จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 41 ข้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก
บทที่41 ข้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“อาจารย์ วันนี้เป็นวันเกิดของคุณท่าน คุณไม่ได้ลืมใช่ไหม” เสี้ยงจื้อสงโทรศัพท์มา เพราะกลัวว่าโล่เฉินจะไม่มา
“จำได้สิ ฉันกำลังจะไปพอดี!”
“ฮ่าๆ อาจารย์ ฉันให้ลูกสาวฉันเตรียมรับคุณอยู่ที่หน้าประตูแล้ว เพื่อเป็นการขอบคุณอาจารย์ที่จะมา เดี๋ยวเจอกัน”
เมื่อวางสายไป โล่เฉินทั้งสองคนก็เริ่มออกเดินทาง
วันนี้ บรรยากาศดี
หานหยู่เยนขับรถ เมื่อไปถึงชิงเฟิงซานจวน มันทำให้เธอรู้สึกตกใจไม่น้อย พลางคิดไปว่ามาผิดที่
ลานจอดรถทางด้านซ้ายของซานจวน มีแต่รถหรูจอดอยู่
BMW540ถือเป็นรถระดับล่างเท่านั้น เมื่อเทียบกับ ปอร์เช่ มาเซราติ และรถสปอร์ตที่ราคาแพงกว่านั้นมากมายหลายเท่า อย่างแลมโบกินี เฟอร์รารี่ Koenigseggและอีกมากมาย
คันที่ดึงดูดสายตาคนมากที่สุด ก็คือโรลส์ลอยแบบยาว เบนท์ลีย์กับมายบัค ไม่มีคันไหนที่ไม่ดูหรูดูแพงเลย
“พวกเรา มาผิดที่หรือเปล่า?”
เมื่อลงจากรถ หานหยู่เยนก็รู้สึกตึงเครียดเล็กน้อย
ตระกูลหานเพียงแค่เป็นตระกูลชั้นสองปลายแถวของเมืองเจียง รถพวกนี้แพงกว่าสมบัติทั้งหมดของตระกูลหานเสียอีก เมื่อเทียบกับตระกูลที่สูงส่งจริงๆ ตระกูลหานถือว่าเล็กน้อยมาก
“ที่นี่แหละ ตามฉันมา”
โล่เฉินกับหานหยู่เยนเพิ่งจะเดินออกจากลานจอดรถ จู่ๆ ก็มีเสียงเรียกดังขึ้นมา
“โย่ว ทำไมผู้จัดการมาด้วยเนี่ย”
คนที่พูดนั้นแต่งหน้าอย่างทันสมัย เป็นหญิงที่ใบหน้าสวยงาม ปากนั้นบางเฉียบ ดวงตากลมโต จนทำให้มองดูแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่
“ซุนเสี่ยวเหม่ย คุณเองเหรอ”
หานหยู่เยนมีน้ำเสียงเย็นชา
ก่อนหน้านี้ที่หานหยุนเทาโกงใช้เงินส่วนรวม ก็คือซุนเสี่ยวเหม่ยเป็นคนช่วยอยู่ลับหลัง
ตอนแรกจะหาคนมารับผิดชอบ แต่ว่าอย่างแรกคือซุนเสี่ยวเหม่ยหนีไปแล้ว อย่างที่สองคือหานหยู่เยนใจอ่อน เลยคิดว่าหานหยุนเทาน่าจะข่มขู่ซุนเสี่ยวเหม่ย
หญิงราวๆ ยี่สิบเจ็บยี่สิบแปด ใครจะไปทนความโลภนั้นไหว ทำความผิดนิดๆ หน่อยๆ ก็เป็นเรื่องปกติ หานหยู่เยนเองก็ไม่ได้ตามหาคนรับผิดชอบ แต่ว่าในใจนั้นไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“คนนี้คือโล่เฉินผู้มีชื่อเสียงที่เกาะผู้หญิงกินหรือเปล่าเนี่ย” ซุนเสี่ยวเหม่ยคล้องแขนชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหา
ชายอายุสามสิบกว่า ท้องใหญ่ทั้งอ้วนทั้งเตี้ย ถือเป็นชายวัยกลางคนร่างท้วมคนหนึ่ง
ก่อนหน้านี้เธอหนีจากบริษัทตระกูลหาน เธอกลัวเป็นอย่างมาก และกลัวว่าตำรวจจะมาจับเธอ โชคยังดีที่ ใช้เรือนร่างของเธอได้ล่อลวงคนใหญ่คนโตในจีนหลิงสำเร็จ
จนถึงตอนนี้ ถึงจะวางใจลงได้
“ซุนเสี่ยวเหม่ย ทำไมคุณพูดแบบนั้นล่ะ!” หานหยู่เยนโกรธเป็นอย่างมาก
เป็นคนร้ายกาจจริงๆ
ไม่ได้ตามให้มารับผิดชอบ ยังไม่รู้จักขอบคุณอีก ตอนนี้มาทำให้โล่เฉินอับอาย ช่างน่าขยะแขยงจริงๆ
“ผู้จัดการ ฉันไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย”
“จะว่าไป งานเลี้ยงของคุณท่านตระกูลเสี้ยง คนที่มาร่วมงานวันเกิดเป็นคนใหญ่คนโตทั้งนั้นเลย ตระกูลหานเหมือนจะไม่มีสิทธิ์นะ แม้จะเป็นท่านย่าหานมาแล้ว เกรงว่าก็เป็นแค่คนเล็กๆ”
ซุนเสี่ยวเหม่ยมีท่าทีทระนง
ตอนนี้เธอได้เกาะผู้ชายฐานะสูงแล้ว จะเห็นตระกูลหานอยู่ในสายตาอีกได้ไง
“คิดไม่ถึงเลยว่าคุณเป็นคุณหนูคนโต”
ในตอนนี้ โล่เฉินนิ่งเฉยไม่พูดอะไร
“อะไรนะ?”
“คุณไม่ได้มาร่วมงานวันเกิดกับพ่อเหรอ เพียงแต่ว่า ทำไมฉันรู้สึกกว่าพ่อกับลูกสาวหน้าตาไม่เหมือนกันล่ะ”
ซุนเสี่ยวเหม่ยหน้าแดงขึ้นมา ทั้งอายทั้งโกรธ
หานหยู่เยนแอบขำ ก่อนจะอธิบาย: “โล่เฉินคุณพูดอะไรเนี่ย นี่เป็นแฟนของคุณซุน”
โล่เฉินพูดอย่างตกใจ “โอ้ จริงเหรอ ไม่พูดไม่ได้เลย ว่าแฟนของคุณซุนเนี่ย ดูจะโตเกินวัยไปสักหน่อย”
ซุนเสี่ยวเหม่ยโกรธเป็นอย่างมาก แต่ก็โต้เถียงอะไรไม่ได้
ชายคนนั้นปรายตามองอย่างเย็นชา พลางบ่นพึมพำ: “เสี่ยวเหม่ยพวกเราไปกันเถอะ ไม่จำเป็นต้องมาคุยกับพวกชั้นต่ำ”
ทั้งสองคนออกไปก่อน จากนั้นโล่เฉินกับหานหยู่เยนก็มองกันพลางขำขึ้นมา
เมื่อเดินมาที่ประตูของซานจวน โล่เฉินกลับไม่เห็นเสี้ยงเหยาเหยาลูกสาวของเสี้ยงจื้อสง เขาไม่ได้สนใจ และเดินเข้ามา
วันเกิดของคุณท่านตระกูลเสี้ยง ถือว่ารื่นเริงเลยล่ะ คนที่มาร่วมงานวันเกิดนั้นไม่ได้มีคำขออะไรที่มากเกินไป เพียงแค่ไม่ได้มาหาเรื่องหรือทำอะไรที่มันดูไม่สง่างามเกินไป ทั้งหมดก็เข้ามาดูได้
ชิงเฟิงซานจวนใหญ่มาก มีทั้งงานกลางแจ้งและงานในร่ม
งานด้านนอกนั้นค่อนข้างวุ่นวาย มีคนมากมายทุกแบบ ส่วนงานภายในนั้นถึงจะเป็นคนสำคัญของงานจริงๆ คนที่จะเข้ามาได้ ก็ต้องมีบัตรเชิญจากตระกูลเสี้ยง
แต่ว่า เมื่อเทียบกับงานในร่ม งานด้านนอกยังถือว่ารื่นเริงและสบายกว่ามาก มีความบันเทิงต่างๆ มากมาย แถมยังกินอะไรก็ได้ตามต้องการ คนเลยเยอะมากมาย
โล่เฉินพาหานหยู่เยนเดินเล่นสักรอบหนึ่ง สุดท้ายก็มาอยู่ที่บ่อปลา ก่อนจะหยิบเบ็ดตกปลามานั่งตกปลาไม้ไผ่อย่างสบายอารมณ์
“เห้ พี่หลี่ นั่นไม่ใช่หานหยู่เยนเหรอ?”
ที่มุมๆ หนึ่ง โจวไท่พูดกับชายร่างผอมสูงคนหนึ่งข้างๆ
หลี่ชิงหันมามอง พลางขมวดคิ้วเป็นปม “เธอมาได้อย่างไร?”
“ถึงแม้ว่างานเลี้ยงวันเกิดของคุณท่านเสี้ยงจะไม่ได้มีมาตรฐานอะไรในการเข้าร่วมงาน แต่ว่าทุกๆ คนก็คิดเองได้ ถ้าไม่มีฐานะสูงพอ เมื่อเข้ามาแล้วก็เป็นขายขี้หน้าตนเอง ฐานะทางสังคมของตระกูลหานนั้นไม่มีสิทธิ์มากพอ แน่นอนว่าที่หานหยู่เยนเข้ามาได้ก็ต้องเป็นแอบเข้ามาแน่ ส่วนคนที่น่าตลกนั้นคือสามีที่ไร้ประโยชน์ของเธอ”
โจวไท่แอบหัวเราะ
เขายังจำเรื่องครั้งก่อนที่KTVเรอัลมาดริดได้ ว่าตัวเองทำให้หงเหลยถิงโกรธเข้าแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายกลับต้องให้โล่เฉินมาจัดการเรื่องนี้ นี่มันเหมือนตบหน้าเขาชัดๆ
“พี่ไท่ จะว่าไป ครั้งก่อนที่KTVเรอัลมาดริด โล่เฉินไอสวะคนนั้นหลบหนีจากท่านหงออกมาได้ยังไง เห็นเขาไม่เป็นอะไรเลย” ชายผิวเข้มคนหนึ่งถามขึ้นด้วยความสงสัย
โจวไท่มองอย่างไม่แยแส พลางพูดว่า: “ได้ยินหานหยุนเทาบอกว่า โล่เฉินถูกท่านหงจับแล้ว แต่สุดท้ายหานหยู่เยนก็ช่วยออกมา แต่ช่วยออกมาอย่างไร เพราะเธอก็เป็นผู้หญิงตัวคนเดียว นอกจากเรือนร่างยังมีอะไรอีก!”
หญิงที่แต่งหน้าเข้มข้างๆ นั้นดูถูก ก่อนจะสาปแช่งออกมา: “หานหยู่เยนเธอเหมือนกับรถเมล์ที่ทั่วถึงไปหมด จะต้องเคยนอกใจไอสวะนั่นหลายครั้งแน่นอน แถมยังทำเป็นใสซื่ออีก น่ารังเกียจจริงๆ เลย”
ถ้าเกิดว่าโล่เฉินเห็นจะต้องรู้แน่นอน ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนสาวของโกตุน ชื่อหวางเย่น
แต่ว่า งานประมูลในรั้งนั้นโกตุนเสียเงินไปสองล้านฟรีๆ เลยเอาความโกรธมาลงที่หวางเย่น จนเธอเกือบตาย หวางเย่นกังวลว่าจะถูกฆ่าตายอีก เลยหนีออกมา
ผู้หญิงคนนี้มีวิธีสารพัด เลยมาคบกับหลี่ชิงได้
“ดูสิ พวกเขาจะเข้าไปด้านในแล้ว”
“น่าขันจริงๆ งานในร่มนั้นต้องได้รับเชิญเท่านั้น เธอตระกูลหานมีสิทธิ์อะไรจะได้รับการเชิญจากตระกูลเสี้ยง จะให้พูดอีกอย่าง ถึงจะมี ก็ต้องให้คุณย่าหานมา เธอหานหยู่เยนจะไปมีสิทธิ์อะไร”
หวางเย่นพูดจาแดกดันอย่างไม่ลังเล
พูดไป ก็พลางคล้องแขนของหลี่ชิง
ตระกูลหลี่เป็นตระกูลชั้นหนึ่งของเมืองเจียง ใบเชิญฉบับเดียว คนของตระกูลหลี่สามารถพาคนมาได้สองคน ก็คือหลี่ชิงกับหวางเย่น
โจวไท่เองก็มากับพ่อของเขา
โล่เฉินพาหานหยู่เยนมาที่ประตูของงานในร่ม ชายที่คุ้มกันอยู่หน้าประตูกั้นเอาไว้ “คุณผู้ชายคุณผู้หญิง จะเข้างานในร่มต้องมีบัตรเชิญ แสดงบัตรเชิญด้วย”
“บัตรเชิญงั้นเหรอ?”
โล่เฉินขมวดคิ้ว พลางส่ายหัว: “เสี้ยงจื้อสงเชิญฉันมา ไม่ได้ให้บัตรเชิญเอาไว้ ให้ฉันเข้าไปได้เลย”
“ไม่มีบัตรเชิญ ก็เข้าไม่ได้”
“คุณโทรไปถามเสี้ยงจื้อสงก็ได้” โล่เฉินพูด
ชายคนนั้นมีความดูถูกอยู่ไม่น้อย คนที่มาร่วมงานของคุณท่านเสี้ยงมีใครไม่แต่งหน้าแต่งตัวให้ดูดี เพื่อสะท้อนตัวตนออกมาบ้างล่ะ
แต่ชายหญิงที่อยู่ตรงหน้านั้นแต่งตัวธรรมดา ดูบ้านๆ ไม่แน่ว่าอาจจะแอบมาขอกินก็ได้ ถึงจะเป็นคุณชายหรือคุณหนู แต่ก็ไม่น่าจะโด่งดังสักเท่าไหร่
คุณชายเสี้ยงที่สามเป็นใครกัน จะได้รับการเชิญแบบส่วนตัวได้อย่างไร
“คุณผู้ชาย ขอให้รักษากฎด้วย วันเกิดของคุณท่าน ใครๆ ก็ไม่กล้ามาก่อเรื่องในตระกูลเสี้ยง” ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
โล่เฉินมีสีหน้านิ่งไป
“ฮ่าๆ”
จู่ๆ ทางด้านหลังก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้น
โจวไท่ หลี่ชิง หวางเย่นเดินเข้ามา หานหยู่เยนเดาได้เลยว่าจะต้องเกิดเรื่องขึ้น “พวกคุณนี่เอง”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” โจวไท่ถาม
“ไอ้หนุ่มคนนี้ไม่มีบัตรเชิญ บอกว่าคุณชายสามเชิญเขามาแบบไม่ต้องมีบัตรเชิญ”
ชายคนนั้นพูด จนดึงดูดความสนใจคนรอบๆ
ในตอนนั้นเอง ทุกคนต่างหัวเราะขึ้นมา พลางมีสายตาดูถูกทิ่มแทงมาเป็นจำนวนมาก
หานหยู่เยนหน้าแดง เพราะความประหม่าเป็นอย่างมาก
“น่าขันจริงๆ เลย หานหยู่เยนคุณหน้าไม่อายจริงๆ เลย คนอย่างพวกคุณเนี่ยนะที่จะทำให้คุณชายสามมาเชิญพวกคุณด้วยตัวเอง จะอวดก็ต้องดูด้วย งี่เง่า!”
หวางเย่นพูดหัวเราะแดกดัน
เมื่อเห็นว่าแฟนสาวของตัวเองนั้นดูไม่ชอบหานหยู่เยน หลี่ชิงเองก็ไม่รอช้า รีบพูดขึ้น: “ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่พวกคุณสามารถมาได้นะ รีบกลับไปเถอะ อย่ามาขายหน้าที่นี่เลย”
โล่เฉินไม่พอใจขึ้นมาแล้ว “คุณยังกล้ามาทำเป็นเก่งต่อหน้าฉันเหรอ?”
“ทำไมฉันจะไม่กล้า!” หลี่ชิงพูดอย่างไม่แยแส
โล่เฉินคิดไม่ออกเลย ว่าไอ้หนุ่มคนนี้ไม่มีสมองแล้วหรือไง แต่ว่าเมื่อมองอารมณ์ของหลี่ชิง ดูไม่กลัวอะไรเลย เหมือนจะไม่ได้แกล้งอวดดี
หรือว่า ความจำเสื่อมแล้ว?
ที่แท้ โล่เฉินเดาถูกแล้ว
คืนนั้นหลี่ชิงตกใจไม่น้อยเลย หัวโขกเข้ากับก้อนหินเข้าอย่างจัง เมื่อตื่นขึ้นมาก็ลืมความจำไปหมดแล้ว
เมื่อเป็นเพราะแบบนี้ หวางเย่นเลยใช้โอกาสนี้ เพื่อให้ได้ใจของหลี่ชิง
“เป็นคนเนี่ย อย่าหน้าด้านให้มันมาก”
“นั่นสิ คุณชายสามเป็นใครพวกคุณรู้ไหม ถ้าไม่รู้ก็อย่ามาปีนเกลียว!”
“ไปกันเถอะๆ อย่าไปเสียเวลาคุยอะไรกับคนแบบนี้เลย” โจวไท่ หลี่ชิงและคนอื่นๆ เดินเข้าไปในงานในร่มอย่างสง่างาม
งานภายนอก ยังคงมีแววตาแห่งความแปลกใจไม่หาย
โล่เฉินกลับไม่ได้อะไรมาก แต่ว่าหานหยู่เยนยังอยู่ ตอนแรกอยากจะไปพาผู้หญิงของตัวเองไปสนุกสนาน คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกทำให้อับอายแบบนี้
ผู้ชายคนนี้ รับไม่ได้จริงๆ
สีหน้าเย็นชานั้นปรากฏออกมา โล่เฉินพลางถาม: “คุณไม่ชอบ พวกเราก็ไปเลยก็ได้”
หานหยู่เยนยิ้มอย่างยินดี พลางพูด: “ไม่ต้อง ฉันไม่ได้ใจบางขนาดนั้น แค่คำนินทาแบบนั้นมันทำอะไรฉันไม่ได้หรอกฉัน ยังไงก็มาแล้ว เดินเล่นกันเถอะ ถือว่าผ่อนคลายสักหน่อย”
“ได้”
เมื่อเดินไปสักพัก โล่เฉินก็โทรศัพท์
ตู๊ดๆ
“ฮัลโหล อาจารย์ ถึงหรือยัง?”
“ถึงแล้ว การจัดการของคุณ ทำให้ฉันไม่สบายใจเป็นอย่างมาก” พูดจบ โล่เฉินก็วางสายไป
ในตอนนั้นเอง ในตึกลึกเข้าไปของซานจวน เสี้ยงจื้อสงได้ยินเสียงตู๊ดๆ จากโทรศัพท์ เมื่อคิดถึงเสียงเย็นชาของโล่เฉินเมื่อครู่ ก็รู้สึกใจเย็นวาบ
หรือว่า ลูกสาวของตัวเองมีเรื่องกับโล่ไต้ซือ?
เสี้ยงจื้อสงรีบโทรศัพท์ไป “ฮัลโหล เหยาเหยา โล่ไต้ซือรับหรือเปล่า?”
“รับตั้งนานแล้ว!” เสี้ยงเหยาเหยาตอบ
“คุณมั่นใจ?”
“มั่นใจสิ”
เสี้ยงจื้อสงถามต่อ “โล่เฉินเหรอ?”
“ใช่ โล่เฉิง”