เมืองหงโจว
ท่านเจ้าเมืองเมื่อได้ฟังรายงานจากทหารม้าเร็วเจี้ยนจิงจบก็ต้องหน้าซีด หลังจากเหิงซื่อหลุนลักพาตัวบุตรสาวไป เขาได้สั่งให้ทหารออกตามหาจนแทบพลิกแผ่นดินแต่ก็ยังหาไม่พบ ใจหนึ่งเป็นห่วงบุตรสาวเป็นอย่างมากและอีกใจหนึ่งสิ่งที่กลัวที่สุดได้บังเกิดขึ้นแล้ว
องค์ชายจิ้งฝูให้เวลาเพียงสามวัน สั่งให้หงโจวจับตัวเหิงซื่อหลุนมาให้ หากทำไม่ได้หงโจวต้องราบเป็นหน้ากลอง แล้วเหิงซื่อหลุนเป็นคนที่ถูกจัดการง่ายดายเช่นนั้นหรือ เขายังมองไม่ออกสักนิดว่าทั่วทั้งหงโจวจะมีผู้ใดจัดการเขาได้
ท่านเจ้าเมืองขบคิดอย่างหนักหน่วง ทว่าคิดเท่าใดก็เห็นแต่ความมืดแปดด้าน จะปรึกษาขุนนางคนใดก็เอาแต่พากันบื้อใบ้พูดไม่ออก
“ พวกเจ้ามันไร้ประโยชน์สิ้นดี ทีเรื่องได้หน้าพากันออกหน้าออกตาหาความดีความชอบ พอมีปัญหาเงียบใบ้ปานเต่าหดหัว ” เขากล่าวตำหนิเหล่าขุนนางอย่างรำคาญใจ
ขณะที่ไม่รู้จะให้คำตอบต่อองค์ชายจิ้งฝูเช่นใด คนที่เขาไม่คาดคิดว่าจะปรากฏตัวกลับปรากฏตัวขึ้นอย่างไม่คาดฝัน ทุกคนในท้องพระโรงอ้าปากหวอราวกับเห็นผีกลางวันแสก ๆ
เหิงซื่อหลุนก้าวเดินสู่ท้องพระโรงด้วยท่วงท่าสง่างามอย่างเคยราวกับเขากำลังเดินชมนกชมไม้อยู่เช่นนั้น ไม่หวั่นเกรงต่อเหล่าสายตาที่กำลังจับจ้องมา
“ ข้าเหิงซื่อหลุนคาราวะท่านเจ้าเมือง ” เมื่อได้สติเจ้าเมืองก็รีบเอ่ยถามทันที
“ เหิงซื่อหลุน เจ้าเอาองค์หญิงซูเม่ยบุตรสาวของข้าไปไว้ไหน ” เหิงซื่อหลุนมิได้มีท่าทียำเกรงแม้แต่น้อย เขาทูลรายงานด้วยน้ำเสียงอันเรียบเฉย
“ ข้าส่งองค์หญิงถึงตำหนักโดยปลอดภัยแล้ว ” ท่านเจ้าเมืองเห็นอีกฝ่ายดูสงบเงียบ ทำให้เบาใจลงส่วนหนึ่ง
“ เหิงซื่อหลุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าสิ่งที่เจ้าทำมันร้ายแรงเพียงใด ลักพาตัวองค์หญิง ทำร้ายคนของเจี้ยนจิง แม้เจ้าเคยทำความดีความชอบมากมายแต่ความผิดนี้ข้าคงไม่อาจอภัยให้เจ้าได้ องค์ชายจิ้งฝูเองก็ยืนยันว่าจะจัดการเจ้าด้วยตัวของพระองค์เอง เจ้ามีสิ่งใดจะพูดหรือไม่ ” เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด เหิงซื่อหลุนคิดในใน
“ ข้าน้อมรับโทษ ไม่มีสิ่งใดคัดค้าน ”
คำตอบของซื่อหลุนทำให้ทุกคนที่นั้นแปลกใจเป็นยิ่งนัก พยัคฆ์ร้ายที่ไม่เคยเชื่อเช่นเขาเหตุใดจึงยอมง่ายถึงเพียงนี้
แต่ก็ดี ง่ายดายเช่นนี้ดีแล้ว ขุนนางที่ไม่ชอบขี้หน้าเหิงซื่อหลุนผู้หนึ่งรีบสอดขึ้นมา
“ ทหาร จับตัวเหิงซื่อหลุนไว้แล้วนำมันไปขัง คนเช่นนี้ต้องรับโทษสถานเดียวคือประหาร ” เหล่าขุนนางอีกหลายท่านร่วมออกเสียงสนับสนุนอื้ออึง
“ พวกเจ้าเป็นเจ้าเมืองรึ ทีเช่นนี้เก่งกล้ากันจัง ” ท่านเจ้าเมืองกล่าวขึ้นอย่างเหลืออดแต่ก็มิได้ห้ามปรามยังคงให้ทหารจับตัวเหิงซื่อหลุน ในใจครุ่นคิดว่าเห็นทีเขาคงต้องปลดระวางขุนนางแก่พวกนี้แล้วหาขุนนางชุดใหม่มาทำงาน เสียแล้ว
เหิงซื่อหลุนถูกปลดอาวุธก่อนใส่โซ่ตรวนที่มือและเท้า ทหารสองนายที่ทำหน้าที่รู้สึกผิดในใจเป็นอย่างมาก พวกเขากล่าวขอขมาท่านแม่ทัพของเขาด้วยน้ำเสียงที่รู้กันเท่านั้น
เหิงซื่อหลุนพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อให้ทหารสองนายเบาใจ แม้ใบหน้าเขายังคงเรียบเฉย ทว่าในใจเขากลับยิ้มเยาะขบขัน
ละครฉากใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
ณ ชายแดนหงโจวอันเป็นสถานที่ตั้งทัพของเจี้ยนจิง
ทหารนายหนึ่งวิ่งเข้าไปรายงานองค์ชายจิ้งฝูในที่ประทับ
“ คารวะองค์ชาย ตอนนี้เหิงซื่อหลุนถูกจับกุมตัวได้แล้วพะย่ะค่ะ เจ้าเมืองหงโจรทูลเชิญองค์ชายไปจัดการด้วยพระองค์เองพะย่ะค่ะ ”
“ ฮ่าๆๆ ” องค์ชายจิ้งฝูหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ ถุย ข้าคิดว่าจะแน่ที่แท้ก็สวะ รองแม่ทัพจัดทหารมือดีสองร้อยนายไปกับข้า ข้าจะไปดูน้ำหน้าไอ้สวะกระจอกนั่น ”
เขาควงจอกสุราในมืออย่างเบิกบาน ทุกอย่างช่างง่ายดายกว่าที่คิดไว้นัก
“ ใครที่มันบังอาจหยามข้า ต่อให้มีร้อยพันชีวิตก็ยังไม่พอ ! ”
MANGA DISCUSSION