จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 15 จับฉลาก
บทที่15 จับฉลาก
“โย่ว นี่ไม่ใช่หัวโจกที่มาซื้อรถเมื่อวานเหรอ!”
“นั่นสิ ไม่รู้ว่าวันนี้จะมาซื้อกี่คัน!”
“พวกคุณกำลังคุยภาษาคนอยู่หรือเปล่า เขามาถ่ายรูปเฉยๆ ไม่เห็นเหรอว่าเมื่อวานยุ่งขนาดไหน จนลืมถ่ายรูปเลยน่ะ”
ประตูของร้าน4S มีพนักงานขายหลายคนหัวเราะจนปากอ้า
โล่เฉินไม่ได้สนใจอะไร พลางเดินเข้าไปหาพนักงานที่ผิวพรรณดีที่มาต้อนรับอย่างดีเมื่อวันก่อน พลางพูดออกไป “เสี่ยวหลิว!”
“ใครน่ะ?”
เสี่ยวหลิวหันมามอง ก็รู้สึกแปลกใจมาก ก่อนจะรีบเดินเข้ามา “คุณผู้ชาย คุณมาแล้วจริงๆ เหรอ”
“ทำไมจะไม่มาล่ะ?” โล่เฉินยิ้มเบาๆ “540คันนั้นยังอยู่ไหม?”
“อยู่ๆ คุณมากับฉันเถอะ”
เสี่ยวหลิวพาโล่เฉินที่ด้านหน้าของ540Liคันนั้น ในใจก็แอบคาดหวังนิดหน่อย “คุณผู้ชาย นั่น……วันนี้เอาบัตรเครดิตมาหรือเปล่าล่ะ?
“เสี่ยวหลิว คุณไม่มีสมองแล้วเหรอ”
หน้าประตู มีพนักงานขายที่แต่งตัวรัดรูปหัวเราะเยาะ “เมื่อวานมาปั่นหัวคุณไปครั้งหนึ่งแล้ว วันนี้มาปั่นหัวคุณอีก คุณก็ยังจะโดนหลอกนะ ทำไมโง่จริงๆ เลย!”
“เขาเห็นลูกค้าเป็นพระเจ้าไงล่ะ รักษาจรรยาบรรณเป็นอย่างมาก เพื่อให้หัวหน้ามาเห็นไง!”
“พอได้แล้วล่ะ หัวหน้าไม่มีทางยกย่องคนโง่แบบนี้หรอก ลูกค้าเป็นพระเจ้าก็จริง แต่ต้องซื้อรถสิถึงเป็นพระเจ้า ซื้อไม่ไหวยังจะมาทำเก่ง นั่นมันไอ้เฮงซวย。”
เสี่ยวหลิวมีสีหน้าทำตัวไม่ถูก แต่อีกหนึ่งวินาทีถัดมา ก็มีบัตรเครดิตออกมา
“รูดบัตร!”
โล่เฉินดูเวลา ก็พูดขึ้นด้วยความรีบร้อน “ดำเนินการให้เสร็จก่อนสี่โมงนะ ฉันจะขับออกไปเลย จะรับภรรยาของฉัน”
ในตอนนั้นเอง พนักงานขายกลุ่มหนึ่งตรงประตูก็งงกันไปหมด
เสี่ยวหลิวกลับมองอย่างมีความสุข ก่อนจะรับบัตรเครดิตไปแล้วพยักหน้า พลางวิ่งไปที่การเงินทันที
“มันต้องเป็นของปลอมแน่เลย!”
“TIKTOKเป็นแบบนี้กันหมด พอรูดบัตรก็ไม่มีเงิน!”
“หึ ยิ่งมองยิ่งน่ารำคาญ ถ้าเกิดมาอยู่ต่อหน้าตอนที่อารมณ์ไม่ดี จะไปทำร้ายให้!”
พนักงานขายที่แต่งตัวรัดรูปพูดจบ ก็มีเสียง “ติ๊งต่อง” ดังขึ้นมา
จากนั้น ก็มีเสียงประกาศการจ่ายเงินออกมา
“ชำระเงินสำเร็จ หกแสน เงินคงเหลือสี่ล้านสี่แสน”
ให้ตายเถอะ จริงๆ ด้วย!
พนักงานขายที่อยู่ตรงหน้าประตูหลายๆ คนทำตัวไม่ถูก เลยรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก
ถ้าเกิดว่าพวกเขาเป็นคนต้อนรับเมื่อวาน วันนี้คนที่จะซื้อได้สำเร็จก็คือพวกเขา แล้วก็จะได้เงินส่วนแบ่งเป็นหมื่นเลยล่ะ
แต่ใครจะไปคิดได้ ว่าคนที่แต่งตัวเหมือนอยู่ข้างทาง ขี่จักรยานไฟฟ้าจะเป็นหัวโจกที่มีเงินห้าล้าน แถมวันนี้ไม่ได้ขี่จักรยานไฟฟ้า แต่นั่งแท็กซี่มา
นี่คือผ้าขี้ริ้วห่อทองที่เขาว่ากัน นี่มันหลอกลวงไม่ใช่เหรอ
“คุณผู้ชาย บัตรของคุณ!”
เสี่ยวหลิวยิ่งเคารพเข้าไปใหญ่ เมื่อครู่เขารูดบัตรแบบไม่มีรหัส มีเพียงแค่คนรวยเท่านั้นที่ทำแบบนั้นได้ เพราะห้าล้านมันไม่อยู่ในสายตาของพวกเขาด้วยซ้ำ เลยไม่ใส่รหัสผ่าน
วัยรุ่นที่อยู่ตรงหน้า น่าจะมีค่าตัวอย่างน้อยร้อยล้านได้
“ชำระเงินเสร็จแล้ว รีบจัดการให้ฉันเร็ว อีกแค่สิบห้านาทีก็จะถึงสี่โมงแล้ว”
“เข้าใจแล้ว ขอเชิญคุณไปเซ็นต์สัญญากับฉัน”
หลังจากนั้นสิบห้านาที โล่เฉินก็ขับBMW540Liออกจากร้าน4S ก่อนจะไปก็เอานามบัตรของเสี่ยวหลิวมาด้วย มันทำให้พนักงานขายตรงหน้าประตูอิจฉาเป็นอย่างมาก
เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้น
รถดีๆ นี่มันไม่เหมือนกันเลย เสียงเครื่องยนต์มันยังเพราะหู
โล่เฉินอยากเซอร์ไพรส์หานหยู่เยน เลยขับไปรับที่บริษัทของตระกูลหาน
เมื่อดูเวลา ก็น่าจะเลิกงานแล้ว
ในตอนนั้นเอง การประชุมของบริษัทตระกูลหาน
“เพล้ง!”
หานหยุนซีปาแก้วชาแตก มีสีหน้านิ่งเฉย “หานหยู่เยนไอคนเลว ทำเหมือนจะมีเหตุผล บอกกับย่าว่าจะย้ายฉันไปเป็นลูกน้องของเธอ ที่สำคัญย่ายังเห็นด้วยอีก เธอเป็นใครกันแน่ มีสิทธิ์อะไรมาจัดการฉัน!”
“ฮ่าๆ สวยงามจริงๆ หานหยู่เยนจัดการคุณอย่างชัดเจนเลยหนิ!”
“หานหยุนเทาคุณยังหัวเราะอะไรอีก!”
หานหยุนซีหน้าแดงหูแดง ก่อนจะพูดเสียงสูง “คนต่อไปก็คือคุณ อย่าลืมว่าพวกเราทำลายหานหยู่เยนอย่างไร ตอนนี้เธอเป็นคนรักของคุณย่าแล้ว ต้องมาแก้แค้นเราอย่างแน่นอน ไม่แน่ว่า พรุ่งนี้ตำแหน่งอย่างคุณก็จะถูกเธอสวมแทนแล้ว!”
“เธอกล้าเหรอ!”
“คุณคิดว่าเธอจะกล้าไหม?”
หานหยุนซียิ้มเย็นชา “คิดดีๆ เถอะว่าจะทำอย่างไรกับสารเลวนั่น จริงสิ ก่อนหน้านี้คุณไม่ได้อยากจะทำลายหานหยู่เยนที่สละให้ประธานของบริษัทเฉิงหยู่หรอกเหรอ ทำไมถึงไม่มีอีกล่ะ!”
“ทำลายอะไรกัน สารเลวคนนั้นจะต้องนอกใจโล่เฉินอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร”
“งั้นคุณก็แพร่ข่าวออกไปสิ ยังจะรออะไรอีก!”
หานหยุนเทาปรายตาอย่างเย็นชา ก่อนจะยิ่งร้ายๆ ออกมา “วางใจเถอะ โจวไท่จะช่วยพวกเรากระจายข่าว หานหยู่เยนไม่ไว้หน้าเขา ปฏิเสธคำขอของเขา โจวไท่ไม่มีทางยอมแพ้อย่างแน่นอน!”
……
ข้างนอกบริษัท
“โล่เฉิน คุณ……”
“เป็นอย่างไรบ้าง?รอใหม่สวยไหม ซื้อให้คุณนะ”
หานหยู่เยนตอนแรกอยากจะถามว่าโล่เฉินมาได้อย่างไร แต่ว่าเมื่อเห็นรถหรูหรานั้น ก็ตกใจจนอ้าปากค้าง
อันที่จริง540Liเป็นรถในฝันที่หานหยู่เยนอยากได้มาตลอด มันไม่ได้แพงมากแล้วก็ไม่ได้ถูกมาก และก็ไม่ได้ดูโอ่อ่าเกินไปถ้าเทียบกับฐานะตัวเอง
แต่ว่า บ้านของเธอนั้นไม่ต้องพูดถึงBMWเลย แค่รถโตโยต้าคราวน์ที่ขับมาหกปียังไม่กล้าเปลี่ยนเลย
“อึ้งอะไรอยู่ รีบขึ้นรถเร็ว ฉันจะเป็นคนขับรถให้คุณเอง”
หานหยู่เยนยิ้มแป้น ก่อนจะเข้ามานั่งในรถแล้วบิดขี้เกียจ
โล่เฉินปรายตามอง ขับรถไปพลางถาม “ดูคุณมีความสุขจังเลยนะ นอกจากเรื่องรถแล้ว มีเรื่องอะไรอีกใช่ไหม”
“ฉันขอให้ย่าย้ายหานหยุนซีมาทำตำแหน่งที่ต่ำกว่าฉัน ย่าอนุญาตแล้ว”
“งั้นเหรอ”
โล่เฉินพูดตะกุกตะกัก ก่อนจะพูดด้วยความหมายลึกซึ้ง “แก้แค้นงั้นเหรอ?ไม่เหมาะกับนิสัยของคุณเลย”
หานหยู่เยนกลอกตามองบน ก่อนจะบ่นพึมพำด้วยความไม่พอใจ: “ใครจะแก้แค้น ฉันดูโหดร้ายขนาดนั้นเลยเหรอไง!ถึงแม้ว่าหานหยุนซีจะชอบโวยวาย แต่มีความสามารถ วันๆ เธอเอาแต่ทำตัวไม่เป็นประโยชน์ มันเสียของเปล่าๆ ฉันย้ายเธอมา ก็หวังว่าเธอจะทำอะไรได้ แล้วเรียนรู้อะไรได้บ้าง”
เงียบไปสักพัก จากนั้นหานหยู่เยนก็พูดต่อ
“โปรเจคของปินหูนั้นใหญ่มาก ถ้าไม่ใช่คนที่มีประสบการณ์สองสามปีไม่มีทางทำได้ แถมยังใช้เวลาอีกมากด้วย การสร้างก็ใหญ่มาก ฉันเป็นคนรับผิดชอบ แต่ฉันคนเดียวไม่ไหวแน่นอน ต้องหาคนมาช่วย ดังนั้นฉันเลยเลือกหานหยุนซี!”
โล่เฉินนั้นยกย่องหานหยู่เยนอยู่ในใจ เพราะเธอนั้นไม่คิดแค้นมากมาย แถมยังเรียนรู้และใช้มันให้เกิดประโยชน์อีกด้วย
นิสัยแบบนี้ หาไม่ได้ง่ายๆ เลย
“ฉันเดา ว่าเธอคงไม่ทำตามคุณใช่ไหม”
“ถึงอย่างไรสิ่งที่ควรทำฉันก็ได้ทำไปหมดแล้ว เธอจะคิดอย่างไร จะตัดสินอย่างไรนั้นฉันเดาไม่ออก ฉันรับประกันใจของตัวเองได้ แต่เรื่องอื่นนั้นต้องปล่อยไป!”
หานหยู่เยนถอนหายใจ ก่อนจะคิดอะไรออก พลางถามด้วยความตกใจ: “จริงสิ จะรอคุณที่KTVเรอัลมาดริด แต่ว่าถูกหานหยุนซีลากไปที่บริษัท ฉันโทรหาคุณ คุณก็ไม่รับเลย ฉันเป็นห่วงแทบแย่ ทำไมคุณ……”
“เรื่องเล็กทั้งนั้น!”
“เรื่องเล็กอะไร งั้นคือหงเหลยถิงเลยนะ พูดคำเดียวก็ทำลายตระกูลหานได้ คุณหนีออกมาได้อย่างไร?หงเหลยถิงรู้ตัวตนคุณไหม คงจะไม่มาหาตระกูลหานใช่ไหม?”
หานหยู่เยนเครียดเป็นอย่างมาก
เป็นห่วงนู่นนี่ ใจเต้นไม่หยุด ท่าทีน่ารักน่าชัง มองจนโล่เฉินทนไม่ไหวแล้วหัวเราะออกมา
“ไม่ต้องอารมณ์เสียแล้ว ง่ายมากเลย ฉันโทรหาเพื่อนสมัยเรียนฟ่านหมิง เขาสนิทกับหงเหลยถิงอยู่บ้าง หงเหลยถิงเลยปล่อยฉันไปน่ะ!”
“ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?” หานหยู่เยนเหมือนจะไม่เชื่อ
“แล้วคุณคิดว่าไงล่ะ!”
โล่เฉินวาดมือออกไป พร้อมด้วยน้ำเสียงประหลาด “พยัคษ์ร้ายอย่างฉัน เตะก้นของหงเหลยถิงจนฉี่ราด เขากลัวจนยอมเอาหัวโขกพื้น และรับรองเลยว่าจากนี้จะไม่กล้ามาหาเรื่องฉันอีก คุณอยากฟังเวอร์ชันนี้เหรอ?”
หานหยู่เยน “พรวด” ขำออกมา พลางพูดด้วยความมองบน: “อย่าล้อเล่น คุณเนี่ย หงเหลยถิงทำให้คุณตายได้ด้วยนิ้วเดียว แต่ก็ต้องขอบคุณเพื่อนคุณคนนั้นจริงๆ ที่ช่วยพวกเราสองครั้ง”
โล่เฉินใจสั่นครืน
หานหยู่เยนหมายความว่า “พวกเรา” ก็คือเห็นเขาเป็นคนของตัวเอง ปากของโล่เฉินไม่มีรอยยิ้ม หานหยู่เยนมองหน้าจอโทรศัพท์ที่สะท้อนมา มุมปากก็ยิ้มยกขึ้นมา
“ห๊ะ!”
“เห้อ อย่าตกใจแบบนี้สิ กำลังขับรถอยู่นะ”
“เกือบงานเข้าเสียแล้ว เอาตรงๆ นะ มีรถได้อย่างไรกันเนี่ย?”
โล่เฉินหดคอ พูดติดๆ ขัดๆ “คือว่า……ฉันจะบอกว่า จับรางวัล คุณเชื่อไหม?”