จอมนางข้ามพิภพ - บทที่902 จะเป็นนางได้อย่างไร
จอมนางข้ามพิภพ บทที่902 จะเป็นนางได้อย่างไร
สีหน้าของรั่วเฟิงซีแย่ลง นางคิดไม่ถึงเลยว่า พ่อจะสงสัยตัวเอง
หยุนถิงเห็นทั้งหมดนี้อยู่ในสายตา เอ่ยปากพูดว่า “เฟิงซีเจ้าบอกว่าเมื่อคืนฮูหยินรองสวยชุดเจ้าสาวของเจ้าไม่ใช่หรือ เอาเสื้อนั้นออกมาให้ข้าดูหน่อย”
“ได้!” รั่วเฟิงซีให้สาวรับใช้ไปเอามาทันที
หยุนถิงตรวจสอบดูอย่างละเอียด จากนั้นเหลือบมองคนรับใช้ในห้อง “ใต้เท้าเฉิงเซี่ยง ให้พวกเขาถอยออกไปหมด”
“อืม พวกเจ้าออกไปให้หมด!” รั่วเฉิงเซี่ยงเองก็เข้าใจความหมายของหยุนถิง จึงเอ่ยปากทันที
“ขอรับ!” คนรับใช้ทั้งหมดถอยออกไป และพ่อบ้านก็ไม่ลืมที่จะปิดประตูห้อง
“ยาพิษนี้ถูกวางไว้บนชุดนี้ ระหว่างทางมาเฟิงซีบอกข้าว่า เมื่อคืนฮูหยินรองเคยสวมชุดนี้ ดังนั้นถึงได้พิษกำเริบในขณะนี้
ยาพิษนี้ร้ายแรงยิ่งนัก ไม่มียาถอนพิษ ผู้ที่ถูกพิษนั้นจะเจ็บปวดมากจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ และตายทั้งเป็น เลือดเนื้อทั้งกายจะหลุดออกมาจนตาย ซึ่งสามารถกล่าวได้ว่าโหดเหี้ยมยิ่งนัก” หยุนถิงตอบ
ประโยคหนึ่งเหมือนดั่งเรื่องที่ไม่คาดฝันทำให้ตกใจอย่างมาก และกระแทกมาใส่ใจของรั่วเฉิงเซี่ยงอย่างแรง เขาทั้งคนตกตะลึง เบิกตากว้างด้วยความไม่เชื่อและมองดูชุดเจ้าสาวที่ถูกตัดเสียแล้วนั้น
“ชุดนี้ฝ่าบาททรงเป็นคนพระราชทานให้ หรือว่าเขาไม่อยากแต่งงานกับเฟิงซี อยากใช้ชุดนี้กำจัดตระกูลรั่วทิ้ง?” รั่วเฉิงเซี่ยงพูดเองเออเอง
ตระกูลรั่วตระหง่านมาเป็นร้อยปี ขุนนางที่ถูกจักรพรรดิสามองค์ทรงให้ความสำคัญ จงรักภักดีต่อจักรพรรดิมาโดยตลอด ทำไมถึง?
“ไม่ใช่เป่ยหมิงฉี่ หากเขาต้องการจะจัดการกับตระกูลรั่ว เพียงแค่หาเหตุผลมาหนึ่งอย่างก็สามารถปลดตำแหน่งของเฉิงเซี่ยงได้ จำเป็นต้องใช้วิธีที่โหดร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร!” หยุนถิงทำเสียงเชอะ
คำเดียวปลุกคนช่างฝัน รั่วเฉิงเซี่ยงเห็นด้วยอย่างยิ่ง “ซื่อจื่อเฟยพูดถูก ฝ่าบาททรงเป็นคนที่ทำอะไรก็อย่างรวดเร็วและเฉียบขาด ก่อนหน้านี้เสถียรภาพราชสำนักอย่างเด็ดขาด ทรงให้รางวัลและลงโทษในราชสำนักเลย ไม่เคยใช้วิธีที่โหดร้ายเช่นนี้ เป็นกระหม่อมที่คิดมากไปแล้ว”
“ใต้เท้าเฉิงเซี่ยงคิดเช่นนี้ก็สมเหตุสมผลดี เพราะชุดเจ้าสาวนี้เป็นชุดแต่งงานของคุณหนูใหญ่ เรื่องนี้ข้าจะให้เป่ยหมิงฉี่ตรวจสอบให้อย่างชัดเจน กล้าวางยาพิษต่อหน้าต่อตาเขา เขาเองก็คงอยากรู้มากเหมือนกันว่าผู้ร้ายเป็นใคร!” หยุนถิงกล่าว
จู่ๆรั่วเฉิงเซี่ยงก็ทำความเคารพอย่างสูงให้หยุนถิง “ขอบคุณที่ซื่อจื่อเฟยช่วย จวนตระกูลรั่วของข้าซาบซึ้งจนหาที่สุดมิได้ หากในอนาคตซื่อจื่อเฟยมีความต้องการอะไร จวนตระกูลรั่วก็จะทำอย่างสุดความสามารถเลย!”
การกระทำของซื่อจื่อเฟยไม่เพียงแต่ทำให้จวนตระกูลรั่วหลีกเลี่ยงผลที่ที่ทำลายชุดเจ้าสาวเท่านั้น แถมยังสามารถสืบหาผู้ร้าย เป็นเรื่องที่ยิงธนูดอกเดียวได้เหยี่ยวสองตัวเลยทีเดียว
“ใต้เท้าเฉิงเซี่ยงเกรงใจเกินไปแล้ว” หยุนถิงกล่าว
“ถิงเอ๋อร์ พวกข้าควรกลับไปแล้ว” จวินหย่วนโยวที่ไม่พูดมาโดยตลอด เอ่ยปากพูดขึ้น
“อืม!”
รั่วเฉิงเซี่ยงกับรั่วเฟิงซีมองดูจวินซื่อจื่อกับซื่อจื่อเฟยขึ้นรถม้าและจากไป จากนั้นจึงค่อยแอบถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
“เฟิงซีครั้งนี้เจ้าทำได้ดีมาก จวินซื่อจื่อกับซื่อจื่อเฟยไม่ใช่คนธรรมดา หากสามารถผูกสัมพันธ์กับพวกเขาจะเป็นประโยชน์ต่อตระกูลรั่วของพวกข้าเป็นอย่างมาก เจ้าต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ดี!” รั่วเฉิงเซี่ยงกำชับ
“อืม!”
รั่วเฟิงซีตอบ แต่ในใจกลับคิดว่าคนเช่นจวินซื่อจื่อกับซื่อจื่อเฟยนั้นจะเป็นคนที่นางสามารถผูกสัมพันธ์ได้อย่างไร พวกเขาก็แค่เห็นแก่หน้าฝ่าบาทเท่านั้น
พระราชวัง
จวินเสี่ยวเทียนกับจวินเสี่ยวเหยียนกำลังเล่นไล่จับผีเสื้อในอุทยาน ในไม่ไกลนางกำนัลคนหนึ่งเอาว่าวที่สวยงามไว้แล้วเดินเข้ามา
จวินเสี่ยวเหยียนถูกดึงดูดทันที “ช่างเป็นว่าวที่สวยงามจริงๆเลย”
ว่าวนั้นแตกต่างจากว่าวทั่วไป ที่ใช้เพียงกระดาษขาววาดลวดลาย แต่ว่าวตัวนี้เป็นแบบสามมิติ เป็นผีเสื้อตัวหนึ่งที่สวยงาม
ในมือของนางกำนัลถือเชือกยาวครึ่งเมตรไว้ ว่าวผีเสื้อถูกลมพัดขึ้น กระพือปีก ราวกับผีเสื้อตัวใหญ่ที่กระพือปีก แปลกใหม่เฉพาะตัวยิ่งนัก
“บ่าวมาส่งว่าวให้จวิ้นจู่น้อยเพคะ” นางกำนัลยื่นว่าวผีเสื้อให้อย่างนอบน้อม
“ขอบคุณ” จวินเสี่ยวเหยียนรับมา “พี่ชาย พวกข้าไปเล่นว่าวด้วยกันเถอะ”
“อืม!” จวินเสี่ยวเทียนรีบวิ่งไปทันที
จ้าวกงกงที่อยู่ข้างๆ เหลือบมองนางกำนัลน้อยคนนั้น ดูแล้วไม่คุ้นหน้าเลย
“ท่านปู่จ้าว ท่านก็มาเล่นว่าวกับพวกข้าสิ!” จวินเสี่ยวเหยียนตะโกน
“ได้เลย มาแล้ว!” จ้าวกงกงไปทันที โดยไม่มีเวลามาคิดอะไรมาก
ตั้งแต่เจ้าตัวน้อยทั้งสองเข้ามาในวัง พระราชวังก็คึกคักมากขึ้นเลย จ้าวกงกงเป็นคนที่ปรนนิบัติจักรพรรดิองค์เก่ามาก่อน และตอนนี้ปรนนิบัติเป่ยหมิงฉี่
ตอนนี้จ้าวกงกงอายุเยอะแล้ว อิจฉาคนอื่นที่มีลูกมีหลาน แต่เขาอยู่ตัวคนเดียว
ซื่อจื่อน้อยกับจวิ้นจู่น้อยเรียกเขาว่าท่านปู่จ้าว จ้าวกงกงดีใจจนหุบปากไม่ได้เลย ก็ถือเป็นการชดเชยความเสียดายทั้งชีวิตนี้ของเขาแล้ว
จวินเสี่ยวเหยียนถือเชือกวิ่งนำหน้า จวินเสี่ยวเทียนถือว่าวเดินตามหลัง ข้างๆมีจ้าวกงกงช่วยดูเอาไว้
นางกำนัลน้อยข้างๆมองดูพวกเขาเล่นกันอย่างสนุกสนาน มุมปากเผยความเย็นชา ฉวยโอกาสตอนทุกคนไม่ได้ตั้งตัว จากไปอย่างเงียบ ๆ
หลังจวินหย่วนโยวกับหยุนถิงกลับมา หยุนถิงก็ไปหาเป่ยหมิงฉี่ทันทีและบอกเรื่องที่ชุดเจ้าสาวนั้นมีพิษให้กับเขาทันที เป่ยหมิงฉี่โกรธมาก
กล้าวางยาพิษบนชุดแต่งงานที่เขาส่งให้เฟิงซี ไม่ว่าจะเป็นใคร จะไม่มีวันปล่อยมันไป
เป่ยหมิงฉี่เรียกคนสนิทที่ไว้เนื้อเชื่อใจมาทันที ไปสืบดูว่าก่อนหน้านี้มีใครเคยสัมผัสชุดแต่งงานนั้น
ส่งนหยุนถิงก็กลับไปที่ลานของตัวเอง ก็เห็นลูกทั้งสองกำลังเล่นว่าวกับจวินหย่วนโยว เสียงหัวเราะกระจายไปทั่วลาน ดูเหมือนว่าเล่นได้สนุกมาก
“ท่านแม่ พวกข้ากำลังเล่นว่าว ว่าวนี้สวยยิ่งนัก” จวินเสี่ยวเหยียนพูดอย่างมีความสุข
หยุนถิงมองดู ว่าวนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริงๆ แต่คิดไม่ถึงว่าในสมัยโบราณนี้ยังมีคนสามารถสร้างว่าวที่สามมิติเช่นนี้ได้ ซึ่งทำให้นางประหลาดใจเล็กน้อย
“ท่านแม่ ข้ากระหายน้ำ!” จวินเสี่ยวเทียนเดินมาและพูด
ไม่รอหยุนถิงเอ่ยปาก จ้าวกงกงก็รีบพูดว่า “บ่าวเทน้ำให้ซื่อจื่อน้อย” จากนั้นก็หยิบกาน้ำชาข้างๆ และเทน้ำอุ่นสองแก้ว
จวินเสี่ยวเทียนกลืนอึกอึกกินทั้งสองแก้วจนหมด หยุนถิงเห็นตัวเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ “ไปกันเถอะ แม่พาพวกเจ้าไปอาบน้ำ เหงื่อออกมากเกินไป โดนลมอีกเดียวก็เป็นหวัด”
“อืม”
เด็กทั้งสองตามหยุนถิงกลับเข้าไปที่ห้อง จ้าวกงกงให้คนยกอ่างอาบน้ำมาด้วยตัวเอง ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ท่าทางที่ขยันขันแข็งนั้นทำเอาหยุนถิงรู้สึกซาบซึ้งเลย
“จ้าวกงกง ช่วงนี้ลำบากเจ้าแล้ว ยาโอสถนี้ให้เจ้า เสริมสร้างร่างกาย บำรุงเลือด และเติมพลังงาน” หยุนถิงยื่นขวดยาหนึ่งขวดให้
“ซื่อจื่อเฟยเกรงใจเกินไปแล้ว บ่าวชอบซื่อจื่อน้อยกับจวิ้นจู่นอยจริง สามารถดูแลพวกเขาเป็นพรของบ่าว” จ้าวกงกงตอบด้วยความเคารพ จากนั้นรับยาและถอยออกไป
แม้ว่าตัวเองจะไม่ได้ทำเพื่ออยากได้ยาโอสถของซื่อจื่อเฟย แต่ยาโอสถของซื่อจื่อเฟยนั้นเป็นสิ่งที่ล้ำค่า ได้ยาโอสถเม็ดหนึ่งของซื่อจื่อเฟย เป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งนัก
หลังจากเด็กน้อยทั้งสองอาบน้ำเสร็จ บางทีอาจเป็นเพราะวันนี้ออกกำลังกายมากเกินไป เด็กน้อยทั้งสองจึงกินข้าวเย็นไปครึ่งชามเลย
คืนนั้น คนสนิทที่ไว้เนื้อเชื่อใจของเป่ยหมิงฉี่ก็สืบได้แล้ว และรีบมารายงานให้เป่ยหมิงฉี่
“สวิ๋นอวี่ จะเป็นนางได้อย่างไร?” เป่ยหมิงฉี่เงยหน้าขึ้น และครุ่นคิด
“ทูลฝ่าบาท องครักษ์ที่มีหน้าที่เฝ้าดูนั้นบอกว่า ในช่วงสามวันที่ผ่านมามีเพียงองค์หญิงสวิ๋นอวี่เท่านั้นที่เข้าไปในห้องนั้น สาวรับใช้บอกว่าตอนนั้นองค์หญิงสวิ๋นอวี่อยากรู้อยากเห็นชุดแต่งงานนั้น และได้ใช้มือไปสัมผัสมันจริง” องครักษ์ตอบด้วยความเคารพ
เป่ยหมิงฉี่กำมือในเสื้อคลุมแน่น เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะเป็นกู้สวิ๋นอวี่
ทำไมนางถึงได้จัดการกับเฟิงซี แถมยังใช้พิษที่ร้ายแรงเช่นนี้ด้วย?