังว่าคุณย่าจะตกลงที่จะให้หยู่เยนหย่า”
“นี่มัน……”
คุณย่าจ้องเขม็งไปที่หลิวเซียงหลัน
เธอรู้ว่าหานเจี้ยนเย่ไม่กล้าที่จะให้โล่เฉิงพูดเรื่องดังกล่าวออกมา แน่นอนว่าหลิวเซียงหลันเป็นคนจัดการทั้งหมด
หานหยู่เยนหย่าร้างจะทำให้ตระกูลหานถูกเยาะเย้ยนินทา แต่หากสมรสกับตระกูลโล่แห่งจีนหลิง ก็สามารถที่จะให้ตระกูลที่เยาะเย้ยเหล่านั้นสงบปากสงบคำลงได้
นี่คือความสั่นสะเทือนที่สามารถสงบใจผู้คนได้อย่างหนึ่ง
ถ้าหากว่าไม่ตกปากรับคำ เกรงว่าจะทำให้คุณชายโล่ไม่พอใจ คุณย่าไม่กล้าที่จะเสี่ยง
“เรื่องนี้คือเรื่องเล็กน้อย หยู่เยนทนลำบากมากพอแล้ว ก็สมควรที่จะหาคู่ครองที่ดี ๆ เสียที คุณชายโล่ เรื่องนี้ฉันตกลงรับปากกับคุณ ตอนนี้สามารถบอกได้เหรอยังว่าชอบพอกับหญิงสาวคนไหน”
“เมื่อครู่ฉันได้พูดบอกออกไปแล้วไง”
คุณย่าถึงกับตะลึง “พูดแล้วเหรอ ฉันไม่ได้……”
ทันใดนั้น ใบหน้าของเธอก็แข็งขึ้น
หรือว่าที่พูดก็คือ……
“ถูกต้อง นั่นก็คือหยู่เยน”
โล่เฉิงเอ่ยปากพูด
ราวกับถูกฟ้าผ่า
ตระกูลหานเงียบสงัดมาก ทุกคนมองไปที่โล่เฉิงด้วยความที่นึกไม่ถึง หานหยุนซียิ่งแล้วใหญ่ร่างกายแข็งทื่อ ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน
“ช่วงเวลามหาวิทยาลัยผมก็แอบชื่นชอบหยู่เยนแล้ว แต่ตอนนั้นจำต้องที่จะออกไปศึกษายังต่างประเทศจึงต้องแยกจากกัน ตอนนี้กลับมาแล้ว และคิดไม่ถึงว่าหยู่เยนจะแต่งงานแล้ว”
“ถ้าหากว่าสามีของเขาเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ผมก็คงจะไม่ไปข้องเกี่ยวพัวพัน แต่เมื่อผมทราบว่าหยู่เยนแต่งงานกับคนที่ไม่มีความสามารถ ผมจึงทนยอมต่อไปไม่ได้”
โล่เฉิงลุกยืนขึ้น แล้วพูดว่า: “แต่งงานแล้วยังไงเหรอ ฉันไม่สนใจหรอก เพียงแค่หยู่เยนหย่า ผมก็จะพาหยู่เยนไปอยู่ด้วยกันที่จีนหลิง”
คำพูดเหล่านี้ ทำให้ทุกคนของตระกูลหานถึงกับอึ้งไปตาม ๆ กัน
หานเจี้ยนเย่และหลิวเซียงหลันคู่สามีภรรยาลูบคลำที่ดวงตา ซาบซึ้งใจเป็นอันมาก
แกร็กแกร็ก
กลุ่มคนต่างกระจายออก พวกหานหยู่เยนสามคนปรากฏตัวขึ้น แต่สภาพการณ์……
จับมันเอาไว้ จับมันเอาไว้ โธ่เอ้ยคุณพี่เขย เล่นไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย หวังซ่านตัวฮีโร่ที่ถือว่าเล่นง่ายแล้วยังเล่นไม่ได้เรื่องอีก
“อย่าตื่นตระหนก ลู่น่าของฉันสามารถเชื่อมโยงได้อย่างไร้ขีดจำกัด”
“คุณพี่ คุณปล่อยมันไปเถอะ อาเหลียงจะสอนให้รู้ถึงการปฏิบัติตัวเป็นมนุษย์เอง”
คนตระกูลหานทุกคนมุมปากกระตุก เรื่องใหญ่ขนาดนี้ สถานการณ์แบบนี้ ทั้งสามคนนี้ยังคงเล่นเกมส์ Glory of Kings กันอยู่อีก
คุณย่ามีสีหน้าหม่นหมอง ตหวาดไปว่า: “ยังคงเล่นกันไม่พออีกเหรอ”
“อา คุณย่า”
ทั้งสามคนสะดุ้งตกใจ รีบลุกขึ้นแล้วเดินมาอยู่ด้านหน้าสุด
คุณย่ามีอารมณ์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ เธอมองไปที่โล่เฉิง พูดว่า: “คุณชาย คุณชอบหยู่เยนจริงเหรอ? ”
“จะไม่จริงได้อย่างไรกัน”
“ไม่ มันคงเป็นไปไม่ได้”
คนที่พูดไม่ใช่คุณย่า แต่เป็นหานหยุนซี
กว่าสิบวินาที ในที่สุดเธอก็เรียกจิตใจกลับคืนสู่ปกติได้
เปลวไฟของความโมโหร้อนแรงทะลุขึ้นสูงมาก ร่างกายของเธอเหมือนกับว่าจะระเบิดออกจากกัน
“คุณชาย ทำไมถึงเป็นเธอ เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเธอ หานหยู่เยนแต่งงานแล้ว ฉันโสด ฉันสวยงดงามกว่าเธอ ฉันต่างหากที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ”
หานหยุนซีราวกับเป็นบ้า ใบหน้าบูดเบี้ยวแสดงอารมณ์ออกมาอย่างรุนแรง ทำให้แป้งเครื่องสำอางค่อย ๆ แตกและหลุดลงมา
“คุณหยุนซี คุณใจเย็น ๆ ก่อน”
“ฉันจะใจเย็นได้อย่างไรกัน คุณจะให้ฉันใจเย็นได้อย่างไรกัน” หานหยุนซีจับตัวโล่เฉิง แทบที่จะกระโจนเข้าใส่ในอ้อมอกของเขา ร้องตะโกนว่า: “คุณชาย พาฉันไปอยู่ที่จีนหลิงเถอะ ฉันจะดูแลเอาใจใส่คุณเป็นอย่างดี จะเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดสำหรับคุณ”
“ไอ้เวรระยำ เกียรติของตระกูลหานพังทลายหมดสิ้นแล้ว! ”
คุณย่าสีหน้าบึ้งตึง เอาไม้เท้าตีไปที่เอวของหานหยุนซี พ่อแม่ของเธอรีบพุ่งเข้ามา ลากตัวของหานหยุนซีออกไป
“ปล่อยฉัน”
“ต้องเป็นฉัน ต้องเป็นเพียงฉันเท่านั้นที่จะแต่งงานกับคนในตระกูลที่ร่ำรวย”
“ฉันคือคุณหญิงของตระกูลโล่ ใครจะมาแย่งฉันไปไม่ได้ ปล่อยฉัน”
หานหยุนซีตะโกนร้องอย่างบ้าคลั่ง เดิมทีใบหน้าที่งดงามแปรเปลี่ยนเป็นดุร้าย และก็ถูกนำตัวออกไปจากห้องโถงอย่างรวดเร็ว ญาติพี่น้องทุกคนต่างพากันสะอึกสะอื้น
ที่น่าเสียใจ ที่น่าอับอายที่สุดคืออะไร?
ไม่ใช่เริ่มแรกที่รับทราบผลของเรื่องราวที่จะเกิดขึ้น แต่คือการยกยอชื่นชมคุณจนถึงขีดสุด ทุกคนต่างพากันคิดว่าคือคุณแน่นอน แต่สุดท้ายกลับพบว่า คนที่คุณดูถูกดูแคลนนั้นกลับกลายเป็นจุดสนใจ
จากสวรรค์ตกลงมาสู่นรก
พลีชีพตัวตายแหลกละเอียด
ลูกสาวคนอื่น ๆ มีจิตใจที่ดีขึ้น หานหยุนเทาก็โล่งอกไปที แต่ไม่นานพวกเขาก็สังเกตเห็นถึงปัญหาข้อหนึ่ง
หากหานหยู่เยนแต่งงานกับคนตระกูลโล่ พวกเขาจะใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขได้หรือไม่?
“คุณชาย ขอโทษด้วยที่ทำให้คุณตื่นตระหนกกันไปหมด”
“ไม่เป็นไร”
คุณย่าพยักหน้า มองไปที่หานหยู่เยน พูดอย่างลังเลว่า: “คิดไม่ถึงว่าคุณชายจะชอบพอกับหยู่เยน เป็นความรักที่ลึกซึ้ง ซึ่งเป็นเกียรติสำหรับเธอ ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วก็……”
“คุณย่า ฉันขอคัดค้าน”
อะไรกัน?
ทันใดนั้น สายตาของทุกคนก็ไปจดจ่ออยู่ที่หานหยู่เยน
“ชายหนุ่มผู้นี้เป็นเพลย์บอย และเป็นคนจอมปลอม ฉันไม่มีทางที่จะอยู่กับเขาเด็ดขาด”
“กำเริบเกินไปแล้ว ที่นี่แกมีสิทธิ์ที่จะพูดด้วยเหรอ” คุณย่าพูดอย่างเคร่งขรึม
หานหยู่เยนไม่ยอมอ่อนข้อ ตอบกลับไปว่า: “คุณย่า ไม่สนว่าท่านจะพูดอย่างไร ฉันก็จะไม่ยอมลดราวาศอก เรื่องนี้มีความเกี่ยวพันถึงความสุขของฉันชั่วชีวิต ฉันเป็นหลานสาวของท่าน ไม่ใช่สินค้าของท่าน ชีวิตของฉันฉันจะเป็นผู้ลิขิตเอง คุณย่าไม่ต้องเป็นกังวล”
เสียงดังอึกทึก!
ภายในห้องโถงคึกคักขึ้น ญาติพี่น้องทั้งหมดต่างวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นา ๆ และยอมรับนับถือในความกล้าหาญของหานหยู่เยน ที่กล้าพูดแบบนี้กับคุณย่า
หานหยุนเทาที่อยู่ด้านข้างเอามืออุดที่ปาก เกือบที่จะหัวเราะออกมา:
โลกนี้ยังมีผู้หญิงที่โง่เขลาแบบนี้อยู่อีกเหรอ ไม่ยอมไปอยู่กับตระกูลที่ร่ำรวย เต็มใจยอมที่จะอยู่กับคนที่ไม่ได้เรื่องได้ราว หานหยู่เยน ฉันคิดว่าฉันประเมินค่าเธอสูงเกินไปจริง ๆ
“หยู่เยน แกพูดมั่วซั่วอะไรออกไป! ”
หลิวเซียงหลันเกิดความโมโห รีบเข้ามากล่าวคำขอโทษ “คุณแม่ หยู่เยนเพียงแค่ตื่นเต้นไปชั่วขณะ ดังนั้นจึงได้พูดสุ่มสี่สุ่มห้าออกไป ขออภัยอย่าได้ถือโกรธ”
เนื่องจากโล่เฉิงอยู่ด้านข้าง คุณย่าจึงอดทนไม่แสดงความโกรธออกมา แต่พูดด้วยเสียงเย็นชาว่า: “แต่งงานกับคนในตระกูลโล่นับเป็นความโชคดีของแกอย่างมาก คนอื่นต่างใฝ่ฝันที่จะได้รับโอกาสเช่นนี้ แต่แกกลับไม่รู้จักแบ่งแยกว่าเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย ปีกกล้าขาแข็งแล้วใช่ไหม แกอธิบายให้ฉันฟังหน่อยสิว่า ทำไมถึงได้ปฏิเสธ? ”
“เพราะว่า สินสอดมันไม่ใช่ของคนจอมปลอมนี้สักหน่อย”