นางหลุดปากเรียกชื่อเขาอย่างตกใจก่อนจะนึกได้แล้วรีบตะครุบปากตัวเองเอาไว้อย่างรวดเร็วพลางถอยห่างเพื่อหลบเร้น ทว่าช้าไปเสียแล้ว บุรุษผู้ชำนาญการรบพุ่ง หูไวตาไวเช่นแม่ทัพเหิงได้ยินเสียงนั้น เขาหยิบกระบี่ที่มิเคยห่างกายที่วางอยู่บนพื้นใกล้ตัวแล้วพุ่งพรวดมาทางต้นเสียงอย่างฉับพลัน กว่าจะรู้ตัวลำคอระหงของนางก็ถูกรวบเอาไว้ด้วยมือใหญ่ข้างหนึ่งแล้วกดลงกับพื้น โดยมีกระบี่เย็นเยียบจี้ปลายแหลมชิดฐานลำคอ
“ เจ้าเป็นใครบังอาจมาแอบดูข้า ! ” เสียงเหี้ยมเกรียมดังจากริมฝีปากได้รูปที่เม้มสนิท ดวงตาสีนิลที่จ้องมองมานั้นมืดดำเหลือเกิน นี่กระมังที่เขาเรียกว่าดวงตาแห่งเพชฌฆาต !
“ ขะ… ข้าไม่ได้แอบดู ปล่อยข้า ” นางระล่ำระลักตอบ สองมือพยายามผลักไสมือใหญ่ที่กุมรอบคอให้คลายออกแต่ก็เปล่าประโยชน์ เพราะเหมือนมันจะยิ่งขยุ้มแน่นให้นางขาดอากาศหายใจมากขึ้น
“ ข้าเห็นอยู่เต็มตาว่าเจ้าแอบดู เจ้าเป็นใคร ตอบ ! ”
“ ข้าองค์หญิงซูเม่ย ธิดาแห่งเจ้าเมืองหงโจวแห่งนี้อย่างไรเล่า ” คำตอบของนางทำให้มือที่กำแน่นนั้นคลายออก ก่อนแววตามืดดำนั้นจะเกิดประกายบางอย่างเพียงชั่ววูบแล้วกลับไป ฉาบปิดด้วยความเย็นชาเช่นเดิม
“ เจ้านี่เองรึที่เขาลือกันนักหนาว่างามล่มเมือง ข้าได้เห็นเป็นบุญตาก็วันนี้ แต่เป็นถึงธิดาเจ้าเมือง เหตุใดไม่มีมารยาทมาแอบดูผู้อื่นเช่นนี้เล่า องค์หญิงซูเม่ย ”
เขาตำหนินางด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน นั่นทำให้นางโมโหบ้างจึงรีบพยุงตัวลุกขึ้นนั่งหมายจะโต้เถียงกลับไป แล้วได้เห็นอย่างเต็มตาว่าแม่ทัพเหิงผู้นั้นเปลือยเปล่ามิสวมอาภรณ์แม้แต่ชิ้นเดียว ที่สำคัญเจ้าชิ้นเนื้อโด่เด่ตรงกลางระหว่างขาที่มีขนาดร่วมท่อนแขนนั้นมันดุนดันอยู่กับท้องน้อยของนาง ด้วยเขาอยู่ในท่าคร่อมต้นขากำยำทั้งคู่กดทับนางเอาไว้ !
องค์หญิงซูเม่ยตกใจแทบสิ้นสติ นางอ้าปากกว้างหมายจะตะโกนกรีดร้องทว่าปากจิ้มลิ้มนั้นกลับถูกปิดสนิททันทีด้วยริมฝีปากของบุรุษที่คร่อมนางอยู่ ก่อนที่เขาจะบดจูบดูดดึงและล้วงลิ้นเข้ามาไล้ในริมฝีปากนางอย่างเอาแต่ใจ
นางตกตะลึงพรึงเพริดขั้นสุดแต่ก็ยังพอมีสติ เมื่อโดนรุกล้ำจากชายไร้อารยะผู้นั้น สัญชาตญาณปกป้องระวังตัวก็ทำงานทันที นางขบกัดลิ้นอุ่น ๆ ที่บังอาจล้วงไล้เข้ามาในปากจนอีกฝ่ายผงะออก
“ โอ๊ย ! ” เสียงเขาอุทานด้วยความเจ็บ นางใช้จังหวะนั้นที่เขาเผลอผลักเขาให้เซลงกับพื้นแล้วลุกพรวดขึ้นทันที และเมื่อเห็นท่อนเอ็นอันโด่เด่อันนั้นที่นับได้ว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์แห่งบุรุษ นางก็มิรอช้าที่จะโจมตีมันทันทีโดยการกระทืบลงไปบน ความใหญ่ยาวเสียเต็มรักหนึ่งทีก่อนจะรีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
“ อ๊ากกกก ! ” เสียงร้องอุทานโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของแม่ทัพเหิงผู้เกรียงไกร ผู้ผ่านศึกน้อยศึกใหญ่มามากมายนัก บัดนี้ต้องมานอนหงายหลังอย่างหมดท่าเพราะถูกโจมตีจากสตรีตัวเล็ก ๆ นางหนึ่ง
แม่ทัพเหิงกุมความเป็นชายไว้แน่นเพราะมันเจ็บปวดจากการถูกกระทืบเสียเต็มรัก มืออีกข้างถูกยกขึ้นปาดเช็ดโลหิตสีชาดที่ไหลซึมจากปากด้วยการถูกกัดลิ้น เขาหันไปมองเรือนร่างอรชรที่เห็นอยู่ลิบ ๆ ก่อนคำรามออกมาอย่างเจ็บแค้น
“ องค์หญิงซูเม่ย แค้นนี้ต้องชำระ ! ”
***
“ ไอ้คนบ้า ไอ้คนชั่วช้า ต่ำทราม ! ”
องค์หญิงซูเม่ยด่าทอออกมานับครั้งไม่ถ้วน ทั้งโกรธทั้งเกลียดที่ถูกล่วงล้ำจากแม่ทัพเหิงผู้นั้น นางสั่งให้สาวใช้ต้มน้ำให้ในยามดึกทันทีก่อนจะลงไปแช่ในอ่างไม้ ก่อนจะขัดถูไปทั่วตัวแรง ๆ โดยเฉพาะที่ลิ้นนั้นที่โดนลิ้นของเขาล่วงล้ำขยับรัด
“ ข้าเกลียดเจ้า แม่ทัพเหิงบ้า เกลียด เกลียด ! ” นางทุบตีไปที่ผิวน้ำอย่างเดือดดาลพลางใช้ผ้าขัดถูบริเวณที่ถูกมือเขาสัมผัสจนแดงก่ำ คล้ายว่าการขัดถูนั้นจะทำให้ความร้อนรุ่มที่ถูกเขาสัมผัสจางหายไปได้
“ ทุเรศ บัดสี เสพสมกันได้กลางแจ้งไม่อายฟ้าดิน ยังจะมีหน้ามาต่อว่าข้าอีก ทั้งยังจาบจ้วงองค์หญิงอย่างข้าด้วย ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ข้าจะฟ้องเสด็จพ่อ คอยดู ! ” นางบ่นพึมพำและน้ำตาไหลออกมาอย่างเจ็บแค้น นางแช่อยู่ในอ่างน้ำเกือบสองก้านธูปจึงค่อยขึ้นมาแต่งตัวและเข้าสู่บรรทม แต่กว่าจะข่มตาให้หลับได้ก็นานโขเพราะเจ็บแค้นในหัวใจเหลือเกินที่ถูกคุกคามอย่างไม่ให้เกียรติจากแม่ทัพเหิงผู้นั้น
และเขาเองก็ยังนอนไม่หลับเช่นกัน…
MANGA DISCUSSION