เขาประคองใบหน้าของนางเอาไว้ บังคับไม่ให้หันหนี แล้วใช้ดวงตาลุ่มลึกของตนมองจ้องไปในดวงตานาง
“ ใช่สิ เจ้าเป็นของพี่ แล้วนับแต่บัดนี้พี่จะไม่ปล่อยให้ใครแตะต้องเจ้าได้แม้แต่ปลายนิ้ว ”
“ แล้วองค์ชายจิ้งฝูเล่า ” นางถามด้วยสีหน้ากังวล เขาประทับจูบลงบนหน้าผากนางเบา ๆ
“ พี่จะพาเจ้ากลับไปแก้ไขทุกสิ่งทุกอย่างเอง ”
“ อย่างไรกัน ” นางถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“ เชื่อใจพี่ แม้เทพเซียนบนสวรรค์ก็จะไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้ พี่สาบานว่าจะอยู่เคียงข้างและปกป้องเจ้า ”
“ จริงหรือ ”
“ พี่ไม่เคยโกหก ”
“ ท่านพี่จะอยู่กับข้านานแค่ไหนกันเล่า ”
“ ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าอยากให้พี่อยู่นานแค่ไหน ”
“ แล้ว… ตลอดไปได้หรือไม่ ” นางถามพลางส่งสายตาออดอ้อนเว้าวอน
“ ตลอดไป ”
“ ท่านพี่สัญญาแล้วนะ ”
“ อืม พี่สัญญา ”
ก่อนที่เขาจะประทับจูบอันแสนหวานที่ริมฝีปากอวบอิ่มจิ้มลิ้มนั้นเสียเนิ่นนาน เพื่อยืนยันคำสัญญานั้น
ตลอดไป…
***
เมืองเจี้ยนจิง
ณ อุทยานในตำหนักส่วนพระองค์ องค์ชายจิ้งฝูที่มีเพียงผ้าแพรผืนน้อยปกปิดส่วนล่างอย่างหมิ่นเหม่ วิ่งไล่จับเหล่านางสนมร่างกายเปลือยเปล่า เขาสมมติตนเองเป็นพญาอินทรีไล่ล่าฝูงกระต่ายน้อย
“มาให้ข้ากินเสียดี ๆ ฮ่าๆๆ”
“องค์ชายต้องไล่จับพวกข้าให้ได้ก่อนเพคะ” เหล่านางสนมส่งเสียงยวนยั่ว
ด้านหนึ่งทหารองค์รักษ์ประจำตำหนักยืนท่าทีลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนตัดสินใจเข้ามารายงานเรื่องสำคัญ
“ คารวะองค์ชาย กระหม่อมมีเรื่องเร่งด่วนต้องทูลรายงานพะย่ะค่ะ ”
“ มีอะไรกันอีก ไม่เห็นหรืออย่างไรว่าข้ายุ่งอยู่ ” องค์ชายจิ้งฝูคำรามอย่างหงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะเวลาสนุก
“กงกงและเหล่านางกำนัลที่ถูกส่งไปเตรียมงานอภิเษกที่หงโจวเดินทางกลับมาแล้วพะย่ะค่ะ ขณะนี้กำลังรอขอเข้าเฝ้าองค์ชายอยู่ ” นั่นทำให้องค์ชายชะงัก
“ เหตุใดจึงกลับมาเร็วนัก พึ่งไปได้ไม่กี่ราตรีเท่านั้น ” คิดได้ดังนั้นองค์ชายจิ้งฝูก็รู้สึกสังหรณ์ใจแปลก ๆ มันต้องมีเหตุเป็นแน่ เพราะเขาเองยังไม่มีคำสั่งให้ใครกลับมา
เขาสั่งให้พวกสนมสวมอาภรณ์ให้ ก่อนสั่งให้คณะที่พึ่งกลับมาจากหงโจวเข้าเฝ้าได้ทันที
แล้วก็เป็นดังคาด เมื่อกงกง ทหารองครักษ์จำนวนหนึ่ง และนางกำนัลมาเข้าเฝ้าในสภาพได้รับบาดเจ็บมากน้อยต่างกันไป บ้างก็ตาเขียวช้ำปูดบวม บ้างก็ศีรษะแตก
“ นี่มันอะไรกัน ข้าให้พวกเจ้าไปตระเตรียมเจ้าสาวให้ แล้วเหตุใดกลับมาก่อนเวลาด้วยสภาพดูไม่ได้ถึงเพียงนี้ ”
และกงกงเป็นผู้รายงานสถานการณ์ทั้งหมดให้พระองค์ฟัง
“ ข้าน้อยสมควรตายพะย่ะค่ะที่มิอาจทำตามพระบัญชาให้เสร็จสิ้น แต่ใช่ว่าสิ่งผิดพลาดเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะพวกเรา แต่มันเกิดขึ้นเพราะบุรุษผู้หนึ่งที่พรวดพราดเข้ามาขวางพิธีชำเราแท่งหยกเอาไว้ และทำร้ายพวกเราทุกคนจนสะบักสะบอม ”
“ บังอาจ มันเป็นใครกัน ! ”
“ ข้าน้อยก็หารู้ไม่พะย่ะค่ะ ตัวสูงใหญ่เหลือเกิน หน้าตาก็ดุดัน ทั้งยังฝีมือร้ายกาจนัก แต่นางกำนัลที่อยู่ในห้องได้ยิน องค์หญิงซูเม่ยเรียกมันว่าท่านแม่ทัพพะย่ะค่ะ ! ”
คำตอบนั้นทำให้ไฟแทบจะลุกท่วมตัวองค์ชายจิ้งฝู ดวงตาของเขาเหลือกโพลง สองมือกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนอย่างคั่งแค้น
“ ไอ้แม่ทัพเหิงอีกแล้วหรือ มันกล้ามากนะที่ลูบคมข้าถึงสองครั้งสองคราด้วยกัน แล้วท่านเจ้าเมืองว่าอย่างไรบ้าง ลงโทษมันไปหรือยัง ”
“ ไม่ว่าอย่างไรและยังไม่ทันได้ลงโทษใด ๆ พะย่ะค่ะ เพราะชายผู้นั้นแบกองค์หญิงขึ้นบ่าแล้วหนีหายไปในพริบตาพะย่ะค่ะ ”
“ บังอาจ ! ”
เพล้ง !
เสียงตวาดลั่น พร้อมจอกสุราทองคำพุ่งผ่านเฉียดศีรษะกงกงไปเล็กน้อย ก่อนที่องค์ชายจะลุกขึ้นอาละวาดทำลายข้าวของที่อยู่ใกล้มืออย่างหมดความอดทน เหล่าผู้เข้าเฝ้ารีบหลบหลีกกันอย่างจ้าละหวั่นเพราะกลัวโดนลูกหลง
“ ไม่มีน้ำยาสักคน แค่สวะตัวเดียวก็จัดการกันไม่ได้ รีบไปให้พ้นหน้าก่อนข้าจะบั่นหัวพวกเจ้า ! ” ไม่ต้องรอให้มีครั้งที่สอง เหล่าผู้เข้าเฝ้ารีบทูลลาแล้วหนีตายออกไปทันที เหลือไว้เพียงองครักษ์ส่วนพระองค์ที่ก็ยืนตัวสั่นด้วยกลัวโดนลูกหลงเช่นกัน
“ องครักษ์ ! ” เสียงตวาดทำให้องครักษ์ทุกคนสะดุ้งเฮือก ทว่าก็มีสติพอที่จะขานรับ
“ พะย่ะค่ะองค์ชาย ”
“ ส่งม้าเร็วไปบอกเจ้าเมืองหงโจว ข้าให้เวลาสามวัน จับตัวไอ้แม่ทัพนั่นให้ได้ ข้าจะไปลงโทษมันด้วยตนเอง หากทำไม่ได้ ข้าจะขยี้ทั้งหงโจวให้แหลกลาญ ! ” องค์ชายจิ้งฝูเดือดดาลจนดวงตาวาวโรจน์ ไม่เคยมีใครกล้าหยามเขาเยี่ยงนี้มาก่อน
“ ที่เหลือไปแจ้งรองแม่ทัพเตรียมตัวจัดทัพพยัคฆ์เหล็กดำให้พร้อมเคลื่อนทัพวันนี้ ข้าจะไปรอคำตอบที่ชายแดนหงโจว ! ”
MANGA DISCUSSION