จอมใจ จอมอหังการ ชุด เทพบุตรการ์รัสโซ่ - ตอนที่ 2
ในที่สุดก็ต้องหมุนตัวและเดินจากไปช้าๆ หัวใจมีเลือดไหลทะลักออกมาอีกแล้ว แต่เท้าบางยังไม่ทันจะก้าวพ้นปากประตูเสียงห้าวสุดกระด้างของราฟาลก็ดังขึ้นซะก่อน มันหยุดการเคลื่อนไหวของหล่อนทั้งหมด ยกเว้นหัวใจที่เต้นแรงระรัว แค่ได้เห็นเขาเรียกชื่อตัวเองเท่านั้น ร่างกายของหล่อนก็ร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แถมบางส่วนของร่างกายยังรู้สึกเบ่งบานจนอึดอัดอีกต่างหาก มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อนเลย นอกจากราฟาล การ์รัสโซ่คนนี้ ผู้ชายที่หล่อนไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดรัก
รดารักษ์ค่อยๆ หันกลับไปเผชิญหน้ากับเทพบุตรมารอีกครั้ง ด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่กลีบปาก แต่รอยยิ้มนั้นก็ต้องมีอันต้องจางลงทันควันเมื่อสองหูได้ยินคำพูดของผู้ชายหล่อระเบิดตรงหน้าชัดเจน
“ถ้าจำไม่ผิด… ฉันเคยสั่งแล้วใช่ไหมว่าห้ามเธอเข้ามาใกล้ฉัน…”
ใบหน้างามที่ซีดเผือดอยู่แล้วซีดลงอีก กลีบปากอิ่มสั่นระริกขณะช้อนดวงตากลมโตที่มีแพขนตายาวงอนล้อมรอบขึ้นมองคนพูดด้วยสายตาตัดพ้อ
“คือว่า… ป้ามูนาไม่ว่าง รดาก็เลย…”
หญิงสาวยังอธิบายไม่ทันจบประโยคเลย พ่อเทพบุตรตาหวานก็แทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงถือตัวจนคนฟังอย่างหล่อนแทบจะน้ำตาเล็ดออกมา ทำไมนะ…? ทำไมราฟาลถึงต้องรังเกียจหล่อนมากมายถึงเพียงนี้ด้วย ทั้งๆ ที่หล่อนก็ไม่เคยแสดงความในใจใดๆ ออกไปเลย ไม่เคยทำให้เขายุ่งยากใจ ขอแค่เพียงได้ดูแล ได้เห็นหน้าเขาบ้างเท่านั้นเอง มันผิดมากนักหรือไง
“ต่อจากนี้ไป… ต่อให้คนใช้ในบ้านลาป่วยทุกคน…” เขาจ้องหน้าหล่อนนิ่ง สายตาของเขาบอกว่าหล่อนนั้นเป็นยิ่งกว่าศัตรูในสนามธุรกิจของเขาเสียอีก
“เธอก็ไม่ต้องมาวุ่นวายกับฉัน เข้าใจไหม?”
“แต่ว่า…”
“และอย่าขัดคำสั่งเชียวล่ะ เพราะไม่อย่างนั้นเธอจะตกนรกทั้งเป็น…”
คำพูดที่เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากหยักสวยของราฟาลนั้นเป็นทั้งคำเตือนและคำขู่ แม้จะอยากคัดค้านเพียงใด แต่หล่อนก็รู้ดีว่าคนอย่างคุณชายใหญ่แห่งการ์รัสโซ่คงไม่มีทางยอมรับฟังสิ่งใดจากหล่อนง่ายๆ แน่ ผู้ชายคนนี้เหี้ยมโหด อำมหิต และเลือดเย็นยิ่งนัก
“ไปได้แล้ว…”
“ค่ะ คุณราฟ”
ไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากก้มหน้าแล้วรีบวิ่งออกไปจากห้องรับแขกอย่างรวดเร็ว หล่อนต้องรีบไปให้พ้นจากสายตาของผู้ชายคนนี้ ต้องรีบไปให้เร็วที่สุด ก่อนที่น้ำตาจะไหลทะลักออกมา และด้วยความฉลาดของราฟาลเขาคงล่วงรู้ความในใจของหล่อนได้อย่างง่ายดาย
ไม่มีทาง! หล่อนจะไม่มีวันยอมให้เขาเกลียดมากกว่าที่เป็นอยู่หรอก เพราะแค่นี้หล่อนก็เจ็บปวดราวกับจะขาดใจตายอยู่แล้ว
“รดา… ร้องไห้ทำไมเนี่ย…”
เสียงของลิโอเนล การ์รัสโซ่ คุณชายที่สองของการ์รัสโซ่ พาราไดน์ที่เดินสวนมาพอดีต้องหยุดชะงักเท้ากึก มือบางรีบยกขึ้นป้ายน้ำตาทิ้งอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ให้สั่นสะท้าน แต่มันหาได้ผลไม่
“ไม่… ไม่ได้ร้องหรอกค่ะ ฝุ่นเข้าตา…”
ลิโอเนลส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะพูดออกมาด้วยความสงสาร เขาพอจะมองออกว่ารดารักษ์รู้สึกยังไงกับราฟาล ก็มีแต่ตาทึ่มนั่นกลับทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ทั้งๆ ที่เขามั่นใจว่าราฟาลก็ต้องรู้บ้างแหละว่าแม่สาวใช้สุดสวยตรงหน้าคิดยังไงกับตัวเอง
“พี่ราฟดุมาอีกแล้วใช่ไหม”
“ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่…” รีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที ลิโอเนลระบายยิ้มอย่างรู้ทัน
“ไม่ต้องปิดฉันหรอกรดา… เอาเป็นว่าฉันสัญญาว่าจะไม่แพร่งพรายความรู้สึกของเธอให้ใครฟัง โดยเฉพาะพี่ราฟโอเคหรือเปล่า…”
ใบหน้างามที่ตอนนี้เงยหน้าจ้องมองพ่อผู้ชายที่สูงกว่าตัวเองมากมายด้วยความตกใจ ก่อนจะถามออกไปด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“คุณลีโอรู้…”
หนุ่มหล่อขั้นเทพพยักหน้าน้อยๆ “เธออ่านง่ายจะตายรดา คิดอะไรสายตาของเธอบอกหมดนั่นแหละ รู้ไหมว่าคำว่า ‘รัก’ ที่เธอมีต่อพี่ราฟาลน่ะมันติดหราอยู่บนหน้าผากเธอตลอดเวลานั่นแหละ”
สาวน้อยอ้าปากค้างรีบยกมือขึ้นปิดหน้าผากของตัวเอง ลิโอเนลหัวเราะขบขัน “ปิดยังไงก็ไม่มิดหรอก เอาล่ะ เลิกร้องไห้ซะ แล้วก็ตัดสินใจซะด้วย เพราะพี่ราฟไม่นิยมชีวิตคู่ เขาไม่ศรัทธาในความรัก พอๆ กับพวกฉันนั่นแหละ… เธอจะต้องเสียใจ หากยังปักใจอยู่แบบนี้…”
มันเป็นความจริง สิ่งที่ลิโอเนลเตือนมันคือเรื่องจริง พวกหนุ่มๆ การ์รัสโซ่ล้วนแต่มีอคติต่อผู้หญิงทุกคน พวกเขาไม่เชื่อว่าความรักมีอยู่จริงในโลกใบนี้ พวกเขาคิดเสมอว่าผู้หญิงเป็นแค่พวกมนุษย์ที่กระหายเงิน แค่พวกเขาโยนเศษเงินลงไปที่พื้นพวกหล่อนๆ ก็จะคลานมาหมอบซบอยู่ที่ฝ่าเท้าแล้ว
แต่หล่อนตัดใจไม่ได้… หล่อนรักราฟาล รักมาก รักแม้จะไม่มีวันได้ครอบครองก็ตาม…
“รดาทราบดีค่ะ…”
“รู้ก็ดีแล้วล่ะ ตัดใจซะ แล้วชีวิตของเธอจะมีความสุขมากกว่านี้”
ลิโอเนลยิ้มบางๆ พร้อมทั้งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล รดารักษ์เป็นสาวใช้วัยรุ่นเพียงคนเดียวในการ์รัสโซ่ พาราไดส์ ปกติที่นี่จะไม่รับคนใช้ที่เป็นผู้หญิงมากนักเพราะพวกหล่อนๆ มัวแต่จะมาจ้องมองพวกเขาจนน่ารำคาญ ดังนั้นในการ์รัสโซ่ พาราไดส์ คนใช้แปดสิบเปอร์เซ็นต์จึงเป็นผู้ชาย ส่วนอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่เหลือคือผู้หญิงวัยเลยสี่สิบปีไปแล้วทั้งนั้น ยกเว้นรดารักษ์เพียงคนเดียว และที่แม่สาวน้อยคนงามได้รับสิทธิ์นี้ก็เพราะว่าหล่อนคือหลานสาวของป้ามูนาแม่บ้านเก่าแก่ของที่นี่นั่นเอง
“รดาจะพยายามค่ะ…” ตอบออกไปเสียงเศร้านัก จนคนฟังอดเวทนาไม่ได้
“แค่พยายามไม่พอหรอกรดา เธอต้องทำให้ได้ ไม่อย่างนั้นเจ็บจนตายนั่นแหละ” แม้จะรู้ว่าผู้ชายที่หล่อระเบิดไม่แพ้ราฟาลตรงหน้านั้นพูดด้วยความหวังดี แต่หัวใจไม่รักดีของหล่อนมันกลับไม่ยอมเชื่อฟัง เพราะจังหวะการเต้นของมันยังคงเป็นชื่อของราฟาลไม่เปลี่ยนแปลง
“พี่ราฟไม่มีทางรักเธอ… พอๆ กับที่เขาไม่มีทางรักผู้หญิงคนไหนในโลกนี้นั่นแหละ”
ลิโอเนลถอนใจออกมาหนักหน่วง ก่อนจะยกมือขึ้นกุมหัวไหล่บอบบางของหญิงสาวตรงหน้าเอาไว้อย่างให้กำลังใจ ขณะที่รดารักษ์กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
“หากอยู่ที่นี่รดาคง… ตัดใจไม่ได้”
“อย่าบอกนะว่าเธอจะลาออก…”
หญิงสาวพยักดวงหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาช้าๆ “ค่ะ หากจะให้รดาทำตามคำแนะนำของคุณลีโอ รดาก็คงต้องไป ต้องไปจากที่นี่…”
“ฉันเคารพการตัดสินใจของเธอ… จำเอาไว้นะฉันหวังดีกับเธอ…”
ชายหนุ่มลูบศีรษะทุยสวยของหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเอ็นดู ก่อนจะยัดเหยียดผ้าเช็ดหน้าของตัวเองให้กับเจ้าหล่อน
“รดารับไม่ได้หรอกค่ะ…”
“เอาไปใช้เถอะน่า จะใช้สั่งขี้มูกฉันก็ไม่ว่าหรอก เพราะไม่ต้องเอามาคืน…”
ความใจดีของลิโอเนลยิ่งทำให้รดารักษ์สะอื้นไห้หนักมากขึ้นไปอีก หากราฟาลใจดีกับหล่อนได้สักครึ่งหนึ่งของลิโอเนลหล่อนก็คงจะไม่รู้สึกย่ำแย่แบบนี้
“ขอบคุณมากค่ะ… ขอบคุณจริงๆ” หญิงสาวยกผ้าเช็ดหน้าสีเข้มในมือนั้นขึ้นซับน้ำตาตัวเอง แต่กระนั้นก็ยังร้องไห้ไม่หยุด
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกน่า ฉันอยากมีน้องสาวหน้าตาน่ารักแบบเธอ… เอาล่ะเลิกร้องได้แล้ว…”
ในที่สุดลิโอเนลก็ดึงร่างอรชรที่สะอื้นไห้จนตัวโยนเข้ามาสวมกอดเอาไว้ ลูบหัวลูบไหล่ปลอบประโลมด้วยความเวทนาสงสาร แต่คนที่พึ่งก้าวออกมาจากห้องรับแขกกลับไม่ได้คิดแบบเดียวกันแม้แต่นิดเดียว ดวงตาสีเดือนดับมืดดำล้ำลึกจนน่ากลัว
“หากจะพลอดรักกัน… ก็ควรให้ลับตาเสียหน่อย” เสียงกระด้างของราฟาลทำให้สองร่างแยกออกจากกันอย่างรวดเร็ว ลิโอเนลหมุนตัวหันกลับไปยักไหล่กว้างของตัวเองให้กับพี่ชายที่ยืนหน้าไร้ความรู้สึกอยู่เบื้องหลัง ก่อนจะปล่อยคำพูดติดตลกออกมา
“หึงหรือครับ…”
“นายก็รู้ดีว่าพี่ไม่มีทางรู้สึกแบบนั้น…”
น้ำเสียงของเขาว่าเย็นชาแล้ว แต่สายตาที่เขามองจ้องมาที่หล่อนนั้นช่างเย็นชามากกว่าอีก รดารักษ์หน้าร้อนผ่าวกับคำกล่าวหาที่ราฟาลซัดเข้าใส่ทางสายตา หล่อนกำผ้าเช็ดหน้าแน่น ก่อนจะรีบเดินหนีออกไปอย่างรวดเร็ว ลิโอเนลกำลังจะร้องเรียก แต่ก็ถูกราฟาลหยุดเอาไว้ซะก่อน
“พี่รู้ว่านายอยากจะคุย… หรือบางทีอาจจะอยากทำอะไรต่อ แต่พี่มีเรื่องสำคัญจะคุยกับนาย…”
ผู้เป็นน้องชายระบายยิ้มบางๆ หรี่ตามองพี่ชายอย่างจับพิรุธ “พี่ราฟแน่ใจนะว่าไม่ได้รู้สึกอะไรที่เห็นผมกอดกับรดา…”
ผู้เป็นพี่ชายไหวไหล่กว้างอย่างไม่แยแส “พี่ยินดีด้วย หากนายจะได้นางบำเรอเพิ่มอีกคน…” พูดจบราฟาลก็ก้าวยาวๆ กลับเข้าไปในห้องรับแขก ลิโอเนลรีบเดินตามเข้าไป
“ถ้ารดายอมก็ดีสิครับ”