จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 187 ฝีมือเก่งกาจ ตกตะลึงไปทั้งเมือง
เมื่อหานหยู่เยนตะโกนว่า “ฉันคือเจ้าบ้านคนใหม่” ประโยคนี้ขึ้นมา หญิงชราก็กระอักเลือดออกมาสามครั้งจากนั้นก็เป็นลมไปอีกครั้ง
คราวนี้โล่เฉินไม่ยื่นมือเข้าช่วยใดๆ หานเจี้ยนเย่เองก็ไม่เอ่ยปากอีก
ในห้องโถงบรรพบุรุษ
หานหยู่เยนจุดธูปบูชาบรรพบุรุษ ท่ามกลางการสนับสนุนจากทุกคน และการรับตำแหน่งก็เสร็จอย่างสมบูรณ์
หานเจี้ยนกั๋วพาหญิงชราออกจากบ้านเก่าแก่ของตระกูลหาน หานหยุนเทาเองก็ตามไปด้วย ด้านนอกของบ้านเก่าแก่ของตระกูลหานสะอาดเอี่ยมอ่อง ไร้เงาของครอบครัวผู้ตายอีกต่อไป
สำหรับตระกูลที่สืบทอดกันมานั้น การตัดสินใจเจ้าบ้านคนใหม่ถือเป็นเรื่องทางพิธีการอย่างมาก
นี่ไม่เกี่ยวข้องว่าจะเป็นตระกูลเล็กหรือใหญ่
แม้ว่าตระกูลหานจะเป็นเพียงตระกูลชั้นสองสาม แต่ก็ยังมีคนเสนอให้จัดงานเลี้ยงประกาศใหญ่โต อีกทั้งแจ้งให้คนทั้งเมืองทราบ
อย่างไรก็ตาม หานหยู่เยนไม่ชอบเรื่องพวกนี้
นอกจากนี้เรื่องโครงการปินหูยังไม่สิ้นสุด ในเวลานี้จัดงานเลี้ยงใหญ่โตขึ้นมาคนอื่นๆ จะคิดอย่างไรกัน นี่ให้ผลกระทบไม่ดี
ในฐานะเจ้าบ้าน จำเป็นต้องอาศัยอยู่ในบ้านเก่าแก่ของตระกูลหาน
วันนี้ทั้งวัน แม่บ้านก็เริ่มทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอก
เจ้าบ้านคนใหม่ บรรยากาศใหม่
ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างของเจ้าบ้านคนเก่า เริ่มต้นกับสิ่งใหม่ๆ
ตระกูลหานทำด้านการออกแบบ ผู้บริหารของบริษัทและบุคคลสำคัญของตระกูลหานที่ถูกคุมขังในสถานีตำรวจก็กลับมาแล้วเช่นกัน
พวกเขาเริ่มการออกแบบบ้านเก่าแก่ของตระกูลหาน และเพิ่มองค์ประกอบใหม่
สามวันต่อมา
หน้าบ้านเก่าแก่ของตระกูลหานมีพรมแดงปูอยู่ ทุกคนในตระกูลหานให้การเคารพต้อนรับหานหยู่เยนเข้าไป
วิดีโอถ่ายทอดสดแพร่กระจายไปทั่วทั้งตระกูลใหญ่ในเมืองเจียงอย่างดุเดือด
เพียงชั่วครู่ ทั้งทั้งเมืองก็ตกตะลึง
ตระกูลหานแต่งตั้งเจ้าบ้านคนใหม่!
ไม่ใช่หานหยุนเทาที่เป็นหลานชายคนโต แต่เป็นหานหยู่เยนที่แต่งงานกับไอ้ขยะคนหนึ่ง
เรื่องนี้ทำเอาคนทั้งกลุ่มตะลึงงันอ้าปากค้าง
……
บ้านเก่าแก่ของตระกุลหาน ห้องโถง
หานหยู่เยนและโล่เฉินกำลังนั่งอยู่ในนั้น
“หยู่เยน บริษัทถูกยกเลิกการยึดแล้ว พนักงานก็ค่อยๆกลับมากันแล้ว ตอนนี้มาถูกทางแล้ว ส่วนโครงการปินหูนั่น ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการปิดตัว” หานเจี้ยนเย่เอ่ย
หานหยู่เยนถาม “พ่อคะ ยังไม่ทราบสาเหตุของการพังทลายลงมาหรือคะ? นอกจากนี้ ทีมค้นหาและกู้ภัยมีความคืบหน้ายังไงบ้างคะ สถานที่เกิดเหตุจะจัดการเก็บกวาดยังไง?”
“ยังไม่พบสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ ตำรวจกำลังพยายามตรวจสอบอยู่ ตอนนี้ได้จัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจขึ้นมาแล้ว ทีมค้นหาและกู้ภัยได้ถอนตัวออกมาแล้ว พนักงานที่ถูกฝัง 95 คน รอดมาได้ 18 คน เสียชีวิต 56 คน ที่เหลือได้รับบาดเจ็บสาหัส”
“แล้วเรื่องค่าชดเชยเป็นยังไงบ้างคะ?”
ในเวลานี้เอง ชายในวัยสามสิบกว่าคนหนึ่งก็ลุกขึ้นยืน
ชื่อของเขาคือหานซิงหยุน เป็นคนมีสมองและความสามารถอย่างมาก หานหยู่เยนก่อนหน้านี้จับตามองเขามาตลอด สมัยที่หญิงชรายังอยู่ หานซิงหยุนเป็นเหมือนเธอที่ไม่เคยถูกให้ความสำคัญ อยู่แบบหงอยเหงาเศร้าสร้อย
ตอนนี้ หานหยู่เยนขึ้นตำแหน่ง ชีวิตของหานซิงหยุนก็มาสู่การเปลี่ยนแปลง
ตอนนี้เขาและหานเจี้ยนเย่เป็นรองผู้จัดการของบริษัท
“แต่เดิมคิดว่าตระกูลเจิ้งจะอาศัยอำนาจไปคุกคาม แต่เมื่อผมไปที่บ้านของผู้ตายก็พบว่าตระกูลเจิ้งชดเชยให้อย่างเต็มที่อย่างมาก ครอบครัวของผู้ตายก็พอใจมาก”
หานซิงหยุนชะงักไป ก่อนจะแค่นเสียง “แน่นอนว่ามีหลายครอบครัวคนตายที่ยังคงไม่ยอมแพ้ พวกเขาโลภมากและขอราคาสูงเสียดฟ้า”
“แล้วจัดการยังไง?”
“ไม่รู้แน่ชัด แต่สรุปได้ว่าด้านพวกนี้ตระกูลเจิ้งเป็นคนจัดการ พวกเราไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลเกินไป ผมรู้สึกว่า ถึงเวลาที่ต้องพัฒนาอย่างรวดเร็วแล้ว”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หานซิงหยุนก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง
เขาเองก็มีความทะเยอทะยานอย่างแรงกล้า และตอนนี้ก็เป็นเวลาที่จะแสดงมันออกมา
“หากโครงการปินหูปิดตัวลง การเริ่มงานใหม่อาจต้องใช้เวลาอีกหลายปี ลำพังการตัดสินใจก็ใช้เวลาหนึ่งปีแล้ว โชคดีที่พวกเรามีพูดคุยกับตระกูลเจิ้งหลายโครงการ แต่ละอันล้วนดีมาก เจ้าบ้าน พวกเราควรเปลี่ยนจากโครงการปินหูมาให้ความสำคัญกับด้านนี้แทน”
หานหยู่เยนรำพึง “โครงการทั้งสามของตระกูลหาน คุณรับผิดชอบสองโครงการมีปัญหาอะไรไหม?”
ร่างกายของหานหยุนซิงสั่นสะท้าน เขาไม่ได้รู้สึกถึงปัญหา แต่กลับตื่นเต้นอย่างมาก ความสุขแสดงออกมาผ่านคำพูดของเขา “แน่นอนว่าไม่มีปัญหา อุทิศให้ตระกูลหานจนตัวตาย”
“เหลืออีกหนึ่งโครงการ พ่อ ต้องฝากไว้ที่พ่อ”
หานเจี้ยนเย่ยิ้มและพยักหน้า
หานหยู่เยนเป็นกังวลอย่างมาก เธอเอ่ยอย่างกลุ้มใจ “ฉันยังคงให้ความสนใจกับทางปินหูอยู่ ทุกคนล้วนน่าจะสับสนอย่างยิ่ง เรื่องนี้ใครกันแน่ที่เป็นคนก่อมันขึ้นมา เป็นใครที่ตั้งเป้าใส่ตระกูลหานของเรา ถ้าหากเรายังไม่ทำให้มันชัดเจนขึ้นมา ต่อให้ตระกูลหานของเราเติบโตขึ้นมาได้ ในอนาคตเราก็ยังคงต้องพบกับหายนะอีกแน่”
ในใจของทุกคนเกร็งขึ้นมาและพูดคุยถกเถียงกัน
“แต่ว่าอย่าได้กังวลไป ผู้มีอำนาจเบื้องหลังที่อุบัติเหตุใหญ่ขนาดนี้ อย่างน้อยๆในสองปีนี้ก็ไม่น่าจะลงมือได้อีก ไม่อย่างนั้น คนทั้งประเทศจะตกใจ ถึงตอนนั้นไม่ว่าใครก็ตกที่นั่งลำบาก”
“เจ้าบ้านเอ่ยไม่ผิด” หานตงเล่เห็นด้วย
คนชอบตีเนียนผู้นี้ตอนนี้เองก็กำลังได้ใจ
โล่เฉินแนะนำให้หานหยู่เยนให้ใช้งานผู้ชายคนนี้ แม้ว่าเขาจะขี้เกียจ แต่ก็มีกำลังเหนือกว่า หลายคนในตระกูลหานกลัวหานตงเล่
บางครั้ง คนในตระกูลไม่เชื่อฟัง หานหยู่เยนเองก็ออกหน้าทำอะไรไม่ค่อยได้ ถึงตอนนั้นบทบาทของหานตงเล่ก็จะปรากฏออกมา
สามวันนี้
หานหยู่เยนไม่เพียงแต่เข้าใจทรัพย์สินของตระกูลหานทั้งหมดและยังได้วางแผนงานการพัฒนาในอนาคตอีกด้วย โล่เฉินเองก็สอนทักษะในการควบคุมผู้คนบางอย่างให้กับเธอ
การจะเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งได้ จำเป็นต้องมีความชำนาญในด้านนี้
“เจ้าบ้าน ผมมีเรื่องสองเรื่องที่อยากจะพูด”
จู่ๆหานตงเล่ก็ลุกขึ้นยืน
หานหยู่เยนส่งสัญญาณ “ล้วนเป็นคนในครอบครัว ไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนี้ จากนี้ไปทุกคนสามารถพูดได้อย่างอิสระ มีแค่การระดมความคิดและรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้น ตระกูลจึงจะสามารถรุ่งโรจน์ขึ้นมาได้”
ผู้คนต่างแอบชื่นชมเธอ ในใจยิ่งชื่นชมเลื่อมใสมากขึ้นไปอีก
หานตงเล่เอ่ย “อย่างแรก เกี่ยวกับสินสอดเจ้าสาว อย่างที่สองเกี่ยวกับหานหยุนเทา”
“ทุกคนอย่าลืมว่า ก่อนหน้านี้มีคุณชายลึกลับมอบสินสอดเจ้าสาวมาให้ตระกูลหาน มูลค่าของสินสอดเกือบ 20 ล้าน แต่ว่าตอนนี้สินสอดเจ้าสาวหายไปแล้ว”
วาบ
ทันใดนั้นก็เกิดความโกลาหลขึ้น
ท่ามกลางฝูงชน ใบหน้าของหานหยุนซีก็ ในใจคิดถึงผลได้ผลเสีย
“ในบ้านเก่าแก่ของตระกูลหานไม่มี อย่างนั้นก็ต้องเป็นหญิงชราที่แอบยักยอกสินสอดเจ้าสาวไป ตอนนี้หญิงชราอยู่กับครอบครัวของหานเจี้ยนกั๋ว นี่เห็นได้ชัดว่าสินสอดเจ้าสาวได้มอบไปให้พวกหานเจี้ยนกั๋วแล้ว” หานซิงหยุนเอ่ยวิเคราะห์
“ให้ตายสิ ยายแก่นี่!”
“สินสอดเจ้าสาวเป็นของหญิงสาวของตระกูลหาน หานเจี้ยนกั๋วมีหานหยุนเทาลูกชายเพียงคนเดียว ให้สินสอดใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่เขา!”
“สินสอดเจ้าสาวจะต้องถูกนำกลับมา”
หานซิงหยุนลุกขึ้นและเอ่ยว่า “เจ้าบ้าน ผมคิดว่าสินสอดเจ้าสาวจะต้องเอากลับคืนมา ไม่อย่างนั้น หากคุณชายผู้ลึกลับปรากฏตัวขึ้นมาและพบว่าสินสอดเจ้าสาวไม่มีแล้ว อย่างนั้นเขาก็คงต้องโมโหมากแน่ แบบนั้นไม่ดีต่อตระกูลหานของพวกเรา”
“ตามกลับคืนมา สินสอดเจ้าสาวนั่นเป็นของลูกสาวฉัน”
ข้างหลัง มีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งกรีดเสียงขึ้นมา
ฝูงชนหันไปมอง หญิงคนนั้นไม่มีท่าทีละอายแต่อย่างใด เธอดึงหานหยุนซีออกมาแล้วพูดว่า “สินสอดเจ้าสาวเป็นของหยุนซี หยู่เยนสินสอดเจ้าสาวนี้เธอจะต้องตามคืนกลับมาโดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นหานหยุนเทาต้องใช้หมดแน่”
“นี่เธอกำลังพูดเรื่องอะไรกัน สินสอดเจ้าสาวนั่นเป็นของลูกสาวต่างหาก”
“หรือว่าลูกสาวของฉันสู้ไม่ได้หรือไง”
……
ทันใดนั้น เหล่าหญิงวัยกลางคนก็ทะเลาะกันขึ้นมา
หานตงเล่ถลึงตาอันดุดันด้วยความโมโห เขาตะโกนขึ้น “เงียบเดี๋ยวนี้ เจ้าบ้านยังอยู่ที่นี่ เอะอะโวยวาย น่าอับอายจริงๆ”
อย่าว่าไป ทุกคนดันเงียบขึ้นมาจริงๆ
หานหยู่เยนมองไปที่โล่เฉินด้วยความชื่นชม รู้สึกว่าโล่เฉินนั้นเก่งกาจอย่างมาก เขามองหานตงเล่ออกอย่างปรุโปร่ง
ส่วนเรื่องสินสอดเจ้าสาว….
นั่นเป็นของที่โล่เฉินมอบให้ฉัน มันตกไปอยู่ในมือคนอื่นได้ยังไง
“เรื่องตามเอาคืนสินสอดเจ้าสาว ลุงตงเล่ ให้คุณจัดการเป็นยังไง?”
“ฮ่าฮ่า เจ้าบ้านไม่ต้องห่วง ภารกิจนี้ต้องสำเร็จ”
หานตงเล่ตบหน้าอกของตนด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
“แล้วเรื่องที่สองล่ะ เกิดอะไรขึ้นกับหานหยุนเทา?”
ใบหน้าของหานตงเล่จริงจังขึ้นมา เขาเอ่ย “ผมขอแนะนำ ขับไล่หานหยุนเทาออกจากตระกูลและลบออกจากลำดับวงศ์ตระกูลซะ”
นี่เป็นระเบิดขนาดใหญ่อีกลูกหนึ่ง
ฝูงชนหน้าซีดไปเล็กน้อย
แม้ว่าหานหยุนเทาจะไม่อยู่ที่นี่ แต่ว่าเขาก็เป็นหลานชายคนโตของตระกูลหาน การขับไล่ออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ แบบนี้มันออกจะ…
“เจ้าบ้าน อย่าได้ใจดีเกินไป”
หานตงเล่พูดอย่างโกรธเคือง “คุณลืมไปแล้วหรือว่าก่อนหน้านี้หานหยุนเทารังแกคุณยังไง ไม่จำเป็นต้องเห็นอกเห็นใจเขา ถ้าคุณไม่ขับไล่เขาออกจากตระกูล หลังจากนี้เขาจะต้องทำอะไรบางอย่างแน่ แทนที่จะมีปัญหาในอนาคต เราตัดไฟเสียแต่ต้นลมน่าจะดีกว่า”
หานหยู่เยนลังเล
“ทุกคนมีความคิดอย่างไรกับข้อเสนอของฉัน แสดงความคิดเห็นออกมากันหน่อย”
หานซิงหยุนพยักหน้า “ผมเห็นด้วยกับลุงตงเล่ หานหยุนเทาเป็นเนื้อร้าย เขาควรถูกลบทิ้งไป”
เมื่อรองผู้จัดการเอ่ยปาก คนอื่นๆ ก็เริ่มเห็นด้วย
โล่เฉินและหานเจี้ยนเย่สบตากันและกระซิบ “หยู่เยน ตระกูลหานมีเธอเป็นผู้นำก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเหลือหลานชายคนโตเอาไว้”
“แบบนี้จะดีจริงๆหรือ?”
“มีอะไรไม่ดี มันจะไม่เกิดขึ้นอีก”
ในที่สุดหานหยู่เยนก็ตัดสินใจและพยักหน้า “ตกลง ขับหานหยุนเทาออกจากตระกูล เพียงแต่ทุกคนไม่จำเป็นต้องจำกัดเขาให้สิ้นซาก ยังไงเสียก็มีสายเลือดเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องไปหาเรื่องหานหยุนเทาแล้ว”
การประชุมกินเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง
สุดท้าย โล่เฉินก็รายงานข่าวดีว่า “หยู่เยน เจิ้งข่ายลงทุนในบริษัทของฉันอีกแล้ว เป็นเงินสิบล้าน”
ตูม
บรรยากาศถึงจุดสูงสุด
หานตงเล่ผู้ชอบประจบสอพลอหัวเราะดังลั่น “นายท่านเก่งกาจจริงๆ คุณชายเจิ้งลงทุนไปกว่า 25 ล้านแล้ว ได้ยินมาว่าบริษัทของนายท่านมีสตรีมเมอร์สวยๆทั้งนั้น วันหลังไปดูสักหน่อย”
หานหยู่เยนกลายเป็นเจ้าบ้าน ดังนั้นโล่เฉินย่อมถูกเรียกว่า “นายท่าน” ไปด้วย
เขาได้ฟังแล้วไม่เป็นตัวเองอยู่นิดหน่อย
ในบรรดาญาติๆยังมีคนที่ไม่พอใจเช่นกัน มีคนไม่น้อยรู้สึกอับอาย ลูกเขยขยะที่เคยถูกทอดทิ้งตอนนี้ปีนขึ้นมาบนหัวของพวกเขาในพริบตา
คุณจะโกรธหรือไม่
แต่ว่าก็ทำอะไรไม่ได้ หากต้องการอยู่ในตระกูลหาน ต้องการที่จะเจริญรุ่งเรืองในอนาคต ก็ได้แต่ต้องก้มหัวลง
“คุณอย่าได้ไปก่อเรื่องอะไรที่นั่น”
“นายท่านไม่ต้องเป็นห่วง ผมก็แค่ไปชื่นชมสาวงามเท่านั้น” หานตงเล่แตะจมูกและพูดด้วยรอยยิ้ม
โล่เฉินเอ่ย “ผมวางแผนที่จะก่อตั้งแพลตฟอร์มการถ่ายทอดสดของตัวเอง บริษัทเองก็จะเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท แพนด้าไลฟ์ จำกัด ชื่อของแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดก็คือแพนด้าไลฟ์ หรือเรียกอีกอย่างว่าแพนด้าTV”
หานหยู่เยนดีใจอย่างมาก “คุณเก่งมากจริงๆ ตอนนี้ตระกูลหานเทียบกับคุณไม่ได้แล้ว”
“บริษัทของผมก็คือของคุณไม่ใช่หรือ แพนด้าเป็นของตระกูลหาน”
โล่เฉินลุกขึ้น เขาเอ่ยอย่างเคร่งขรึมและเย็นชาว่า “ภายใต้สภาพแวดล้อมตอนนี้ มีปัจจัยหนุนหลายอย่าง ผมเชื่อว่าตระกูลหานจะดียิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ และหวังว่าทุกคนจะไม่มีความคิดคดเคี้ยวเป็นอื่น เราต้องสามัคคีกัน สนับสนุนหยู่เยน ทำให้ตระกูลหานเจริญรุ่งโรจน์อย่างรวดเร็ว แบบนี้ทุกคนถึงค่อยได้เสพสุจกับความสุขความเจริญ”
“ผมย่อมติดตามเจ้าบ้านหยู่เยนอย่างแน่นอน”
หานตงเล่เป็นผู้นำและเริ่มตะโกนอีกครั้ง
หานหยู่เยนกลอกตากับโล่เฉิน เธอรู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นพวกแชร์ลูกโซ่ ทำไมถึงชอบตะโกนสโลแกนกันนะ!
เมื่อสิ้นสุดการประชุม ฝูงชนก็ค่อยๆ แยกย้ายกันไป
นอกบ้านเก่าแก่ของตระกูลหาน
หานหยางและหานหยุนซียืนข้างกัน ฝ่ายหลังถามว่า “พี่หยาง จากนี้ไปคุณจะติดตามหานหยู่เยนจริงๆ หรือ?”
“ทำไมจะไม่ล่ะ เธอไม่เห็นหรือไง จิตใจของหานหยู่เยนดีกว่าหานหยุนเทาตั้งเยอะ อีกทั้งยังมีตระกูลเจิ้งหนุนหลังอยู่ด้วย ตระกูลหานกำลังจะติดปีกบินแล้ว อนาคตที่ดีของพวกเรากำลังจะมาถึงแล้ว”
หานหยางเหล่มองและถามอย่างแปลกใจ “หรือว่า เธอมีปัญหากับเจ้าบ้านหยู่เยน?”
หานหยุนซีตกใจ เธอรีบโบกมืออย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่ ไม่ใช่ ฉันแค่คิดว่า พวกเราทรยศหานหยุนเทา เขาจะมาแก้แค้นพวกเราหรือเปล่า”
“อาศัยเขา?”
หานหยางเยาะเย้ย “ตอนนี้เขาเป็นแค่ไอ้สุนัขหลงทาง จะเอาอะไรมาแก้แค้น เขากล้าที่จะตอบโต้หรือไง”
เมื่อเห็นหานหยุนซีเงียบไป หานหยางก็พูดอีกครั้ง “นอกจากนี้ หญิงชราจะต้องมอบสินสอดเจ้าสาวให้เขาแน่ สินสอดเจ้าสาวนั่นเป็นของเธอนะ เธอไม่เอาแล้วหรือไง?”
“แน่นอนว่าเอาสิ ใครก็แย่งมันไปไม่ได้ทั้งนั้น”
“อย่างนั้นตอนนี้เธอก็ไปหาลุงตงเล่ พาแม่เธอไปด้วย ไปเอาเรื่องหานเจี้ยนกั๋วซะ ทางที่ดีก็ไปทำให้หญิงชรานั่นโมโหแทบตายไปเลย จัดการหานหยุนเทาให้ตาย ไม่อย่างนั้นเธออย่าฝันว่าจะได้สินสอดเจ้าสาว นั่นมีมูลค่า 20 ล้านเชียวนะ”
ฟืด 20 ล้าน!
หานหยุนซีไม่สงบอย่างยิ่ง เธอเอ่ยขอบคุณจากนั้นก็รีบขับรถตามหานตงเล่ไปทันที
เมื่อมองไปที่รถที่หายไปบนถนน หานหยางก็ลูบคางและยิ้มที่มุมปากของตนอย่างสมใจ